ในวันนี้ผมจะมาแนะนำแล็ปท็อปที่คุ้มค่าคุ้มราคาและสเปกไปพร้อมๆกันจากค่าย Huawei ที่มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการณ์ Windows 10 Home ติดตั้งพร้อมใช้งานเลย. ซึ่งแล็ปท็อปรุ่นที่เราพูดถึงนี้มีน้ำหนักที่ไม่หนักมากและพกพาได้สะดวกในราคาที่ไม่ถึง 3หมื่นบาท แถมได้ประสิทธภาพที่ดีเยี่ยมด้วยขุมพลังระดับ Intel Core i7 รุ่นที่ 10 10510U การ์ดจอ NVIDIA MX250 แรม 16GB DDR4 และเนื้อที่ภายใน 512GB แบบ PCIe SSD นั่นก็คือ Huawei Matebook D14 รุ่นที่ใช้งานเป็น Intel Core i7 นั่นเองครับ.
สำหรับใครที่ไม่สะดวกในการอ่านสามารถรับชมในรูปแบบวิดีโอได้เช่นกันครับ.
Huawei Matebook D14 มาพร้อมกับหน้าจอ IPS ขนาด 14" ความละเอียดระดับ Full HD มีความสว่างหน้าจออยู่ที่ 250 nits ที่ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานภายในที่ทำงานหรือนอกสถานที่ตามร้านกาแฟหรือตามห้างได้สบายๆเลย แถมจุดเด่นของ Huawei Matebook D14 ของหน้าจอคือสามารถกางหน้าจอได้ถึง 180 องศา ส่วนคีย์บอร์ดของ Huawei Matebook D14 นั้นมีไฟ Backlit Keyboard สามารถปรับได้ 2 ระดับ หมดห่วงไม่ต้องกังวลเวลาพิมพ์ในที่แสงรน้อยแล้วเราจะมองไม่เห็นแป้นกันอีกต่อไป.
พอร์ตต่างๆของ Huawei Matebook D14 มี USB A แบบ 3.0 และ 2.0 อย่างละ 1 พอร์ต และ Audio Jack 3.5มม. ส่วนใครที่เป็นสายเน้นประชุมและต้องใช้การต่อขึ้นจอต่างๆเป็นประจำ เจ้า Huawei Matebook D14 เองก็มี พอร์ต HDMI มาให้อีกด้วยเช่นกันถือว่ามีประโยชน์มากเลยจริงๆ. ส่วนพอร์ตสุดท้ายนั้นเป็นพอร์ต USB-C ที่ใช้สำหรับชาร์จ.
ส่วนที่ชาร์จของทาง Huawei ที่ให้มานั้นเป็นพอร์ตชาร์จแบบ Type C to C พร้อมอแดปเตอร์กำลังไปสูงสุดที่ 65W สามารถใช้งานกับสมาร์ทโฟนก็ได้ด้วย ทำให้ประหยัดกระเป๋าไปได้อีกเยอะเลยในการพกที่ชาร์จช่วงที่ต้องเดินทาง.
ในส่วนของด้านหลังเครื่องนั้นมีพัดลมระบายความร้อนอยู่ 1 ตัว ซึ่งในช่วงทำงานหนักนั้นพัดลมถือว่าทำงานดังอยู่ระดับนึงเลยนะ ส่วนลำโพงของตัวเครื่องเองนั้นอยู่ที่ด้านหลังแถมเป็นบำโพงคู่ให้เสียงที่ดีเลยเช่นกัน
ด้านการทำงานนั้นมาพร้อมกัลระบบปฏิบัติการณ์ Windows 10 Home และจากการใช้งานด้านการตัดต่อวิดีโอ Full HD สามารถทำงานไดเป็นอย่างดี รวมไปถึงการเปิดสลับโปรแกรมต่างๆไปมาแทบไม่ต้องพะวงเรื่องโปรแกรมค้างเลย เพราะแรมที่ให้มาถึง 16GB นั้นถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานได้อย่างสบายๆ
ส่วนการเล่นเกมบนนั้นสามารถเล่นได้หายห่วงเช่น DotA 2 สามารถปรับเล่นความละเอียด Full HD 60fps และปรับกราฟิกในส่วนต่างๆเป็นระดับ High นั้นยังคงสามารถเล่นได้อย่างสบายๆ.
ในด้านความปลอดภัยของตัวเครื่องนั้นมาพร้อมกับการสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มเปิดเครื่องที่ทำงานได้อย่างแม่นยำมากเลยทีเดียว.
และกล้องหน้าของ Huawei matebook D14 นั้นถูกซ่อนไว้ที่คีย์บอร์ดที่ถือเป็นจุดเด่นหลักของ Huawei โดยมีข้อสังเกตุตรงที่มุมที่กล้องสามารถให้เราได้นั้นจะมีแค่มมุมเดียวไม่สามารถเอียงไปมาได้แบบกล้องที่อยู่ที่บนหน้าจอ.
ในเรื่องของแบตเตอรี่ใน Huawei Matebook D14 ที่ให้มา 56Wh สามารถใช้งานทั่วไปได้สูงสุดถึง 13 ชั่วโมงตามที่ Huawei แจ้งมาสำหรับการรับชมวิดีโอ แต่จากการที่ผมได้ทดลองใช้มาเป็นระยะเวลาเกือบ 1 เดือนนั้นต้องบอกไว้ก่อนว่าแบตเตอรี่นั้นสามารถใช้งานได้ไม่เกิน 8 ชม. สำหรับการใช้งานเปิดไฟคีย์บอร์ด เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ทำงานเอกสาร และเปิดเพลงฟังผ่านหูฟังไปด้วย. ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานเลยถ้าเกิดวันไหนไม่ได้พกที่ชาร์จไปทำงาน. แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่นำมาใช้งานตัดต่อวิดีโอ หรือใช้งานกราฟฟิกด้วยแล้วจะเหลือเวลาในการใช้งานไม่เกิน 5 ชม. เท่านั้น.
สำหรับใครที่ใช้งาน Huawei สมาร์ทโฟนและหาแล็ปท็อปสักเครื่องมาเติมเต็มถือว่าเป็นอะไรที่ดีมากๆ เพราะ Huawei Share นั้นเป็นอีกฟีเจอร์ที่โดดเด่นในการทำงานไร้สายมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อมูลที่ทำงานได้อย่างรวดเร็วทันใจ จนลิมการต่อสายไปได้เลย.
[SR] รีวิว Huawei Matebook D14 เอาอยู่ด้วย Intel Core i7 Gen 10 แรม 16GB การ์ดจอ NVIDIA G
ในวันนี้ผมจะมาแนะนำแล็ปท็อปที่คุ้มค่าคุ้มราคาและสเปกไปพร้อมๆกันจากค่าย Huawei ที่มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการณ์ Windows 10 Home ติดตั้งพร้อมใช้งานเลย. ซึ่งแล็ปท็อปรุ่นที่เราพูดถึงนี้มีน้ำหนักที่ไม่หนักมากและพกพาได้สะดวกในราคาที่ไม่ถึง 3หมื่นบาท แถมได้ประสิทธภาพที่ดีเยี่ยมด้วยขุมพลังระดับ Intel Core i7 รุ่นที่ 10 10510U การ์ดจอ NVIDIA MX250 แรม 16GB DDR4 และเนื้อที่ภายใน 512GB แบบ PCIe SSD นั่นก็คือ Huawei Matebook D14 รุ่นที่ใช้งานเป็น Intel Core i7 นั่นเองครับ.
สำหรับใครที่ไม่สะดวกในการอ่านสามารถรับชมในรูปแบบวิดีโอได้เช่นกันครับ.
Huawei Matebook D14 มาพร้อมกับหน้าจอ IPS ขนาด 14" ความละเอียดระดับ Full HD มีความสว่างหน้าจออยู่ที่ 250 nits ที่ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานภายในที่ทำงานหรือนอกสถานที่ตามร้านกาแฟหรือตามห้างได้สบายๆเลย แถมจุดเด่นของ Huawei Matebook D14 ของหน้าจอคือสามารถกางหน้าจอได้ถึง 180 องศา ส่วนคีย์บอร์ดของ Huawei Matebook D14 นั้นมีไฟ Backlit Keyboard สามารถปรับได้ 2 ระดับ หมดห่วงไม่ต้องกังวลเวลาพิมพ์ในที่แสงรน้อยแล้วเราจะมองไม่เห็นแป้นกันอีกต่อไป.
พอร์ตต่างๆของ Huawei Matebook D14 มี USB A แบบ 3.0 และ 2.0 อย่างละ 1 พอร์ต และ Audio Jack 3.5มม. ส่วนใครที่เป็นสายเน้นประชุมและต้องใช้การต่อขึ้นจอต่างๆเป็นประจำ เจ้า Huawei Matebook D14 เองก็มี พอร์ต HDMI มาให้อีกด้วยเช่นกันถือว่ามีประโยชน์มากเลยจริงๆ. ส่วนพอร์ตสุดท้ายนั้นเป็นพอร์ต USB-C ที่ใช้สำหรับชาร์จ.
ส่วนที่ชาร์จของทาง Huawei ที่ให้มานั้นเป็นพอร์ตชาร์จแบบ Type C to C พร้อมอแดปเตอร์กำลังไปสูงสุดที่ 65W สามารถใช้งานกับสมาร์ทโฟนก็ได้ด้วย ทำให้ประหยัดกระเป๋าไปได้อีกเยอะเลยในการพกที่ชาร์จช่วงที่ต้องเดินทาง.
ในส่วนของด้านหลังเครื่องนั้นมีพัดลมระบายความร้อนอยู่ 1 ตัว ซึ่งในช่วงทำงานหนักนั้นพัดลมถือว่าทำงานดังอยู่ระดับนึงเลยนะ ส่วนลำโพงของตัวเครื่องเองนั้นอยู่ที่ด้านหลังแถมเป็นบำโพงคู่ให้เสียงที่ดีเลยเช่นกัน
ด้านการทำงานนั้นมาพร้อมกัลระบบปฏิบัติการณ์ Windows 10 Home และจากการใช้งานด้านการตัดต่อวิดีโอ Full HD สามารถทำงานไดเป็นอย่างดี รวมไปถึงการเปิดสลับโปรแกรมต่างๆไปมาแทบไม่ต้องพะวงเรื่องโปรแกรมค้างเลย เพราะแรมที่ให้มาถึง 16GB นั้นถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานได้อย่างสบายๆ
ส่วนการเล่นเกมบนนั้นสามารถเล่นได้หายห่วงเช่น DotA 2 สามารถปรับเล่นความละเอียด Full HD 60fps และปรับกราฟิกในส่วนต่างๆเป็นระดับ High นั้นยังคงสามารถเล่นได้อย่างสบายๆ.
ในด้านความปลอดภัยของตัวเครื่องนั้นมาพร้อมกับการสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มเปิดเครื่องที่ทำงานได้อย่างแม่นยำมากเลยทีเดียว.
และกล้องหน้าของ Huawei matebook D14 นั้นถูกซ่อนไว้ที่คีย์บอร์ดที่ถือเป็นจุดเด่นหลักของ Huawei โดยมีข้อสังเกตุตรงที่มุมที่กล้องสามารถให้เราได้นั้นจะมีแค่มมุมเดียวไม่สามารถเอียงไปมาได้แบบกล้องที่อยู่ที่บนหน้าจอ.
ในเรื่องของแบตเตอรี่ใน Huawei Matebook D14 ที่ให้มา 56Wh สามารถใช้งานทั่วไปได้สูงสุดถึง 13 ชั่วโมงตามที่ Huawei แจ้งมาสำหรับการรับชมวิดีโอ แต่จากการที่ผมได้ทดลองใช้มาเป็นระยะเวลาเกือบ 1 เดือนนั้นต้องบอกไว้ก่อนว่าแบตเตอรี่นั้นสามารถใช้งานได้ไม่เกิน 8 ชม. สำหรับการใช้งานเปิดไฟคีย์บอร์ด เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ทำงานเอกสาร และเปิดเพลงฟังผ่านหูฟังไปด้วย. ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานเลยถ้าเกิดวันไหนไม่ได้พกที่ชาร์จไปทำงาน. แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่นำมาใช้งานตัดต่อวิดีโอ หรือใช้งานกราฟฟิกด้วยแล้วจะเหลือเวลาในการใช้งานไม่เกิน 5 ชม. เท่านั้น.
สำหรับใครที่ใช้งาน Huawei สมาร์ทโฟนและหาแล็ปท็อปสักเครื่องมาเติมเต็มถือว่าเป็นอะไรที่ดีมากๆ เพราะ Huawei Share นั้นเป็นอีกฟีเจอร์ที่โดดเด่นในการทำงานไร้สายมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อมูลที่ทำงานได้อย่างรวดเร็วทันใจ จนลิมการต่อสายไปได้เลย.
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้