นี่ก็คลายล็อกดาวน์ โควิด-19 มาหลายเฟสแล้ว ป้าๆอยากเที่ยวกันอีกแล้ว
ตอนนี้ก็เดือน ก.ค.63 เลยนึกถึงเดือนนี้เมื่อ 2 ปีก่อน คือ กค. 61 ได้ไปเที่ยวยะลา
โดยมีวัตุประสงค์หลัก คือ ไปดูทะเลหมอกที่อัยเยอร์เวง
ป้า 2 คนแรกอยู่ระยอง ส่วนป้าอีก 2 คน อยู่สมุทรปราการ เอายังงี้ก็แล้วกัน ไปป๊ะกันที่หาดใหญ่แล้วกันนะตะเอง
บางป้าก็แอบหวั่นใจกล้าๆกลัวๆ แต่เสียงส่วนใหญ่บอกไปเถอะ ยังไงก็ประเทศไทย
เพราะป้าอีกคนก็เช็คกับพี่ๆในพื้นที่ถึงถนนทางหลวงและช่วงเวลาที่เหมาะสมแล้ว โล่งคร้า
วันแรก
ลางานครึ่งวันบ่ายแล้วเดินทางทันที
ชุดแรก นั่งเครื่องจากอู่ตะเภาลงหาดใหญ่ ส่วนอีกชุด ก็เดินทางออกจากดอนเมือง
ถึงหาดใหญ่เวลาพลบค่ำ เช่ารถขับ แล้วไปหาอะไรกิน แล้วไปหาที่ซุกหัวนอน เพราะพรุ่งนี้ต้องขับรถเที่ยวกันอีกยาวๆ
วันที่ 2
เช้า ออกหาติ่มซำใส่ท้องที่ร้านอาม่าติ่มซำ ขออภัยไม่มีรูป เพราะถ้ามัวแต่ถ่ายรูป กินไม่ทันเค้าคร้า
สายๆ-เที่ยง ไปเที่ยวตัวเมืองสงขลา ห้ามพลาด หับ โห้ หิ้น โรงสีแดง แห่งเมืองเก่าสงขลา
ชมสตรีทอาร์ท และตึกโบราณ 300 ปีที่บ้านนครใน
ทานข้าวเที่ยง เติมพลังออกเดินทางไปเบตง
จากนั้น ขับรถมุ่งหน้าไปยะลา ใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 43 แล้วต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 409 - 4065 - 4077 และ 410
ถนนเรียบ ขับรถง่าย มีด่านสกัดไปช่วงๆ ช่วงบนเขาจะเริ่มคดเคี้ยวในช่วงถนนหมายเลข 410 แต่ไม่ได้สูงชันอะไร
ใช้เวลาขับรถนานเหมือนกัน วิวสองข้างทางร่มรื่นเขียวขจี สบายตา
จวนพลบค่ำถึงที่พักที่ อัยเยอร์เวง
ทางเข้าที่พัก แยกไปจากถนนสาย 410 คดเคี้ยวไปตามไหล่เข้าไปประมาณ 6 กม.เศษ
ถนนปากทางเข้าที่พัก ค่อนข้างแคบ อากาศเย็นสบาย เริ่มเห็นหมอกจางๆ
ที่พักอยู่บนเขา มีบ้านแยกเป็นหลังๆ คนแถวนี้ทำสวนยาง สวนทุเรียน สวนผลไม้ตามไหล่เขาชัน
อากาศดีเหมือนเมืองเหนือเลย
ทานอาหารเย็นที่นี่ล่ะ
วันที่ 3 ลุ้นระทึก ว่าจะได้เห็นทะเลหมอกอย่างที่คาดหวังไหมหนา
แหวกม่านขี้ตาตื่นมาตั้งแต่ ตี 5 ครึ่ง
กรี๊ด ทะเลหมอกอยู่หน้าบ้าน
ยิ่งสาย ยิ่งหมอกเยอะ
คุ้มค่ากับการรอคอย
มื้อเช้า ทานข้าวที่รีสอร์ท แถมแกะทุเรียนใต้ให้ทานด้วย
เนื้อขาวแหง แต่อร่อยมากกกกก
ดื่มด่ำทะเลหมอกกันชื่นฉ่ำใจ หาอะไรใส่ท้องจนเต็ม ทั้ง 4 ป้า ก็พากันลากสังขารไปตะลุยเที่ยวเบตงต่อนะ
เราจะขับรถขึ้นเขากัน
เราไปอุโมงค์ปิยมิตรก่อน แล้วขับย้อนกลับทางเดิม เพื่อขึ้นเขาไปเที่ยวสวนดอกไม้เมืองหนาว
ใครขับรถไม่แข็งหรือไม่ชำนาญทาง ไม่แนะนำให้ขับสวนจากอุโมงค์ปิยะมิตรไปสวนดอกไม้เมืองหนาว ให้ขับลงมาที่แยกตัววาย
แล้วขับย้อนขึ้นไปจะดีกว่า
คุณนายแม่แช่ขาที่น้ำพุร้อนเบตง
สวนดอกไม้เมืองหนาว - เจอเพื่อนใหม่ มิตรภาพไร้พรหมแดน เม้ามอยกับครอบครัวชาวจีนมาเลย์ที่มาเที่ยวเบตงกันหอมปากหอมคอ ก็ไปต่อล่ะ
บ่ายแก่ๆกับ 4 ป้าที่ไม่ยอมแก่ก็มาถึงเบตงแล้วนะ
ภาพมุมสูงจากโรงแรม
เบตงมีของอร่อยเยอะ ไทย จีน อิสลาม มีให้เลือกมากมาย
ห้ามพลาดก็ข้าวมันไก่เบตง ปล.เขาต้องกินหนังด้วยนะ เพราะหนังไก่ต้มเขากรอบมาก
ไม่มีภาพให้ดูอีกแระ ทัวร์จีนมาเลย์ลง แย่งกันนั่งยังกับเก้าอี้ดนตรี
ตกเย็นเดินเที่ยวในเมือง และมีไฮไลท์ที่ทุกคนต้องไปถ่ายรูป
ให้ภาพเล่าเรื่องนะ ไม่ต้องบรรยาย
วันที่ 4 ตื่นเช้ามา ก็เห็นหมอกเต็มไปหมด
ป้าลงรูปวิวที่จุดเดียวกัน ในเย็นวันที่ 3 กับเช้าวันที่ 4
เบตง เมืองในหมอก
ได้เวลากลับบ้านแล้ว ขับกลับหาดใหญ่โดยใช้เส้นทางเดิม
เปลี่ยนตัวโชเฟอร์มาเป็นป้าอีกคน ขับรถเข้าโค้งเหวี่ยงได้ใจ จนคุณนายแม่ลมตีขึ้น 555
ระหว่างทางก็มีโอกาสแวะซื้อส้มโชกุนแสนอร่อยไปเป็นของฝากอีกด้วย
บางแห่งดูเงียบๆหน่อย ป้าๆก็อาศัยเข้าห้องน้ำที่โรงพยาบาลของรัฐ แทนการเข้าปั๊ม
ทริปนี้ 4 ป้า เที่ยวกันไปก็ตบตีกันไป ตลอดรอดฝั่ง กลับบ้านอย่างปลอดภัย
การเดินทางในช่วงเดือน กค. 61 สะดวก สบาย ปลอดภัย ไม่มีฝน
ได้เห็นทะเลหมอกเต็มที่ แต่ไม่แนะนำให้เดินทางช่วง กย.-ตค. เพราะเริ่มมีฝนตกเยอะ ไม่เหมาะกับการเดินทาง
เบตงเป็นเมืองที่อากาศดี สถานที่ท่องเที่ยวเยอะ ผู้คนเป็นมิตร เดินทางสะดวกปลอดภัย มีอาหารให้เลือกทานได้หลากหลาย
อีกหน่อยสนามบินเบตงเสร็จแล้ว การท่องเที่ยวไปเบตง ไปดูทะเลหมอกที่อัยเยอร์เวงคงเปลี่ยนไปกันในอีกแบบหนึ่งนะ
ใครมีประสบการณ์ดีๆหรือแนวท่องเที่ยวใหม่ๆหลังสนามบินเบตงเปิดบริการ มาร่วมแบ่งปันกันได้ค่ะ
4 ป้าพาเที่ยว ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ปลอดภัย ไม่ไปไม่ได้แล้ว
ตอนนี้ก็เดือน ก.ค.63 เลยนึกถึงเดือนนี้เมื่อ 2 ปีก่อน คือ กค. 61 ได้ไปเที่ยวยะลา
โดยมีวัตุประสงค์หลัก คือ ไปดูทะเลหมอกที่อัยเยอร์เวง
ป้า 2 คนแรกอยู่ระยอง ส่วนป้าอีก 2 คน อยู่สมุทรปราการ เอายังงี้ก็แล้วกัน ไปป๊ะกันที่หาดใหญ่แล้วกันนะตะเอง
บางป้าก็แอบหวั่นใจกล้าๆกลัวๆ แต่เสียงส่วนใหญ่บอกไปเถอะ ยังไงก็ประเทศไทย
เพราะป้าอีกคนก็เช็คกับพี่ๆในพื้นที่ถึงถนนทางหลวงและช่วงเวลาที่เหมาะสมแล้ว โล่งคร้า
วันแรก
ลางานครึ่งวันบ่ายแล้วเดินทางทันที
ชุดแรก นั่งเครื่องจากอู่ตะเภาลงหาดใหญ่ ส่วนอีกชุด ก็เดินทางออกจากดอนเมือง
ถึงหาดใหญ่เวลาพลบค่ำ เช่ารถขับ แล้วไปหาอะไรกิน แล้วไปหาที่ซุกหัวนอน เพราะพรุ่งนี้ต้องขับรถเที่ยวกันอีกยาวๆ
วันที่ 2
เช้า ออกหาติ่มซำใส่ท้องที่ร้านอาม่าติ่มซำ ขออภัยไม่มีรูป เพราะถ้ามัวแต่ถ่ายรูป กินไม่ทันเค้าคร้า
สายๆ-เที่ยง ไปเที่ยวตัวเมืองสงขลา ห้ามพลาด หับ โห้ หิ้น โรงสีแดง แห่งเมืองเก่าสงขลา
ชมสตรีทอาร์ท และตึกโบราณ 300 ปีที่บ้านนครใน
ทานข้าวเที่ยง เติมพลังออกเดินทางไปเบตง
จากนั้น ขับรถมุ่งหน้าไปยะลา ใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 43 แล้วต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 409 - 4065 - 4077 และ 410
ถนนเรียบ ขับรถง่าย มีด่านสกัดไปช่วงๆ ช่วงบนเขาจะเริ่มคดเคี้ยวในช่วงถนนหมายเลข 410 แต่ไม่ได้สูงชันอะไร
ใช้เวลาขับรถนานเหมือนกัน วิวสองข้างทางร่มรื่นเขียวขจี สบายตา
จวนพลบค่ำถึงที่พักที่ อัยเยอร์เวง
ทางเข้าที่พัก แยกไปจากถนนสาย 410 คดเคี้ยวไปตามไหล่เข้าไปประมาณ 6 กม.เศษ
ถนนปากทางเข้าที่พัก ค่อนข้างแคบ อากาศเย็นสบาย เริ่มเห็นหมอกจางๆ
ที่พักอยู่บนเขา มีบ้านแยกเป็นหลังๆ คนแถวนี้ทำสวนยาง สวนทุเรียน สวนผลไม้ตามไหล่เขาชัน
อากาศดีเหมือนเมืองเหนือเลย
ทานอาหารเย็นที่นี่ล่ะ
วันที่ 3 ลุ้นระทึก ว่าจะได้เห็นทะเลหมอกอย่างที่คาดหวังไหมหนา
แหวกม่านขี้ตาตื่นมาตั้งแต่ ตี 5 ครึ่ง
กรี๊ด ทะเลหมอกอยู่หน้าบ้าน
ยิ่งสาย ยิ่งหมอกเยอะ
คุ้มค่ากับการรอคอย
มื้อเช้า ทานข้าวที่รีสอร์ท แถมแกะทุเรียนใต้ให้ทานด้วย
เนื้อขาวแหง แต่อร่อยมากกกกก
ดื่มด่ำทะเลหมอกกันชื่นฉ่ำใจ หาอะไรใส่ท้องจนเต็ม ทั้ง 4 ป้า ก็พากันลากสังขารไปตะลุยเที่ยวเบตงต่อนะ
เราจะขับรถขึ้นเขากัน
เราไปอุโมงค์ปิยมิตรก่อน แล้วขับย้อนกลับทางเดิม เพื่อขึ้นเขาไปเที่ยวสวนดอกไม้เมืองหนาว
ใครขับรถไม่แข็งหรือไม่ชำนาญทาง ไม่แนะนำให้ขับสวนจากอุโมงค์ปิยะมิตรไปสวนดอกไม้เมืองหนาว ให้ขับลงมาที่แยกตัววาย
แล้วขับย้อนขึ้นไปจะดีกว่า
คุณนายแม่แช่ขาที่น้ำพุร้อนเบตง
สวนดอกไม้เมืองหนาว - เจอเพื่อนใหม่ มิตรภาพไร้พรหมแดน เม้ามอยกับครอบครัวชาวจีนมาเลย์ที่มาเที่ยวเบตงกันหอมปากหอมคอ ก็ไปต่อล่ะ
บ่ายแก่ๆกับ 4 ป้าที่ไม่ยอมแก่ก็มาถึงเบตงแล้วนะ
ภาพมุมสูงจากโรงแรม
เบตงมีของอร่อยเยอะ ไทย จีน อิสลาม มีให้เลือกมากมาย
ห้ามพลาดก็ข้าวมันไก่เบตง ปล.เขาต้องกินหนังด้วยนะ เพราะหนังไก่ต้มเขากรอบมาก
ไม่มีภาพให้ดูอีกแระ ทัวร์จีนมาเลย์ลง แย่งกันนั่งยังกับเก้าอี้ดนตรี
ตกเย็นเดินเที่ยวในเมือง และมีไฮไลท์ที่ทุกคนต้องไปถ่ายรูป
ให้ภาพเล่าเรื่องนะ ไม่ต้องบรรยาย
วันที่ 4 ตื่นเช้ามา ก็เห็นหมอกเต็มไปหมด
ป้าลงรูปวิวที่จุดเดียวกัน ในเย็นวันที่ 3 กับเช้าวันที่ 4
เบตง เมืองในหมอก
ได้เวลากลับบ้านแล้ว ขับกลับหาดใหญ่โดยใช้เส้นทางเดิม
เปลี่ยนตัวโชเฟอร์มาเป็นป้าอีกคน ขับรถเข้าโค้งเหวี่ยงได้ใจ จนคุณนายแม่ลมตีขึ้น 555
ระหว่างทางก็มีโอกาสแวะซื้อส้มโชกุนแสนอร่อยไปเป็นของฝากอีกด้วย
บางแห่งดูเงียบๆหน่อย ป้าๆก็อาศัยเข้าห้องน้ำที่โรงพยาบาลของรัฐ แทนการเข้าปั๊ม
ทริปนี้ 4 ป้า เที่ยวกันไปก็ตบตีกันไป ตลอดรอดฝั่ง กลับบ้านอย่างปลอดภัย
การเดินทางในช่วงเดือน กค. 61 สะดวก สบาย ปลอดภัย ไม่มีฝน
ได้เห็นทะเลหมอกเต็มที่ แต่ไม่แนะนำให้เดินทางช่วง กย.-ตค. เพราะเริ่มมีฝนตกเยอะ ไม่เหมาะกับการเดินทาง
เบตงเป็นเมืองที่อากาศดี สถานที่ท่องเที่ยวเยอะ ผู้คนเป็นมิตร เดินทางสะดวกปลอดภัย มีอาหารให้เลือกทานได้หลากหลาย
อีกหน่อยสนามบินเบตงเสร็จแล้ว การท่องเที่ยวไปเบตง ไปดูทะเลหมอกที่อัยเยอร์เวงคงเปลี่ยนไปกันในอีกแบบหนึ่งนะ
ใครมีประสบการณ์ดีๆหรือแนวท่องเที่ยวใหม่ๆหลังสนามบินเบตงเปิดบริการ มาร่วมแบ่งปันกันได้ค่ะ