“คนเรามีหน้าเดียว ทำไมต้องมีหลายแป้งด้วย” นี่เป็นสิ่งที่พ่อเจ้าพระคุณรุนช่องที่บ้านชอบบ่นเสมอเวลานี่ซื้อแป้งใหม่เข้าบ้าน จริงๆไม่ใช่แค่แป้งหรอก อย่างอื่นก็ชอบซื้อเยอะเหมือนกัน 555 แต่ไปเน้นที่แป้งกับรองพื้นเพราะเป็นคนหน้ามันมีรอยสิวเยอะ เห็นแป้งไหนใครว่าดีก็ซื้อมาลองใช้ก่อนเลย ไปๆมาๆก็โน่น มีแป้งพัฟเต็มกรุแล้วเจ้าค่ะ
วันนี้ก็ไม่มีอะไรมากเลย เพราะมีแป้งพัฟเยอะเลยอยากมารีวิวบ้าง ไม่ให้ของที่ซื้อมาเสียเปล่า ซึ่งก็อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าสภาพหน้าของเรามีสิว มีรอยสิว หน้ามัน มีริ้วรอยนิดหน่อยเพราะอายุเข้าเลขสามแล้ว ฉะนั้นแป้งที่มีก็จะเน้นไปที่แป้งคุมมันติดทนแบบเป๊ะๆเป็นพิเศษ และถ้าใครยังนึกไม่ออกว่าควรมีแป้งตัวไหนไว้ในครอบครองบ้าง ก็มาอ่านรีวิวเราช่วยประกอบการตัดสินใจได้นะคะ 🥰🥰
ปล.จริงๆมีแป้งเยอะกว่านี้ แต่เลือกคัดเฉพาะแบรนด์ที่หาซื้อไม่ยากค่ะ
1. Chaonang Perfect Bright UV 2 Way Powder Foundation SPF20/PA+++
พูดถึงแป้งปกปิดยังไงๆก็ต้องพูดถึงเจ้านางไว้ก่อน ที่คนบอกกันมาว่าปกปิดดีแบบไม่ต้องใช้รองพื้นก็ได้ แต่สำหรับคนหน้ามีรอยอย่างเรา เราว่าควรใช้รองพื้นนะ 555 ตัวแป้งจะหนาๆนิดหน่อย ปกปิดได้ในระดับดีพอสมควร ตัวนี้ก็ช่วยเบลอริ้วรอยได้เหมือนกันนะ ทาแล้วนวลๆเนียนๆ แต่ต้องระวังการเกลี่ยหน่อยเพราะเนื้อแป้งหนา ไม่งั้นตกร่องนะ และด้วยความเป็น 2 Way Powder พอเอาน้ำชุปพัฟแล้วปาดๆไปบนหน้าจะดูเนียนเป๊ะกว่าตบแป้งเพียวๆนะ เรื่องติดทนก็ติดทนดีไม่น่าเกลียด ส่วนคุมมันก็กลางๆค่ะ ไม่ได้เยิ้มเป็นคราบอะไร แอบมีซับหน้าบ้างระหว่างวัน แต่รวมๆแล้วจัดว่าดีงามอยู่นะ
ใช้ต่อไหม? : น่าจะใช้ต่อค่ะ ใช้โอกาสที่ต้องการความหนาแน่นเป็นพิเศษ
2. Deesay NIAN Smooth & Matte Foundation powder spf 15 pa+++
แป้งดีเซ้ย์เนียนของจุ๋ยตัวนี้เราเลิฟมาก เป็นแป้งที่ปกปิดดี ลงที่ผิวแล้วหน้าเนียนอลังการมาก ปกปิดพวกความคล้ำใต้ตา รอยสิว เบลอรูขุมได้ดีเว่อ แล้วนอกจากความเนียนแล้ว แป้งจุ๋ยตัวนี้ยังติดทนคุมมันดีอีกด้วย เพราะเนื้อแป้งตัวนี้แมตต์เน้นการปกปิด และการคุมมัน เราเองโดนป้ายยาจากรีวิวของคุณอายตาในยูทูป ด้วยความที่สภาพผิวเราใกล้เคียงกับคุณอายตามากๆ พอดูรีวิวแล้วก็รู้สึกว่าเออมันเนียนจริงอะไรจริง น่าจะเหมาะกับสภาพหน้าเรา ก็เลยซื้อมาใช้ ซึ่งก็ประทับใจสุดๆเพราะมันดีตรงตามที่คุณอายตารีวิวทุกอย่าง ชอบที่สุดคือเนื้อแป้งละเอียดเนียนมาก เนียนสมชื่อยี่ห้อแหละ แล้วคือถึงจะปกปิดแต่ยังรู้สึกบางเบานะ ไม่หนักหน้าเหมือนแป้งที่เน้นปกปิดยี่ห้ออื่นๆ แล้วความติดทนนี่ยกให้เลย ออกจากบ้านทั้งวันแบบไม่เติมแป้งก็ยังไหว ระหว่างวันหน้าไม่ค่อยมันด้วย ปังมาก
ใช้ต่อไหม? : ต่อแน่นอนค่ะ คุณภาพดีเกินราคา หน้าเนียน ติดทน คุมมันดีจริง ยกนิ้วให้เลย
3. Babalah UV 2Way Powder SPF20+++
แป้งพัฟในตำนานอีกตัว ถึงขนาดที่ว่าช่วงหนึ่งเราพยายามหาซื้อแล้วแต่หาไม่ได้เพราะหมด แต่สุดท้ายก็ได้มาครอบครองจนได้ ซึ่งปจบ.ก็ยังใช้นางไม่หมดสักที 555 อย่างที่บอกไปว่าเขาเป็นแป้งเนื้อเค้ก เนื้อเลยจะมีความเนียนๆนุ่มๆแตกต่างจากยี่ห้ออื่นพอสมควร เรื่องริ้วรอยไม่เท่าไร(แอบมีตกร่องด้วย) แต่ความทนต้องให้ ยืนกลางแดดร้อนๆเหงื่อไหลย้อยแป้งก็ยังติดหน้า สมกับที่เคลมว่ากันเหงื่อกันน้ำ 100% ปกปิดพวกรอยจุดด่างดำหรือสิวดีอยู่ แต่เนื้อแป้งค่อนข้างติดสว่างไปนิด ต้องเลือกสีดีๆหน่อย แต่รวมๆแล้วก็จัดว่าดีงามค่ะ
ใช้ต่อไหม? : ใช้ต่ออยู่แล้ว แนะนำสำหรับคนจะเล่นสงกรานต์ปีหน้า หน้าเปียกก็ยังผ่องอยู่เลย
4. Eglips Blur Powder Pact
แป้งตัวนี้มาแตกต่างจากแป้งตัวอื่นที่เรามีเพราะเป็นแป้งอัดแข็งมีสีแบบไม่ผสมรองพื้น เลยตัดเอาเรื่องความติดทนกับปกปิดออกไปได้เลยเพราะสู้แป้งผสมรองพื้นไม่ได้แน่ แต่แป้งจากเกาหลีตัวนี้เขาเด่นเรื่องเบลอรูขุมขนกับริ้วรอยนะ แถมยังผสมผงไข่มุกในแป้งด้วย ทาแล้วออกมาฟุ้งๆวาวๆผิวเด้งแบบสาวเกาหลีกันไปเลย ลดอายุให้ดูใสกว่าเก่า แต่ก็ปกปิดพวกรอยสิวไม่ได้อยู่ดี ต้องใช้รองพื้นมาช่วยด้วยถ้าอยากได้ปกปิดกริบๆ เอาไว้ใช้เวลาอยากได้ลุคธรรมชาติแต่ก็ยังอยากหน้าผ่องเนียนอยู่นะ
ใช้ต่อไหม? : เราใช้ต่อนะ อย่างที่บอกว่าเก็บไว้แต่งเบาๆ ลุคสบายๆได้
5. Cute press Evory Retouch Oil Control Foundation Powder SPF30 PA+++
แป้งที่หลายคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าดีมากทั้งในเรื่องของการปกปิดและคุมมัน ซึ่งจากที่ใช้มาเราก็ว่าตัวนี้คุมมันดี แต่น่าจะเหมาะกับคนที่หน้ามันมากๆ เพราะว่าขนาดเราหน้ามันแล้วใช้แป้งตัวนี้ยังแอบรู้สึกผิวแห้งนิดๆเลย ความติดทนก็ดีอยู่เพราะกันน้ำได้ มีหลุดตอนเหงื่อออกบ้างแต่ก็ไม่น่าเกลียด ตัวเนื้อแป้งถูกเคลมว่าบางเบาแต่เราว่ามันหนาอยู่นะ ไม่ได้สบายหน้ามาก แต่ก็แลกมาด้วยการปกปิดที่ดีมากไปด้วย รับประกันความหน้าแน่นแน่นอนสำหรับคนที่มีรอยสิวแบบเรา
ใช้ต่อไหม? : ให้ผ่านได้ไปต่อ แต่ไม่เหมาะกับเอวี่เดย์ลุคเท่าไร ใครชอบปิดหนาๆก็ตัวนี้แหละใช่
6. MAC COSMETICS Studio Fix Powder Foundation
ในบรรดาแป้งในคลังทั้งหมด ตัวนี้คือเดอะเบสสำหรับเราเลยค่ะ ราคาแรงหน่อยแต่ก็คุ้มอ่ะสำหรับเรา ชอบที่เนื้อแป้งไม่หนักผิวหน้าเลย จะมีความละเอียดบางเบาสบายๆแต่ปกปิดระดับดีมาก รอยต่างๆบนหน้าคือจางลงไปจนแทบไม่เห็นเลย และติดทนก็ค่อนข้างนานนะ เป็นอีกตัวที่เราแทบจะไม่ต้องเติมแป้งเลยระหว่างวัน เป็นแป้งกันตายที่วันไหนรีบๆต้องหยิบใช้เพราะปัดปุ๊ปผิวดีเลยไม่ต้องพิถีพิถันมาก แต่เราคิดว่าแป้งตัวนี้มันไม่ค่อยคุมมันเท่าไร ถึงจะไม่ต้องเติมแป้งเพิ่มแต่ก็ต้องคอยซับหน้าบ้างระหว่างวัน และมีดรอปบ้างไม่ได้ผ่องเท่าไร ใครหน้ามันมากๆอาจไม่โอเคเท่าไรนะ
ใช้ต่อไหม? : ต่ออยู่แล้ว คุ้มค่าคุ้มเงิน แพงหน่อยแต่ใช้ดีจริงๆนะ
7. Verena Envy Powder Collagen+ Vitamin C UV Protect
เป็นแป้งพัฟแบบที่มีคุณสมบัติเหนือโลกมาก เพราะไม่ใช่แค่แป้งพัฟเฉยๆแต่นางมีสารบำรุงหน้าอย่างวิตามินซีและคอลลาเจนด้วย แต่จากที่เราลองใช้มาก็ไม่ได้รู้สึกว่าหน้ามันดีขึ้นอะไรนะ หน้าไม่ได้ใสขึ้น แต่ก็ไม่ได้คาดหวังอยู่แล้วล่ะว่าแป้งพัฟจะทำให้หน้าเราดีขึ้นได้ 555 สำหรับแป้งตัวนี้เราว่าเนื้อแป้งดีเลย ละเอียดลื่นๆเกลี่ยง่ายมากค่ะ แต่เรื่องความปกปิดค่อนข้างเฉยๆ ริ้วรอย รูขุมขน รอยสิว ยังคงเห็นชัดอยู่ ไม่ได้กริบถ้าเทียบกับแป้งตัวอื่นที่เรามี คิดว่ามันเหมาะกับคนที่งานผิวดี ผิวสวยอยู่แล้ว แต่ผิวเยินๆอย่างเราแป้งแบกไม่ไหวจ้า Y-Y แต่ความคงทนคุมมันก็ยังถือว่าดีนะ ทาตอนเช้าหน้าเริ่มจะเยิ้มก็สี่โมงเย็นโน่น
ใช้ต่อไหม? : ไม่ใช้ต่อค่ะ อย่างที่บอกไปว่าแป้งเหมาะกับคนที่ผิวดีมากกว่า ไม่เหมาะกับผิวแบบเรา
8. BK Acne Full Coverage Foundation SPF 25 PA++
แป้งพัฟผสมรองพื้นสำหรับคนเป็นสิวผิวแพ้ง่าย เพราะใช้แล้วไม่อุดตันผิว ไม่ทำให้เกิดสิวเห่อเพิ่ม และยังช่วยลดอุณหภูมิผิว(ซึ่งตรงนี้เราเองก็ไม่รู้นะว่ามันลดยังไง เพราะใช้แล้วก็เหมือนแป้งปกติอ่ะ 555) สำหรับแป้งตัวนี้แม้จะบอกว่า Full Coverage แต่ก็ไม่ได้ปกปิดอะไรนะ เหมือนช่วยเบลอผิวให้ดูเนียนๆมากกว่า อาจเพราะเขาต้องการชูความไม่อุดตันผิวด้วยเลยไม่ได้ปกปิดเนียนกริบ ให้ความรู้สึกคล้ายๆ Eglips นั่นแหละ เนื้อแป้งเบาๆบางๆสบายหน้า และแป้งก็คุมมันได้ดีสมกับที่เป็นแป้งสำหรับคนเป็นสิวด้วย เพราะแมตต์มาก แมตต์แบบไม่มีความเยิ้มเลย แห้งไปหมด เราว่ามันดีมากเลยนะสำหรับคนที่เป็นสิวและหน้ามัน
ใช้ต่อไหม? : ไม่ใช้ต่อค่ะ พอดีว่าเราไม่ได้เป็นสิวแล้ว มีแค่รอยสิว และเราอยากได้อะไรที่ปกปิดมากกว่านี้ค่ะ
9. Maybelline Fit Me Powder Foundation
แป้งพัฟที่ออกมาไลน์เดียวกับรองพื้นตัวฮิตของเขา เป็นแป้งที่เราชอบเนื้อสัมผัสเพราะบางเบาสบายหน้ามาก แต่ประเด็นคือนางไม่ปกปิดริ้วรอยหรือรอยจุดด่างดำอะไรทั้งนั้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความบางเบามากด้วยหรือเปล่า ต้องมาคอยบิ้วเพิ่มตลอด พอบิ้วไปบิ้วมาหนาเกินไปอีก TT แต่ถึงจะปกปิดไม่ได้ก็เบลอรูขุมขนได้ค่อนข้างดีค่ะ เหมาะกับคนรูขุมขนกว้าง เรื่องคุมมันก็ออกกลางๆค่อนไปทางคุมไม่ค่อยได้เท่าไร แต่ไม่ได้เป็นคราบนะคะ มันจะดูเงาๆแบบดิวอี้ๆแทน ให้ผิวสวยไปอีกแบบ แล้วก็กันน้ำกันเหงื่อได้ด้วยค่ะ ติดทนแบบไม่น่าเกลียด ถ้าให้คะแนนก็น่าจะได้กลางๆนี่แหละ
ใช้ต่อไหม? : ไม่ค่ะ เราว่ามันเหมือน Verena คือเป็นแป้งที่เหมาะกับคนผิวดีโดยธรรมชาติ ซึ่งไม่ใช่เราแน่นอน
10. Laura Mercier Foundation Powder
แป้งผสมรองพื้นจากแบรนด์ที่ดังมาจากแป้งโปร่งแสง แต่ตัวนี้ก็ดีงามไม่แพ้แป้งโปร่งแสงเลยค่ะ คุมสมบัติเด่นๆเลยคือควบคุมความมันดีมากแต่ก็ให้ความชุ่มชื้นด้วยเช่นกัน ฉะนั้นเวลาใช้จะไม่รู้สึกว่าผิวแห้งตึงเกินไปเหมือนแป้งคุมมันดีตัวอื่นๆ เนื้อแป้งหนาหน่อยแต่ลื่นและเกลี่ยง่ายไม่เป็นก้อน และแน่นอนว่าปกปิดดีแบบกริบเลย เรียกว่าตบทีเดียวอยู่ของจริง หน้านวลเนียนดีมาก ติดทนก็ดีงามเพราะระหว่างวันแทบไม่ต้องเติมแป้งเลย ซับหน้าด้วยทิชชู่ก็จบแล้ว แต่ว่าตลับมันค่อนข้างเล็ก หมดไว และราคาก็แรงมาก ใช้แล้วไม่ค่อยคุ้มเท่าไรสำหรับเรา
ใช้ต่อไหม? : ใช้ต่อแน่นอนแต่นานๆทีจะซื้อใช้ทีเพราะราคาแรงเกินเบอร์มาก สู้ไม่ไหว
เพื่อให้สมกับเป็นกระทู้รีวิวแป้ง ก็ทดสอบกันน้ำขำๆไป1แมทซ์ค่ะ
ส่วนใหญ่ก็ติดทนดีงามกันหมด มีหลุดบ้างอะไรบ้างแต่ไม่เยอะ ยกเว้นก็แต่Eglipsที่ไม่ได้กันน้ำอยู่แล้ว สำหรับตัวอื่นๆก็ถือว่าผ่านนะเรื่องกันน้ำกันเหงื่อ
กว่าจะรีวิวครบก็พิมพ์จนมือหงิกไปหมดแล้ว พึ่งจะมาเข้าใจว่าตัวเองใช้แป้งเยอะจริงๆก็ตอนนี้แหละ 555 นี่ขนาดเลือกมาแล้วนะ เพราะยังมีที่ไม่ได้รีวิวนอนอยู่ในกรุด้วย แต่ขอพักแค่นี้ก่อนเหมาหมดไม่ไหว 😅 ใครคิดว่าตัวเองเหมาะกับแป้งตัวไหนก็ลองตำมาใช้กันดูได้ค่ะ หวังว่ารีวิวเราจะเป็นประโยชน์ให้ทุกคนนะ
[CR] ระเบิดกรุรีวิว 10 แป้งพัฟคุมมันและติดทน!!!
วันนี้ก็ไม่มีอะไรมากเลย เพราะมีแป้งพัฟเยอะเลยอยากมารีวิวบ้าง ไม่ให้ของที่ซื้อมาเสียเปล่า ซึ่งก็อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าสภาพหน้าของเรามีสิว มีรอยสิว หน้ามัน มีริ้วรอยนิดหน่อยเพราะอายุเข้าเลขสามแล้ว ฉะนั้นแป้งที่มีก็จะเน้นไปที่แป้งคุมมันติดทนแบบเป๊ะๆเป็นพิเศษ และถ้าใครยังนึกไม่ออกว่าควรมีแป้งตัวไหนไว้ในครอบครองบ้าง ก็มาอ่านรีวิวเราช่วยประกอบการตัดสินใจได้นะคะ 🥰🥰
ปล.จริงๆมีแป้งเยอะกว่านี้ แต่เลือกคัดเฉพาะแบรนด์ที่หาซื้อไม่ยากค่ะ
1. Chaonang Perfect Bright UV 2 Way Powder Foundation SPF20/PA+++
พูดถึงแป้งปกปิดยังไงๆก็ต้องพูดถึงเจ้านางไว้ก่อน ที่คนบอกกันมาว่าปกปิดดีแบบไม่ต้องใช้รองพื้นก็ได้ แต่สำหรับคนหน้ามีรอยอย่างเรา เราว่าควรใช้รองพื้นนะ 555 ตัวแป้งจะหนาๆนิดหน่อย ปกปิดได้ในระดับดีพอสมควร ตัวนี้ก็ช่วยเบลอริ้วรอยได้เหมือนกันนะ ทาแล้วนวลๆเนียนๆ แต่ต้องระวังการเกลี่ยหน่อยเพราะเนื้อแป้งหนา ไม่งั้นตกร่องนะ และด้วยความเป็น 2 Way Powder พอเอาน้ำชุปพัฟแล้วปาดๆไปบนหน้าจะดูเนียนเป๊ะกว่าตบแป้งเพียวๆนะ เรื่องติดทนก็ติดทนดีไม่น่าเกลียด ส่วนคุมมันก็กลางๆค่ะ ไม่ได้เยิ้มเป็นคราบอะไร แอบมีซับหน้าบ้างระหว่างวัน แต่รวมๆแล้วจัดว่าดีงามอยู่นะ
ใช้ต่อไหม? : น่าจะใช้ต่อค่ะ ใช้โอกาสที่ต้องการความหนาแน่นเป็นพิเศษ
2. Deesay NIAN Smooth & Matte Foundation powder spf 15 pa+++
แป้งดีเซ้ย์เนียนของจุ๋ยตัวนี้เราเลิฟมาก เป็นแป้งที่ปกปิดดี ลงที่ผิวแล้วหน้าเนียนอลังการมาก ปกปิดพวกความคล้ำใต้ตา รอยสิว เบลอรูขุมได้ดีเว่อ แล้วนอกจากความเนียนแล้ว แป้งจุ๋ยตัวนี้ยังติดทนคุมมันดีอีกด้วย เพราะเนื้อแป้งตัวนี้แมตต์เน้นการปกปิด และการคุมมัน เราเองโดนป้ายยาจากรีวิวของคุณอายตาในยูทูป ด้วยความที่สภาพผิวเราใกล้เคียงกับคุณอายตามากๆ พอดูรีวิวแล้วก็รู้สึกว่าเออมันเนียนจริงอะไรจริง น่าจะเหมาะกับสภาพหน้าเรา ก็เลยซื้อมาใช้ ซึ่งก็ประทับใจสุดๆเพราะมันดีตรงตามที่คุณอายตารีวิวทุกอย่าง ชอบที่สุดคือเนื้อแป้งละเอียดเนียนมาก เนียนสมชื่อยี่ห้อแหละ แล้วคือถึงจะปกปิดแต่ยังรู้สึกบางเบานะ ไม่หนักหน้าเหมือนแป้งที่เน้นปกปิดยี่ห้ออื่นๆ แล้วความติดทนนี่ยกให้เลย ออกจากบ้านทั้งวันแบบไม่เติมแป้งก็ยังไหว ระหว่างวันหน้าไม่ค่อยมันด้วย ปังมาก
ใช้ต่อไหม? : ต่อแน่นอนค่ะ คุณภาพดีเกินราคา หน้าเนียน ติดทน คุมมันดีจริง ยกนิ้วให้เลย
3. Babalah UV 2Way Powder SPF20+++
แป้งพัฟในตำนานอีกตัว ถึงขนาดที่ว่าช่วงหนึ่งเราพยายามหาซื้อแล้วแต่หาไม่ได้เพราะหมด แต่สุดท้ายก็ได้มาครอบครองจนได้ ซึ่งปจบ.ก็ยังใช้นางไม่หมดสักที 555 อย่างที่บอกไปว่าเขาเป็นแป้งเนื้อเค้ก เนื้อเลยจะมีความเนียนๆนุ่มๆแตกต่างจากยี่ห้ออื่นพอสมควร เรื่องริ้วรอยไม่เท่าไร(แอบมีตกร่องด้วย) แต่ความทนต้องให้ ยืนกลางแดดร้อนๆเหงื่อไหลย้อยแป้งก็ยังติดหน้า สมกับที่เคลมว่ากันเหงื่อกันน้ำ 100% ปกปิดพวกรอยจุดด่างดำหรือสิวดีอยู่ แต่เนื้อแป้งค่อนข้างติดสว่างไปนิด ต้องเลือกสีดีๆหน่อย แต่รวมๆแล้วก็จัดว่าดีงามค่ะ
ใช้ต่อไหม? : ใช้ต่ออยู่แล้ว แนะนำสำหรับคนจะเล่นสงกรานต์ปีหน้า หน้าเปียกก็ยังผ่องอยู่เลย
4. Eglips Blur Powder Pact
แป้งตัวนี้มาแตกต่างจากแป้งตัวอื่นที่เรามีเพราะเป็นแป้งอัดแข็งมีสีแบบไม่ผสมรองพื้น เลยตัดเอาเรื่องความติดทนกับปกปิดออกไปได้เลยเพราะสู้แป้งผสมรองพื้นไม่ได้แน่ แต่แป้งจากเกาหลีตัวนี้เขาเด่นเรื่องเบลอรูขุมขนกับริ้วรอยนะ แถมยังผสมผงไข่มุกในแป้งด้วย ทาแล้วออกมาฟุ้งๆวาวๆผิวเด้งแบบสาวเกาหลีกันไปเลย ลดอายุให้ดูใสกว่าเก่า แต่ก็ปกปิดพวกรอยสิวไม่ได้อยู่ดี ต้องใช้รองพื้นมาช่วยด้วยถ้าอยากได้ปกปิดกริบๆ เอาไว้ใช้เวลาอยากได้ลุคธรรมชาติแต่ก็ยังอยากหน้าผ่องเนียนอยู่นะ
ใช้ต่อไหม? : เราใช้ต่อนะ อย่างที่บอกว่าเก็บไว้แต่งเบาๆ ลุคสบายๆได้
5. Cute press Evory Retouch Oil Control Foundation Powder SPF30 PA+++
แป้งที่หลายคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าดีมากทั้งในเรื่องของการปกปิดและคุมมัน ซึ่งจากที่ใช้มาเราก็ว่าตัวนี้คุมมันดี แต่น่าจะเหมาะกับคนที่หน้ามันมากๆ เพราะว่าขนาดเราหน้ามันแล้วใช้แป้งตัวนี้ยังแอบรู้สึกผิวแห้งนิดๆเลย ความติดทนก็ดีอยู่เพราะกันน้ำได้ มีหลุดตอนเหงื่อออกบ้างแต่ก็ไม่น่าเกลียด ตัวเนื้อแป้งถูกเคลมว่าบางเบาแต่เราว่ามันหนาอยู่นะ ไม่ได้สบายหน้ามาก แต่ก็แลกมาด้วยการปกปิดที่ดีมากไปด้วย รับประกันความหน้าแน่นแน่นอนสำหรับคนที่มีรอยสิวแบบเรา
ใช้ต่อไหม? : ให้ผ่านได้ไปต่อ แต่ไม่เหมาะกับเอวี่เดย์ลุคเท่าไร ใครชอบปิดหนาๆก็ตัวนี้แหละใช่
6. MAC COSMETICS Studio Fix Powder Foundation
ในบรรดาแป้งในคลังทั้งหมด ตัวนี้คือเดอะเบสสำหรับเราเลยค่ะ ราคาแรงหน่อยแต่ก็คุ้มอ่ะสำหรับเรา ชอบที่เนื้อแป้งไม่หนักผิวหน้าเลย จะมีความละเอียดบางเบาสบายๆแต่ปกปิดระดับดีมาก รอยต่างๆบนหน้าคือจางลงไปจนแทบไม่เห็นเลย และติดทนก็ค่อนข้างนานนะ เป็นอีกตัวที่เราแทบจะไม่ต้องเติมแป้งเลยระหว่างวัน เป็นแป้งกันตายที่วันไหนรีบๆต้องหยิบใช้เพราะปัดปุ๊ปผิวดีเลยไม่ต้องพิถีพิถันมาก แต่เราคิดว่าแป้งตัวนี้มันไม่ค่อยคุมมันเท่าไร ถึงจะไม่ต้องเติมแป้งเพิ่มแต่ก็ต้องคอยซับหน้าบ้างระหว่างวัน และมีดรอปบ้างไม่ได้ผ่องเท่าไร ใครหน้ามันมากๆอาจไม่โอเคเท่าไรนะ
ใช้ต่อไหม? : ต่ออยู่แล้ว คุ้มค่าคุ้มเงิน แพงหน่อยแต่ใช้ดีจริงๆนะ
7. Verena Envy Powder Collagen+ Vitamin C UV Protect
เป็นแป้งพัฟแบบที่มีคุณสมบัติเหนือโลกมาก เพราะไม่ใช่แค่แป้งพัฟเฉยๆแต่นางมีสารบำรุงหน้าอย่างวิตามินซีและคอลลาเจนด้วย แต่จากที่เราลองใช้มาก็ไม่ได้รู้สึกว่าหน้ามันดีขึ้นอะไรนะ หน้าไม่ได้ใสขึ้น แต่ก็ไม่ได้คาดหวังอยู่แล้วล่ะว่าแป้งพัฟจะทำให้หน้าเราดีขึ้นได้ 555 สำหรับแป้งตัวนี้เราว่าเนื้อแป้งดีเลย ละเอียดลื่นๆเกลี่ยง่ายมากค่ะ แต่เรื่องความปกปิดค่อนข้างเฉยๆ ริ้วรอย รูขุมขน รอยสิว ยังคงเห็นชัดอยู่ ไม่ได้กริบถ้าเทียบกับแป้งตัวอื่นที่เรามี คิดว่ามันเหมาะกับคนที่งานผิวดี ผิวสวยอยู่แล้ว แต่ผิวเยินๆอย่างเราแป้งแบกไม่ไหวจ้า Y-Y แต่ความคงทนคุมมันก็ยังถือว่าดีนะ ทาตอนเช้าหน้าเริ่มจะเยิ้มก็สี่โมงเย็นโน่น
ใช้ต่อไหม? : ไม่ใช้ต่อค่ะ อย่างที่บอกไปว่าแป้งเหมาะกับคนที่ผิวดีมากกว่า ไม่เหมาะกับผิวแบบเรา
8. BK Acne Full Coverage Foundation SPF 25 PA++
แป้งพัฟผสมรองพื้นสำหรับคนเป็นสิวผิวแพ้ง่าย เพราะใช้แล้วไม่อุดตันผิว ไม่ทำให้เกิดสิวเห่อเพิ่ม และยังช่วยลดอุณหภูมิผิว(ซึ่งตรงนี้เราเองก็ไม่รู้นะว่ามันลดยังไง เพราะใช้แล้วก็เหมือนแป้งปกติอ่ะ 555) สำหรับแป้งตัวนี้แม้จะบอกว่า Full Coverage แต่ก็ไม่ได้ปกปิดอะไรนะ เหมือนช่วยเบลอผิวให้ดูเนียนๆมากกว่า อาจเพราะเขาต้องการชูความไม่อุดตันผิวด้วยเลยไม่ได้ปกปิดเนียนกริบ ให้ความรู้สึกคล้ายๆ Eglips นั่นแหละ เนื้อแป้งเบาๆบางๆสบายหน้า และแป้งก็คุมมันได้ดีสมกับที่เป็นแป้งสำหรับคนเป็นสิวด้วย เพราะแมตต์มาก แมตต์แบบไม่มีความเยิ้มเลย แห้งไปหมด เราว่ามันดีมากเลยนะสำหรับคนที่เป็นสิวและหน้ามัน
ใช้ต่อไหม? : ไม่ใช้ต่อค่ะ พอดีว่าเราไม่ได้เป็นสิวแล้ว มีแค่รอยสิว และเราอยากได้อะไรที่ปกปิดมากกว่านี้ค่ะ
9. Maybelline Fit Me Powder Foundation
แป้งพัฟที่ออกมาไลน์เดียวกับรองพื้นตัวฮิตของเขา เป็นแป้งที่เราชอบเนื้อสัมผัสเพราะบางเบาสบายหน้ามาก แต่ประเด็นคือนางไม่ปกปิดริ้วรอยหรือรอยจุดด่างดำอะไรทั้งนั้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความบางเบามากด้วยหรือเปล่า ต้องมาคอยบิ้วเพิ่มตลอด พอบิ้วไปบิ้วมาหนาเกินไปอีก TT แต่ถึงจะปกปิดไม่ได้ก็เบลอรูขุมขนได้ค่อนข้างดีค่ะ เหมาะกับคนรูขุมขนกว้าง เรื่องคุมมันก็ออกกลางๆค่อนไปทางคุมไม่ค่อยได้เท่าไร แต่ไม่ได้เป็นคราบนะคะ มันจะดูเงาๆแบบดิวอี้ๆแทน ให้ผิวสวยไปอีกแบบ แล้วก็กันน้ำกันเหงื่อได้ด้วยค่ะ ติดทนแบบไม่น่าเกลียด ถ้าให้คะแนนก็น่าจะได้กลางๆนี่แหละ
ใช้ต่อไหม? : ไม่ค่ะ เราว่ามันเหมือน Verena คือเป็นแป้งที่เหมาะกับคนผิวดีโดยธรรมชาติ ซึ่งไม่ใช่เราแน่นอน
10. Laura Mercier Foundation Powder
แป้งผสมรองพื้นจากแบรนด์ที่ดังมาจากแป้งโปร่งแสง แต่ตัวนี้ก็ดีงามไม่แพ้แป้งโปร่งแสงเลยค่ะ คุมสมบัติเด่นๆเลยคือควบคุมความมันดีมากแต่ก็ให้ความชุ่มชื้นด้วยเช่นกัน ฉะนั้นเวลาใช้จะไม่รู้สึกว่าผิวแห้งตึงเกินไปเหมือนแป้งคุมมันดีตัวอื่นๆ เนื้อแป้งหนาหน่อยแต่ลื่นและเกลี่ยง่ายไม่เป็นก้อน และแน่นอนว่าปกปิดดีแบบกริบเลย เรียกว่าตบทีเดียวอยู่ของจริง หน้านวลเนียนดีมาก ติดทนก็ดีงามเพราะระหว่างวันแทบไม่ต้องเติมแป้งเลย ซับหน้าด้วยทิชชู่ก็จบแล้ว แต่ว่าตลับมันค่อนข้างเล็ก หมดไว และราคาก็แรงมาก ใช้แล้วไม่ค่อยคุ้มเท่าไรสำหรับเรา
ใช้ต่อไหม? : ใช้ต่อแน่นอนแต่นานๆทีจะซื้อใช้ทีเพราะราคาแรงเกินเบอร์มาก สู้ไม่ไหว
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้