จะไม่เปลี่ยนชื่อก็ได้ค่ะ แต่ยอดรายได้รวมจะเยอะขึ้น ทำให้ต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้น ถ้าสรรพากรระแคะระคาย ที่หน้าร้านอาจจะไม่ได้เสียภาษีในชื่อ จขกท แบบเหมาปีละสองพันอีกต่อไป  แต่จะถูกเรียกพบให้ไปกางบัญชีตรวจสอบเพื่อเก็บภาษีเพิ่ม รวมหน้าร้านและออนไลน์เข้าไปด้วย

ต้องถามก่อนว่า ที่หน้าร้านมีการจดทะเบียนพาณิชย์หรือไม่? ถ้าจดแล้วจดในชื่อใคร? ถ้าจดในชื่อ จขกท ให้ไปจดยกเลิกเสียก่อน แล้วค่อยจดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ใหม่ค่ะ

แต่ถ้ายังไม่มีการจดทะเบียนอะไรเลย แนะนำให้ที่หน้าร้านจดทะเบียนพาณิชย์ในชื่อของคนอื่น (ถ้าเป็นแผงลอยจดทะเบียนไม่ได้) ส่วน จขกท ไปจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ค่ะ ในระบบของสรรพากร(ถ้าเขาตรวจดู)ก็จะรับรู้ว่า จขกท ขายของออนไลน์

แต่ถ้าจะไม่จดทะเบียนอะไรเลยก็ทำได้เหมือนกัน เพราะสรรพากรไม่สนว่าคุณจะจดทะเบียนหรือไม่จด เมื่อถึงกำหนดจ่ายภาษี ให้แจ้งสรรพากรว่าภาษีที่หน้าร้านต้องเปลี่ยนชื่อเป็นคนอื่น เพราะเปลี่ยนเจ้าของแล้ว ส่วน จขกท ก็เปลี่ยนไปยื่นเสียภาษีผ่านเน็ตค่ะ การคำนวณก็จะเป็นตามระบบอัตราขั้นบันได คือเงินได้มาตรา 40(8) เงินได้จากการขายของโดยไม่หักค่าใช้จ่ายทั้งปีเกินห้าแสนสองหมื่นต้องเสียภาษี (ยื่นปีละสองครั้งเหมือนกัน) แบบนี้จะคำนวณภาษีโดยการหักค่าใช้จ่ายแบบเหมา 60% ซึ่งเป็นคนละแบบกับการเสียภาษีแบบเหมาที่หน้าร้าน ที่ไม่ได้ดูจากยอดรายได้จริงค่ะ