ต้องบอกก่อนว่า นี่เป็นการรีวิว จากการใช้งานจริงของผมเอง โดยปกติผมเป็นคนชอบซื้อรองเท้ามาก ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าแตะ รองเท้าแฟชั่น แบรนด์เนมต่างๆ เราเก็บมาเรียบ สนอง Needs ซึ่งถ้าจะเท้าความไป ต้องบอกว่า ช่วง 3-4 ปีก่อนหน้านี้ ผมเองได้มีโอกาสเข้ามาทำงานอยู่กรุงเทพ ซึ่งแน่นอนว่า เด็กบ้านนอกเข้ากรุงอย่างตัวผมเอง ก็ต้องรู้สึกแปลกๆ ตื่นเต้นๆ แต่ก็ดีนะ นี่ผมได้อยู่เมืองกรุงแล้ว เป็นเด็กกรุงเทพ 5555 ช่วงแรกต้องบอกว่า ชีวิตดี กินของดีทุกวัน ใช้ชีวิตอยู่แบบสุขสบาย แถมเงินไม่ต้องจ่าย เพราะเจ้านายดี เลี้ยงดูปูเสื่อเราเป็นอย่างดี ขอบคุณมาก ๆ มา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
กลับมาที่รีวิวรองเท้าของเรา ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา หลังจากได้เรียนรู้การใช้ชีวิตในกรุงเทพมาได้สักปีกว่า ๆ ใกล้ๆ ที่ทำงานของผม ซึ่งตัวผมเอง ทำงานอยู่ในตึก InterContinental Bangkok เวลาจะไปทานข้าวกลางวัน ผมกับเพื่อนๆ ทีมงานก็จะเลือกไปทานเซนทรัลเวิล์ดหรือไม่ก็ตึกอัมรินทร์ ซึ่งที่ชั้น 1 ของตึกอัมรินทร์ก็จะมีบูธรองเท้าเสื้อผ้าแบรนด์เนมมา Sale เรียกว่าเกือบจะทุกเดือน จำได้ว่า ช่วงแรกเราเริ่มต้นจากการซื้อรองเท้า คู่ละ 1,000 ต้นๆ จัดไป มันถูก จัดมา 2 คู่ แล้วก็ทำแบบนี้มาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะมีรองเท้าเซลล์ที่ไหน จัดหนัก จัดเต็มตลอด 2 ปี ซึ่งในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา รู้ตัวอีกที มีรองเท้าใส่เกือบ 30 คู่ จนตอนนี้บางคู่แทบไม่ได้ใส่ หรือบางคู่ยังไม่ได้ใส่เลยก็มี !!!!!
ตอนนั้นยังไม่ได้สนใจรองเท้าสุขภาพเลยสักนิด เพราะไม่รู้จักถึงความแตกต่าง ระหว่างรองเท้าทั่วไป กับรองเท้าสุขภาพจริงๆ และด้วยการทำงานที่ค่อนข้างเครียดและหนัก ทำให้เราต้องแก้เครียดด้วยการกิน และกิน มาตลอด ช่วง ปีกว่าๆ ที่อยู่กรุงเทพ ต้องบอกว่า อาหารการกินเราดีมาก อยากกินอะไรต้องได้กิน ทำแบบนี้ทุกวัน จากคนที่มีน้ำหนักเพียงแค่ 55 กิโลกรัม กระโดดพุ่งมา 79-80 กิโลกรัมกันเลยทีเดียว เรียกว่าน้ำหนักขึ้นมาถึงเกือบๆ 25 กิโลกรัมกันเลย ในระยะเวลาเพียง 8 เดือนเท่านั้น แล้วถ้าผมได้กลับบ้านต่างจังหวัด พ่อกับแม่ก็จะทักตลอดเลยว่า พุ่งยื่นๆ นี่ไม่ไหวเลยนะ อ้วนมาก เสื้อผ้าบางตัวเก่า ๆ เรียกว่าใส่ไม่ได้เลยทีเดียว !!!!
มาถึงตรงนี้ปัญหาเริ่มเกิด ต้องบอกก่อนว่า เราพักอยู่คอนโดแถวๆ พระราม 4 ซึ่งทุกเย็นเวลากลับที่พัก ก็จะนั่ง BTS จากชิดลมมาลง BTS เอกมัย แล้วเดินเท้าย้อนกลับมาที่คอนโด ซึ่งระยะทางประมาณ 800 เมตรโดยประมาณ ช่วงแรกๆ ก็ไม่เป็นไร ทำแบบนี้ทุกวัน หลังจากที่น้ำหนักตัวเริ่มขึ้นเยอะ เวลาเดินกลับคอนโดจะมีอาการทั้งเหนื่อย ทั้งเจ็บเท้า อาการคือ เจ็บบริเวณ กลางฝ่าเท้า แรกๆ ก็ไม่ได้คิดว่า เป็นที่รองเท้า อาจจะเป็นรองช้ำ?
หรือรองเท้าที่ใส่ไม่รองรับฝ่าเท้าของเราหรือเปล่า ? ซึ่งถ้าเจ็บมาก ก็จะต้องกดจุดฝ่าเท้า หรือกรีดไล่เส้นตรงกลางฝ่าเท้าเพื่อบรรเทาอาการ หรือแช่เท้าในน้ำอุ่นๆ เพื่อผ่อนคลาย ซึ่งส่วนตัวผมเจ็บ และมีอาการแบบนี้มาตลอด วิธีแก้ของผมก็จะแก้ไขด้วยการหารองเท้าคู่ใหม่ ที่นุ่ม หรือรองเท้ามีลักษณะเป็นรองเท้าแบบ Memory Foam เพื่อให้รองรับและกระชับช่องว่างระหว่างเท้าของเราที่กลางฝ่าเท้าให้ได้มากที่สุด
แต่ก็ไม่เป็นผล ใส่ได้สักพัก Memory Foam ก็ยุบ อาการเก่ากลับมากวนใจอยู่ตลอด เปลี่ยนรองเท้า คู่แล้วคู่เล่า ก็แก้ไขปัญหาอาการปวดไม่ตลอด ถ้าวันไหนไม่ไหวจริงๆ ก็จะไปนวดผ่อนคลาย อาการปวดกลางฝ่าเท้าก็บรรเทาและดีขึ้น ทำแบบนี้ทุกสัปดาห์ บางทีก็สัปดาห์เว้นสัปดาห์ ดีหน่อยที่ร้านนวดอยู่ตรงข้ามคอนโดเรา แต่บางครั้งก็ไปนวดที่ร้านนวด แถวศูนย์วัฒนธรรมกับเพื่อนบ้าง แรกๆ ก็ไม่ได้คิดอะไร หลังๆ การนวดกับร้านนวดแบบนี้ก็ไม่ได้ผล จนอาการปวด เริ่มไม่ค่อยดี ก็เริ่มไปรักษาจริงๆ จังๆ
ภาพประกอบเพื่อให้เข้าใจ
ด้วยการทำกายภาพบำบัด ที่โรงพยาบาล ซึ่งหมอ ก็แนะนำว่า นอกจากการทำกายภาพบำบัดแล้ว การลดน้ำหนัก ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะร่างกายของเรา มีน้ำหนักขึ้นเร็วแบบก้าวกระโดดมากเกินไป ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการเจ็บฝ่าเท้าได้ อีกอย่าง รูปเท้าของผมก็ไม่เหมือนเท้าคนทั่วไป มันจะมีอาการโค้งงอนิดๆ เวลาเดินหรือลงน้ำหนัก ก็จะเหมือนคนเดินจิกบริเวณปลายเท้า ซึ่งทำให้เกิดอาการปวดอยู่อย่างต่อเนื่องนั่นเอง
ก็เริ่มปรึกษาแฟน ปรึกษาเพื่อน ปรึกษาคนใกล้ตัว เค้าก็แนะนำให้ไปหาซื้อรองเท้าเพื่อสุขภาพมาใส่ดู ทีนี้เนื่องจากรองเท้าเพื่อสุขภาพ เป็นรองเท้าที่มีราคาอยู่ระดับหนึ่ง แต่อย่างเรา เลือกรองเท้ามาเยอะ เจ็บมาเยอะ อีกสักคู่จะเป็นไร ช่วงแรกๆ ก็ศึกษาข้อมูล ไปลองสวมใส่มาก็หลากหลายแบรนด์ แต่ก็ไม่โดนใจสักที บางแบรนด์ก็แข็งไป บางแบรนด์ก็นุ่มเกิน คือ เรามีเกือบทุกรูปแบบแล้ว ที่เป็นรองเท้าที่ให้ความรู้สึกก่อนหน้านี้ ก็เลย ไม่รีบตัดสินใจซื้อ จนได้มาเจอรองเท้าสุขภาพ
ในห้างเซนทรัลเวิลด์ แต่ Shop ใหญ่เคยเห็นที่ ไอคอน สยาม ด้วย ไม่รอช้า ไปลองเลยจ้า เออครั้งแรกที่ได้เอาเท้าของผมเข้าไปสัมผัส บอกเลยว่า มันดีนะ นุ่มพอดีๆ ไม่ยวบจนเกินไป เวลาเดินก็รู้สึกได้ถึงพื้นที่รองรับช่องวางกลางเท้าของเรา แล้วสิ่งที่รู้สึกได้เลยว่าแตกต่างจากหลายยี่ห้อ คือ น้ำหนักรองเท้าเบามาก ๆ เวลาเดินรู้สึกว่า นี่ใส่รองเท้าแล้วหรอ เวลาทำกิจกรรมระหว่างวัน ยืน เดินนาน ก็รู้สึกไม่ปวด ไม่เมื่อยล้าทั้งขาและฝ่าเท้า
เห็นคนขายเค้าบอกว่า รองเท้า Rebecca Lim’s คู่นี้วัสดุมันทำมาจาก Nano Micro fiber Grade A นอกจากเรื่องความนุ่มแล้ว ยังระบายอากาศได้ดี ไม่ต้องกังวัลเรื่องความชื้น และเหม็นอับ จึงหมดกังวลว่าถ้าใส่คู่นี้นานๆ จะทำให้เรามีกลิ่นเท้าได้ และนอกจากนี้ ยังได้รับการรับรองทางการแพทย์เกี่ยวกับ Arch Support ด้วย จะรออะไรก็จัดไปสิครับ 1 คู่ …55555
หลังจากวันนั้นมาก็ใส่รองเท้าคู่นี้มาตลอด เวลาไปไหนมาไหน ก็รู้สึกชอบนะ เรียกว่าเป็น รองเท้าคู่โปรดไปแล้ว ไม่ต้องกลัวรองเท้าทรยศอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นอาการรองเท้ากัด หรือใส่แล้วไม่เข้ากับรูปเท้าเรา ทำให้เดินหรือยืนนานๆ จะมีอาการปวดขา ปวดฝ่าเท้า จนต้องใช้มือและนิ้วของเรากดจุด นวด ตรงบริเวณฝ่าเท้าและบริเวณที่เรามีอาการปวดอีก
ความชอบอีกอย่างหนึ่ง ก็คือรองเท้าคู่นี้เค้าออกแบบมาให้พื้นด้านในมีปุ่มเล็กๆ เวลาเราลงน้ำหนักแล้วรู้สึกเหมือนมีปุ่มนวดเท้าทำให้เท้าไม่ชา ทุกครั้งที่เดิน ส่วนตัวพื้นรองเท้าด้านล่างก็กันลื่น หรือสะดุดได้ดีกว่าแบรนด์ดัง ๆ เราว่าคนที่กลัวลื่นหกล้ม ต้องใช้แบบนี้เลย แผ่นรองเป็นยางเด้งรับน้ำหนักอย่างผมได้ สำหรับคนอื่น ไม่ต้องห่วงครับ
ผมเลือกรองเท้าคู่นี้ เพราะมันคือ รองเท้าสุขภาพ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันของผม ไม่ว่าจะเป็น การเดิน การยืนนานๆ การทำกิจกรรมต่างๆ ระหว่างวัน รวมไปถึงการช่วยบรรเทาอาการเจ็บกลางฝ่าเท้าของผมได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ถ้ามีปัญหาก็สามารถสั่งตัด หรือปรึกษาหมอเท้าได้ที่คลีนิค แถวพระราม 2 ไว้จะต้องหาโอกาสไปตรวจด้วยเครื่อง วัดแรงกดเท้า เพื่อตัดแผ่นรองซักหน่อย ผมเชื่อว่ามันจะต้องดีกว่านี้แน่ เพราะออกแบบมาเฉพาะเท้าผมเลย ไว้จะมารีวิวให้ฟังนะครับ
นี่ถือว่าเป็นรีวิวความประทับใจของผม ที่อยากจะมาแชร์ประสบการณ์แบ่งปัน บอกเล่าให้เพื่อนๆ ได้ทราบกัน จุดเริ่มต้นปัญหาอาการเจ็บฝ่าเท้าของผม จากเมื่อก่อนที่คิดว่า รองเท้าไม่ได้มีส่วนช่วยแต่อย่างใด จนทุกวันนี้ อาการบ้ารองเท้าของผมต้องหยุดไป เพราะรู้แล้วว่า รองเท้าที่ดี จะช่วยทำให้เราใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข โดยไม่จำเป็นต้อง เลือกซื้อรองเท้าที่ไม่มีความจำเป็นเพียงเพราะความอยากได้ เพียงเพราะกิเลสเท่านั้น
สำหรับเพื่อนๆ คนไหน ที่กำลังประสบปัญหาอาการเจ็บเท้า เจ็บฝ่าเท้า เหมือนผม หรือมีอาการอื่นๆ ที่คล้ายกันเกี่ยวกับเท้า การเดินหรือการวิ่ง ก็ลองเลือกรองเท้าสุขภาพ Rebecca Lim’s by TALON คู่นี้ ไว้พิจารณาดูอีก 1 คู่ เพราะมันอาจจะทำให้การใช้ชีวิตของคุณในแต่ละวันดีขึ้นก็เป็นได้
[CR] รีวิว Rebecca Lim’s by TALON รองเท้าสุขภาพ คู่แรกของเรา
ก็เริ่มปรึกษาแฟน ปรึกษาเพื่อน ปรึกษาคนใกล้ตัว เค้าก็แนะนำให้ไปหาซื้อรองเท้าเพื่อสุขภาพมาใส่ดู ทีนี้เนื่องจากรองเท้าเพื่อสุขภาพ เป็นรองเท้าที่มีราคาอยู่ระดับหนึ่ง แต่อย่างเรา เลือกรองเท้ามาเยอะ เจ็บมาเยอะ อีกสักคู่จะเป็นไร ช่วงแรกๆ ก็ศึกษาข้อมูล ไปลองสวมใส่มาก็หลากหลายแบรนด์ แต่ก็ไม่โดนใจสักที บางแบรนด์ก็แข็งไป บางแบรนด์ก็นุ่มเกิน คือ เรามีเกือบทุกรูปแบบแล้ว ที่เป็นรองเท้าที่ให้ความรู้สึกก่อนหน้านี้ ก็เลย ไม่รีบตัดสินใจซื้อ จนได้มาเจอรองเท้าสุขภาพ
หลังจากวันนั้นมาก็ใส่รองเท้าคู่นี้มาตลอด เวลาไปไหนมาไหน ก็รู้สึกชอบนะ เรียกว่าเป็น รองเท้าคู่โปรดไปแล้ว ไม่ต้องกลัวรองเท้าทรยศอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นอาการรองเท้ากัด หรือใส่แล้วไม่เข้ากับรูปเท้าเรา ทำให้เดินหรือยืนนานๆ จะมีอาการปวดขา ปวดฝ่าเท้า จนต้องใช้มือและนิ้วของเรากดจุด นวด ตรงบริเวณฝ่าเท้าและบริเวณที่เรามีอาการปวดอีก
ความชอบอีกอย่างหนึ่ง ก็คือรองเท้าคู่นี้เค้าออกแบบมาให้พื้นด้านในมีปุ่มเล็กๆ เวลาเราลงน้ำหนักแล้วรู้สึกเหมือนมีปุ่มนวดเท้าทำให้เท้าไม่ชา ทุกครั้งที่เดิน ส่วนตัวพื้นรองเท้าด้านล่างก็กันลื่น หรือสะดุดได้ดีกว่าแบรนด์ดัง ๆ เราว่าคนที่กลัวลื่นหกล้ม ต้องใช้แบบนี้เลย แผ่นรองเป็นยางเด้งรับน้ำหนักอย่างผมได้ สำหรับคนอื่น ไม่ต้องห่วงครับ
ผมเลือกรองเท้าคู่นี้ เพราะมันคือ รองเท้าสุขภาพ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันของผม ไม่ว่าจะเป็น การเดิน การยืนนานๆ การทำกิจกรรมต่างๆ ระหว่างวัน รวมไปถึงการช่วยบรรเทาอาการเจ็บกลางฝ่าเท้าของผมได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ถ้ามีปัญหาก็สามารถสั่งตัด หรือปรึกษาหมอเท้าได้ที่คลีนิค แถวพระราม 2 ไว้จะต้องหาโอกาสไปตรวจด้วยเครื่อง วัดแรงกดเท้า เพื่อตัดแผ่นรองซักหน่อย ผมเชื่อว่ามันจะต้องดีกว่านี้แน่ เพราะออกแบบมาเฉพาะเท้าผมเลย ไว้จะมารีวิวให้ฟังนะครับ
นี่ถือว่าเป็นรีวิวความประทับใจของผม ที่อยากจะมาแชร์ประสบการณ์แบ่งปัน บอกเล่าให้เพื่อนๆ ได้ทราบกัน จุดเริ่มต้นปัญหาอาการเจ็บฝ่าเท้าของผม จากเมื่อก่อนที่คิดว่า รองเท้าไม่ได้มีส่วนช่วยแต่อย่างใด จนทุกวันนี้ อาการบ้ารองเท้าของผมต้องหยุดไป เพราะรู้แล้วว่า รองเท้าที่ดี จะช่วยทำให้เราใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข โดยไม่จำเป็นต้อง เลือกซื้อรองเท้าที่ไม่มีความจำเป็นเพียงเพราะความอยากได้ เพียงเพราะกิเลสเท่านั้น
สำหรับเพื่อนๆ คนไหน ที่กำลังประสบปัญหาอาการเจ็บเท้า เจ็บฝ่าเท้า เหมือนผม หรือมีอาการอื่นๆ ที่คล้ายกันเกี่ยวกับเท้า การเดินหรือการวิ่ง ก็ลองเลือกรองเท้าสุขภาพ Rebecca Lim’s by TALON คู่นี้ ไว้พิจารณาดูอีก 1 คู่ เพราะมันอาจจะทำให้การใช้ชีวิตของคุณในแต่ละวันดีขึ้นก็เป็นได้
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้