ขออนุญาตเล่าเรื่องราว เพื่อขอความรู้ และนำไปทดลองแก้ไข จากผู้รู้ที่อาจจะพอมีประสบการณ์นะครับ
เนื่องจาก ช่วง 3-4 ปี ก่อน คุณพ่อผมเสียไป ทำให้คุณแม่ที่อายุกว่า 60 แล้ว ดูซึม ดูเหงาไป ก็เลยตั้งใจจะรับลูกสุนัขสัก 1 ตัว โดยผมไปติดต่อขอสุนัขมาเลี้ยง จากโครงการหาบ้านใหม่ใหสุนัขจรจัดของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะเทคนิคการสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
วันที่ไป มีน้องหมาอยู่เยอะครับ แต่ส่วนใหญ่ก็โตแล้ว ไปสะดุดตา น้องหมาตัวหนึ่ง สีขาว แกมน้ำตาล ครับ ตัวเล็กที่สุด อยูหลังสุด แย่งของกิน หรือ วิ่งมาเล่นกับคนเยี่ยมชมไม่ค่อยทันเพื่อนๆ ตัวยังไม่โตมาก ฟังจากเจ้าหน้าที่อายุก็น้อย แค่ประมาณ 3-4 เดือน ก็เลยตัดสินใจรับน้องมาครับ โดยครอบครัวเรา ตั้งชื่อให้ว่า น้อง "เต้าหู้" ครับ
ซึ่งการรับเจ้า "เต้าหู้" มาก็ได้ผลครับ ครอบครัวเรามีสีสันและ สนุกขึ้นมาก แม่มีกิจกรรมเลี้ยงและดูแลเต้าหู้มากขึ้น เต้าหู้มีนิสัยร่าเริงครับ แต่รับมาแรกๆ ก็มีข้อสังเกตุว่าน้องมีนิสัย ขี้กลัว และระแวงในช่วงแรกพอสมควร ซึ่งก็เดาว่า น่าจะเกิดจากเมื่อก่อนนี้อาจเคยถูกทำร้าย หรือโดนอะไรสักอย่างเหมือนกลัวการอยู่ตัวคนเดียวตลอดเวลา แต่พอเริ่มโตขึ้น ก็ค่อยๆ ดีขึ้นครับ ร่าเริง ขี้เล่น เป็นนักสำรวจตัวยง หวงบ้าน หวงพื้นที่ เห้าบ้าง แต่ตั้งแต่เลี้ยงมายังไม่เคยกัดใครครับ โดยการเลี้ยงดู เราเลี้ยงเป็นระบบ ที่ค่อนข้างปิดครับ จะไม่ปล่อยน้องออกไปนอกบ้าน เพราะที่หมู่บ้านมีปัญหาปล่อยสุนัข แล้ว มีการขับถ่าย แต่ที่บ้านก็มีพื้นที่ให้วิงเล่นบ้างครับเป็นบ้านเดี่ยว แต่ก็ติดคน เล่นสักพัก ก็วิงแน่บมาเข้ากรงในบ้านแล้วครับ และจะนั่งอยู่ในกรงได้เป็นวันๆ โดยที่ ก็ไม่เคยร้องกระจองอแง นอกจาก เวลาหิว , ขอของกิน ,ชวนเล่น หรืออยากออกไปขับถ่าย ก็อยู่แบบนี้มา 3-4 ปีไม่เคยมีปัญหาอะไร เต้าหู้ เติบโตมาได้อย่างปกติและแข็งแรง
แต่
ปัญหาหนักๆ มันเกิดมา2-3 วันนี้ เต้าหู้มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ที่ทำให้ผมหนักใจและลำบากใจครับ เต้าหู้ไม่ยอมอยู่ในกรงจากที่ตั้งกรงตำแหน่งเดิม รวมถึง ไม่ค่อยอยากออกไปนอกบ้าน เหมือนมีอาการกลัวบางอย่างแทบตลอดเวลา จะมีอาการร้องคราง เห่าเรียก กัดกรง ตะกุยกรง จนเล็บฉีกขาด เลือดออก ซึ่งได้ทดลองย้ายตำแหน่งกรง ก็พบว่ามีจุดเดียวที่เต้าหู้ยอมอยู่คือ บริเวณกลางบ้าน แต่ไม่สามารถไว้ที่นั่นได้ เนื่องจากอยู่ห่างจากประตู แม่ไม่สามารถลากกรงไปๆมาๆจากกลางบาน มาที่ประตูหน้าบ้านเพื่อปล่อยเจ้าเต้าหู้ออกไปขับถ่ายเหมือนเดิมเหมือนหวาดกลัวอะไรตลอดเวลา จะปล่อยอิสระในบ้านก็ไม่ได้ครับ เนื่องจาก เต้าหู้เป็นสุนัขตัวผู้มักจะฉี่ตามที่ต่างๆ และมีนิสัยขี้เล่น ชอบฟัด ชอบข่วน ซึ่งคุณแม่ผมเป็นโรคเบาหวาน ก็เกรงจะเกิดแผลการการข่วนการฟัด หรือทำให้คุณแม่หกล้ม
ผมคิดว่าสาเหตุที่ทำให้เต้าหู้เปลี่ยนไปน่าจะมาจาก 2 อย่างครับ
1) ช่วงนี้ฝนฟ้าตก มีฟ้าร้องเสียงดังบางครั้ง เต้าหู้ขี้ตกใจอยู่แล้ว น่าจะเจอเสียงฟ้าผ่าแรงๆ ตอนที่นอนอยู่ในตำแหน่งเดิม ก็เลยกลัวการอยู่ที่ตำแหน่งที่ตั้งกรงเดิม ไม่รู้เป็นไปได้หรือเปล่า
2) เนื่องจากเต้าหู้เป็นสุนัขที่ค่อนข้างหวงพื้นที่หน้าบ้าน (แต่ไม่เคยหลุดออกไปกัดใครหรือทำให้ใครเดือดร้อนครับ) แต่จะมีก็แค่ เห่าคนเดินผ่านไปผ่านมา เฉยๆ ซึ่งไม่แน่ใจว่าคนที่เดินผ่านไปมา เป็นประจำนั้นจะเกิดรำคาญ แล้วไปแกล้ง เอาอะไรยิง ,แหย่ หรือมีวิธีทำให้ตกใจกลัว หรือทำร้ายจากนอกบ้านบ้างหรือไม่
ตอนนี้ก็แก้ปัญหาด้วยการ บังคับให้น้องอยู่นอกบ้านครับ โดยนำกรงไปขวางประตูเข้าบ้านไว้ เพื่อไม่ให้เต้าหู้ไปตะกุยประตูบ้านซึ่งเป็นกระจก และ อาจจะแตกได้ทุกเมื่อเนื่องจากประตู่ค่อนข้างเก่าแล้ว เพื่อขอเข้าบ้าน แต่ก็ยังไม่วายใช้ความพยายามมาตุกุยประตูจนได้ ตามรูปด้านล่างครับ
จึงอยากจะรบกวนขอคำแนะนำ เพื่อรักษาให้เต้าหู้หายกลัว และ อยู่ได้เหมือนเดิมครับ เพราะหากเป็นแบบนี้ กลัวมากจนไม่กล้าไปขับถ่าย หวาดระแวงแทบตลอดเวลา คุณแม่จะลำบากและสุ่มเสี่ยงมากในการเลี้ยงเต้าหู้เวลาที่ผมและแฟนไม่อยู่หรือออกไปทำงานครับ เพราะเวลาเต้าหู้ ตะกุย จะออกจากกรง อาจจะชนหรือผลักคุณแม่ ทำให้คุณแม่ล้ม หรือบาดเจ็บได้ รวมถึง งอแง ไม่ยอมทานอาหารและน้ำ เหมือนเดิม ซึ่งถ้าแก้ไม่ได้ อาจจะต้องนำส่งคืนน้องเต้าหู้กลับไปที่ ม.เกษตรเหมือนเดิม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ม.เกษตรเคยแจ้งว่า ถ้าเลี้ยงไปแล้วมีปัญหา ตามสัญญาสามารถส่งคืนได้ครับ แต่ก็อยากจะให้เป็นทางเลือกสุดท้ายครับ เพราะอย่างไรเราก็รักเต้าหู้และอยากดูแลเต้าหู้ตลอดไปครับ
ขอความช่วยเหลือครับ ลูกชาย(น้องหมา) มีอาการตกใจกลัวแบบเฉียบพลัน!!
เนื่องจาก ช่วง 3-4 ปี ก่อน คุณพ่อผมเสียไป ทำให้คุณแม่ที่อายุกว่า 60 แล้ว ดูซึม ดูเหงาไป ก็เลยตั้งใจจะรับลูกสุนัขสัก 1 ตัว โดยผมไปติดต่อขอสุนัขมาเลี้ยง จากโครงการหาบ้านใหม่ใหสุนัขจรจัดของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะเทคนิคการสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
วันที่ไป มีน้องหมาอยู่เยอะครับ แต่ส่วนใหญ่ก็โตแล้ว ไปสะดุดตา น้องหมาตัวหนึ่ง สีขาว แกมน้ำตาล ครับ ตัวเล็กที่สุด อยูหลังสุด แย่งของกิน หรือ วิ่งมาเล่นกับคนเยี่ยมชมไม่ค่อยทันเพื่อนๆ ตัวยังไม่โตมาก ฟังจากเจ้าหน้าที่อายุก็น้อย แค่ประมาณ 3-4 เดือน ก็เลยตัดสินใจรับน้องมาครับ โดยครอบครัวเรา ตั้งชื่อให้ว่า น้อง "เต้าหู้" ครับ
ซึ่งการรับเจ้า "เต้าหู้" มาก็ได้ผลครับ ครอบครัวเรามีสีสันและ สนุกขึ้นมาก แม่มีกิจกรรมเลี้ยงและดูแลเต้าหู้มากขึ้น เต้าหู้มีนิสัยร่าเริงครับ แต่รับมาแรกๆ ก็มีข้อสังเกตุว่าน้องมีนิสัย ขี้กลัว และระแวงในช่วงแรกพอสมควร ซึ่งก็เดาว่า น่าจะเกิดจากเมื่อก่อนนี้อาจเคยถูกทำร้าย หรือโดนอะไรสักอย่างเหมือนกลัวการอยู่ตัวคนเดียวตลอดเวลา แต่พอเริ่มโตขึ้น ก็ค่อยๆ ดีขึ้นครับ ร่าเริง ขี้เล่น เป็นนักสำรวจตัวยง หวงบ้าน หวงพื้นที่ เห้าบ้าง แต่ตั้งแต่เลี้ยงมายังไม่เคยกัดใครครับ โดยการเลี้ยงดู เราเลี้ยงเป็นระบบ ที่ค่อนข้างปิดครับ จะไม่ปล่อยน้องออกไปนอกบ้าน เพราะที่หมู่บ้านมีปัญหาปล่อยสุนัข แล้ว มีการขับถ่าย แต่ที่บ้านก็มีพื้นที่ให้วิงเล่นบ้างครับเป็นบ้านเดี่ยว แต่ก็ติดคน เล่นสักพัก ก็วิงแน่บมาเข้ากรงในบ้านแล้วครับ และจะนั่งอยู่ในกรงได้เป็นวันๆ โดยที่ ก็ไม่เคยร้องกระจองอแง นอกจาก เวลาหิว , ขอของกิน ,ชวนเล่น หรืออยากออกไปขับถ่าย ก็อยู่แบบนี้มา 3-4 ปีไม่เคยมีปัญหาอะไร เต้าหู้ เติบโตมาได้อย่างปกติและแข็งแรง
ผมคิดว่าสาเหตุที่ทำให้เต้าหู้เปลี่ยนไปน่าจะมาจาก 2 อย่างครับ
1) ช่วงนี้ฝนฟ้าตก มีฟ้าร้องเสียงดังบางครั้ง เต้าหู้ขี้ตกใจอยู่แล้ว น่าจะเจอเสียงฟ้าผ่าแรงๆ ตอนที่นอนอยู่ในตำแหน่งเดิม ก็เลยกลัวการอยู่ที่ตำแหน่งที่ตั้งกรงเดิม ไม่รู้เป็นไปได้หรือเปล่า
2) เนื่องจากเต้าหู้เป็นสุนัขที่ค่อนข้างหวงพื้นที่หน้าบ้าน (แต่ไม่เคยหลุดออกไปกัดใครหรือทำให้ใครเดือดร้อนครับ) แต่จะมีก็แค่ เห่าคนเดินผ่านไปผ่านมา เฉยๆ ซึ่งไม่แน่ใจว่าคนที่เดินผ่านไปมา เป็นประจำนั้นจะเกิดรำคาญ แล้วไปแกล้ง เอาอะไรยิง ,แหย่ หรือมีวิธีทำให้ตกใจกลัว หรือทำร้ายจากนอกบ้านบ้างหรือไม่
ตอนนี้ก็แก้ปัญหาด้วยการ บังคับให้น้องอยู่นอกบ้านครับ โดยนำกรงไปขวางประตูเข้าบ้านไว้ เพื่อไม่ให้เต้าหู้ไปตะกุยประตูบ้านซึ่งเป็นกระจก และ อาจจะแตกได้ทุกเมื่อเนื่องจากประตู่ค่อนข้างเก่าแล้ว เพื่อขอเข้าบ้าน แต่ก็ยังไม่วายใช้ความพยายามมาตุกุยประตูจนได้ ตามรูปด้านล่างครับ