ฉันสงสัยพ่อกับแม่ตั้งแต่เเรกนะ ตอนแรกจะไม่เขียนโพสนะเพราะเป็นความเห็นส่วนตัวของฉันเพียงคนเดียวเดี๋ยวจะไปกระทบความคิดคนในสังคม
ตั้งแต่แรกตัวละครที่ถูกพูดถึงน้อยสุดคือพ่อชมพู่ ก็แปลกใจว่าไทยรัฐกับอัมรินทร์เอาแต่สนใจตัวละครในครอบครัวแค่แม่ชมพู่ ป้าและลุงเขยของชมพู่
ฉันยังพูดวิจารณ์กับคนที่บ้านเลยว่า
1 ทำไมพ่อชมพู่ลอยตัวอยู่เหนือปัญหาเพียงคนเดียว สื่อแทบไม่พูดถึง
2 ทำไมหลังจากค้นรอบแรกพ่อกับแม่ชมพู่ถึงไม่เคยขึ้นไปตามลูกบนภูเหล็กไฟ
3 ทำไมพ่อชมพู่เอาเสื้อชมพู่ใส่กระเป๋าเป้ให้ลุงพลตอนขึ้นไปตามหลาน มีนัยอะไรกันแน่น่าสงสัยมาก
😒เบาะเเสคนร้าย
......จากคำให้การแก๊งเด็กใต้ต้นจำปีบอกว่ามีชายใส่เสื้อสีส้มอยู่หน้าบ้านชมพู่ก่อนเกิดการหายตัวไป
.....พบรถของเล่นตกในป่า
.....ศพชมพู่ไม่มีร่องรอยการทำร้ายนอกจากรอยขีดข่วนและรอยจ้ำ ซึ่งรอยจ้ำนั้นอาจเป็น Lividity ก็ได้เพราะแต่ก่อนศึกษาข่าวอาชญากรรมบ่อยจึงทำให้รู้ว่าเมื่อคนเราตายเลือดที่ไหลเวียนในร่างกายจะตกจากที่สูงลงที่ต่ำตามแรงโน้มถ่วงโลก ซึ่งคนอาจเข้าใจผิดว่ารอยจ้ำใต้ผิวหนังเกิดจากการถูกทำร้าย
....ขนสัตว์ปริศนา
👉ต่อมาป้าเพื่อนบ้านบอกเพิ่งนึกได้ว่าตนพบรถของเล่นก่อนที่มันจะไปอยู่บนเขา จึงสงสัยว่ามันไปอยู่บนนั้นหลังจากชมพู่หายได้อย่างไร.....เป็นไปได้ที่ป้าจะลืมบอกตำรวจเพราะบางคนไม่ได้ขี้สงสัยหรือละเอียดละออและบางคนคาดไม่ถึงว่าเรื่องแบบนี้สำคัญต่อรูปคดี
👉มีคนแฉเพิ่มว่าวันที่หาศพน้องชมพู่ได้โทรหาแม่น้องชมพู่ติดบ้างไม่ติดบ้างคล้ายสัญญาไม่ดีและได้ยินเสียงเหยียบใบไม้เลยถามแม่ชมพู และได้รับคำตอบว่านอนไม่หลับเลยขึ้นมาบนภูตามหาลูกแต่ไม่ได้บอกว่าภูไหน......
อนึ่งในความรับรู้ของครอบครัวทุกคนเข้าใจว่าพ่อแม่ชมพู่ออกตามหาชมพู่บนภูเหล็กไฟแค่ครั้งแรกหลังจากนั้นพ่อแม่ชมพู่ไม่เคยขึ้นภูเหล็กไฟอีกเลย แต่มีพยานบอกเห็นพ่อแม่ชมพูไปตามลูกบนภูกันแค่สองคนและพยานอีกคนก็บอกว่าคุยกับแม่ชมพู่โดยที่อ้างว่ามาตามหาลูกบนภูก่อนพบศพ แสดงว่าสองผัวเมียขึ้นภูมากกว่า1ครั้งสิแต่สองคนนั้นบอกไม่ได้ขึ้น แถมแม่จำเสื้อผ้าลูกไม่ได้อีก...น่าแปลก🤔
👉ต่อมามีข่าวรายงานว่าชายเสื้อส้มปริศนานั้นคือพ่อน้องชมพู่....เมื่อวานนักข่าวถามว่าวันเกิดเหตุพ่อใส่เสื้อสีอะไร พ่อชมพู่บอกจำไม่ได้เพราะผ่านมาหลายวันแล้ว....สตอร์กระมังคะคุ๊น ข่าวออกตั้งแต่ช่วงแรกๆ ค่ะความจำคงไม่สั้นขนาดนั้นเนาะ ถ้าบริสุทธิ์ทำไมไม่บอกนักข่าวปล่อยให้สองช่องนั้นเที่ยวไปไล่ถามร้านค้าทั้งจังหวัดเพื่ออะไร
👉เมื่อวานป้าชมพู่บอกว่าแม่ชมพู่เคยกระซิบห้ามบอกว่าถ้าใครหาเสื้อเจอจะเป็นคนซวย......🥺จริงป่าววว ถ้าจริงขุ่นแม่คะ เดี้ยนสงสัยชุ่นแม่กะขุ่นพ่อแต่แรกนี่เท่ากับสมมุติฐานของเดี้ยนเลยนะคะ
👉 ช่องอมรินทร์นำเสนอว่า มีพยานปากใหม่ให้ข้อมูลว่า มีบางคนบังเอิญได้รับโทรศัพท์แทนแม่ชมพู่และเสียงปลายสายที่โทรมานั้นหัวเราะเยาะเย้ย ที่เด็กหายตัวไป จากนั้นไม่นานจึงมีอีกสายหนึ่งโทรมาข่มขู่ว่าอย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่ซึ่งอันนี้อาจจะเป็นการสร้างหลักฐานเท็จของใครบางคนนะคะ
เอาจริงๆ ก็ตามที่ฉันสงสัยน่ะค่ะ
ถ้าจะบอกว่าไทม์ไลน์ลุงพลช่วงไปรับพระทำไมใช้เวลานานจัง โธ่ๆๆๆ พ่อคุณคนเราก็ต้องโอ้เอ้บ้างตามธรรมชาติเพราะไม่ใช่เวลาที่มีเหตุต้องเร่งรีบอะไร ลองนึกถึงตัวเราดูสิกว่าจะอาบน้ำกว่าจะใส่เสื้อกว่าจะมาสตาร์ทรถออกไปรับพระพวกเราทุกคนเดินวนไปมาในบ้านมากกว่ายี่สิบนาทีอีกแล้วจะให้เป๊ะๆ อย่างสมมุติฐานของนักข่าวได้อย่างไร ถ้าเวลาที่หายไปของลุงพลที่ไม่สามารถยืนยันได้ 20นาทีนั้นอาจเป็นสาเหตุปลักปลำลุงพลให้ติดคุกก็ต้องโทษช่องอัมรินทร์และไทยรัฐล่ะเพราะคุณชี้นำข่าวมากเกินไป ควรพิจารณาความเป็นสื่อสารมวลชนเนาะ ****อย่าหลงดีใจที่เปิดดูช่องคุณนะ นั่นเพราะเปิดทิ้งฆ่าเวลาให้คนป่วยดูเพราะไม่มีอะไรจะดูต่างหากดังนั้นไม่ได้เสพคุณภาพของข่าวเลย กุนั่งดูไปด่าไปบางทีรำคาญจนต้องเปลี่ยนหนีบ่อยๆ
****และอย่าลืมว่าไทม์ไลน์พ่อชมพู่ที่ไม่มีใครยืนยันได้ว่าอยู่ที่ไหนมีเวลาฆ่าชมพู่มากกว่าลุงพลอีก อีกทั้งพอเอามาเชื่อมโยงกับคนเสื้อส้มที่แก๊งจำปาเห็นและก็ไม่ออกมาชีแจงว่าตนเองคือคนสวมเสื้อส้มก็น่าสงสัยมากๆ
🤔แม่ชมพูดูจะไม่ตกใจกับอะไรเลย ความเสียใจแทบไม่เห็นหรือมีใครเห็นบอกที
🤔แม่บอกไม่เชื่อหมอดูหมอเดาแต่ตอนแรกไปเชิญร่างทรงมาดูหลายสำนัก และต่อมาเมื่อป้ากับลุงพลไปดูหมอกลับมีการแสดงออกชัดเจนว่าไม่เชื่อเรื่องหมอดูหมอเดาคำทำนาย ถ้าเป็นคนที่นั่งชมอย่างฉันมาตั้งแต่ต้นก็ต้องคิดว่า ที่ผ่านมาพ่อกับแม่ชมพู่เล่นละครเพื่อตบตาสังคมหรือเปล่า แต่ทั้งที่จริงก็รู้อยู่แก่ใจดีอยู่แล้ว ว่าอะไรเป็นอะไร พอมีหมอดูหมอเดาหมอออกอาการผีเข้าสิงบ้าง มานั่งทางไหนบ้าง ก็เลยมองว่าเสียเวลาที่จะต้องมานั่งฟังความจอมปลอมของผู้วิเศษเก๊เหล่านี้
ฉันคิดตั้งแต่แรกแล้วว่า คงไม่มีใคร ตั้งใจฆ่าเด็กหรอก จะเป็นไปได้ไหมว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันเกิดมาจากอุบัติเหตุ
😔 สมมติฐานที่ 1 คือ ชายเสื้อส้มที่หน้าบ้านนั้นคือพ่อของชมพู่จริงและเขาได้กลับมาบ้าน ด้วยธุระบางอย่างและเห็นว่าชมพู่นั่งเล่นคนเดียวจึงมารับชมพู่ออกไปทำงานด้วย แต่ระหว่างทำงาน ชมพู่ อาจเล่นส่วนจนเกิดอุบัติเหตุทำให้ถูกรถไถนาลากไปจนถึงแก่ความตาย เพราะที่ร่างกายชมพู่คล้ายมีการถูกลาก ซึ่งพ่อของชมพู่อาจจะกลัวความผิดจึงทำการ อำพรางศพ
😔 สมมติฐานที่ 2 ก็คือ พ่อแม่ชมพู่ อาจไปรู้เห็นหรือมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องการทำผิดกฎหมายบางอย่างหรือเกี่ยวข้องกับเงินกู้นอกระบบ เด็กจึงถูกจับไปเป็นตัวประกัน แต่เกิดอุบัติเหตุ เสียชีวิต และถูกอำพรางศพ โดยที่พ่อแม่ของชมพู่รู้อยู่แก่ใจแต่ ก็ไม่อยากให้เรื่องเดือดร้อนมาถึงตัวเอง จึงกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในคดีนี้
👉ซึ่งทั้งสองสมมติฐานนั้นแม่ของชมพู่อาจจะรู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่าพ่อของชมพู่ตั้งใจให้ลุงพลเอาเสื้อชมพู่ใส่กระเป๋าเป้ขึ้นไปตามหาชมพู่เพื่อทำให้เกิดแพะในคดีนี้ขึ้นมาก็เป็นได้ ซึ่งในตอนแรกแม่ชมพู่ก็อาจจะไม่เต็มใจมากนักเพราะความเป็นญาติจะเห็นได้ว่าแม่ชมพู่โล่งอกที่ลุงพล หลุดพ้นจากข้อกล่าวหาในครั้งแรก จนนำมาสู่การสงสัยว่าแม่ชมพู่กับลุงคนเป็นชู้กันหรือเปล่า แต่ให้ฉันชั่งน้ำหนักฉันว่าข้อแรกมากกว่า ชมพู่ตายตั้งแต่วันแรกและถูกเก็บรักษาไว้ด้วยความเย็น จากนั้นพอสบโอกาสสองผัวเมียจึงเอาศพไปวางไว้บนภูเหล็กไฟ เพราะพยานคนหนึ่งบอกว่าก่อนพบศพโทรหาแม่ชมพู่และแม่ชมพู่บิกมาตามหาลูกบนภูโดยยยยยย....ระหว่างทางคงมีหมาที่บ้านเดินตามไปด้วยที่ศพชมพู่จึงมีขน....ว่าแต่เก็บบรรดาขนไปตรวจแล้วว่าไง
🤔 สมมติฐานที่ 3 คือ ทั้งลุงทั้งป้าทั้งพ่อแม่ของชมพู่อาจจะไม่ใช่ฆาตกรซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะมีเพื่อนบ้านที่รู้จักกับชมพู่เห็นว่าชมพู่นั่งเล่นอยู่คนเดียวจึงชักชวนให้ชมพู่ขึ้นไปเก็บของป่า โดยการใช้มอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะในการพาขึ้นไปบนภูเขา แล้วบังเอิญเกิดการพลัดหลงแต่ คนที่ทำเด็กพลัดหลงนั้นไม่กล้าแจ้งให้ใครทราบเพราะกลัวเกิดความผิด ทำให้ชมพู่หลงป่า และตายเอง ในที่สุดเนื่องจากเด็กหายไป 4 วันไม่ได้กินข้าวไม่ได้กินน้ำและเกิดความกลัวก็อาจจะทำให้เด็กเกิดอาการช็อค จนถึงแก่ความตายได้เพราะสภาพของเด็กนั้นตาเหลือกค้างอยู่ และจากการชันสูตรบาดแผล เด็กน้อยตามตัวของชมพู่ไม่ได้เป็นสาเหตุของการเสียชีวิต ส่วนการที่ชมพู่ถอดเสื้อผ้าออกก็อาจเป็นไปได้ว่าระหว่างที่ชมพู่เดินหลงอยู่ในป่าอาจจะถูก หนามเกี่ยวหรือพวกเศษขนหญ้าทำให้เกิดการระคายเคืองที่ผิว จึงต้องถอดเสื้อผ้าเดินและยิ่งเดินก็ยิ่งเหนื่อยและยิ่งถูกกิ่งไม้ขีดข่วนตามร่างกาย ซึ่งข้อสมมติฐานนี้ก็อาจจะตรงกับที่คุณหมอคิดว่าเด็กคงไม่ถูกคนฆ่าตายแต่อาจจะตายเอง ซึ่งมันก็เป็นได้ค่ะ
เราลองมาแชร์กันสิว่าพวกคุณมีความคิดอย่างไรหรือมีสมมติฐานอะไรกับเรื่องนี้บ้างเผื่อตำรวจมาดูแล้วอาจจะเป็นประโยชน์กับคดีค่ะ
ใคนฆ่าชมพู่ ดราม่าตัดญาติ
ตั้งแต่แรกตัวละครที่ถูกพูดถึงน้อยสุดคือพ่อชมพู่ ก็แปลกใจว่าไทยรัฐกับอัมรินทร์เอาแต่สนใจตัวละครในครอบครัวแค่แม่ชมพู่ ป้าและลุงเขยของชมพู่
ฉันยังพูดวิจารณ์กับคนที่บ้านเลยว่า
1 ทำไมพ่อชมพู่ลอยตัวอยู่เหนือปัญหาเพียงคนเดียว สื่อแทบไม่พูดถึง
2 ทำไมหลังจากค้นรอบแรกพ่อกับแม่ชมพู่ถึงไม่เคยขึ้นไปตามลูกบนภูเหล็กไฟ
3 ทำไมพ่อชมพู่เอาเสื้อชมพู่ใส่กระเป๋าเป้ให้ลุงพลตอนขึ้นไปตามหลาน มีนัยอะไรกันแน่น่าสงสัยมาก
😒เบาะเเสคนร้าย
......จากคำให้การแก๊งเด็กใต้ต้นจำปีบอกว่ามีชายใส่เสื้อสีส้มอยู่หน้าบ้านชมพู่ก่อนเกิดการหายตัวไป
.....พบรถของเล่นตกในป่า
.....ศพชมพู่ไม่มีร่องรอยการทำร้ายนอกจากรอยขีดข่วนและรอยจ้ำ ซึ่งรอยจ้ำนั้นอาจเป็น Lividity ก็ได้เพราะแต่ก่อนศึกษาข่าวอาชญากรรมบ่อยจึงทำให้รู้ว่าเมื่อคนเราตายเลือดที่ไหลเวียนในร่างกายจะตกจากที่สูงลงที่ต่ำตามแรงโน้มถ่วงโลก ซึ่งคนอาจเข้าใจผิดว่ารอยจ้ำใต้ผิวหนังเกิดจากการถูกทำร้าย
....ขนสัตว์ปริศนา
👉ต่อมาป้าเพื่อนบ้านบอกเพิ่งนึกได้ว่าตนพบรถของเล่นก่อนที่มันจะไปอยู่บนเขา จึงสงสัยว่ามันไปอยู่บนนั้นหลังจากชมพู่หายได้อย่างไร.....เป็นไปได้ที่ป้าจะลืมบอกตำรวจเพราะบางคนไม่ได้ขี้สงสัยหรือละเอียดละออและบางคนคาดไม่ถึงว่าเรื่องแบบนี้สำคัญต่อรูปคดี
👉มีคนแฉเพิ่มว่าวันที่หาศพน้องชมพู่ได้โทรหาแม่น้องชมพู่ติดบ้างไม่ติดบ้างคล้ายสัญญาไม่ดีและได้ยินเสียงเหยียบใบไม้เลยถามแม่ชมพู และได้รับคำตอบว่านอนไม่หลับเลยขึ้นมาบนภูตามหาลูกแต่ไม่ได้บอกว่าภูไหน......
อนึ่งในความรับรู้ของครอบครัวทุกคนเข้าใจว่าพ่อแม่ชมพู่ออกตามหาชมพู่บนภูเหล็กไฟแค่ครั้งแรกหลังจากนั้นพ่อแม่ชมพู่ไม่เคยขึ้นภูเหล็กไฟอีกเลย แต่มีพยานบอกเห็นพ่อแม่ชมพูไปตามลูกบนภูกันแค่สองคนและพยานอีกคนก็บอกว่าคุยกับแม่ชมพู่โดยที่อ้างว่ามาตามหาลูกบนภูก่อนพบศพ แสดงว่าสองผัวเมียขึ้นภูมากกว่า1ครั้งสิแต่สองคนนั้นบอกไม่ได้ขึ้น แถมแม่จำเสื้อผ้าลูกไม่ได้อีก...น่าแปลก🤔
👉ต่อมามีข่าวรายงานว่าชายเสื้อส้มปริศนานั้นคือพ่อน้องชมพู่....เมื่อวานนักข่าวถามว่าวันเกิดเหตุพ่อใส่เสื้อสีอะไร พ่อชมพู่บอกจำไม่ได้เพราะผ่านมาหลายวันแล้ว....สตอร์กระมังคะคุ๊น ข่าวออกตั้งแต่ช่วงแรกๆ ค่ะความจำคงไม่สั้นขนาดนั้นเนาะ ถ้าบริสุทธิ์ทำไมไม่บอกนักข่าวปล่อยให้สองช่องนั้นเที่ยวไปไล่ถามร้านค้าทั้งจังหวัดเพื่ออะไร
👉เมื่อวานป้าชมพู่บอกว่าแม่ชมพู่เคยกระซิบห้ามบอกว่าถ้าใครหาเสื้อเจอจะเป็นคนซวย......🥺จริงป่าววว ถ้าจริงขุ่นแม่คะ เดี้ยนสงสัยชุ่นแม่กะขุ่นพ่อแต่แรกนี่เท่ากับสมมุติฐานของเดี้ยนเลยนะคะ
👉 ช่องอมรินทร์นำเสนอว่า มีพยานปากใหม่ให้ข้อมูลว่า มีบางคนบังเอิญได้รับโทรศัพท์แทนแม่ชมพู่และเสียงปลายสายที่โทรมานั้นหัวเราะเยาะเย้ย ที่เด็กหายตัวไป จากนั้นไม่นานจึงมีอีกสายหนึ่งโทรมาข่มขู่ว่าอย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่ซึ่งอันนี้อาจจะเป็นการสร้างหลักฐานเท็จของใครบางคนนะคะ
เอาจริงๆ ก็ตามที่ฉันสงสัยน่ะค่ะ
ถ้าจะบอกว่าไทม์ไลน์ลุงพลช่วงไปรับพระทำไมใช้เวลานานจัง โธ่ๆๆๆ พ่อคุณคนเราก็ต้องโอ้เอ้บ้างตามธรรมชาติเพราะไม่ใช่เวลาที่มีเหตุต้องเร่งรีบอะไร ลองนึกถึงตัวเราดูสิกว่าจะอาบน้ำกว่าจะใส่เสื้อกว่าจะมาสตาร์ทรถออกไปรับพระพวกเราทุกคนเดินวนไปมาในบ้านมากกว่ายี่สิบนาทีอีกแล้วจะให้เป๊ะๆ อย่างสมมุติฐานของนักข่าวได้อย่างไร ถ้าเวลาที่หายไปของลุงพลที่ไม่สามารถยืนยันได้ 20นาทีนั้นอาจเป็นสาเหตุปลักปลำลุงพลให้ติดคุกก็ต้องโทษช่องอัมรินทร์และไทยรัฐล่ะเพราะคุณชี้นำข่าวมากเกินไป ควรพิจารณาความเป็นสื่อสารมวลชนเนาะ ****อย่าหลงดีใจที่เปิดดูช่องคุณนะ นั่นเพราะเปิดทิ้งฆ่าเวลาให้คนป่วยดูเพราะไม่มีอะไรจะดูต่างหากดังนั้นไม่ได้เสพคุณภาพของข่าวเลย กุนั่งดูไปด่าไปบางทีรำคาญจนต้องเปลี่ยนหนีบ่อยๆ
****และอย่าลืมว่าไทม์ไลน์พ่อชมพู่ที่ไม่มีใครยืนยันได้ว่าอยู่ที่ไหนมีเวลาฆ่าชมพู่มากกว่าลุงพลอีก อีกทั้งพอเอามาเชื่อมโยงกับคนเสื้อส้มที่แก๊งจำปาเห็นและก็ไม่ออกมาชีแจงว่าตนเองคือคนสวมเสื้อส้มก็น่าสงสัยมากๆ
🤔แม่ชมพูดูจะไม่ตกใจกับอะไรเลย ความเสียใจแทบไม่เห็นหรือมีใครเห็นบอกที
🤔แม่บอกไม่เชื่อหมอดูหมอเดาแต่ตอนแรกไปเชิญร่างทรงมาดูหลายสำนัก และต่อมาเมื่อป้ากับลุงพลไปดูหมอกลับมีการแสดงออกชัดเจนว่าไม่เชื่อเรื่องหมอดูหมอเดาคำทำนาย ถ้าเป็นคนที่นั่งชมอย่างฉันมาตั้งแต่ต้นก็ต้องคิดว่า ที่ผ่านมาพ่อกับแม่ชมพู่เล่นละครเพื่อตบตาสังคมหรือเปล่า แต่ทั้งที่จริงก็รู้อยู่แก่ใจดีอยู่แล้ว ว่าอะไรเป็นอะไร พอมีหมอดูหมอเดาหมอออกอาการผีเข้าสิงบ้าง มานั่งทางไหนบ้าง ก็เลยมองว่าเสียเวลาที่จะต้องมานั่งฟังความจอมปลอมของผู้วิเศษเก๊เหล่านี้
ฉันคิดตั้งแต่แรกแล้วว่า คงไม่มีใคร ตั้งใจฆ่าเด็กหรอก จะเป็นไปได้ไหมว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันเกิดมาจากอุบัติเหตุ
😔 สมมติฐานที่ 1 คือ ชายเสื้อส้มที่หน้าบ้านนั้นคือพ่อของชมพู่จริงและเขาได้กลับมาบ้าน ด้วยธุระบางอย่างและเห็นว่าชมพู่นั่งเล่นคนเดียวจึงมารับชมพู่ออกไปทำงานด้วย แต่ระหว่างทำงาน ชมพู่ อาจเล่นส่วนจนเกิดอุบัติเหตุทำให้ถูกรถไถนาลากไปจนถึงแก่ความตาย เพราะที่ร่างกายชมพู่คล้ายมีการถูกลาก ซึ่งพ่อของชมพู่อาจจะกลัวความผิดจึงทำการ อำพรางศพ
😔 สมมติฐานที่ 2 ก็คือ พ่อแม่ชมพู่ อาจไปรู้เห็นหรือมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องการทำผิดกฎหมายบางอย่างหรือเกี่ยวข้องกับเงินกู้นอกระบบ เด็กจึงถูกจับไปเป็นตัวประกัน แต่เกิดอุบัติเหตุ เสียชีวิต และถูกอำพรางศพ โดยที่พ่อแม่ของชมพู่รู้อยู่แก่ใจแต่ ก็ไม่อยากให้เรื่องเดือดร้อนมาถึงตัวเอง จึงกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในคดีนี้
👉ซึ่งทั้งสองสมมติฐานนั้นแม่ของชมพู่อาจจะรู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่าพ่อของชมพู่ตั้งใจให้ลุงพลเอาเสื้อชมพู่ใส่กระเป๋าเป้ขึ้นไปตามหาชมพู่เพื่อทำให้เกิดแพะในคดีนี้ขึ้นมาก็เป็นได้ ซึ่งในตอนแรกแม่ชมพู่ก็อาจจะไม่เต็มใจมากนักเพราะความเป็นญาติจะเห็นได้ว่าแม่ชมพู่โล่งอกที่ลุงพล หลุดพ้นจากข้อกล่าวหาในครั้งแรก จนนำมาสู่การสงสัยว่าแม่ชมพู่กับลุงคนเป็นชู้กันหรือเปล่า แต่ให้ฉันชั่งน้ำหนักฉันว่าข้อแรกมากกว่า ชมพู่ตายตั้งแต่วันแรกและถูกเก็บรักษาไว้ด้วยความเย็น จากนั้นพอสบโอกาสสองผัวเมียจึงเอาศพไปวางไว้บนภูเหล็กไฟ เพราะพยานคนหนึ่งบอกว่าก่อนพบศพโทรหาแม่ชมพู่และแม่ชมพู่บิกมาตามหาลูกบนภูโดยยยยยย....ระหว่างทางคงมีหมาที่บ้านเดินตามไปด้วยที่ศพชมพู่จึงมีขน....ว่าแต่เก็บบรรดาขนไปตรวจแล้วว่าไง
🤔 สมมติฐานที่ 3 คือ ทั้งลุงทั้งป้าทั้งพ่อแม่ของชมพู่อาจจะไม่ใช่ฆาตกรซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะมีเพื่อนบ้านที่รู้จักกับชมพู่เห็นว่าชมพู่นั่งเล่นอยู่คนเดียวจึงชักชวนให้ชมพู่ขึ้นไปเก็บของป่า โดยการใช้มอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะในการพาขึ้นไปบนภูเขา แล้วบังเอิญเกิดการพลัดหลงแต่ คนที่ทำเด็กพลัดหลงนั้นไม่กล้าแจ้งให้ใครทราบเพราะกลัวเกิดความผิด ทำให้ชมพู่หลงป่า และตายเอง ในที่สุดเนื่องจากเด็กหายไป 4 วันไม่ได้กินข้าวไม่ได้กินน้ำและเกิดความกลัวก็อาจจะทำให้เด็กเกิดอาการช็อค จนถึงแก่ความตายได้เพราะสภาพของเด็กนั้นตาเหลือกค้างอยู่ และจากการชันสูตรบาดแผล เด็กน้อยตามตัวของชมพู่ไม่ได้เป็นสาเหตุของการเสียชีวิต ส่วนการที่ชมพู่ถอดเสื้อผ้าออกก็อาจเป็นไปได้ว่าระหว่างที่ชมพู่เดินหลงอยู่ในป่าอาจจะถูก หนามเกี่ยวหรือพวกเศษขนหญ้าทำให้เกิดการระคายเคืองที่ผิว จึงต้องถอดเสื้อผ้าเดินและยิ่งเดินก็ยิ่งเหนื่อยและยิ่งถูกกิ่งไม้ขีดข่วนตามร่างกาย ซึ่งข้อสมมติฐานนี้ก็อาจจะตรงกับที่คุณหมอคิดว่าเด็กคงไม่ถูกคนฆ่าตายแต่อาจจะตายเอง ซึ่งมันก็เป็นได้ค่ะ
เราลองมาแชร์กันสิว่าพวกคุณมีความคิดอย่างไรหรือมีสมมติฐานอะไรกับเรื่องนี้บ้างเผื่อตำรวจมาดูแล้วอาจจะเป็นประโยชน์กับคดีค่ะ