หลังจาก Unlock down เปิดให้บินในประเทศ ก็เกิดความคิดถึงทะเลแบบมากมาย จองตั๋วไปสมุยแบบไม่ทันตั้งตัว จองวันนี้ บินพรุ่งนี้เลย
บินเช้าวันศุกร์ กลับเช้าวันอาทิตย์ เหมือนไปอยู่สมุยแค่หนึ่งวันครึ่งอ่ะ ยังไม่ทันหายเหนื่อยก็บินกลับ
ก่อนขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิต้องทำการลงทะเบียนในเว็บก่อน เพื่อนำคิวอาร์โค้ดไปแสดงให้เจ้าหน้าที่ที่สนามบินสมุยดู


บินด้วยสายการบินเดียวที่บินไปลงสมุย บางกอกแอร์เวย์ เป็นเครื่องบินลำเล็ก


สนามบินเก๋ไก๋แปลกตามาก 


การเดินทางคือเช่ารถขับ เช่าจากเคาน์เตอร์บริการเช่ารถที่สนามบิน 

ที่พัก พักที่ ศาลา สมุย หาดเชิงมน
หน้าห้องพัก



บรรยากาศภายในห้องพัก


ภาพรวมๆ


บรรยากาศรอบๆโรงแรม


ชายหาดส่วนตัว



อาบแดดกันสักหน่อย
 

มีกิจกกรมให้ทำ เช่นพายเรือคายัค หรือแพดเดิ้ลบอร์ด



ช่วงที่ไปนักท่องเที่ยวยังไม่เยอะ เลยไม่รู้จะไปหาอาหารค่ำทานกันที่ไหน เปิดกูเกิ้ลแมพไปเรื่อยมาจบที่ร้านนี้
 Moonrise Beach Bar & Eatery  (รออาหารนานมากกกก ชั่วโมงนึงอ่ะ ไม่ได้โม้)



วันต่อไปก็ไม่ได้ทำอะไรมาก แค่ไปเช็คอินที่หินตา หินยาย แลนด์มาร์ค แค่นั้น


จริงๆแล้วที่มาสมุยอีกเหตุผลนึงก็คือ จะมาโดดบันจี้จั๊ม แต่พอไปดูสถานที่แล้ว เกิดความไม่มั่นใจขึ้นมา
เป็นเสาเครนสูงๆ แต่อยู่ท่ามกลางบริเวณที่ล้อมรอบได้ด้วยป่า ไม่มีนักท่องเที่ยว เห็นเจ้าหน้าที่นั่งดื่มกันอยู่สองสามคน แล้วก็สถานที่นี้น่าจะถูกปิดไปอย่างน้อยคงสอง สามเดือน ช่วงโควิด เลยไม่มั่นใจในอุปกรณ์ตั่งต่างว่าจะใช้งานไปปกติดีมั้ย เลยเปลี่ยนใจ ไม่กระโดดดีกว่า กลัวเกิด Accident 

วันที่สองนี้เลยไม่มีอะไรมาก ไปแค่หินตายาย แล้วกลับมาโรงแรม มานวด Swedish massage 


วันที่สองก็จบไป

ส่วนวันที่สามนั้น ไม่ต้องเล่าให้ยืดยาว ตื่นเช้ามากินอาหารเช้าที่ รร. แล้วเช็คเอาท์ไปสนามบินเลย จบ
ยังไม่ทันหายเหนื่อยจากเดินทางมา  ก็เหนื่อยเดินทางกลับแล้วอ่ะ

จบรีวิวการเที่ยวในประเทศแบบสั้นๆ แบบไม่มีสาระใดๆ และขออภัยในความไม่สวยงามของขนาดภาพ