คิดเห็นอย่างไรกับอาการ "ผีอำ"

ตามกระทู้เลยครับ เพื่อนๆชาวพันทิปคิดเห็นอย่างไรครับกับอาการที่เรียกว่า "ผีอำ"
เพราะมันเกิดขึ้นกับผมและส่วนตัวผมหาข้อสรุปยังไม่ได้แต่ก็พอมีทฤษฏี

เมื่อก่อนผมคิดเสมอครับว่ามันเป็นหลักวิทยาศาสตร์ ประสาทกับอวัยวะทำงานไม่สัมพันธ์ อารมย์แบบสมองเราตื่นแต่ร่างกายหลับอะไรทำนองนี้ เนื่องจากส่วนตัวเชื่อว่าผีไม่มีจริง

เรื่องของเรื่องคือผมโดนผีอำครั้งแรกเมื่อตอน ม.6 ครับ (ถ้าจำไม่ผิดนะ)
จำได้ว่าวันนั้นเหนื่อยพอสมควร เลิกเรียนกลับมาบ้านคือทิ้งตัวลงที่นอนเลย แล้วตอนนั้นจู่ๆก็นึกถึงคุณครูท่านหนึ่งขึ้นมา ท่านเคยสอนผมแต่ไม่สนิทกัน แล้วคือท่านเพิ่งเสียไปได้ไม่นาน แล้งสักพักผมก็หลับ แล้วคือพอเริ่มหลับไปเท่านั้นแหละ...
คือสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะหูอื้อ แต่คือขยับตัวไม่ได้นอนอยู่อย่างนั้น จะพูดอะไรก็ทำไม่ได้ แล้วก็รู้ทันทีว่ามันคืออาการผีอำ(เพราะญาตเคยเป็นแล้วเล่าอาการให้ฟัง) ตอนนั้นผมสวดมนต์แล้วแบบเหมือนขาผมโดนกระชากไปมา คือตอนนั้นกลัวมากครับ คือทำอะไรไม่ได้เลย คือเป็นอยู่นานจนแบบคิดว่าถ้าเราฝืนใจหลับมันจะหายไป และคือพอผมตั้งใจหลับต่อได้สำเร็จตื่นขึ้นมาก็หายเป็นปกติ

จากนั้นผมเริ่มถูกผีอำเรื่อยมาเลย และในช่วงนั้าผมก็เริ่มหาข้อมูลครับ เขาบอกว่าตามหลักถ้าเราไม่โดนแรงจากคานบ้านทับ  มันก็อาจจะเกิดอาการขาดน้ำ และผมก็ยังคงเชื่อต่อไปว่า ผีไม่มีจริง มันเป็นไปตามหลักฟิสิกส์และกายภาพ จนกระทั้งผมเริ่มได้กลิ่นอายแปลกๆของอาการนี้ครับ

ครั้งหนึ่งผมนอนอยู่ในห้องปิดหน้าต่างและทางระบายอากาศทุกอย่างเลย แล้วคือผมก็โดนอำตามเคย แล้วครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เห็นคนมาอยู่ข้างๆ ทั้งๆที่หลับตา (มันไม่เชิงว่าเห็นหรอกครับ เหมือนจินตนาการเอามากกว่า แต่มันแปลกตรงที่เราตื่นมาแล้วเรารู้ในจินตนาการเราเลยโดยไม่นึกเตรียมที่จะจินตนาการมันออกมา) แล้วคือตอนนั้นตกใจหนักกว่าทุกครั้งครับ แต่ก็จำได้ว่าอาการนี้มันอาจทำให้เราเห็นภาพหลอนและได้ยินเสียง ผมก็ทำใจเข้าใจอาการ แล้วคือตอนนั้นพ่อของผมเดินเข้ามาในห้องครับ ผมเห็นพ่อในจินตนาการนั้นแหละแต่เห็นเป็นพ่อเลย เหมือนมองด้วยตาเปล่า พ่อมาบ่นว่าทำไมผมนอนโดยที่ไม่เอาพัดลมมาเปิดเพราะมันร้อน ผมเลยจะเรียกพ่อให้ช่วยปลุกผม เพราะจากที่ศึกษามาอาการนี้เป็นอาการครึ่งหลับครึ่งตื่น ถ้ามีคนปลุกเราก็จะหาย แต่พ่อก็เดินออกจากห้องไปครับ ตอนนั้นคือจะร้องเพราะเราพูดอะไรไม่ได้เลย ทำได้แค่ขยับลิ้น คือผมนอนอ้าปากและหวังว่าพ่อจะเห็น  แต่ไม่จ๊ะ พ่อเดินออกไปจากห้อง โครตสงสารตัวเอง แต่สักพักใหญ่ๆพ่อก็กลับมาพร้อมพัดลมครับ แต่พ่อยังเปิดพัดลมนะ พ่อเดินมาเปิดหน้าต่างก่อน ซึ่งหน้าต่างอยู่ข้างหัวเตียงผม พอพ่อเปิดหน้าต่างเท่านั้นแหละ... แสงมันส่องหน้าแล้วผมก็ตื่นมาเลย แล้วคือพ่อผมอยู่ตรงนั้นจริงๆแต่คนตัวดำที่อยู่ข้างๆผมหายไปครับ ผมเล่าให้พ่อฟังว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้นเพราะก็ไปนอนเล่นที่กระท่อมหลังบ้านเลยครับ โครตขำ และกลิ่นอายความแปลกรอบแรกมันอยู่ตรงนี้แหละครับ คือหลังจากที่พ่อผมนอนตื่นจากการนอนเล่นที่กระท่อม พ่อผมบอกว่าท่านก็โดนอำเหมือนกัน(เหมือนเขาไม่พอใจที่พ่อทำให้ผมตื่นเลยไปทำพ่อผม) แล้วพ่อตื่นได้เพราะมีคนมาเรียก

แล้วคือก็ยังเชื่อเรื่อยมาครับว่ามันเป็นอาการขาดน้ำ เพราะตอนนั้าอากาศร้อนด้วย

แต่คือผมก็โดนอำมาตลอดนะ คราวนี้เริ่มมีเห็นภาพแล้ว แต่บางทีไม่เห็น ถ้าเห็นจะเป็นคนตัวสีดำๆ ญาตที่เคยอำบอกว่าถ้าโดนให้สวดมนต์ ผมก็ทำตามครับ บางทีก็ได้ผลบางทีก็ไม่ได้ผล โดนบ่อยจนรำคาญครับแล้วคือผมเริ่มหงุดหงิดจนเปลี่ยนจากการสวดมนต์เป็นการด่าครับ ตอนนั้นก็กึ่งเชื่อไม่เชื่อแล้วว่าผีมีจริง ก็เลยแบบตั้งจิตแล้วด่าพร้อมขู่เลยครับว่า ถ้าเขาไม่ยอมเลิกกวนผม ผมจะทำอะไรบ้าง(ขอไม่บอกนะ) จากนั้นอาการผีอำของผมก็เริ่มหายไปเรื่อยๆเลยครับ หายแบบค่อยๆทุเลาลง แต่ก็ยังคงมีอาการอยู่ และไม่รู้ว่าผมแปลกหรือเปล่าที่พักหลังๆมาผมเริ่มฝืนตัวเองได้จากการโดนผีอำ มันเหมือนเราเรียนรู้ไปด้วยอ่ะครับว่าจะรับมือยังไง แต่คือพอฝืนขึ้นมาเราจะง่วงมากครับ ตามันอยากจะปิดให้ได้
อันนี้ขอบอกวิธีสำหรับคนที่โดนอำแต่ยังฝืนไม่ได้นะครับ
มันพอมีกฏอยู่บ้างครับคือ
1.คุณต้องฝืนในตอนที่คุณเพิ่งตื่นเท่านั้น หมายถึงว่าถ้าเราหลับแล้วจู่ๆก็ฟื้นขึ้นมาในสภาพผีอำและยังไม่เห็นตัวผีนะครับ นั้นแหละคือช่วงที่ต้องฝืนให้ได้ ผมเคยปล่อยให้เวลามันผ่านไปนานกว่านั้น แต่คือฝืนไม่ได้เลย เหมือนจิตมันดำดิ่งไปแล้วครับ ต้องหลับอย่างเดียว (ส่วนตัวถ้าหลับแล้วเผลอตื่นขึ้นมาแล้วหูอื้อจะรู้เลยว่าโดนอำ ก็คือฝืนตื่นตอนนั้นเลย แต่ทำยากพอสมควร)
2.การฝืนตื่นให้พยายามขยับอวัยวะส่วนแขนครับ ตั้งแต่หัวไหล่ถึงสอก ถ้าทำได้ก็จะตื่นเลยครับ (อันนี้ไม่คิดว่าขึ้นอยู่กับจิตนะครับ ขึ้นอยู่กับความพยายาม เพราะผมเป็นคนสมาธิสั้น นั่งสมาธิผมนี้ไม่เอาเลย)
3.พอตื่นได้คุณจะยังรู้สึกง่วงมากครับ และมันเพลียด้วย แรงตบหน้าตัวเองยังไม่มี สิ่งเดียวที่ต้องทำคือหลังจากที่ตื่นขึ้นมาได้คือต้องฝืนความง่วงให้ได้ พยายามเบิกตาอย่างโมโห แล้วมันจะหายง่วงไปเองเลยครับ หายแบบกระทันเลย

ทีนี้มาต่อครับ
คือผมโดนอำบ่อยมาก และผมก็จะด่าแทนการภาวนาแล้วครับ ซึ่งอาการเริ่มทุเลาลงครับ แล้วพอผมฝืนตัวตื่นได้ผมจะตื่นมาด่าเลยครับ ด่าด้วยปาก(จากที่ตั้งจิตอธิษฐานด่า) พร้อมบอกด้วยว่าเราขอส่งคำพูดนี้ถึงผีตนที่มาอำ (ทั้งที่ไม่รู้ว่ามีจริงไหม) จากนั้นก็จะหาน้ำดื่มครับ เพราะถ้าร่างกายขาดน้ำ เราจะได้เติมน้ำให้ร่างกาย แต่ถ้าเป็นผีมาอำจริง เขาก็ต้องปะทะฝีปากกับเราแหละถ้าไม่ยอม
ผมเคยบตื่นมาด่าผีแล้วพอหลับต่อก็โดนอำต่อซึ่งคราวนี้ผมหายใจไม่ออกด้วยเหมือนเขาพยายามบีบคอผม เหมือนไม่พอใจที่โดนด่าแล้วจะฆ่าผม ตอยยั้นผมเลยฝืนตื่นมาด่าอีกแล้วบอกว่า ถ้าเขาฆ่าผมตาย ผมจะเป็นผีเหมือนเขา แล้วเขาจะได้เจอดีกว่าเดิมในฐานะผีด้วยกัน(อารมย์แบบถ้าเราตายเพราะเธอเราจะไปตบเธอนะ เธออยู่ไม่สุขแน่) อะไรทำนองนั้นครับ รู้ว่ามันตลกแต่ผมทำจริงๆและคิดจริงๆ ซึ่งผมก็หาย

ผมเป็นอย่างนั้นมาหลายปีจนกนะทั้งไม่มีอาการแล้ว คือมันหายไปแล้วครับ ผมไม่โดนอำอีกเลย แต่ก็ยังคงเชื่อผีอำเกิดจากสองปัญหา
1.เกิดจากผี
2.ร่างกายขาดน้ำ
แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงทฤฎี

แต่ก็อย่างที่บอกผมไม่มีอาการผีอำอีกเลย และก็เริ่มกลับมาเชื่อว่ามันเป็นแค่อาการขาดน้ำของร่างกายเท่านั้น ส่วนคนดำๆที่เห็นในตอนโดนอำก็แค่จินตนาการไปเอง จนกระทั้งผมได้กลิ่นอายความแปลกอีกครั้ง...

ตอนนั้นผมไปฝึกงานครับ นอนบ้านเช่ากับเพื่อน ตอนนั้นไม่โดนผีอำมาปีกว่ามั้งถ้าจำไม่ผิด แต่จู่ๆคือหนึ่งผมก็โดนอำ แล้วแบบว่าด้วยความที่ไม่โดนนานอ่ะเนอะ เราก็เลยแบบคิดถึงบรรยายกาศเก่าๆที่เคยโดน ก็เลยไม่ฝืนครับ แล้วคือครั้งนั้นผมเห็น(จินตนาการโดยไม่ได้คิดจะจินตนาการมันขึ้นมา)ร่างสีดำเปิดประตูเดินเข้ามาในห้องแล้วมายืนดูผมนอนที่ปลายเท้า บอกเลยว่าตอนนั้นอยากตื่นมาก  แต่มันตื่นไม่ได้ครับ จิตมันเข้าสู่สภาวะนั้นลึกเกินไป ผมก็เลยตั้งจิตภาวนาด่าและขู่ไปเต็มชุดอย่างเคย ปรากฏว่าหายครับ แต่กลิ่นอายคว่มประหลาดที่ว่าก็คือ... รุ่งเช้าผมเปิดเฟสบุ๊คแล้วผมว่าอาจารย์ที่มหาลัยท่านเสีย แล้วคือเสียเมื่อคืน! ซึ่งอาจารย์คนนี้ไม่ใช่อาจารย์ประจำสาขาของผมแต่ก็สนิทกับผมในระดับหนึ่งเลยนะครับ ผมกับท่านมักจะนั่งกินข้าวแล้วคุยเล่นกันตอนเช้าที่ใต้ตึกคณะ ตอนนั้นเริ่มกลับมาเอะใจแล้วว่าอาการผีอำเกิดจากผีด้วย และคิดว่าเมื่อคืนที่โดนผีอำ อาจารย์อาจจะมาลาก็ได้

แต่จากนั้นผมก็โดนอำอีกเลยครับ ไม่เลยแม้แต่ครั้งเดียวจนกระทั้งเดือนก่อนๆ ยายที่สนิทกับครอบครัวผมท่านเสีย จากนั้นไม่นานผมก็โดนอำ แล้วผมก็ทำเช่นเคยครับ ตื่นมาด่า... แล้วก็นอนต่อแต่ในเสี่ยววิที่จะหลับอะครับ คิดได้ว่า อาจจะเป็นยายที่สนิทท่านมาลาหรือเปล่านะ ผมก็เลยลุกขึ้นมาแล้วบอกประมาณว่า
"ถึงวิญญาณดวงที่จะมาอำข้าพเจ้า หากท่านมาหาข้าพเจ้าด้วยเจตนาที่ไม่มุ่งร้าย ขอให้มาอำข้าพเจ้าอีกครั้งแล้วสื่อสารสิ่งที่ท่านอยากบอกกับข้าพเจ้า แต่ถ้ามีเจตนามุ้งร้ายก็อย่ามาอำ เพราะข้าพเจ้าไม่ใช่ผู้ดี"  ทพนองนี้ครับ ไม่ได้ถอดแบบคำพูดมาเปะๆ จากนั้นผมก็นอนครับ ผลปรากฏว่าโดนอำจริงๆ แต่ว่าก่อนสะดุ้งตื่นแล้วพบว่าตัวเองโดนอำผมฝันครับ ฝันเห็นภาพนิ่ง เป็นคนผูกคอตายครับ พอผมฝันเห็นภาพนั้นผมก็สะดุ้งแล้วมันทำให้ผมรู้ว่าผมโดนอำ แล้วคือสิ่งที่ผมเห็นในตอนที่โดนอำคือ ร่างสีดำนั่งอยู่เหนือหัวผมแล้วกล้มหน้าลงทาจ้องผม แล้วคือรู้สึกกลัวมากเพราะไม่เคยโดนอำแล้วร่างสีดำอยู่บนหัวแบบนี้ ตอนนั้นทำใจดีสู้เสือแล้วตั้งจิตสื่อสารบอกเขาครับ คือจากที่เจอพอสรุปได้ว่าเขาฆ่าตัวตาย แล้วคนฆ่าตัวตายแน่นอนว่าบาปหนา ผมเลยบอกเขาในใจไปทำนองว่า
"อยากให้ช่วยใช่ไหม ถ้าใช่จงไปสะ พรุ่งนี้จะหาทางช่วย แต่ถ้าไม่ก็ให้แสดงให้เห็นชัดเจนกว่านี้ว่าต้องการอะไร แต้ห้ามพูด(เพราะผมไม่เคยได้ยินเสียงผีมาก่อนตอนโดนอำ เลยกลัวว่าถ้าได้ยินมันจะหลอนเกินไป) แต่ถ้าผมเข้าใจถูก คืนนี้ปล่อยให้ผมนอนหลับอย่างสบาย พรุ่งนี้จะหาทางช่วยให้ได้" แล้วคือแบบพอบอกเสร็จผมตื่นได้โดยที่ไม่ต้องฝืนแล้วหลับจนถึงเช้าเลยครับ คือเริ่มเชื่อว่ามาทางผีแล้วว่าอาการผีอำเกิดจากผี

รุ่งเช้าผมก็เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่แม่ฟังครับ แม่บอกให้ผมไปเพนมื้อกลางวันที่วัดแล้วกวาดน้ำให้เขา แล้วผมก็ทำตามครับ จากนั้นไม่กี่วันต่อมา กลิ่นอายความประหลาดของครั้งนี้ก็ทำเอาผมเชื่อสนิทใจเลยว่าอาการผีอำนั้นเกิดจากผีได้แน่นอน เพราะวันต่อมาพี่ของผมมาบอกผมว่า มีคนที่อยู่หมู่บ้านใกล้เคียงผูกคอตายเมื่อสองวันก่อน คือผมนี่ขนลุกเลยครับ
คืนต่อมาโดยอำอีก แต่แบบว่าเหมือนฝันมากกว่า ได้ยินเสียงคนเคาหน้าต่างห้องที่ผมนอน พอมองไปไม่เห็นอะไรเลยตื่นขึ้นมาบอกประมาณว่า ถ้าเป็นวิญญาณที่ผมกรวดน้ำไปให้จะมาขอบคุณ ไม่ต้องมาทำแบบนี้ก็ได้ คืนนี้ปล่อยผมนอนดีๆ เพราะรู้แล้วว่าจะมาขอบคุณ... จากนั้น-น้ำแล้วนอนหลับถึงเช้าเลยครับ

ตอนนี้ผมเชื่อสนิทใจเลยว่สอาการผีอำเกิดจากผีได้จริงๆแน่นอน และผีก็มีจริงๆแน่นอน
ส่วนตัวเชื่อว่าผีไม่มีจริงมาโดยตลอดครับ อย่างว่าแหละ ไม่เจอกับตัวก็ไม่รู้เนอะ มันเป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับบางคนด้วยแหละเลยไม่ใช่สิ่งที่จะเชื่อกันได้ง่ายๆ แต่ผมบอกเลยว่าตอนนี้ผมเชื่อเรื่องผี และไม่กลัวผีเลย เพราะผมคิดว่าผีทำอะไรเราไม่ได้ แต่ถ้าผมตายเพราะผี ผมบอกเลยว่าผีตนนั้นโชคร้ายที่เลือกฆ่าผม เพราะส่วนตัวเจ้าคิดเจ้าแค้นเป็นทุนเดิม

แต่ทฤษฎีผีอำ ผมมีข้อสรุปว่าเกิดจาก 2 หลักการอยู่ดีครับ
1.ร่างกายขาดน้ำ กรณีเราจะไม่เห็นตัวอะไรเลยครับ แค่หูอื้อ บางทีร่างกายเหมือนถูกกระชาก
2.เกิดจากผี กรณีนี้เหมือนกรณีแรกทุกอย่าง แต่เพิ่มเติมคือจะมีร่างสีดำปรากฏให้เราเห็น

บางทีก็คิดนะว่า เป็นไปได้ไหมว่าการที่ร่างกายลองเราขาดน้ำ มันเหมือนเป็นการทำให้สภาวะจิตของเราสัมผัสวิญญาณได้ง่ายขึ้น น้ำในกายยิ่งน้อยเท่าไร ยิ่งเข้าใกล้โลกวิญญาณได้มากเท่านั้น แต่บางทีต่อให้น้ำในร่างกายเราเยอะ วิญญาณของคนที่เพิ่งตายและยังไม่ถูดเผาก็สามารถสัมผัสกับคนเป็นได้ เพราะร่างของเขายังมีน้ำหลงเหลืออยู่ คือผมอยากจะสื่อว่า น้ำคือตัวแปรน่ะ

แต่อย่างไรก็ตามมันเป็นแค่ทฤษฎีอ่ะเนอะ ผมถึงได้บอกว่าผมหาข้อสรุปไม่ได้ครับ

อันนี้สงสัยนะครับ คนจะโดนผีอำจากผีได้เนี่ยผมว่ามันต้องเงื่อนไขบ้างอย่างไหมครับ เพราะว่าเพิ่งเคยโดนตอน ม.6 เพราะคิดถึงครูที่เสียไป จากนั้นโดนมาเรื่อยๆ แต่ก็หายได้เพราะผมไม่เฟรนลี่กับผี แต่ผมไม่คิดว่าคนมีบุญเท่านั้นถึงจะโดน(เพราะเคยได้ยินคนบอกว่า คนมีบุญผีจะขอความช่วยเหลือ) เนื่องจากส่วนตัวไม่ค่อยเข้าวัดครับ ไม่ศรัทธาในพระส่วนใหญ่ของสมัยนี้ ไม่ชอบเวลาที่คนชวนไปสวดมนต์เพื่อเอาบุญ แต่ถ้าแบบว่ามีคนชวนใส่บาตรเพื่ออยากให้รักษาวัฒนธรรมชาวพุธอันนี้ก็ยอมๆทำถ้าว่างทำ ส่วนตัวคิดว่าตัวเองบาปหนาพอสมควรครับ ตอนเด็กทำกรรมไว้เยอะ หรือคนบาปหนากันแน่ที่ผีมาขอความช่วยเหลือ เริ่มสับสนแหะ

เอาเป็นว่าทุกคนคิดว่าผีอำเกิดจากอะไรก็ช่วยเสนอทฤษฎีมาดูนะครับ

ส่วนคนที่เคยโดนอำแล้วอยากแชร์ก็มาเล่าสู่กันฟังนะครับ เป็นเรื่องแปลกแต่จริงที่ผมว่ามันน่าสนใจที่จะศึกษานะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่