จากหนุ่มญี่ปุ่นพูดน้อยกับสาวเมาท์มอยขี้มโน ไปสู่ ตะโกนก้องร้องขานจนลั่นบ้านอยากแต่งงานกับเธอ บทสรุปมาแล้วจ้า

สวัสดีค่ะทุกคนนนนน ห่างหายไปนานจากการตั้งกระทู้และล็อคอินเข้ามาในแอคเคาท์ตัวเอง วันนี้เราจะมาต่อยอดการเมาท์เรื่องราวภาคต่อของสองกระทู้ที่แล้วที่เราตั้งไว้ ใครอยากอ่านย้อนหลังตามไปได้เลยจ้า
 
https://ppantip.com/topic/38917688
หนุ่มญี่ปุ่นพูดน้อยกับสาวเมาท์มอยชอบมโน เรื่องราวความฟินจึงบังเกิด

https://ppantip.com/topic/38671725
ตะโกนก้องร้องขาน จนลั่นบ้าน อยากแต่งงานกับเธอ
 
หลังจากที่เราแชร์เรื่องราวการเริ่มต้นความรักและการเกี้ยวพาราสีหนุ่มแดนซามูไรจนได้ตกลงเป็นแฟนกัน ไปจนถึงเกิดความรู้สึกอยากแต่งงานจนสุดขีด วันนี้เราจะมาเล่าถึงโมเมนต์การขอแต่งงาน จริงๆเรียกว่าขออาจจะไม่ถูกซะทีเดียวค่ะ ขอเรียกว่าการชวนมาแต่งงานละกัน อารมณ์ประมาณหากไม่ดูเป็นการรบกวนก็จะชวนเธอมารักกันฮ่าๆๆ //ใส่ท่าเต้นไปด้วยนะอิอิ ก่อนน้องโควิดจะทำเวิร์ลทัวร์อย่างเป็นทางการและส่งลูกสมุนมาเฝ้าดูพวกเราพร้อมกระซิบบอกว่าเผลอเมื่อไหร่แล้วเจอกันจนถึงขณะนี้ เราก็ได้บินไปเที่ยวที่ฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงต้นเดือนกุมภาของปีนี้ ซึ่ง ณ ขณะนั้นโควิดยังเป็นโคโรน่าอยู่ และเป็นไข้หวัดธรรมดาๆที่ผู้ใหญ่คนนึงในประเทศเราบอกมาแบบนั้นฮ่าๆๆ เราไปเที่ยวคนเดียวด้วยการใส่หน้ากาก พกเจล เอาจริงๆมันหนาว คนไม่ได้เยอะมาก ถึงแม้จะเป็นเมืองใหญ่ตอนใต้แต่คนก็บางมากถ้าเทียบกับโตเกียว ก่อนเรื่องเที่ยวจะยาวไปกว่านี้วกกลับมาเรื่องการชวนมาแต่งงานก่อนละกัน ตอนแรกคุณพี่ (แฟนหนุ่มชาวญี่ปุ่นมีหลายชื่อที่เราใช้เรียก คุณพี่, พี่สิง, แปะ, คุณพี่ซามูไร และไกด์ของเรา ฮ่าๆๆๆ เรียกเปลี่ยนไปตามอารมณ์ เหลืออย่างเดียวที่อยากเรียกแต่ต้องรอก่อนคือ คุณสามี กรั่กๆๆ) กับเราอาจจะไม่ได้เจอกันในทริปนี้ เพราะเราจองตั๋วตั้งแต่ปีที่แล้วและก็เห็นว่าหยุดตรงกันพอดีโดยที่ไมได้บอกเขาฮ่าๆๆ เขาเลยจองตั๋วไปเที่ยวอินโดนีเซียและมาเลเซียเช่นเดียวกัน ก็คือบินสวนกันนั่นเองจ้า แต่ยังก่อน ด้วยความที่เราอยู่ฟุกุโอกะราวๆสัปดาห์นึงซึ่งนานกว่าที่เขาบินออกไปเที่ยวเลยทำให้เราได้พอมีเวลาเจอกัน พอเครื่องลงที่โตเกียวเขาก็ต่อเครื่องบินมาฟุกุโอกะเลยจ้า จริงๆตอนแรกที่คุยกันเราบอกเขาเลยว่าไม่ต้องมาๆ มาคืนเดียวเองเหนื่อยเปล่าๆ (เช้าวันรุ่งขึ้นต้องบินไปทำงานที่นาโกย่าต่อ) แต่เขาก็ยืนยัน ซึ่งเราดีใจมากจ้า ไม่งั้นก็คือยาวววววววววววววฮ่าๆๆ

พี่สิงบินมาถึงฟุกุโอกะราวๆสองทุ่มหลังจากจูงมือกันหนาวๆไปซดนาเบะร้อนๆ เราก็จูงมือกันกลับที่พัก ก่อนที่พี่สิงจะพูดว่าพรุ่งนี้ไอต้องขึ้นเครื่องตอนแปดโมงเช้านะ ต้องตื่นหกโมงซึ่งเวลาตอนนั้นคือห้าทุ่มแล้วเราก็แบบตกใจพูดออกไปว่าเฮ้ยยูมาทำไมเนี่ย เหนื่อยเปล่าฮ่าๆๆ หลังจากต่างคนต่างอาบน้ำเรียบร้อยเราก็เปิดเกมด้วยกันให้ของขวัญวันเกิดก่อนเพราะเป็นเดือนเกิดเขาพอดี และก็เริ่มนวดคอบ่าไหล่พร้อมเป่าหูไปด้วยฮ่าๆๆๆ ร่ายมนตร์อ่ะนะฮ่าๆๆ เราก็พูดถึงความรู้สึกเราว่าถึงมันจะแค่ปีเดียวกับอีกสองเดือนที่เราเริ่มคบกันแต่ความรู้สึกเรามันบอกเราแล้วหล่ะว่าอยากจะสร้างครอบครัวและจับมือเขาไปด้วยกันหลังจากนี้ ผจญภัยกันและร่วมกันสร้างอาณาจักรขอเราสองคน เขาก็ยิ้มด้วยความดีใจและก็บอกแค่ว่าเดี๋ยวให้คำตอบเดือนเมษานะ (ครอบครัวเราไปเที่ยวญี่ปุ่นในวันหยุดสงกรานต์ของทุกปีอยู่แล้วซึ่งแน่นอนว่าปีนี้ไม่ได้ไปเหอๆ)

ตัดภาพมาอย่างรวดเร็วที่เดือนมิถุนาเลยละกันฮ่าๆๆ หลังจากโคโรน่ามีชื่ออย่างเป็นทางการว่าโควิด-19 เราก็ชวดทริปเดือนเมษากันไปรวมไปถึงทริปโอลิมปิกเดือนกรกฎาของเราซึ่งเพิ่งโดนแคนเซิลไฟลท์ไปเช่นเดียวกัน ด้วยความที่ความรู้สึกมันถาโถมบวกกับเราคาดการณ์อะไรไม่ได้เลยว่าจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่ ช่วงต้นเดือนมิถุนาเราเลยระเบิดความรู้สึกออกไป เอาจริงๆระเบิดออกไปไม่ได้ต้องการคำตอบอะไร แค่อยากรู้ว่าเขาคิดยังไง เพราะพ่อคุณก็พูดน้อยเหลือเกินไม่ถามก็แทบไม่บอก เราเลยพูดไปเลยว่าเนี่ยเราก็คุยเรื่องแต่งงาน วางแผนเล่นๆกันมาสักพักแล้วนะ ตั้งแต่ไอขอยูแล้ว นี่ก็เลยเดือนเมษามาแล้ว กรกฎาก็ไม่ได้ไปแล้ว จะเจอกันอีกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ตกลงยูจะเอายังไง ถ้ามันเป็นความคิดของไอคนเดียวที่อยากสร้างครอบครัวด้วยกัน ที่อยากลงหลักปักฐานกับยูทันทีที่เราเจอกันได้ ไอจะได้เลิกคิด แล้วเป็นแฟนต่อไป แบบไม่ต้องเพ้ออะไร มันเหนื่อยนะเนี่ยเพ้ออยู่คนเดียว ฮ่าๆๆๆ แล้วเหมือนฟ้าเปิด สวรรค์เป็นใจ หลังจากเราถามคำถามปิดการระเบิดอารมณ์ไปว่า ยูอยากจะลงหลักปักฐานกับไอไหม (Do you want to settle down with me?) พี่สิงก็โพล่งกลับมาแบบไม่ได้ใช้เวลาหยุดคิดเลยว่า ใช่ ไออยากลงหลักปักฐานกับยู นั่นแหละคือคำตอบ และไอจะไม่พูดอีกแล้วนะ (Yes, I wan to settle down with you. That’s the answer. I’m not gonna say it again.) เราก็ผงะไปนิดนึงฮ่าๆๆ เพราะปกติพี่สิงจะนึกและคิดก่อนพูดเสมอ เราเลยทำเสียงขำออกไปว่าไอแค่อยากรู้เฉยๆว่ายูคิดยังไง ไม่ได้กะจะเอาคำตอบตอนนี้ฮ่าๆๆ แต่ไหนๆยูก็พูดมาแล้วเปลี่ยนใจไม่ทันแล้วนะฮ่าๆๆ

นั่นแหละค่ะคือเรื่องราวปิดบทสรุปแรกของชีวิตแบบแฟนๆฮ่าๆๆ จนถึงวันนี้เราก็ได้มีการล็อควันวางแผนหลวมๆไว้ ตอนแรกคิดวันไว้ว่าเป็นเดือนพฤศจิกายนปีนี้ แต่พี่สิงบอกว่าทางพ่อแม่เขาไม่น่าเตรียมตัวทันบวกกับสถานการณ์ตอนนี้แล้ว เราเลยกำหนดวันเป็นเดือนกุมภาปีหน้าแทน ตอนนี้เราเองก็จองตั๋วและแพลนจะไปญี่ปุ่นช่วงสิ้นปีนี้เพื่อไปใช้เวลาด้วยกันก่อนพร้อมทั้งแพลนที่จะไปเจอพ่อแม่พี่สิงเป็นครั้งแรกด้วยหากสถานการณ์เป็นใจ เราก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ข้างหน้ามันจะเป็นยังไงต่อ มันเหนือการควบคุมด้วยสองมือเราจริงๆค่ะ เราก็ได้แต่วางแผนหลวมๆ สนุกไปกับมัน อยู่กับ ณ ปัจจุบันขณะโดยไม่ต้องคาดหวังสิ่งใด ก็คงเหมือนการที่ผู้ชายคนนี้เข้ามาในชีวิตโดยที่เราไม่ได้คาดหวังใดๆเลยค่ะ ตั้งแต่เริ่มรู้จักเขา ชวนเขามาให้นำเที่ยวด้วยกัน บอกความในใจกับเขา ไปจนถึงชักชวนเขามาสร้างครอบครัวด้วยกันค่ะ เหตุการณ์ ความรู้สึก ความประทับใจต่างๆ เรื่องราวของเราสองคนที่มันเกิดขึ้น เป็นเรื่องแรกและเรื่องเดียวในชีวิตของเรา ณ ตอนนี้ที่เราไม่ได้อยากควบคุม หรือคาดหวังใดๆเลยค่ะ จากลูกคนเดียวที่วางแผนทุกอย่างให้กับชีวิตของตัวเอง และก็เชื่อมาตลอดว่าเราจัดการทุกอย่างของเราเองได้ โชคชะตาฟ้าลิขิต บุพเพสันนิวาส คงมีแค่ในละครและเป็นแค่ความเชื่อเท่านั้น ตั้งแต่เราได้เจอกับพี่สิงมีเรื่องราวๆต่างๆเกิดขึ้นมากมายแบบธรรมชาติจัดสรร โดยที่เราไม่ต้องควบคุมหรือแสวงหาสร้างโอกาสใดๆเหมือนที่ผ่านๆมาเลยค่ะ เราก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ความรักระยะในช่วงโควิดที่ได้แต่ส่งใจให้กันและต้องรักษาระยะห่างแบบนี้จะเริ่มเข้าใกล้ระยะความปกติใหม่ที่เราจะเจอกันได้เมื่อไหร่ ยังไงซะเราก็จะใช้ช่วงเวลานี้พัฒนาตัวเองไม่ว่าจะเป็นเรียนภาษาเพิ่มเติม ฝึกทักษะแม่บ้านต่างๆ และหมั่นสร้างความสงบในใจไปเรื่อยๆค่ะ ฮ่าๆๆๆ ไฟรักมันสุมทรวงทะลวงอกช้านนนนน

หวังว่าเพื่อนๆจะสนุกไปกับเรื่องราวของเราที่นำมาแบ่งปันกันหวังนี้ หากมีคำถามใดๆ หรือมีอะไรอยากทักทายเข้ามาพูดคุย เรายินดีอย่างมากที่จะตอบทั้งคอมเมนต์และทางหลังไมค์ค่ะ แล้วเพื่อนๆหล่ะค่ะช่วงนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง โดยเฉพาะความสัมพันธ์ที่ต้องรักษาระยะห่างในช่วงนี้ค่ะ ยังไงก็ขอให้ทุกคนมีความสุขและอยู่ในช่วงปัจจุบันขณะนะคะ ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาด้วยกันจนจบค่ะ 😊

สุดท้ายนี้ฝากเพจและช่องของเราไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ขอบคุณค่าาาา

https://www.facebook.com/KotomiMater/

https://www.youtube.com/channel/UCPrpF0d9NXc_xzGDHKCH4ag
 ไปฟังเรื่องราวฉบับเต็มกันได้เพลินๆค่า
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่