"แม่" ในแฮร์รี่ พอตเตอร์

หนึ่งในธีมหลักของ แฮร์รี่ พอตเตอร์ คือ "ความรัก" ไม่ว่าจะเป็นระหว่างผองเพื่อน ครอบครัว คนรัก ลูกศิษย์และอาจารย์ ตลอดจนเพื่อนร่วมอุดมการณ์ในการต่อสู้กับลอร์ดโวลเดอมอร์ ซึ่ง "ความรักของผู้เป็นแม่" ก็มีส่วนสำคัญในการดำเนินเรื่องราวของเด็กชายผู้รอดจากต้นเรื่องจนถึงบทสรุป วันนี้ผมจึงอยากมาพูดถึง 5 ตัวละครสำคัญกับบทบาทความเป็นแม่ของพวกเธอกันครับ

(กระทู้นี้เรียบเรียงจากความทรงจำนะครับ แฟนๆแฮร์รี่อยากจะเสริมหรือแก้ไขอะไรก็บอกได้)
 

1. ลิลลี่ พอตเตอร์ แม่ของ แฮร์รี่ พอตเตอร์


ลิลลี่เป็นแม่ผู้เสียสละและกล้าหาญ ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตที่เธอเผชิญหน้ากับลอร์ดโวลเดอมอร์ แม้จอมมารยอมเสนอที่จะไว้ชีวิตเธอให้กับสเนปตามที่สัญญาไว้ หากเธอยอมให้จอมมารฆ่าลูกชายของเธอแต่โดยดี ลิลลี่ไม่ลังเลเลยที่จะยอมสละชีวิตตนเองเพื่อปกป้องลูกชายผู้เป็นที่รักจนถึงวินาทีสุดท้าย เมื่อลิลลี่เอาตัวเองไปบังคำสาปพิฆาตจากโวลเดอมอร์เพื่อปกป้องแฮร์รี่ นับเป็นการใช้ "ความรัก" ซึ่งเป็นหนึ่งในเวทมนตร์ที่เก่าแก่และทรงพลานุภาพที่สุด...เป็นสิ่งเดียวที่สามารถต่อกรกับคำสาปพิฆาตได้โดยการแลกกับชีวิตของผู้ใช้ความรักที่เต็มใจสละตนเองเพื่อปกป้องผู้เป็นที่รักเอาไว้ (Sacrifical Protection of Love) "ความรักของแม่" จึงสะท้อนคำสาปพิฆาตกลับไปยังลอร์ดโวลเดอมอร์ ซึ่งจอมมารเองก็ไม่เคยเข้าใจความรักไม่ว่าจะรูปแบบใดเลย จึงต้องพ่ายแพ้โดนคำสาปตัวเองทำลายร่างเหลือแต่เพียงเศษเสี้ยวจิตสำนึกที่หนีรอดไปได้ ทำให้แฮร์รี่กลายเป็น "เด็กชายผู้รอด" ที่มีชื่อเสียงก้องโลกเวทมนตร์ในชั่วข้ามคืน
 
นอกจากนั้นแล้ว "ความรักของแม่" นั้นยังคงอยู่ในเลือดเนื้อของแฮร์รี่และตามปกป้องเขาอยู่ตลอดเวลา ดังจะเห็นได้ในภาค 1 ศิลาอาถรรพ์ ว่าลอร์ดโวลเดอมอร์ที่อาศัยร่างศาสตราจารย์คลีเรลล์นั้นไม่สามารถแตะต้องตัวแฮร์รี่ได้ ความรักของแม่ในตัวแฮร์รี่นั้นทำให้จอมมารเจ็บปวดทุรนทุรายและพ่ายแพ้อีกครั้ง
 
ในภาค 4 ถ้วยอัคนี ลอร์ดโวลเดอมอร์ทำพิธีคืนร่างโดยใช้ "เลือดของแฮร์รี่" เป็นหนึ่งในส่วนผสม แม้ลอร์ดโวลเดอมอร์จะสามารถแตะตัวแฮร์รี่ได้โดยไม่เจ็บปวดทุรนทุรายเพราะมีเลือดแฮร์รี่อยู่ในร่างกาย แต่นั้นเป็นการรับประกันว่าลอร์ดโวลเดอมอร์จะไม่สามารถทำร้ายแฮร์รี่ได้ถึงตายอีก เพราะความรักของลิลลี่ที่อยู่ในเลือดแฮร์รี่ก็ถูกถ่ายเทมาอยู่ในตัวของจอมมารเองเหมือนกัน จะเห็นได้ในภาค 7 เครื่องรางยมฑูตว่า แม้ลอร์ดโวลเดอมอร์จะเปลี่ยนไม้กายสิทธิ์ตามคำแนะนำของโอลิแวนเดอร์แล้ว ก็ยังไม่สามารถใช้คำสาปพิฆาตฆ่าแฮร์รี่ได้ในตอนต้นเรื่อง (ไม้กายสิทธิ์ของแฮร์รี่และลอร์ดโวลเดอมอร์มีแกนเป็นขนนกฟีนิกซ์ตัวเดียวกัน ทำให้ไม้กายสิทธิ์เป็นพี่น้องกัน จึงไม่สามารถร่ายคาถาทำร้ายอีกฝ่ายได้) และตอนท้ายเรื่อง ลอรฺ์ดโวลเดอมอร์ก็ใช้คำสาปพิฆาตกับแฮร์รี่อีกครั้งในป่าต้องห้าม (ทำลายฮอรฺ์ครักซ์ของตัวเองที่อยู่ในตัวแฮร์รี่โดยไม่รู้ตัว) ความรักของลิลลี่ที่อยู่ในเลือดที่ไหลเวียนทั้งในตัวของแฮร์รี่และจอมมารก็ช่วยรั้งชีวิตแฮร์รี่ไว้ได้อีกครั้งหนึ่ง ดังที่ดัมเบิลดอร์บอกกับแฮรี่ในชานชลาที่ 9 เศษ 3 ส่วน 4 (ใน Limbo) ว่าแฮร์รี่มีสิทธิ์เลือกว่าจะ(ตายจาก)ไป หรือจะกลับไปช่วยเพื่อนๆ 
 
ชื่อ ลิลลี่ (Lilly) นั้นเป็นชื่อดอกไม้ที่แสดงถึงความบริสุทธิ์ และยังหนึ่งในสัญลักษณ์ของเฮร่า (Hera) เทพีแห่งการสมรสและความเป็นแม่ ร่วมถึงเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของพระแม่มารีด้วย 
 
2. เมโรเพ ก๊อนท์ แม่ของ ทอม ริดเดิ้ล จูเนียร์ หรือ ลอร์ดโวลเดอมอร์

เมโรเพ (Merope) เป็นชื่อของ ดาวดวงหนึ่งในกลุ่มดาวลูกไก่ ซึ่งเป็นดาวดวงที่สว่างน้อยสุด สื่อนัยถึงชีวิตอันริบหรี่และน่าสงสารของเธอ 
 
เมโรเพนั้นเกิดมาในตระกูลก๊อนท์ ซึ่งเป็นตระกูลผู้วิเศษเลือดบริสุทธิ์ชั้นสูงอันเก่าแก่ และเป็นหนึ่งตระกูลที่สืบเชื้อสายมาจากตระกูล "เพฟเวอเรลล์" เจ้าของเครื่องรางยมฑูต (แฮร์รี่กับโวลเดอมอร์เป็นญาติห่างๆกันนั่นเอง) โดยตระกูลก๊อนท์นั้นได้ "หินชุบชีวิต" ไป ส่วนตระกูลพอตเตอร์ได้ "ผ้าคลุมล่องหนที่ไม่มีวันเสื่อมสภาพ"
 
ตระกูลก๊อนซ์ทะนงในความเป็นเลือดบริสุทธิ์ของตัวเองมาก จึงทำให้เกิดธรรมเนียมการแต่งงานในเครือญาติที่เลือดชิดมาหลายชั่วอายุคน จนทำให้เกิดผลเสียต่อพันธุกรรม สมาชิกหลายๆคนจึงมีสุขภาพไม่ดีและมีอาการทางประสาท นอกจากนั้นแล้วทรัพย์สมบัติก็ร่อยหรอลงไปเรื่อยๆ จนมาถึงรุ่นที่เหลือเพียง มาร์โวโล ก๊อนท์ ซึ่งมีลูกชายคนโตคือ มอร์ฟีน ก๊อนท์ และลูกสาวคนเล็กคือเมโรเพ ก๊อนท์ นั่นเอง...พวกเขาทั้งสามอยู่ในกระท่อมโทรมๆใกล้คฤหาสน์ของตระกูลริดเดิ้ล

มาร์โวโล และมอร์ฟีนที่มีอาการทางจิตชอบใช้ความรุนแรง และเอาแน่เอานอนไม่ได้ ก็คลุ้มคลั่งเป็นระยะ ดูถูก ด่าทอ และทำร้ายเมโรเพมาตั้งแต่เธอยังเล็กจนโต เพราะคิดว่าเธอเป็นสคริป (คนที่เกิดในครอบครัวผู้วิเศษแต่ไม่มีพลังเวทมนตร์) ซึ่งความจริงแล้วความรุนแรงในครอบครัวจากผู้เป็นพ่อและพี่ชายที่ทำร้ายเมโรเพทั้งทางจิตใจและทางร่างกายต่างหากที่กดทับอำนาจเวทมนตร์ที่เธอมีเอาไว้ ชีวิตของเมโรเพจึงไม่เคยรู้จักความสุขและความรักจริงๆ เลยสักครั้ง 
 
จนกระทั้งเมโรเพได้พบกับพ่อหนุ่มทอม ริดเดิ้ล (ซีเนียร์) รูปงามที่ทำให้เธอตกหลุมรัก และเมื่อพ่อและพี่ชายเธอถูกจับไปอัสคาบันข้อหาร่ายคำสาปใส่ชายคนรักของเธอ เมโรเพจึงเป็นอิสระจากการกดขี่และสามารถใช้พลังเวทมนตร์ของเธอได้ในที่สุด เธอร่ายมนตร์เสน่ห์ทำให้ทอมตกหลุมรักและหนีตามไปสร้างครอบครัวใหม่กับเธอ และเมื่อเมโรเพตั้งท้อง เธอตัดสินใจหยุดใช้มนตร์เสน่ห์กับทอมด้วยใจหวังว่าเขายังจะรักเธอ แต่เมื่อได้สติทอมก็หนีจากเธอไปทันที ทำให้เมโรเพใจสลายและไม่ยอมกลับมาใช้เวทมนตร์อีกเลย
 
ในช่วงชีวิตสุดท้าย เมโรเพท้องแก่ใกล้คลอดได้ใช้แรงเฮือกสุดท้ายพาตัวเองไปยังสถานเลี้ยงดูเด็กกำพร้า และได้ให้กำเนิดทอม ริดเดิ้ล จูเนียร์ ผู้ที่จะกลายเป็นลอร์ดโวลเดอมอร์ในอนาคต บาดแผลและอาการแทรกซ้อนหลังคลอดนั้นได้พรากชีวิตเมโรเพไป เธอสิ้นหวังกับทุกอย่างในชีวิตจนไม่แม้แต่จะพยายามจะอยู่ต่อเพื่อลูกชายคนเดียวของเธอ ไม่ยอมแม้แต่จะยกไม้กายสิทธิ์เพื่อร่ายมนตร์ยื้อชีวิตตัวเอง...ทอม ริดเดิ้ล จูเนียร์ จึงโตเติบมาอย่าง "เดียวดายและขาดความรักของแม่" ในสถานเลี้ยงดูเด็กกำพร้า นอกจากนั้นแล้วอำนาจเวทมนตร์ที่ทอมมีก็ทำให้เขารู้ตัวว่าเขาพิเศษกว่าเด็กคนอื่นๆ เขาจึงไม่รู้สึกอยากเป็นเพื่อนกับใครในสถานเลี้ยงดูเด็กกำพร้า ในขณะเดียวกันเขาก็ชอบใช้อำนาจเวทมนตร์ไปข่มขู่เพื่อให้ตัวเองอยู่เหนือกว่าเด็กคนอื่นๆ ตลอดมา
 
ทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมลอร์ดโวลเดอมอร์ไม่เคยที่จะรักใครนอกจากตนเอง และไม่สามารถเข้าใจความรักรูปแบบอิ่นๆ ได้เลย จึงเป็นจุดอ่อนสำคัญของเขา และทำให้เขาต้องพ่ายแพ้ต่อความรักตลอด
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่