สวัสดีคะ วันนี้ทางเรามีเกร็ดความรู้คู่บ้าน เรื่องวิธีการเลือกซื้อถังเก็บน้ำว่าควรเลือกซื้อแบบไหนขนาดปริมาณเท่าไรมาฝากเพื่อนๆกันนะคะ
5 ปัจจัยหลักที่สำคัญมากสำหรับการเลือกถังเก็บน้ำที่ควรคำนึงถึง
1 ) พื้นที่วางถังเก็บน้ำ ว่ามีขนาดที่สามารถรับหน้าฐานได้เต็มใบหรือไม่ พื้นที่วางควรเป็นผิวเรียบไม่มีเศษวัสดุหลงเหลืออยู่
2 ) ขนาดของถังเก็บน้ำ ( เช่น หากนำเข้าประตูบ้านควรดูขนาดความกว้างของประตูและถังว่าสามารถรอดผ่านเข้าไปได้หรือไม่ )
3) ดูจำนวนสมาชิกภายในบ้านเพื่อให้เพียงพอต่อการใช้น้ำ
สูตรคำนวณถังเก็บน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของสมาชิกภายในบ้าน
จำนวนสมาชิกภายในบ้าน x จำนวนวันที่ต้องการสำรองน้ำ x 200 คือ ค่าเฉลี่ยการใช้น้ำของคนต่อ 1 วัน = ขนาดของถังเก็บน้ำที่ควรเลือกใช้
4) วัสดุถังเก็บน้ำที่ความเลือกใช้
**สำคัญมาก** โดยส่วนใหญ่คนไม่ค่อยรู้แต่วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆมาบอกกันจ้า**
พลาสติกหรือ PE (Polyethylene) มีหลายเกรด ซึ่งจำแนกตามการยึดเกาะของโมเลกุล หากมีการยึดเกาะที่เหนียวแน่น คุณภาพก็จะยิ่งดี ในขณะเดียวกันก็จะมีราคาวัตถุดิบก็สูงตามไปด้วย ซึ่งปัจจุบันมี 3 ประเภท
1. Butene Polymer C4
2. Hexene Co-Polymer C6
3. Octene Co-Polymer C8
💡**สังเกตจำนวนโมเลกุลยิ่งมีการยึดเกาะมากก็จะแข็งแรงมาก เลขหลัง C ยิ่งมากเท่าไรยิ่งแข็งแรงมากเท่านั้น**💡
โดยส่วนใหญ่ผู้ผลิตถังเก็บน้ำในปัจจุบันจะใช้ C4 อยู่มีความแข็งแรงระดับปานกลาง และมักจะไม่บอกว่าใช้เกรดระดับ C ใดในการผลิต
ควรเลือกซื้อถังเก็บน้ำที่บอกเกรดวัสดุชัดเจนและเลือกวัสดุมากกว่า C4 ขึ้นไปเพราะ C6 มีความแข็งแรงที่มากกว่า
5) ถังเก็บน้ำที่มีสารยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่ดีและปลอดภัย
ถังเก็บน้ำประเภทนี้จะมีราคาที่สูงขึ้นมาหน่อยหากบางท่านมีงบก็แนะนำ แต่การเลือกซื้อเราต้องรู้กว่ามากผู้ผลิตหากเราเลือกซื้อตามคำโฆษณาอย่างเดียวอาจจะไม่พอ เพราะโฆษณาจะพูดให้คุณรู้แต่ข้อดีของมันเพื่อตอบโจทย์ยอดขายของบริษัทนั้นเอง
**จุดสังเกต**
1. สารยับยั้งได้การรับรองจากองค์กรที่เชื่อถือได้ ไม่ใช่แค่ระดับสถาบัน
อย่างน้อยควรมี EPA และ FDA คู่กันเพื่อเสริมความมั่นใจมากขึ้น
สำหรับใครที่ชอบความรู้คู่บ้านดีๆแบบนี้อีกก็อย่าลืมติดตามกันไว้นะคะรับรองว่าคุณจะได้ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับสาระน่ารู้เรื่องระบบน้ำภายในบ้านอย่างแน่นอนคร้า
วิธีเลือกซื้อถังเก็บน้ำให้เหมาะสมกับสมาชิกในบ้านและคุ่มค่าที่สุด
5 ปัจจัยหลักที่สำคัญมากสำหรับการเลือกถังเก็บน้ำที่ควรคำนึงถึง
1 ) พื้นที่วางถังเก็บน้ำ ว่ามีขนาดที่สามารถรับหน้าฐานได้เต็มใบหรือไม่ พื้นที่วางควรเป็นผิวเรียบไม่มีเศษวัสดุหลงเหลืออยู่
2 ) ขนาดของถังเก็บน้ำ ( เช่น หากนำเข้าประตูบ้านควรดูขนาดความกว้างของประตูและถังว่าสามารถรอดผ่านเข้าไปได้หรือไม่ )
3) ดูจำนวนสมาชิกภายในบ้านเพื่อให้เพียงพอต่อการใช้น้ำ
4) วัสดุถังเก็บน้ำที่ความเลือกใช้
**สำคัญมาก** โดยส่วนใหญ่คนไม่ค่อยรู้แต่วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆมาบอกกันจ้า**
พลาสติกหรือ PE (Polyethylene) มีหลายเกรด ซึ่งจำแนกตามการยึดเกาะของโมเลกุล หากมีการยึดเกาะที่เหนียวแน่น คุณภาพก็จะยิ่งดี ในขณะเดียวกันก็จะมีราคาวัตถุดิบก็สูงตามไปด้วย ซึ่งปัจจุบันมี 3 ประเภท
1. Butene Polymer C4
2. Hexene Co-Polymer C6
3. Octene Co-Polymer C8
💡**สังเกตจำนวนโมเลกุลยิ่งมีการยึดเกาะมากก็จะแข็งแรงมาก เลขหลัง C ยิ่งมากเท่าไรยิ่งแข็งแรงมากเท่านั้น**💡
โดยส่วนใหญ่ผู้ผลิตถังเก็บน้ำในปัจจุบันจะใช้ C4 อยู่มีความแข็งแรงระดับปานกลาง และมักจะไม่บอกว่าใช้เกรดระดับ C ใดในการผลิต
ควรเลือกซื้อถังเก็บน้ำที่บอกเกรดวัสดุชัดเจนและเลือกวัสดุมากกว่า C4 ขึ้นไปเพราะ C6 มีความแข็งแรงที่มากกว่า
5) ถังเก็บน้ำที่มีสารยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่ดีและปลอดภัย
ถังเก็บน้ำประเภทนี้จะมีราคาที่สูงขึ้นมาหน่อยหากบางท่านมีงบก็แนะนำ แต่การเลือกซื้อเราต้องรู้กว่ามากผู้ผลิตหากเราเลือกซื้อตามคำโฆษณาอย่างเดียวอาจจะไม่พอ เพราะโฆษณาจะพูดให้คุณรู้แต่ข้อดีของมันเพื่อตอบโจทย์ยอดขายของบริษัทนั้นเอง
**จุดสังเกต**
1. สารยับยั้งได้การรับรองจากองค์กรที่เชื่อถือได้ ไม่ใช่แค่ระดับสถาบัน
อย่างน้อยควรมี EPA และ FDA คู่กันเพื่อเสริมความมั่นใจมากขึ้น
สำหรับใครที่ชอบความรู้คู่บ้านดีๆแบบนี้อีกก็อย่าลืมติดตามกันไว้นะคะรับรองว่าคุณจะได้ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับสาระน่ารู้เรื่องระบบน้ำภายในบ้านอย่างแน่นอนคร้า