ในอดีต ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่มีประชากรมากอันดับต้นๆของโลก

ช่วงประมาณ ปี 1900
จีน มีประชากรราวๆ 150 ล้านคน
อินเดีย มีประชากรราวๆ 80 ล้านคน
ญี่ปุ่น มีประชากรราวๆ 40 ล้านคน
ในสมัยนั้น ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับที่ 3 ของโลกเลย
ไทย สมัยนั้นมีประชากรราวๆ 7 ล้านคนเอง

และ ช่วงประมาณ ปี 1950
จีน มีประชากรราวๆ 550 ล้านคน
อินเดีย มีประชากรราวๆ 360 ล้านคน
สหรัฐฯ มีประชากรราวๆ 140 ล้านคน
รัสเซีย มีประชากรราวๆ 100 ล้านคน
ญี่ปุ่น มีประชากรราวๆ 80 ล้านคน
ในสมัยนั้น ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 5 ของโลก
ไทย ในสมัยนั้นมีประชากรราวๆ 20 ล้านคน

และ ณ ปัจจุบันนี้ ปี 2020
ญี่ปุ่น มีประชากรเพียง 127 ล้านคนเท่านั้น ตกอันดับไปอยู่อันดับที่ 11 ของโลกเรียบร้อยแล้ว
ซึ่งเป็นเพราะการพัฒนาของประเทศที่รวดเร็วมากขึ้นมาก จึงทำให้ประชากรในประเทศรู้จักวางแผนชีวิต และครอบครัวกันเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ
จึงส่งผลให้มีเด็กเกิดใหม่น้อย สัดส่วนประชากรผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างมาก
ส่วน ไทย มีประชากรเพียง 70 ล้านคน อันดับที่ 20 ของโลก

ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ ทั้งไทยและญี่ปุ่นอัตราการเกิดต่ำพอๆกัน

ถ้าในโลก ณ ปัจจุบันนี้ ทุกๆประเทศบนโลกยังอยู่ในยุคที่ยังไม่เจริญหรือพัฒนาอย่างในปัจจุบันนี้
คือยังไม่มีระบบเงินอะไร ยังไม่มียาคุมกำเนิด ไม่มีไฟฟ้า ยังทำการเกษตร ใช้ชีวิตไปวันๆ ไม่มีรถยนต์ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกอะไร

เพราะ ณ ปัจจุบันนี้ หลายประเทศในแอฟริกา บังไม่เจริญและล้าหลังมาก และหลายครอบครัวยังนิยมมีลูกเยอะและดกอยู่
ครอบครัวมีลูกไม่ต่ำกว่า 10 คน
และในอนาคตคาดการณ์ว่า สัดส่วนประชากรเด็กจะกระจุกมากในเฉพาะทวีปแอฟริกาเท่านั้น เพราะผู้คนนิยมมีลูกเยอะ เพราะไม่มีการคุมกำเนิดหรือวางแผนครอบครัว

ผมคิดว่าถ้า ในปัจจุบันนี้ ทั่วโลกยังอยู่ในยุคที่ยังไม่เจริญแบบปัจจุบันนี้
ญี่ปุ่น อาจจะมีประชากรราวๆ 300 ล้านกว่าคน หรือมากกว่านี้ไหมครับ