สงสัยจริง ๆ ครับ
ว่าทำไมอยู่ดี ๆ บรรดานั่งร้านในพลังประชารัฐ มีอำนาจต่อรองสูงลิบขึ้นมาดื้อ ๆ
จากแมวเซื่อง กลายเป็นพยัคฆาขึ้นมาซะงั้น
ถึงขนาดกล้าคำรามลั่น ว่ากระทรวงพลังงานต้องเป็นของ พปชร. ไม่ใช่คนนอก
จากที่ไม่มีปากมีเสียง ไม่กล้าหือ มีแต่อือ
กปปส. มาเป็นปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 ก็นิ่ง กปปส. คว้าเก้าอี้รัฐมนตรีก็ยอม ทั้งที่ กปปส. ไม่มีฐานเสียง ไม่มีก๊วนกลุ่มต่อรอง
แต่ตอนนี้ ไล่ตะเพิดสมคิดและคณะได้ ยึดพรรคเรียบร้อย จะทวงคืนเก้าอี้รัฐมนตรีคืนจาก กปปส.
กำหนดตัวบุคคล ต้องกระทรวงนั้น กระทรวงนี้ กล้าถึงขนาดว่า ไม่ได้ไม่ยอม จะป่วนจนยุบสภาฯ ยุบสภาฯก็ไม่กลัว
เกิดอะไรขึ้น ?
.
เขาย่อมเปรียบเทียบความว่ายามรัก
แต่น้ำผักต้มขมชมว่าหวาน
ครั้นจืดจางห่างเหินไปเนิ่นนาน
แต่น้ำตาลก็ว่าเปรี้ยวไม่เหลียวแล
(พระอภัยมณี)
.
การเมืองเรื่องผลประโยชน์ เมื่อถึงจุดที่ต้องได้ ก็ต้องได้ หากไม่ได้ก็พังเป็นพัง อยู่แบบไม่ได้ประโยชน์จะอยู่ไปทำไม
ไม่มีทาง ที่การเมืองจะได้คนเดียวหรือฝ่ายเดียว
จะเกลี่ยผลประโยชน์อย่างไรให้ลงตัว พอใจกันทุกฝ่าย
อาจซื้อเวลาได้สักระยะ หรือหลายระยะ
แต่เมื่อต่อรองได้ ก็มักต่อรองมากขึ้น ราคาที่ต้องแลกต้องจ่ายก็จะแพงขึ้นเรื่อย ๆ
สัญชาตญาณนักการเมืองคือ ได้คืบเอาศอก
เพื่อการอยู่ยาว แลกด้วยอะไรก็ต้องยอม
นั่งร้านอยากได้อะไร ประเคนให้ ประชาชนจ่าย ไม่ได้จ่ายเอง
.
อ้าว เครื่องมารับแระ
ไปก่อง
สงสัยจริง ๆ ครับ ............................................................ โดย ตระกองขวัญ
สงสัยจริง ๆ ครับ
ว่าทำไมอยู่ดี ๆ บรรดานั่งร้านในพลังประชารัฐ มีอำนาจต่อรองสูงลิบขึ้นมาดื้อ ๆ
จากแมวเซื่อง กลายเป็นพยัคฆาขึ้นมาซะงั้น
ถึงขนาดกล้าคำรามลั่น ว่ากระทรวงพลังงานต้องเป็นของ พปชร. ไม่ใช่คนนอก
จากที่ไม่มีปากมีเสียง ไม่กล้าหือ มีแต่อือ
กปปส. มาเป็นปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 ก็นิ่ง กปปส. คว้าเก้าอี้รัฐมนตรีก็ยอม ทั้งที่ กปปส. ไม่มีฐานเสียง ไม่มีก๊วนกลุ่มต่อรอง
แต่ตอนนี้ ไล่ตะเพิดสมคิดและคณะได้ ยึดพรรคเรียบร้อย จะทวงคืนเก้าอี้รัฐมนตรีคืนจาก กปปส.
กำหนดตัวบุคคล ต้องกระทรวงนั้น กระทรวงนี้ กล้าถึงขนาดว่า ไม่ได้ไม่ยอม จะป่วนจนยุบสภาฯ ยุบสภาฯก็ไม่กลัว
เกิดอะไรขึ้น ?
ครั้นจืดจางห่างเหินไปเนิ่นนาน