👒/มาลาริน/12ก.ค.ไทยป่วยโควิด1รายจากญี่ปุ่น จีนหยุดนำเข้ากุ้งเหตุตู้ติดเชื้อ ปาร์ตี้โควิดมะกันตาย1 ไทยจะทดสอบวัคซีนในคน



สถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 11 กรกฎาคม 2563 โดย ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิดวันนี้ 1 ราย จากสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ หรือ State Quarantine ป่วยรวมสะสม 3,217 ราย  รักษาหายรวม 3,088 ราย
 
รายงานผู้เสียชีวิตวันนี้ไม่มี ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมอยู่ที่ 58 ราย และเหลือรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 71 ราย โดยประเทศไทยไม่พบผู้ติดเชื้อในพื้นที่เป็นเวลา 48 วันติดต่อกันแล้ว
 
ไทม์ไลน์ ผู้ติดเชื้อกลับมาจากประเทศญี่ปุ๋น เป็นชายไทย อายุ39ปี อาชีพพนักงานบริษัท เดินทางถึงไทย 30 มิ.ย.63 เข้าสถานที่กักกัน ตรวจหาเชื้อ10 ก.ค.63 ไม่มีอาการ

https://www.komchadluek.net/news/regional/436733?utm_source=homepage&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=section_สถานะการโคโรน่า

จีนผวาอีก เชื้อโควิด-19 โผล่ตู้คอนเทนเนอร์กุ้งขาว



จีนป่วนอีกพบเชื้อไวรัสโควิด-19 ตู้คอนเทนเนอร์กุ้งขาวนำเข้าจากเอกวาดอร์ สั่งระงับทันที เร่งตรวจสอบที่มาที่ไปหวั่นแพร่กระจายระบาดรอบใหม่

ปี้เค่อซิน ผู้อำนวยการสำนักงานความปลอดภัยด้านอาหารส่งออกและนำเข้า ภายใต้กระทรวงศุลกาการของจีน เปิดเผยว่า ทางการจีนได้ตรวจสอบหาเชื้อไวรัสโคโรนา-19 จากอาหารแช่แข็งนำเข้า บรรจุภัณฑ์ทั้งด้านในและด้านนอก และบริเวณใกล้เคียงจำนวน 223,000 ตัวอย่าง โดยพบเชื้อใน 6 ตัวอย่าง โดยอยู่บริเวณบรรจุภัณฑ์ด้านนอกและภายในตู้คอนเทนเนอร์ของกุ้งขาวที่นำเข้ามาจากโรงงาน 3 แห่งในเอกวาดอร์ ส่วนในกุ้งและบรรจุภัณฑ์ด้านในไม่พบเชื้อ
 
ทั้งนี้ทางการจีนสั่งระงับการนำเข้ากุ้งจากทั้ง 3 โรงงานและเผาสินค้าที่พบเชื้อทั้งหมด โดยหลังจากนี้จะตรวจสอบหาเชื้อโคโรนาไวรัสจากสินค้านำเข้าเข้มงวดขึ้น เพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชน อย่างไรก็ตามทางการจีนเริ่มตรวจสอบอาหารแช่แข็งนำเข้าครั้งใหญ่บริเวณท่าเรือหลังจากพบเชื้อโคโรนาไวรัสในแซลมอนนำเข้าเมื่อเดือนที่แล้ว รวมทั้งสั่งระงับการนำเข้าเนื้อสัตว์จากโรงงานที่พบคนงานติดเชื้อในหลายลประเทศ อาทิ บราซิล อังกฤษ เยอรมนี

https://www.banmuang.co.th/news/inter/198736

พิเรนทร์!หนุ่มมะกันสารภาพ จัด‘ปาร์ตี้โควิด’ก่อนติดเชื้อถึงตาย



12 กรกฎาคม 2563 สำนักข่าว เอบีซีนิวส์ รายงานว่า มีชายวัย 30 ปีเสียชีวิตจากการติดเชื้อ โคโรนาไวรัส หรือ โควิด-19 หลังจากตัวเขาเข้าทดสอบเรื่องไวรัสร้ายตัวนี้ในงาน “ปาร์ตี้โควิด” ที่จัดขึ้นมาในเมืองซานอันโตนิโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยที่เจ้าตัวคิดว่าเป็นเรื่องล้อกันเล่น แต่สุดท้ายได้รับเชื้อและเสียชีวิตอย่างน่าสลด

ชายไม่เปิดเผยชื่อ วัย 30 ปี ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการติดเชื้อครั้งนี้ว่า ได้ไปร่วมงานปาร์ตี้ที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 อยู่ในงาน โดยไม่มีใครคิดว่า โรคนี้จะมีความรุนแรงถึงขั้นไปไหน ก่อนจะรู้ตัวอีกครั้งก็คือ อาการหนักขึ้นเรื่อย ๆ และเสียชีวิตในที่สุด ที่โรงพยาบาลเมโธดิสต์
 
“ผมรู้ดีว่า ผมผิดพลาดไปแล้ว ผมไม่น่าที่จะเข้าไปร่วมงานที่นี้เลย มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้า และแย่มาก” ผู้ป่วยรายนี้ ได้กล่าวเอาไว้ ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ดร.เจน แอปเปิลบี หัวหน้าทีมแพทย์ของรพ.เมโธดิสต์ ได้ทำคลิปเพื่อออกมาเตือนประชาชนว่า โรคดังกล่าวนี้ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ ที่ทุกคนคิดจะไปทดลองกับมัน การติดเชื้อยังคงเกิดขึ้นต่อไป และตราบใดที่ยังไม่มีวัคซีน ทุกคนต้องปฏิบัติตัวตามกฎ ไม่อย่างนั้นไม่มีทางที่จะปลอดเชื้อแน่นอน

ทางด้าน สถานีโทรทัศน์ NEW4SA ในซานอันโตนิโอ รัฐเท็กซัสสหรัฐอเมริกา ยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 จากการปาร์ตี้จริง และเป็นที่น่ากังวลกันว่า การติดเชื้อเริ่มเกิดขึ้นกับคนอายุน้อย เนื่องจากยังคงมีการจัดงานปาร์ตี้ และพบปะกันแบบไม่มีการเว้นระยะห่างทางสังคม จนทำให้เกิดการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในทุก ๆ วัน
 
ทั้งนี้ อายุเฉลี่ยของผู้ติดเชื้อเป็นตัวเลขที่น่าตกใจในซานอันโตนิโอ นั่นคืออายุ 20-29 เพิ่มขึ้นถึง 24 เปอร์เซ็นต์ และอายุ 30-39 เพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ สหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อ 3,355,646 ราย เสียชีวิต 137,403 ราย รักษาหาย 1,490,446 ราย เป็นอันดับ 1 ของโลก และยังมีท่าทีว่า การระบาดยังจะเกิดขึ้นต่อไป

https://www.naewna.com/inter/504801

ไชโย! ไทยเดินหน้าทดสอบวัคซีนโควิดในมนุษย์แล้ว

วันเสาร์ ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2563, 17.14 น.
 

 
วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม 2563  ดร. สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวความว่า   

ข่าวดีครับ!! หลังทดสอบวัคซีนเข็มที่สอง สร้างภูมิคุ้มกันต่อโควิด – 19 ได้ระดับสูง เดินหน้าทดสอบในมนุษย์ เปิดรับอาสาสมัคร เดือน ส.ค. – ก.ย.นี้ ก่อนทดสอบเข็มแรก เดือน ต.ค.นี้

ผมได้รับรายงานจากศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ว่าผลการทดสอบวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทยโดยใช้สารพันธุกรรมของเชื้อ “ชนิด mRNA” ในลิง หลังจากเข็มที่สอง ที่ศูนย์วิจัยไพรเมทแห่งชาติ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี โดยการสนับสนุนของสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาฯ และสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าสามารถวัคซีนได้ในระดับสูงเป็นที่น่าพอใจ และลิงทุกตัวมีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีผลข้างเคียงจากวัคซีน โดยหลังจากที่ฉีดวัคซีนเข็มที่สองไปเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา ไปแล้วสองสัปดาห์ นักวิจัยได้เจาะเลือดมาทำการทดสอบการสร้างภูมิคุ้มกันหรือแอนติบอดีชนิดที่ยับยั้งเชื้อหรือ Neutralizing antibody นั้น ถือเป็นข่าวดีมากที่พบว่าลิงที่ได้รับวัคซีนสามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ดีมาก ดังนั้นจึงได้ตกลงเดินหน้าต่อไปตามแผนที่จะเริ่มทดสอบในมนุษย์ในเดือน ต.ค.นี้
 
สำหรับการดำเนินการต่อไปนั้น จะดำเนินการคู่ขนานไปพร้อมกันเพื่อให้ได้วัคซีนอย่างรวดเร็ว โดยการทดสอบในมนุษย์ ซึ่งจะเริ่มสั่งการผลิตวัคซีนในสัปดาห์หน้าเพื่อจะใช้ในการทดสอบในมนุษย์ โดยจะเริ่มรับอาสาสมัครในเดือน ส.ค. –ก.ย. และจะฉีดเข็มแรกในมนุษย์ในเดือน ต.ค.นี้ การทดสอบนั้นจะทำทั้งหมด 3 ระยะ รวมทั้งจะเตรียมการผลิตให้เพียงพอและเตรียมขึ้นทะเบียนวัคซีน โดยประสานกับผู้ผลิตวัคซีนทั้งในภาครัฐและเอกชนเพื่อให้มีความพร้อมที่จะผลิตให้พร้อมใช้ รวมทั้งร่วมมือถ่ายทอดเทคโนโลยีกับต่างประเทศด้วย

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องวัคซีนอย่างมากและได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ท่านได้มอบนโยบายเพื่อให้คนไทยสามารถมีวัคซีนอย่างรวดเร็วเป็นลำดับแรกๆ เมื่อสามารถพัฒนาวัคซีนได้สำเร็จ โดยมอบให้ อว. และกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันดำเนินงานในเชิงรุก ทั้งโดยการวิจัยและพัฒนาในประเทศ และร่วมมือกับต่างประเทศ รวมทั้งเตรียมการผลิตให้ทันท่วงทีและเพียงพอ ในขณะนี้ ยังได้เจรจาหารือกับต่างประเทศในการร่วมวิจัย ถ่ายทอดเทคโนโลยีและเตรียมการผลิตไว้ด้วยแล้วครับ

สำหรับรายละเอียด การวางแผนในการผลิต เพื่อทดสอบในอาสาสมัคร รวมทั้งการวางแผนในการผลิตในประเทศเพื่อใช้ให้เพียงพอในประเทศ จะมีการแถลงโดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจะแถลงละเอียดในวันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม 2563 เวลา 9.00 น ที่ตึกภูมิสิริ ชั้น 12 คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รอติดตามข่าวกันนะครับ

https://www.banmuang.co.th/news/politic/198741

👒 ไทยติดเชื้อโควิดที่มาจากญี่ปุ่น 1 คน ไม่ติดเชื้อในประเทศมา 48 วันแล้วค่ะ
👒 จีนพบเชื้อโควิดที่ตู้คอนเทนเนอร์นำส่งกุ้งขาวจากเอกวาดอร์  รีบสั่งระงับทันที
👒งานปาร์ตี้โควิด 19 คิดว่าเล่นๆแต่ติดเชื้อจริง ตายจริง ที่เท็กซัส อเมริกาไม่น่าเลยค่ะ เสีนใจด้วย !
👒เย้ๆๆ  ข่าวดีมากของไทย จะได้ทดลองวัคซีนในคนแล้ว เดือนตุลาคมนี้

สำหรับไทยมีข่าวดีทุกวันค่ะ 

เชื่อมั่นในศบค. เชื่อมั่นในลุงตู่นะคะ.....นานาเยี่ยม

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11




รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19  ณ วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม 2563

ประเทศไทย
ผู้ติดเชื้อสะสม 3,217 ราย ใน 68 จังหวัด (เพิ่มขึ้น 1 ราย)
   -ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จากภายในประเทศ ติดต่อกันเป็นวันที่ 48
   -และมีผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่กลับจากต่างประเทศใน State quarantine เพิ่มขึ้น 1 ราย
เสียชีวิตรวม 58 ราย (ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในวันนี้)
รักษาหายป่วยแล้ว 3,088 ราย (95.99%) (ไม่มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้นในวันนี้)

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ 1 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศญี่ปุ่น และเข้า State quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพมหานคร

สถานการณ์โลกในวันนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อของแอฟริกาใต้ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 10 ของโลก แทนที่อิหร่าน โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เกิน 1 หมื่นรายติดต่อกันสามวัน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 264,184 รายแล้ว

ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาฯ (อว.)
https://www.facebook.com/nrctofficial/posts/2925019427623610


















รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม 2563
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/162611178690548

ความหวัง แพทย์จุฬาเตรียมแถลงข่าวดี พัฒนาวัคซีนป้องกันCOVID-19
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ไทย เดินหน้าทดสอบวัคซีนโควิด-19 ในมนุษย์
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
เริ่มมีข่าวดี ของการทดสอบวัคซีนโควิด 19 เข็มที่ 2 สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ระดับสูง โดยจะเดินหน้าทดสอบต่อในมนุษย์  เตรียมเปิดรับอาสาสมัคร เดือนสิงหาคม ถึงกันยายน  ก่อนทดสอบเข็มแรก ในเดือนตุลาคมนี้


ข่าวดีครับ!! หลังทดสอบวัคซีนเข็มที่สอง สร้างภูมิคุ้มกันต่อโควิด – 19 ได้ระดับสูง เดินหน้าทดสอบในมนุษย์ เปิดรับอาสาสมัคร เดือน ส.ค. – ก.ย.นี้ ก่อนทดสอบเข็มแรก เดือน ต.ค.นี้

ผมได้รับรายงานจากศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ว่าผลการทดสอบวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทยโดยใช้สารพันธุกรรมของเชื้อ “ชนิด mRNA” ในลิง หลังจากเข็มที่สอง ที่ศูนย์วิจัยไพรเมทแห่งชาติ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี โดยการสนับสนุนของสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาฯ และสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าสามารถวัคซีนได้ในระดับสูงเป็นที่น่าพอใจ และลิงทุกตัวมีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีผลข้างเคียงจากวัคซีน โดยหลังจากที่ฉีดวัคซีนเข็มที่สองไปเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา ไปแล้วสองสัปดาห์ นักวิจัยได้เจาะเลือดมาทำการทดสอบการสร้างภูมิคุ้มกันหรือแอนติบอดีชนิดที่ยับยั้งเชื้อหรือ Neutralizing antibody นั้น ถือเป็นข่าวดีมากที่พบว่าลิงที่ได้รับวัคซีนสามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ดีมาก   ดังนั้นจึงได้ตกลงเดินหน้าต่อไปตามแผนที่จะเริ่มทดสอบในมนุษย์ในเดือน ต.ค.นี้

สำหรับการดำเนินการต่อไปนั้น จะดำเนินการคู่ขนานไปพร้อมกันเพื่อให้ได้วัคซีนอย่างรวดเร็ว โดยการทดสอบในมนุษย์ ซึ่งจะเริ่มสั่งการผลิตวัคซีนในสัปดาห์หน้าเพื่อจะใช้ในการทดสอบในมนุษย์ โดยจะเริ่มรับอาสาสมัครในเดือน ส.ค. –ก.ย. และจะฉีดเข็มแรกในมนุษย์ในเดือน ต.ค.นี้ การทดสอบนั้นจะทำทั้งหมด 3 ระยะ รวมทั้งจะเตรียมการผลิตให้เพียงพอและเตรียมขึ้นทะเบียนวัคซีน โดยประสานกับผู้ผลิตวัคซีนทั้งในภาครัฐและเอกชนเพื่อให้มีความพร้อมที่จะผลิตให้พร้อมใช้ รวมทั้งร่วมมือถ่ายทอดเทคโนโลยีกับต่างประเทศด้วย

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องวัคซีนอย่างมากและได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ท่านได้มอบนโยบายเพื่อให้คนไทยสามารถมีวัคซีนอย่างรวดเร็วเป็นลำดับแรกๆ เมื่อสามารถพัฒนาวัคซีนได้สำเร็จ โดยมอบให้ อว. และกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันดำเนินงานในเชิงรุก ทั้งโดยการวิจัยและพัฒนาในประเทศ และร่วมมือกับต่างประเทศ รวมทั้งเตรียมการผลิตให้ทันท่วงทีและเพียงพอ ในขณะนี้ ยังได้เจรจาหารือกับต่างประเทศในการร่วมวิจัย ถ่ายทอดเทคโนโลยีและเตรียมการผลิตไว้ด้วยแล้วครับ

สำหรับรายละเอียด การวางแผนในการผลิต เพื่อทดสอบในอาสาสมัคร รวมทั้งการวางแผนในการผลิตในประเทศเพื่อใช้ให้เพียงพอในประเทศ โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจะแถลงละเอียดในวันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม 2563 เวลา 9.00 น ที่ตึกภูมิสิริ ชั้น 12 คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รอติดตามข่าวกันนะครับ
https://www.facebook.com/drsuvitpage/posts/1955231461450241


มาตรการทางภาษีเพื่อเยียวยาและฟื้นฟูภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19)
ด้วยการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) ส่งผลกระทบอย่างแพร่หลายเป็นวงกว้างรวมทั้งมีจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยและทั่วโลกทั้งทางตรงและทางอ้อม กิจกรรมทางเศรษฐกิจต้องหยุดชะงัก สถานประกอบการจำเป็นต้องปิดกิจการชั่วคราวและถาวร กระทบต่อการบริโภคภายในประเทศ การจ้างงาน ภาคการเกษตร และภาคการส่งออก ซึ่งผู้ประกอบอุตสาหกรรมตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจเช่นเดียวกัน กรมสรรพสามิตจึงมีนโยบายเพื่อการเยียวยา ฟื้นฟู และอำนวยความสะดวกภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การดังกล่าวให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ทั้งนี้ กระทรวงการคลังโดยกรมสรรพสามิต ได้ดำเนินมาตรการที่เป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจในบางสินค้าเรียบร้อยแล้ว ดังนี้

1. รถยนต์ (ประเภทรถยนต์นั่งสามล้อแบบพลังงานไฟฟ้า)
เพิ่มพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์นั่งสามล้อแบบพลังงานไฟฟ้า เพื่อเป็นการส่งเสริมการลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์นั่งสามล้อที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าซึ่งจะช่วยกระตุ้นการผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและการจ้างงาน และส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด โดยกำหนด ให้เสียภาษีตามมูลค่าร้อยละ 2 (จากเดิมร้อยละ 4)

2. เครื่องดื่มน้ำผลไม้และน้ำพืชผักที่มีการเติมสารอาหารและสารอื่นแก้ไขอัตราส่วนผสมของน้ำผลไม้และน้ำพืชผักที่มีการเติมสารอาหารหรือสารอื่นจากร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 10 เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องดื่มโดยคำนึงถึงนวัตกรรมในปัจจุบัน และผู้บริโภคมีทางเลือกในการบริโภคสินค้าเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ

3. สถานบริการ สนับสนุนให้สถานบริการคงปริมาณการจ้างงาน เพื่อช่วยเหลือลูกจ้างไม่ให้ตกงานสถานบริการที่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีปริมาณการจ้างงานเท่ากับก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาจะได้รับสิทธิเสียภาษีอัตราตามมูลค่าร้อยละ 0 ของรายรับของบริการ จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2563 เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคท่องเที่ยวและบริการ รวมทั้งเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์ดังกล่าว

4. ยาสูบและยาเส้น ขยายเวลาการบังคับใช้อัตราภาษีปัจจุบันของบุหรี่ซิกาแรตและยาเส้นออกไปถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 และเลื่อนการบังคับใช้อัตราภาษีใหม่ของบุหรี่ซิกาแรตและยาเส้นออกไป โดยให้เริ่มใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบอุตสาหกรรมยาสูบและยาเส้น และเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบและยาเส้นได้รับการเยียวยาจากปัญหาการขาดสภาพคล่องที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว

5. สินค้าที่ส่งออกนอกราชอาณาจักรหรือนำเข้าไปในเขตปลอดอากรขยายเวลาในการส่งสินค้าที่ได้รับการยกเว้นภาษีออกนอกราชอาณาจักรหรือนำเข้าไปในเขตปลอดอากรจาก เดิมภายใน 15 วันและขยายได้อีก 15 วันรวมทั้งหมดไม่เกิน 30 วัน เปลี่ยนเป็นภายใน 30 วัน และขยายได้อีก 30 วัน รวมถึงขยายได้หากมีความจำเป็นอีก 60 วัน รวมทั้งหมดไม่เกิน 120 วัน และขยายเวลาในการส่งเอกสารหลักฐานจากเดิมภายใน 60 วันและขยายได้อีก60 วัน รวมทั้งหมดไม่เกิน 120 วัน เปลี่ยนเป็นภายใน 90 วัน และขยายได้หากมีความจำเป็นอีก 60 วัน รวมทั้งหมดไม่เกิน 150 วัน

ที่มา : กรมสรรพสามิต
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/161952488756417
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่