วิศวะตกงาน แล้วถ้าเป็นผู้หญิงด้วยก็ยิ่งตกงานจริงรึเปล่าคะ

สวัสดีค่ะ ตอนนี้เราค่อนข้างจะมีปัญหาในการเลือกคณะเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย เราอยู่ม.6แล้วค่ะเป็นเด็ก64 เราถนัดคณิตมากๆ ส่วนวิชาอื่นก็ไม่เเย่ เราเลยคิดว่าจะเข้าวิศวะของฬค่ะ เราอยากเรียนไฟฟ้า เราเคยบอกแม่เเล้วว่าเราอยากเรียนวิศวะแม่ก็เเย้งๆหน่อยบอกว่ามันจะตกงานนะ เราเลยตอบท่านไปว่าถ้าเราเข้าฬได้เราจะไม่ตกงานค่ะ แม่เราก็เออออไป ช่วงที่ปิดโควิดเราเรียนหนักมาก ทำโจทย์คณิตกับฟิสิกส์บ่อยมากเพราะเราตั้งเป้าไว้ว่าจะเอาคณะนี้เเน่ๆค่ะ แต่พอเปิดเทอมมาแม่ก็บอกให้เราไปเลือกสายสุขภาพ พวกหมอ ทันตะ หรือไม่ก็เทคนิครังสีเหมือนพี่เราค่ะ แล้วก็บอกว่าวิศวะมันจะตกงานนะ งานสมัยนี้มันหายากมาก คนกรีดยางอยู่บ้านเขาก็จบวิศวะมา คนที่มาล้างแอร์ให้บ้านเราก็ด้วยค่ะ แล้วก็มีลูกสาวของเพื่อนเเม่ที่เขาเป็นวิศวะไฟฟ้าเเต่ก็โดนจ้างให้ออกจากงานเพราะเงินเดือนสูงมากเกินไป ซึ่งก่อนที่เขาจะได้เงินเดือนสูงขนาดนี้เขาก็กระโดดเปลี่ยนที่ทำงานบ่อยมากๆด้วย

            ทำให้เราเริ่มลังเลใจค่ะ เพราะคำว่าตกงานนี่เเหละ ยิ่งช่วงนี้เศรษฐกิจของไทยค่อนข้างเเย่มากๆด้วย เเต่ถ้าเราจะเข้าสายสุขภาพแสดงว่าเราต้องเตรียมตัวในวิชาอื่นๆเพิ่มขึ้นไปด้วย เช่นชีวะ ถึงเราได้ชีวะพอประมาณเเต่มันก็ต้องเก่งจริงๆถึงจะเข้าขั้นที่ติดหมอได้ เเล้วยิ่งเราอยู่ในรรที่เขามีโครงการห้องเรียนพิเศษ เราอยู่ในห้องเรียนโครงการพิเศษนะคะ เเต่รรเรามี 5 ห้องซึ่งเราไม่ได้อยู่ห้องต้นๆ เราเคยนั่งเรียนพิเศษข้างๆเด็กห้องต้นเเล้วรู้เลยค่ะว่าระดับของเรามันต่างกันทั้งๆที่เป็นวิชาคณิตที่เราถนัดด้วยซ้ำ เเล้วเราถามเขาว่าอยากเรียนคณะอะไร เขาก็ตอบว่าทันตะ ทำให้เรารู้ว่าถ้าเราอยากได้แพทย์ ทันตะ เราจะต้องเเข่งกับคนเก่งระดับนี้อีกเยอะมากๆ เพราะเเค่รรเราก็ยังมีคนเก่งเยอะขนาดนี้ เเล้วถ้าเเข่งกันสอบเข้ามหาลัยล่ะจะขนาดไหนกัน

             นี่เลยเป็นเหตุผลเเรกๆที่ทำให้เราเบนมาสายวิศวะค่ะ พอแม่มาบอกให้เราไปเรียนหมอ ทันตะ เราเลยคิดมาถึงเหตุผลนี้อีกครั้ง แล้วเรื่องที่ตัดกำลังใจ(ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่าว่ามันยากเกินกำลังของตัวเอง) ยังมีอีกหลายเรื่องเลยค่ะไม่ใช่เเค่นี้ เราเคยเข้าค่ายสอวนคณิตเเค่ค่าย1 เราเห็นเพื่อนร่วมค่ายเเต่ละคนเก่งมากๆขนาดศูนย์ของเราเป็นเเค่ศูนย์รองนะคะ แล้วเราติดเข้ามาเเบบตัวสำรองด้วยซ้ำ เราเทียบพวกเขาไม่ติดเลยค่ะ เวลาทำโจทย์ในค่ายก็มักจะทำไม่ได้ ถึงทำได้ก็ทำช้ากว่าทุกคน เราเลยเหมือนโดนตัดกำลังใจไปอีกรอบ แล้วเรื่องตัดกำลังใจเรื่องสุดท้ายคือพี่เราค่ะ พี่เราอยากเป็นทันตะมาก เรียกว่าความฝันวัยเด็กก็ได้ค่ะ พี่เราเก่งกว่าเรานะคะเราสัมผัสได้ ไม่รู้เพราะเหตุผลอะไรพี่เราไม่ติดทันตะค่ะ อาจจะเพราะปีของพี่มีคนเก่งเยอะ หรืออะไรก็ได้ พี่เลยไปเรียนเทคนิครังสีแทนค่ะ พี่ก็บอกว่าเออมันไม่ตกงานนะ กำลังขาดเเคลนเลยด้วย เราก็เลยสนใจคณะนี้หน่อยๆนะคะ พอเราถามพี่ว่าเข้าคณะเดียวกับพี่ดีมั้ย พี่ก็ไม่อยากให้เข้าด้วยค่ะไม่รู้ทำไมเหมือนกัน นั่นเเหละค่ะเหตุผลทั้งหมดของเรา ตอนนี้เราเลยอยากรู้ว่าวิศวะตกงานจริงรึเปล่าในยุคนี้ แล้วเราก็เป็นผญด้วย มันเป็นอาชีพที่ดีพอจะให้เรามั่นคงกับคำตอบนี้รึเปล่า หรือเราควรพยายามเพิ่มขึ้นอีกเพื่อเข้าทางสายสุขภาพกันเเน่ ขอความกรุณาจากทุกคนด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

             ปล.บางทีก็เหมือนมาระบายอารมณ์มากกว่าค่ะ เราค่อนข้างกดดันมากๆเลยตอนนี้บอกอะไรไปก็โดนเเย้งกลับมาตลอด ขอบคุณสำหรับทุกๆคำเเนะนำเลยนะคะ แล้วก็ขอบคุณด้วยที่สละเวลาอ่านเรื่องราวของเราค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
ขอแชร์ประสบการณ์ จากที่ทำงาน และมีเพื่อนอยู่ในทั้ง 2 วงการนะครับ

1. ตอบตัวเองให้ได้แน่ๆ ก่อนว่าอยากเป็นอะไร? สำคัญมาก บางอย่าง ถ้ามันไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ต้องทรมานกับมันไปเป็นหลายสิบปี

2. สายวิศวะ ถ้าจาก ม.ชั้นนำ top3 โอกาสตกงานน้อย ยิ่งถ้ามีความเทพในตัวสูง+ภาษาอังกฤษหรือญี่ปุ่นได้ โอกาสตกงานต่ำมาก บางสาขาถูกจองตัวกันเกือบทั้งภาคก่อนจบก็มี (หมายถึง เฉพาะ ม. top3 นะครับ) และปลายทางของพวกเทพบางคน ขึ้นไปสายบริหาร รายได้ดีกว่าหมอเฉพาะทางอีกครับ แถมไม่เหนื่อยเหมือนหมอด้วย

งานวิศวะ ถ้าเก่งจริง ไม่ต้องกังวลเรื่องเพศ แต่ถ้าทั่วๆไป บางสาขาของวิศวะจะผลในแง่สังคมของการทำงาน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

แต่โลกของวิศวะ มันก็แปลกอย่างนึง ถ้าจบจากนอก ม. top3 โอกาสหางานจะได้ยาก(ในบางสาขา) และเรียกเงินได้ไม่ค่อยสูง เหมือน พวก top3

3. สายสุขภาพ ถ้าเรียนจบ โอกาสตกงาน แทบเป็นศูนย์ ขาดแคลนตลอด แต่หมอโอกาสเรียนจบ ~85- 90% และเรียนจบทันเวลา 6 ปี ~80% และเกือบ 75% ของที่เรียนจบ จะเรียนต่อเฉพาะทาง(spec)อย่างต่ำอีก 3 ปี (ไม่รวมเวลาใช้ทุน) กว่าจะได้ใช้ความรู้ด้านเฉพาะทางทำงานเต็มที่อายุก็ 30 เข้าไปแล้ว

แต่ถ้าเรียนทันตะ โอกาสเรียนจบ จะน้อยกว่าหมอ ~ 80% และ โอกาสเรียนจบทันเวลา ~ 70-80 % (ขึ้นอยู่กับ ม.)

แต่ข้อดีของทันตแพทย์ คือ ไม่จำเป็นต้องเรียนต่อเฉพาะทาง ก็สามารถทำงานได้ยาวๆ การเรียนรู้และสกิลพัฒนาได้ต่อหลังเรียนจบโดยที่ไม่จำเป็นต้องเรียนต่อ แต่ถ้าเรียนต่อ(ในบางสาขา) ก็สามารถรับเคสยากได้มากขึ้น (ซึ่งทันตะน้อยคนจะแตะเคสยากๆ) งานล้นมือ ทันตะ spec เลยครับ

ทันตะ gp (เอกชน)มีรายได้โดยเฉลี่ยดีกว่าหมอ gp(เอกชน) แบบชัดเจน โอกาสถูกฟ้องร้องก็น้อยกว่า

ทันตะ gp บางคน รายได้พอๆกับ หมอ spec อายุ 30+ ก็มีครับ

ลองตัดสินใจ และคิดให้ดีๆ ครับ

ป.ล. นิยามพวกเทพของผม คือ พวกระดับที่เคยได้เข้าค่าย คณิตหรือฟิสิกส์โอลิมปิกระดับประเทศ(อาจเคยหรือไม่เคยไปแข่งที่ต่างประเทศก็ได้) พวกนี้มนุษย์ต่างดาวชัดๆ ความรู้เก่งกว่าอาจารย์ที่สอนคณิตหรือฟิสิกส์ ในม.บางคน ซะอีก วิชาคำนวณบางตัวที่เรียนกันเป็นเทอมๆ ตกกันระนาว บางคนเรียนซ้ำ 2-3 เทอม ได้ A กันน้อย มันอ่านแค่ 2 สัปดาห์ ก็บรรลุโสดาบันแล้วคับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่