A JOURNEY IN VIETNAM
การเดินทางในเวียดนามกับความทรงจำเล็กๆของเรา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ติดตามการเดินทางอื่นๆได้ที่ https://www.facebook.com/Lostinsideaworldofmyown/
ช่วงสอบปลายภาคปีหนึ่ง (สามปีที่แล้ว) เรามีแพลนอยากไปเที่ยวต่างประเทศ ก็เลยชวนพี่สาวว่าจะไปไหนกันดี เราเน้นทริปประหยัด และอยากเริ่มจากประเทศระแวกนี้ก่อน หลังจากหาข้อมูลสักพัก พวกเราก็มาปิ๊งกับประเทศเวียดนาม นี่จะเป็นการเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกของเราสองคนพี่น้อง ใจก็ยังกล้าๆกลัวๆ แต่อยากลองทำอะไรใหม่ๆบ้าง เราจองตั๋วได้ราคาไปกลับคนละ 3,200 บาท (คนอื่นได้ถูกกว่าเยอะมากเลย TT) หลังจากจองตั๋วเสร็จเราก็เริ่มตื่นเต้นหน่อยๆแล้ว ใครอยากรู้ว่าเวียดนามมีอะไรบ้าง ตามไปดูกับเราได้เลยค่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้การเดินทางคร่าวๆ
Day 1 : โฮจิมิน
Day 2 : ดานัง
Day 3 : ฮอยอัน + ญาจาง
Day 4 : มุยเน่
ถ้าถามว่าเวียดนามมีอะไรน่าสนใจ ทำไมพวกเราถึงอยากไป เท่าที่เรารู้แรกๆคือ เวียดนามเป็นประเทศที่มีทะเลทรายที่อยู่ใกล้ที่สุด 55555 เหตุผลเท่านี้จริงๆ
หลังจากที่เราได้ค้นข้อมูลนิดหน่อย เราเลยรู้ว่าเวียดนามเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์การต่อสู้มาอย่างยาวนานตั้งแต่ก่อนคริสตกาล ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของจีน และยังเคยเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสอีกด้วย ซึ่งโฮจิมินห์ได้นำประชาชนต่อสู้กับฝรั่งเศสจนได้รับชัยชนะ และกลายเป็นประธานาธิบดีคนแรก จนกระทั่งเวียดนามขีดเส้นแบ่งประเทศออกเป็นสองส่วนตามเส้นขนานที่ 17 โดยเวียดนามเหนือปกครองโดยโฮจิมินห์ และเวียดนามใต้ปกครองโดยจักรพรรดิเบ๋าได๋ ต่อมาอเมริกาได้เข้ามาช่วยเหลือเวียดนามใต้ เพื่อต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์ (ช่วยจริงป่าว ‘ ‘?) ทำให้มีสงครามต่อเนื่องระหว่าเหนือกับใต้
จนกระทั่งเวียดนามใต้ไม่อาจสู้สงครามกองโจรของเวียดกงจากทางตอนเหนือได้ เนื่องจากทหารเมกันไม่คุ้นชินกับสภาพภูมิประเทศ เมื่อฝ่ายเวียดกงบุกเข้าไปถึงไซง่อนจนสามารถรวมเวียดนามเหนือและใต้เข้าไว้ด้วยกัน และใช้ชื่อสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ปกครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์ เมืองหลวงอยู่ที่ฮานอย และเปลี่ยนชื่อไซง่อนเป็นโฮจิมินห์ เวียดนามจึงเป็นอิสระหลังจากต่อสู่มาอย่างสะบักสะบอม แต่การปกครองแบบสังคมนิยม ทำให้เศรษฐกิจไม่ก้าวหน้า ประชาชนแร้นแค้น จึงมีการปฏิรูปการเมืองสู่ระบบเศรษฐกิจเสรี มีการลงทุนจากภายนอกมากขึ้น ทำให้ประชากรมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น
เวียดนามมีความน่าสนใจมากขึ้น พวกเราจึงวางแพลนหาสถานที่ที่อยากไปเยี่ยมชม ซึ่งเรามีเวลาเดินทางแค่ 5 วัน แต่อยากไป ทั้งเวียดนามกลางและเวียดนามใต้ ตั้งแต่ ดานัง ฮอยอัน มุยเน่ และโฮจิมินห์ เราเริ่มดูเวลาเดินทางของรถบัสไปยังเมืองต่างๆ ซึ่งจากที่อ่านรีวิวมา มีบริษัทชื่อ The shin tourist ที่ดูน่าเชื่อถือ เราจึงเลือกใช้การเดินทางโดยรถบัสจากบริษัทนี้ตลอดการเดินทาง แต่ด้วยระยะเวลาที่สั้น ทำให้เราต้องนั่งเครื่องภายในประเทศหนึ่งครั้ง โดยแผนการเดินทางคร่าวๆออกมาประมาณนี้
วันที่ 1 นั่งเครื่องไปลงโฮจิมินห์ – เที่ยวหนึ่งวัน
วันที่ 2 นั่งเครื่องจากโฮจิมินห์ไปดานัง – เที่ยว Bana Hills
วันที่ 3 นั่งรถไปฮอยอัน – เที่ยวฮอยอัน + ได้แวะเที่ยวญาจางเพราะรอต่อรถ
วันที่ 4 นั่งรถไปมุยเน่ – เที่ยวทะเลทรายขาว ทะเลทรายแดง
วันที่ 5 กลับโฮจิมินห์
DAY 1
การเดินทางของทริปเวียดนามกำลังะเริ่มต้นขึ้น เราไปสนามบินตั้งแต่ตีสาม และรอเครื่องออกตอนตีห้า ผู้โดยสารที่ได้นั่งแถวเดียวกันอีกคนเป็นคนเวียดนาม อยู่โฮจิมินห์ด้วย นี่เป็นการพูดคุยกับคนเวียดนามครั้งแรกของเรา เค้าช่วยแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองต่างๆให้ พร้อมกับโชว์รูปที่ไปเที่ยวมา ก่อนจะจากกันเค้ากล่าวว่า “Welcome to Vietnam”
พอถึงสนามบินและผ่านเข้ามาเรียบร้อย พวกเราก็หาร้านซื้อซิมเน็ต ซึ่งได้มาในราคาที่แพงมาก เกือบสามแสนดองแหนะ เพราะพี่เราขี้เกรงใจ เจอร้านกวักมือเรียกก็เดินเข้าไปซื้อละ ฮึ่ม! พวกเราเดินทางเข้าเมืองโดยใช้รถบัสตรงหน้าสนามบิน เข้าไปยังฟาร์มงูเหลา 20,000 ดองเท่านั้น ถูกมากก รถดี มี แอร์ แถมฟรี Wifi
เริ่มเห็นความน่ารักกุกกิกของเวียดนามที่ดูคล้ายๆจีน
เราแลกเงินที่สนามบิน 4,000 บาท ได้มา 2,640,000 ดอง (นี่เป็นการจับเงินล้านครั้งแรกของเรา 555555)
เมื่อมาถึงใจกลางเมืองก็เดินหาโรงแรมที่จองไว้ เป็นโรงแรมเล็กๆ สไตล์น่ารักๆ โทนสีขาว เตียงนุ่มนอนสบาย ชื่อ Hotel room @Saigon พนักงานบริการดีมาก แถมยังเรียกพวกเราว่ามาดามอีก รู้สึกเหมือนคุณนายเลย ฮ่าๆ พวกเราแวะพักเอาแรง และออกไปหาข้าวเที่ยงกิน เดินไปไม่ไกลในซอยใกล้ๆตลาดเบนถัน มีร้านอาหารอิสลามเยอะมากๆ อยู่ติดกันเป็นแถบเลย เรียกได้ว่าเป็นโซนของมุสลิมก็ได้ มีทั้งร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า และโรงแรมของมุสลิม
มื้อแรกพวกเราสั่งเฝอกิน เพราะเป็นอาหารขึ้นชื่อของเวียดนาม กินไปก็คล้ายๆก๋วยเตี๋ยวน้ำใสของบ้านเรา แต่น้ำซุปจะออกหวานๆหน่อย ราคา 70,000 ดอง กินเสร็จก็พร้อมเดินเที่ยววว~~
เดินผ่านตลาดเบนถันไปค่า ตลาดที่ที่ทุกคนจะต้องมาซื้อของฝาก ซึ่งพวกเราค่อยมากันในวันสุดท้าย ที่แรกที่จะไปคือ The café apartment ซึ่งระหว่างทางเดินมาเราก็เจอกับสถานที่มากมาย ซึ่งก็คือทำเนียบโฮจิมินห์ พวกเราจึงแวะทักทายท่านผู้นำกันสักหน่อย
เดินต่อมาเรื่อยๆๆ ก็จะเจอกับ Café แล้ว ที่นี่เคยเป็นค่ายทหารเก่า บรรยากาศภายในตัวอาคารยังอบอวลไปด้วยด้วยความขลัง จุดฮิตที่ทุกคนต้องมาถ่ายภาพเก็บไว้ เราแวะไปดูร้านรวงต่างๆ มีร้านน่ารักๆกุ้กกิ้กเต็มไปหมด พวกเราแวะเข้าร้าน Thinkers & Dreamers ร้านเหมาะแต่การถ่ายรูปและนั่งชิวจริงๆ เรานั่งกันอยู่นานสองนาน
เดินต่อไปเรื่อยๆ ผ่านมาเจอกับโรงละคร สวยดี
เดินต่อไปยังไปรษณีย์กลาง มีบัณฑิตสาวเวียดนามกำลังถ่ายรูปเดอะแก้งค์อยู่ด้วย กว่าจะผ่านแต่ละแยกและข้ามถนนไปได้ เป็นอะไรที่น่ากลัวมากกก ต่างคนต่างแย่งกันไป ไฟเขียวไฟแดงคือไม่สน จากนั้นก็เดินต่อไปยังโบสถ์นอร์ทเทอร์ดามอันเลื่องชื่อ จุดเช็คอินที่ใครๆก็ต้องมา อยู่ติดกันกับไปรษณีย์กลางเลย สวยอย่างกับโรงเรียนเวทมนต์แหน่ะ
เดินมาเริ่มปวดขาเลยไปแวะนั่งที่สวนสาธารณะเล็กๆแห่งหนึ่ง ไม่รู้ว่าชื่ออะไรแต่ก็รู้สึกร่มรื่นขึ้นมาหน่อย มีสวนสาธารณะในเมืองนี่ดีจริงๆ
ที่สุดท้ายที่พวกเราไปคือ พิพิทธภัณฑ์สงคราม ค่าเข้าคนละ 15,000 ดอง เข้าไปแล้วรู้สึกอึมครึม เห็นภาพเล่าเรื่องราวต่างๆที่เคยเกิดขึ้นแล้วใจคอไม่ดี สงครามไม่เคยนำสิ่งดีๆมาให้มนุษย์จริงๆ ภยในมีโชว์อาวุธสงคราม เครื่องบิน รถถัง และห้องทรมาณนักโทษ รู้สึกใจหวิวๆเลย ทำไมคนเราถึงโหดร้ายต่อเพื่อนมนุษย์ได้ขนาดนี้กันนะ
หลังจากดูเสร็จและเดินเที่ยวมาอย่างเหน็ดเหนื่อย เลยว่าจะนั่งแกร็บกลับโรงแรม แต่พี่ดันไปขึ้นแท็กซี่ที่อยู่ข้างทางซะก่อน เพราะมีคุณลุงเรียกขึ้น เลยโดนโกงกันไปเต็มๆเลย ตอนนั้นโมโหมากๆ ทั้งๆที่อ่านรีวิวเรื่องโกงมาก่อนแล้ว แต่ดันมาโดนกับตัวเองซะได้ เพราะนั่งแค่ห้านาที แต่โดนไป 450,000 ดอง ฮึ่ม!! โดนโกงตั้งแต่วันแรกเลยนะ เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ เวียดนามเธอมันแน่มาก! คิดว่าเตรียมตัวมาดีแล้ว แต่ก็โดนเข้ากับตัวซะได้!!
เกือบลืมไปว่าระหว่างเดินข้างทางอยู่ เจอนักศึกษาผู้ชาย ชื่อ บ็อบ แวะมาพูดคุยด้วยดีมากๆ ทีแรกนึกว่าจะเข้ามาขายของไรแบบนั้น ฮ่าๆ
สำหรับวันนี้ขอจบลงเท่านี้ก่อนนะคะ พรุ่งนี้เรามีเดินทางกันไปที่ดานัง รอติดตามกันได้เลยค่าา
VIETNAM - เที่ยวเวียดนาม โฮจิมินห์ ดานัง ฮอยอัน ญาจาง มุยเน่