SPOTLIGHT: Heavy Rotation ยิ้มให้กับเวทีที่ว่างเปล่า เรากลับมารักกันอีกครั้งได้ไหม ก่อนที่แสงไฟจะดับลง

กระทู้สนทนา

ถ้าพูดถึงดนตรี แน่นอนว่า Heavy Rotation ซิงเกิลล่าสุดของ BNK48 ถูกจัดอยู่ในหมวดเพลงร็อก
.
และแน่นอนว่าถ้ามองไปที่เนื้อหา Heavy Rotation คือเพลงบอก ‘รัก’ หวานหูและดูเต็มไปด้วยความหวัง
.
แต่ในบางช่วงเรารู้สึกถึง ‘ความเศร้า’ เล็ดลอดผ่านเสียงดนตรีหนักๆ และเสียงร้องออดอ้อนของเซ็มบัตสึทั้ง 16 คนในเพลงนี้แทรกผ่านเข้ามาอยู่เป็นระยะ
.
“ในช่วงชีวิตของเรา มีสุขมีเหงากันไป จะตกหลุมรักได้มากเท่าไร อยากรู้จัง แต่สิ่งที่ฉันมั่นใจ ถ้ามีคนรักสักคน เพียงได้ลองรักจะลืมไม่ลงเชื่อฉันไหม คล้ายๆ หัวใจเริ่มจะหวั่นไหวเข้าแล้วสิเรา ใช่หรือเปล่า ดั่งดอกไม้กำลังจะบาน”
.
หรืออาจเป็นเพราะเรารู้สึกว่าเหล่า ‘ดอกไม้’ ที่กำลังจะเบ่งบานในครั้งนี้ผ่านเรื่องราวทั้งสุขและเหงามากมาย จนแอบเป็นห่วงเมื่อได้เห็นรอยยิ้มและความสดใสที่เมมเบอร์ทุกคนพยายามส่งผ่านบทเพลงและมิวสิกวิดีโอนี้มาถึงแฟนเพลงทุกคน
.
ส่วนหนึ่งที่ส่งผลกับความรู้สึกของเรามากๆ เพราะ THE STANDARD POP มีโอกาสได้สัมภาษณ์เมมเบอร์ BNK48 อยู่หลายครั้งตั้งแต่ช่วงที่เดบิวต์ใหม่ๆ ในวันนั้นหลายคนตอบคำถามเกี่ยวกับความฝันแทบเป็นเสียงเดียวกันว่าความฝันสูงสุดของพวกเธอคือการพา BNK48 เดินทางไปให้ไกลที่สุด
.
4 ปีผ่านไป ในฐานะสื่อมวลชน เรายังติดตามและรายงานความเคลื่อนไหวของ BNK48 มาโดยตลอด พร้อมกับแอบเอาใจช่วยอยู่ห่างๆ และยินดีไปกับทุกๆ ความสำเร็จที่เกิดขึ้น แต่ในขณะเดียวกันเราก็รู้ดีว่าพื้นที่ในวงการบันเทิงไม่เคยเป็นเรื่องที่ง่ายสำหรับใคร และแน่นอนว่าพื้นที่นี้ก็เข้มงวดกับเหล่าเด็กสาวช่างฝันหลายสิบชีวิตนี้ไม่ต่างกัน
.
เมื่อไม่กี่เดือนก่อน เรามีโอกาสได้สัมภาษณ์พวกเธออีกครั้งในฐานะหนึ่งในทีมงานผลิตหนังสือ BNK48 9th Single Senbatsu General Election Book คราวนี้หลายคน (โดยเฉพาะสมาชิกรุ่นแรก) ยังตอบคำถามเกี่ยวกับความฝันใกล้เคียงเป็นเสียงเดียวกัน เพียงแต่เปลี่ยนเป็นความฝันที่ว่า
.
“ขอแค่ทุกคนกลับมารักและเอ็นดู BNK48 เหมือนเดิมก็พอแล้ว”
.
เรานึกย้อนไปถึงการบอกรักในเพลง คุกกี้เสี่ยงทาย ที่เหมือนการ ‘จีบ’ คนที่ไม่รู้จักให้มารักจนประสบความสำเร็จและทำให้ BNK48 กลายเป็นปรากฏการณ์ขึ้นมา เมื่อเวลาผ่านไป Heavy Rotation เหมือนเป็นการบอกรักเพื่อให้ทุกคน ‘กลับมา’ รักพวกเธออีกครั้ง จากเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นจนหลายคนตัดสินใจหันหลังให้กับพวกเธอไปแล้ว
.
โดยเฉพาะสิ่งที่นำเสนอออกมาในมิวสิกวิดีโอที่มีความรู้สึกแตกออกเป็นสองฝ่าย ทั้งพอใจและผิดหวัง ซึ่งเราเข้าใจในมุมที่หลายคนอยากเห็นท่าเต้นที่เป็นจุดเด่นของเพลงนี้ รวมทั้งความน่ารักสดใสของเมมเบอร์ให้สอดคล้องไปกับเนื้อหาของเพลง (ซึ่งเรายังอยากเห็นมิวสิกวิดีโอเวอร์ชันโชว์ท่าเต้นล้วนๆ อยู่)
.
แต่ในขณะเดียวกัน นอกจากความสดใสที่ควรได้รับ เรายังอยากเห็น ‘ความเป็นมนุษย์’ ของเมมเบอร์ทั้งหมดถูกแสดงออกมาด้วยเหมือนกัน และรู้สึกว่ามิวสิกวิดีโอ Heavy Rotation ทำให้เราได้เห็นมุมนี้ของพวกเธอออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติและน่าประทับใจ
.
อาจเพราะไม่ได้ติดตามวงรุ่นพี่และวงอื่นๆ ใน 48Group มาก่อน ทำให้เราไม่ได้คาดหวังว่ามิวสิกวิดีโอนี้จะต้องนำเสนอออกมาในรูปแบบไหน (แต่เข้าใจได้ในเรื่องแอร์ไทม์และความโดดเด่นของเมมเบอร์ที่หลายคนสนับสนุนเพื่อให้พวกเธอได้มาอยู่ในตำแหน่งนี้) กลับกัน เรายิ่งรู้สึกว่านี่ล่ะคือต้นฉบับของ BNK48 ที่ไม่ต้องเหมือนใคร
.
และเหนือสิ่งอื่นใด เราไม่ได้รู้สึกแค่ว่า BNK48 คือตัวแทนของความใส แต่เมมเบอร์ทั้งหมด (ไม่ใช่แค่ 16 คน) คือตัวแทนของเด็กสาวที่อดทน พยายามต่อสู้ พัฒนาตัวเอง เพื่อเดินทางตามความฝัน แบกรับความกดดันและเจ็บปวดจากภายใน แปรเปลี่ยนเป็นความสดใส ก่อนที่จะส่งต่อไปให้ทุกคน
.
ตั้งแต่คอนเซปต์ที่ผู้กำกับ (เอกภณ เศรษฐสุข ผู้กำกับมิวสิกวิดีโอ River) แบ่งตำแหน่งให้เมมเบอร์เป็นคนทำมิวสิกวิดีโอที่ใช้ ‘บอกรัก’ ทุกคนขึ้นมาด้วยตัวเอง เพื่อบอกว่าพวกเธอไม่ใช่แค่ ‘ไอดอล’ แต่เป็นคนทำงานศิลปะที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการสร้างสรรค์ผลงานของตัวเองขึ้นมา
.
การเก็บฟุตเทจบรรยากาศระหว่างทำงานมาใช้ในมิวสิกวิดีโอ แสดงให้เห็นถึงรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ มิตรภาพระหว่างการเดินทาง และรวมถึงความสดใสที่แสดงให้เห็นออกมาเต็มๆ
.
มีหลายคนพูดถึงแอร์ไทม์ของมิวสิคและปูเป้ที่ดูจะมีน้อยกว่าคนอื่น แต่สำหรับเรา การที่ทั้งสองคนได้เป็นตากล้องเก็บภาพเพื่อนๆ ในกองถ่ายมาใช้จริงๆ คือบทบาทสำคัญสำหรับทั้งคู่ เพราะคุณสมบัติของตากล้องคือต้องเป็นคนสายตาไว ละเอียดอ่อน เป็นที่รักของเพื่อนๆ และสามารถดึงความน่ารักและเป็นธรรมชาติของทุกคนออกมาได้ดีที่สุด
.
โดยเฉพาะนาทีที่ 2.08 ที่เป็นภาพมิวสิคนอนอยู่บนพื้นหญ้า ถือกล้องถ่ายวิดีโอ กับสายตามุ่งมั่นมองหาอะไรบางอย่าง แม้จะเป็นเวลาสั้นๆ แต่เรารู้สึกว่าเป็นการนำเสนอตัวตนของมิวสิค ณ เวลานี้ได้ดีที่สุดแล้ว
.
การวางสถานที่ถ่ายทำให้เป็น ‘ทุ่งหญ้าร่าเริง’ อาจเป็นสัญลักษณ์บอกถึงความ ‘เข้มแข็ง’ ระหว่างเดินทาง ที่แม้บางช่วงจะลำบาก เจ็บปวด แต่สุดท้ายพวกเธอก็ยังเริงร่า เป็นรอยยิ้มให้กับทุกคน
.
ฉากเต้นที่อยู่ในสตูดิโอพื้นหลังสีดำอาจหมายถึงสถานการณ์ยากลำบากที่เป็นอยู่ตอนนี้ แม้จะไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ แต่พวกเธอยังไม่เคยหยุดฝัน ยังคงฝึกซ้อม พัฒนาความสามารถ และพยายามเปล่งประกายแสงเพื่อส่องสว่างให้กับเส้นทางของตัวเองให้ได้มากที่สุด
.
ฉากบนเวทีที่พวกเธอยิ้มให้กับที่นั่งว่างเปล่า มีเอฟเฟกต์พลุไฟจุดขึ้นมาเพียงชั่วครู่ แล้วดับลงไปอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงความเงียบที่โอบกอดพวกเธอเอาไว้ อาจหมายถึงช่วงเวลาที่พวกเธอกำลังจะกลับมา ‘บอกรัก’ และมอบความสุขให้กับทุกคนอีกครั้ง โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะยังมีคนรอพวกเธออยู่หรือเปล่า
.
และฉากสุดท้ายที่ทุกคนกลับมาทำท่าบอกรักอยู่หน้ากล้องทีละคน คือการยืนยันว่าพวกเธอจะยังอยู่ตรงนี้เพื่อบอกรักทุกคนต่อไป อาจเป็นแค่เวทีเล็กๆ ไม่ต้องยิ่งใหญ่ อาจไม่ต้องประสบความสำเร็จไปไกลถึงระดับโลก แต่อย่างน้อยที่สุด “ขอแค่ทุกคนกลับมารักและเอ็นดู BNK48 เหมือนเดิมก็พอแล้ว”
.
รับชมมิวสิกวิดีโอ Heavy Rotation ได้ที่
https://www.youtube.com/watch?v=d1lgOyQvkug 
.
เรื่อง ณัฐนันท์ เฉลิมพนัส
ภาพ: BNK48

เครดิต : เพจ THE  STANDARD POP 

ปล. ผมได้อ่านแล้วรู้สึกว่าเค้าตีความได้ดีและน่าสนใจ เลยมาแชร์ให้ลองอ่านกันดูครับ อาจจะยาวหน่อยนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่