[กระทู้ตามรอยอนิเม] เที่ยวพิพิธภัณฑ์ขั้วโลกใต้กับสี่สาว Sora yori mo Tooi Basho (Yorimoi)



สวัสดีครับ
กลับมาอีกครั้งกับกระทู้ตามรอยเมืองอนิเม
ช่วงนี้ติดโควิด-19 ตารางชีวิตในการเที่ยวเละเทะไปครึ่งปีเต็ม ตั๋วเครื่องบินที่จองไว้ต้องยกเลิกหมด
ภาพที่ถ่ายเลยเป็นของเก่าที่เคยไปเมื่อปีก่อนนะครับ

ด้วยเห็นว่า Netflix กำลังจะถอดอนิเมดีๆ ของสี่สาวเด็ก ม.ปลาย ที่ฝันไกลเกินตัวถึงขั้วโลกใต้อย่าง Sora yori mo Tooi Basho (ย่อว่า Yorimoi) ออกจากผัง เลยอยากตั้งกระทู้เพื่อส่งท้าย และบอกให้รู้ว่าเป็นแฟนตัวยงของเรื่องนี้ครับ

สถานที่ตามรอยคราวนี้จะอยู่ช่วงท้ายตอนที่ 3 คือ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เพื่อการวิจัยขั้วโลกใต้และเหนือแห่งชาติ 国立極地研究所 南極・北極科学館 สามารถนั่งรถไฟสาย JR Chuo สีส้ม (หรือ Sobu สีเหลือง แต่ช้า) ไปลงที่ สถานีทาจิกาวะ 立川駅 แล้วนั่งรถบัสหรือรถโมโนเรลต่อไปเพียงป้ายเดียว ที่สำคัญ เข้าฟรีครับ!!! ศูนย์ให้ความรู้ของเด็กญี่ปุ่นนี่ดีจริงๆ

เอาล่ะ!! เปิดเพลงประกอบแล้วออกเดินทางกันครับ ^^
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

อันดับแรกก็มาเริ่มต้นที่สถานีทาจิกาวะกันก่อน เมื่อมาถึงแล้วก็ออกทางประตูทิศใต้ก็จะเห็นวิวแบบนี้ (หรือถ้าเลือกบัส ให้ไปทางประตูเหนือ)

จะมองรถไฟโมโนเรลที่จะขึ้นกันอยู่ลิบๆ

และสไลเดอร์อันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้ อยู่ในสวนโอนิปาร์ก

ซึ่งสำหรับใครที่ดูแล้วอาจจะคุ้นๆ วิว (?)
ใช่ครับ...เมืองนี้เป็นต้นแบบของ "เมืองแห่งการศึกษา" ในเรื่อง To Aru Series นั่นเอง!!
(นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของตึกแม่โคโตบุกิยะ บริษัทฟิกเกอร์ชั้นนำที่สูบเงินคนการ์ตูนราวกับน้ำ จึงถูกเซ็ตติ้งเป็นเมืองของ Frame Arm Girls อีกด้วย)

เดินทางกันต่อครับ ขึ้นโมโนเรลกันได้เลย ป้ายเดียวไปลง สถานีทาคามัตสึ 高松駅

ซึ่งขึ้นมากี่ทีๆ ก็ต้องยืนพิงประตูนี้ตลอดเลย มุมมหาชน
 

ถึงสถานีแล้วก็เดินต่อประมาณ 10 นาที (หรืออาจจะนานกว่านั้น เพราะช่วงที่ไปเป็นปลายปี อากาศหนาวสะท้านมาก แต่ไปแล้วได้อารมณ์ขั้วโลกใต้)

ถึงแล้ว!!




ประตูทางเข้า มีคนมาเยี่ยมเยียนประปราย

เข้ามาปุ๊บ เจอสิ่งที่น่าสนใจปั๊บ!! น้ำแข็งที่เอามาจากขั้วโลกใต้!
สภาพน้ำแข็งจะค่อนข้างมีรอยพรุนเยอะกว่าน้ำแข็งที่เราเห็นกันทุกวัน สามารถลูบได้คลำได้เลย

โซนเพนกวิน ตัวลูกขนฟูน่ารักมากกกก

สายเจาะ ยาวมาก

มีแผนที่ตำแหน่งขั้วโลกเหนือและใต้ให้ดูด้วย จะเห็นว่าขั้วโลกเหนือไม่ได้อยู่บนพื้นแผ่นดินแต่ใกล้กับเกาะกรีนแลนด์ ส่วนขั้วโลกใต้นั้นเป็นแผ่นดินใหญ่ มีเทียบกับขนาดเกาะญี่ปุ่นด้วย

โซนรถลุยหิมะ ถึงฮินาตะจังจะบอกว่าเข้ามาได้ แต่จริงๆ ตอนที่ไปนั้นเข้าไม่ได้นะครับ เพราะสภาพรถเริ่มทรุดโทรมแล้ว
 
ป้ายห้ามเข้า แต่ก็ถ่ายจากข้างนอกได้อยู่

โซนตัวอย่างห้องพักของเบสแคมป์ที่ สถานีโชวะ 昭和基地 ที่ขั้วโลกใต้

โซนถ่ายรูปที่ระลึก จะมีเสื้อหนาวกับรองเท้าบูธให้ใส่ถ่ายด้วย ถ้ามากันเป็นกลุ่มจะสนุกมากตรงนี้ พร็อพเยอะ


ปิดท้ายด้วยห้องชมแสงเหนือ(แสงใต้) เป็นห้องเล็กๆ ฉายแสงบนโดม เก้าอี้นุ่ม ดูแล้วฟิน หลับสบาย (ฮา)



"คารุคุ ชิเนมัสนะ~♪"


จบแล้วครับ สำหรับพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ที่หลายคนไม่ค่อยรู้จักกัน (แม้แต่คนญี่ปุ่นก็เถอะ) แต่เต็มไปด้วยความรู้ใหม่ๆ เข้าใจง่ายและจับต้องได้ ใช้เวลาชิลๆ ใช้เวลาเที่ยวแค่ราวๆ 15-30 นาทีก็เดินครบจบแล้ว แต่ถ้าอินหน่อยก็ ชม.นึง ยิ่งช่วงอนิเมออกฉาย+อีเวนต์พิเศษ เค้าว่าคนแน่นเอี้ยดมาก

อ้อ นอกจากเข้าฟรีแล้ว ที่นี่ยังแจกของที่ระลึกให้ด้วย เป็นการ์ดรูปหินดาวอังคาร (และหินอื่นๆ ที่พบในขั้วโลกใต้) หยิบไปได้คนละใบนะครับ

ปิดท้ายด้วยของฝากนิดหน่อย ที่เห็นสาวๆ ชอบกันก็คือตุ๊กตาเพนกวิน ส่วนตัวได้เสื้อดำกับพวงกุญแจมาอย่างละชิ้น


ถือเป็นสถานที่ที่เที่ยวหนึ่งที่ถ้าใครมีโอกาสไปญี่ปุ่นอีกครั้ง (หมดโควิด + ราคาตั๋วกลับลงมาจับต้องได้) ก็อยากให้มาเที่ยวกันครับ

ของแถม!!

ไหนๆ ยังไม่ถึง 10,000 ตัวอักษรเลยขอใส่มาด้วย เป็นฉากในต้นตอนที่ 2 ซึ่งคิมาริกับชิราเสะไปเที่ยวฮิโรชิมะเพื่อดูเรือน้ำแข็ง (แต่จริงๆ เรือเทียบท่าอยู่ จ.จิบะ) โดยร้านอาหารต้นแบบคือ มินาโตะมาจิ คาเฟ่ อยู่ในเมืองคุเระ ค่อนข้างมีชื่อในฐานะร้านแกงกะหรี่ แต่อันนี้ไปตามรอยช่วงหน้าร้อน คนละรอบกับพิพิธภัณฑ์


โชคดีมากๆ ที่ได้นั่งที่เดียวกับคิมาริกับชิราเสะจังเลย



ชุดอาหารกลางวัน สั่งแกงกะหรี่กับชุดแฮมเบิร์ก เติมข้าวได้ตลอด มีพิซซ่าบุฟเฟต์แถมด้วย


จบจริงๆ แล้ว
ขอบพระคุณที่ติดตามรับชมครับ

ป.ล. สรุปตารางเที่ยวตามรอยการ์ตูนปี 2019
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่