มีตัวกู ของกู แต่จะยึดมั่นถือมั่นว่า เป็นตัวกู ของกูไม่ได้

มีตัวกู ของกู แต่จะยึดมั่นถือมั่นว่า เป็นตัวกู ของกูไม่ได้

  อหังการ ความรู้สึกว่าเป็นเรา มีอัตตาเป็นของเรา

  มมังการ ความรู้สึกของเขา มีอัตตาเป็นของเขา แต่สิ่งนั้นเรายึดเป็นของเรา เช่น ลูกของเรา

  ปรังการ ยึดถือว่าเป็นของๆ เขา เช่น มือถือนี้ของเขา เรายึดว่าเป็นของๆ เขา

  สิ่งเหล่านี้อธิบายถึงอัตตาการยึดมั่นถือมั่น ทำให้เกิดอัตตา ๓ อย่างนี้ทำให้เกิดอัตตา เช่น เห็นเขาทำความดี เราก็สาธุ จะทำตาม อันนี้ก็เกิดอัตตาอีก เกิดเป็นตัณหา เพราะอยากทำเหมือนเขา อยากมีเหมือนเขา จึงเกิดตัณหา

  อหังการ คือ มีดี แต่ทนง หยิ่ง (มีแล้วทนง)

  ผยอง คือ สำคัญตนเองว่าทำได้ง่ายๆ ไม่อยาก เช่น กูแน่ กูที่หนึ่ง แค่นี้เอง สุดยอดของกู แค่นี้กูทำได้ กูเก่ง กูมีความสามารถเหนือกว่าคนอื่น สรุปใครผยองจะตายด้วยความประมาททั้งนั้น และคนที่ชอบคุย แค่นี้เอง ดูถูกสิ่งที่เขาทำ เพราะเขาคิดว่าตนเองเก่ง เรื่องแค่นี้ง่ายๆ จะเกิดความประมาท ก็จะเสียคน

  ลำพอง คือ คิดว่าตัวเองลำเลิศ ตัวเองได้แค่นี้ก็ถือว่าล้ำเลิศ

  ทนง เราไม่มีแล้วทนงว่ามี และมีอยู่ก็ทนงได้ เช่น มีอยู่แค่นี้ ก็ทนงว่าเยอะแยะก็ได้ ทนงนี้เป็นการหลงผิด ทนงนี้ต่ำกว่าผยองเยอะ ผยองนี้จะร้ายกาจเพราะว่าจะไปท้าตีท้าต่อยกับเขา เราพูดหนึ่งคำ เขาจะย้อน ๓ คำ

^_^  ..._/\_...  ^_^ 
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกกล่าวมา

อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ความเชื่อส่วนบุคคล ศาสนาพุทธ ศาสนา ปรัชญาชีวิต
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่