เป็นกระทู้แรกที่บอกเล่าเรื่องราวประสบการณ์การเข้าโรงพยาบาลของผู้เขียนในกระทู้รีวิว Pantip เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผู้เขียนปวดท้องอย่างรุนแรงด้านซ้าย ย้อนไปก่อนหน้านั้น 2 ปีผู้เขียนเคยเป็นนิ่ว 2 ครั้งติดต่อกันห่างกัน 1 ปีเป็นนิ่วในท่อไตด้านขวาและได้ทำการสลายเรียบร้อยแล้วหลังจากนั้นผู้เขียนได้ทำประกันไว้โดยประกันได้รับการยกเว้นนิ่วเนื่องจากเคยเป็นมาแล้ว ผ่านมา 2 ปี ครั้งนี้ปวดทางด้านซ้ายอาการคล้ายเดิมแต่ปวดมากกว่าเดิม ผู้เขียนก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นนิ่วหรือไม่คิดว่า 50-50 และได้เข้าไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลรัฐเวลาประมาณ 4 ทุ่ม ได้แจ้งพยาบาลว่าเคยเป็นนิ่วมาก่อนทางขวา พยาบาลเลยทำการตรวจปัสสาวะและได้แจ้งให้ผู้เขียนทราบว่าปัสสาวะปกติไม่มีเลือดปนน่าจะไม่ใช่นิ่วอาจจะท้องอืด แต่ผู้เขียนก็ยังมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง จึงได้ร้องขอให้พยาบาลฉีดยาแก้ปวดเพื่อให้หายก่อน ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าจะฉีดมอร์ฟีน แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผู้เขียนลดความเจ็บปวดลงเลย พยาบาลได้แจ้งให้ผู้เขียนกลับบ้านไปก่อนและค่อยกลับมารักษาอีกครั้งในเวลาทำการเพราะตอนนั้นเป็นช่วงเกือบๆ เที่ยงคืนแล้ว แต่จากอาการปวดระดับนั้นผู้เขียนคิดว่าจะกลับบ้านได้ยังไง กลับไปจะอยู่ยังไง ก็เลยร้องขอให้ญาติๆนำส่งโรงพยาบาลในตัวอำเภอหาดใหญ่
 
            ระหว่างเดินทางซึ่งใช้เวลาประมาณ 40 นาทีในการเดินทางไปยังโรงพยาบาลในอำเภอ ผู้เขียนได้หลับหรือสลบไสลเพราะฤทธิ์ยาหรือความเจ็บปวดก็ไม่ทราบได้ ตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ถึงโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในอำเภอหาดใหญ่ บุรุษพยาบาลได้นำผู้เขียนเข้าห้องฉุกเฉินและซักประวัติผู้ป่วย พร้อมตรวจปัสสาวะและได้แจ้งให้ผู้เขียนทราบคร่าวๆว่าอาจจะมีโอกาสเป็นนิ่วจากนั้นได้ฉีดไดน่าแสตก (ขออภัยหากผู้เขียน เขียนชื่อยาผิดไป) อาการปวดจึงค่อยๆทุเลาลง จากนั้นจึงมีพนักงานมาสอบถามว่าต้องการแอทมิทที่โรงพยาบาลหรือไม่ เนื่องจากตอนนั้นเวลา เลยเที่ยงคืนไปแล้วและผู้เขียนเกรงว่าอาการปวดจะกลับมาอีกเนื่องจากหมอก็ยังไม่ฟันธงว่าเป็นนิ่ว 100 เปอร์เซ็น ถ้าเป็นอาการอย่างอื่น ประกันก็น่าจะใช้ได้แต่หากเป็นนิ่วผู้เขียนคาดว่านอนสักคืนน่าจะจ่ายเองไหวอยู่ ตอนแรกทางโรงพยาบาลจะจัดห้องสูทให้เนื่องจากประกันของผู้เขียนค่าห้องอยู่ที่ประมาณ 5000 บาท แต่ผู้เขียนได้แจ้งให้กับทางโรงพยาบาลทราบว่าประกันของผู้เขียนยกเว้นนิ่วขอห้องธรรมดาๆก็พอ จึงได้ห้องธรรมดาและได้ถูกส่งตัวขึ้นไปยังห้องพักที่ได้จองไว้
            หลังจากนอนได้ 1 คืน ผู้เขียนได้ร้องขอพบหมอที่ผู้เขียนเคยรับการรักษาเมื่อ 2 ปีก่อนเพื่อปรึกษาหากพบว่าผู้ป่วยเป็นนิ่ว หลังจากนั้นทางโรงพยาบาลก็ได้นำผู้เขียนไปอัลตร้าซาวและเอกเรย์ต่างๆและได้แจ้งให้ผู้เขียนทราบว่า ผู้เขียนเป็นนิ่วในท่อปัสสาวะ และคุณหมอจะมาพบกับผู้เขียนคืนนี้ ผู้เขียนจึงแจ้งให้ทราบว่าถ้าเป็นนิ่วประกันจะใช้ไม่ได้ แต่ผู้เขียนแจ้งว่าให้โรงพยาบาลทำเรื่อเคลมดู แต่หากเคลมไม่ได้ผู้เขียนยินดีชำระเป็นเงินสด
            มีพยาบาลท่านนึงได้เข้ามาแจ้งกับผู้เขียนว่าทำไมไม่แจ้งกับทางพยาบาลว่าประกันยกเว้นนิ่ว เพราะถ้าไม่แจ้งก็จะรักษาแบบเต็มที่ ผู้เขียนจึงได้บอกไปว่าได้แจ้งให้กับเจ้าหน้าที่ด้านล่างตอนมาแล้ว แต่พยาบาลบอกว่าต้องแจ้งให้พยาบาลด้านบนทราบด้วย ด้านบนกับด้านล่างไม่เกี่ยวกัน (ผู้เขียนนึกในใจ ว่าผู้เขียนจะรู้ไหมเจ็บซะขนาดนั้น) แต่ก็ได้แจ้งให้พยาบาลทราบแล้วว่าประกันใช้ไม่ได้ไม่เป็นไร ยินดีชำระเอง แต่จับความรู้สึกได้ว่าพยาบาลไม่ค่อยพอใจ
            จนกระทั่งวันวันที่ 3 วันออกจากโรงพยาบาล (ผู้เขียนไม่ได้ทำการสลายนิ่วที่โรงพยาลเอกชนแห่งนี้ แค่มารักษาอาการเบื้องต้นเท่านั้นและจะนำผลการรักษาไปทำการรักษาต่อที่โรงพยาบาลรัฐ)  หลังจากที่ชำระเงินเรียบร้อยสองหมื่นกว่าบาทแล้วผู้เขียนก็ได้เดินทางออกจากห้องพักเพื่อกลับบ้าน  แต่เนื่องจากหน้ากากอนามัยที่ทางโรงพยาลให้ใช้ระหว่างทำการรักษาเปียกและเริ่มมีกลิ่นเนื่องจากโดนน้ำยาขณะอัลตร้าซาวต์ จึงขอหน้ากากอนามัยอันใหม่ก่อนกลับเนื่องจากมาแบบฉุกเฉินไม่ทันได้พกหน้าหน้ากากมาด้วย พยาบาลที่ประจำอยู่ที่เคาเตอร์กำลังจะหยิบหน้ากากให้ผู้เขียน แต่พยาบาลที่ได้มาแจ้งกับผู้เขียนว่าประกันใช้ไม่ได้ทำไม่ไม่บอกได้ดึงกลับพร้อมกับแจ้งผู้เขียนว่า หน้ากากอนามัยสำหรับผู้เป็นหวัดเท่านั้น ก็เลยเดินกลับบ้านแบบงงงง  เป็นครั้งแรกกับความไม่ประทับใจในโรงพยาบาลเอกชน