เราก็จัดฟันที่ยันฮีค่ะ เดิมเรามีเพื่อนที่ทำงานจัดอยู่กับหมอปราณีนานแล้ว แต่สอบถามเข้าไปที่โรงพยาบาลเหมือนคุณหมอเค้าเลิกรับคนไข้แล้ว ไม่ค่อยรับคนไข้ใหม่เจ้าหน้าที่ให้เราจองคิวซึ่งคิวเราอ่ะเป็นคิวที่ร้อยกว่าเลย  เราตกใจมากตอนแรก เราก็หาข้อมูลตาม Facebook เห็นมีคนรีวิวจัดฟันกับหมอระวิวรรณที่ยันฮีเหมือนกันก็เลยเข้าไปปรึกษาคุณหมอ  คุณหมออธิบายเราละเอียดมีถ่ายรูปให้เราดูชัดชัดด้วย  

ส่วนตัวเราอยากทำฟันที่โรงพยาบาลมากกว่าในเรื่องของความสะอาด แล้วที่สำคัญน่ะจริงๆเราเคยไปถามคลินิกจัดฟันหลายที่ แต่ปัญหาคือหมอจัดฟันตามคลินิกเค้าจะเข้าทำงานเดือนละไม่กี่ครั้งเท่านั้นเอง คือไม่ได้มาทุกวันมันจะลำบากตรงที่ถ้าเกิดเราเลื่อนนัดทีอ่ะ มันก็จะต้องยาวไปอีกเดือนนึงเลย  ตอนนี้เราจัดฟันกับหมอมาได้ปีกว่ากว่าแล้ว คือรู้สึกว่าเลยว่าฟันเคลื่อนดีมากแล้วก็เข้าที่เร็ว  แล้วที่สำคัญน่ะไม่ได้เจ็บอย่างที่เรากลัว ตอนนั้นเราเคยทำเครื่องมือหลุด หมอใจดีไม่คิดเงินค่าติดเครื่องมือกลับของเราด้วย

เคยถามเพื่อนๆที่ไปจัดที่อื่นบอกว่าถ้าหลุดทีอ่ะหมอเค้าคิด 500 เลย  ถามเจ้าหน้าที่เค้าก็บอกว่าถ้าหลุดบ่อยๆปกติรพ.ให้คิดค่าติดเครื่องมือกลับ       ของเราหมอเข้าประจำที่โรงพยาบาลมันสะดวกเวลาเราอยากเลื่อนนัด เราจะหาวันไปทำฟันง่ายกว่าเพราะจัดฟันมันต้องไปทุก1-2เดือน ที่จอดรถก็มีเยอะแต่บางทีอ่ะ เราต้องไปจอดตามเต็นท์ ข้อเสียคือถ้าฝนตกอ่ะเราต้องนั่งรถกอล์ฟของโรงพยาบาลเข้ามาคือมันก็เปียกยิ่งถ้าเสาร์-อาทิตย์คนเยอะเยอะนะก็ลำบากพอสมควร

ค่าใช้จ่ายที่เราเสียไปทั้งหมดอ่ะอยู่ที่ประมาณ 90,000 เราเลือกจัดเป็นแบบดาม่อนเพราะเห็นรีวิวหลายที่เค้าบอกว่าแบบนี้ดีกว่าแบบธรรมดา เราว่ามันก็ดีกว่าจริงๆอ่ะเหมือนมันไม่ค่อยข่วนปาก ฟันเคลื่อนเร็ว คนทักว่าหน้าเปลี่ยนเยอะ

ข้อแตกต่างจากโรงพยาบาลกับคลินิกคือเวลาเราไปทำฟันที่โรงพยาบาลเราต้องเสียค่าบริการโรงบาล 200 ทุกครั้ง ซึ่งถ้าเราจัดฟันสองปี ลองคำนวณดูมันก็เป็นเงินที่เยอะพอสมควร จริงๆ รพ. น่าจะบวกค่าบริการส่วนนี้ไปกับค่ารักษาพยาบาลเลย สำหรับเรามันเสียความรู้สึกที่ต้องมาจ่ายยิบย่อย