เรื่องนี้จริง ๆ ผมรุ้ว่าผมก็ควรจะไปปรึกษาพี่เลี้ยง หรือผู้นำในโบถส์ที่ผมเป็นสมาชิกอยุ่ แต่ด้วยความที่ว่า ถ้าผมเล่าเรื่องนี้ออกไปพวกเค้าก็คงจะเป็นห่วงกันมาก จนผมไม่กล้าที่จะเล่าให้พวกเค้าาฟัง แต่ตัวผมเองก็เริ่มรู้กสึกแย่กับความรู้สึกแบบนี้เหมือนกัน ผมทำอะไรไม่ถุกและ ไม่รู้ว่าควรจะหาทางออกอย่างไรดี
แน่นอนว่า ผมก็พยายามอธิฐานขอฝากภาระปัญหาต่าง ๆ ขอความชื่นชมยินดีจากพระเจ้า แต่ปัญหาหลาย ๆ อย่างมันก็ยังก็ยังไม่ดีขึ้นตามใจเรา
โดยช่วงนี้ ที่ทำงานของผมมีการต้องปรับเปลี่ยนอะไรหลาย ๆ อย่าง แต่กระนั้นก็ไม่ได้กระทบกับรายได้ หรือ ความมั่นคงในการทำงานของผม เพียงแต่ว่า ด้วยตำแหน่งของผมนั้น มันทำให้ตัวเนื้องานเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ทั้งในแง่ปริมาณงาน และ ความยุ่งยากในการทำงาน รวมทั้งตัวงานที่ก่อนมีวิกฤตนั้นก็ไม่ได้ลดลงเลย แถมจะมากขึ้นซะด้วยซ้ำ
มันเลยทำให้ผมเริ่มที่จะบริหารจัดการเวลาไม่ได้ จนไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ผมเริ่มทำงานแบบแแกปัญหาเฉพาะหน้าไปเรื่อย ๆ และ ทำงานที่อยู่ตรงหน้าโดยไม่คิดถึงงานอื่นๆ ที่มีอยู่ เพราะ งานมันเยอะจนไม่สามารถบริหารจัดการได้ ทำได้แค่ทำงานที่อยู่ตรงหน้า และ ทำงานที่มี เดดไลน์ มาถึงก่อนเท่านั้น
อาจะเพราะความเหนื่อยล้าที่สะสมเรื่อย ๆ จนมันมีวันนึงที่ก็มีความคิดว่า ถ้าคืนหลับไปแล้วไม่ต้องตื่นขึ้นมาเลยก็คงดี ช่วงแรกที่เป็นแบบนี้ก็คิดว่าแค่เหนื่อย และนอนซักตื่นก็หาย จนมาช่วงอาทิตย์หลังนี้ จากที่เคยอธิฐานขอกำลัง ขอความชื่นชมยินดี กับกลายเป็นว่า ผมเริ่มขอกับพระเจ้าว่า ขอให้ไม่ต้องตื่นขึ้นมาอีกเลย ขอให้จากโลกนี้ไปเลย เพื่อจะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายกับงานที่วุ่นวายพวกนี้อีก
ผมคิดที่จะไปปรึกษาทั้งพี่เลี้ยง และ อาจารย์ในโบถส์ แต่พอนึกว่าพวกเค้าจะมีปฎิกริยาตอบสนองอย่างไร ก็ทำให้ผมตัดสินใจที่จะเก็บเรืองนี้ไว้กัตัวต่อไป
จนผมรู้สึกแย่มาก ๆ และกไม่รู้ว่าจะต้องจัดการแบบนี้อย่างไรดี เลยขอมาโพสถามในนี้นะครับ อย่างน้อยผมก็คงอาจจะได้ระบายออกมาบ้าง
อธิฐานขอความตายเป็นเรื่องที่ทำได้หรือไม่.
แน่นอนว่า ผมก็พยายามอธิฐานขอฝากภาระปัญหาต่าง ๆ ขอความชื่นชมยินดีจากพระเจ้า แต่ปัญหาหลาย ๆ อย่างมันก็ยังก็ยังไม่ดีขึ้นตามใจเรา
โดยช่วงนี้ ที่ทำงานของผมมีการต้องปรับเปลี่ยนอะไรหลาย ๆ อย่าง แต่กระนั้นก็ไม่ได้กระทบกับรายได้ หรือ ความมั่นคงในการทำงานของผม เพียงแต่ว่า ด้วยตำแหน่งของผมนั้น มันทำให้ตัวเนื้องานเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ทั้งในแง่ปริมาณงาน และ ความยุ่งยากในการทำงาน รวมทั้งตัวงานที่ก่อนมีวิกฤตนั้นก็ไม่ได้ลดลงเลย แถมจะมากขึ้นซะด้วยซ้ำ
มันเลยทำให้ผมเริ่มที่จะบริหารจัดการเวลาไม่ได้ จนไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ผมเริ่มทำงานแบบแแกปัญหาเฉพาะหน้าไปเรื่อย ๆ และ ทำงานที่อยู่ตรงหน้าโดยไม่คิดถึงงานอื่นๆ ที่มีอยู่ เพราะ งานมันเยอะจนไม่สามารถบริหารจัดการได้ ทำได้แค่ทำงานที่อยู่ตรงหน้า และ ทำงานที่มี เดดไลน์ มาถึงก่อนเท่านั้น
อาจะเพราะความเหนื่อยล้าที่สะสมเรื่อย ๆ จนมันมีวันนึงที่ก็มีความคิดว่า ถ้าคืนหลับไปแล้วไม่ต้องตื่นขึ้นมาเลยก็คงดี ช่วงแรกที่เป็นแบบนี้ก็คิดว่าแค่เหนื่อย และนอนซักตื่นก็หาย จนมาช่วงอาทิตย์หลังนี้ จากที่เคยอธิฐานขอกำลัง ขอความชื่นชมยินดี กับกลายเป็นว่า ผมเริ่มขอกับพระเจ้าว่า ขอให้ไม่ต้องตื่นขึ้นมาอีกเลย ขอให้จากโลกนี้ไปเลย เพื่อจะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายกับงานที่วุ่นวายพวกนี้อีก
ผมคิดที่จะไปปรึกษาทั้งพี่เลี้ยง และ อาจารย์ในโบถส์ แต่พอนึกว่าพวกเค้าจะมีปฎิกริยาตอบสนองอย่างไร ก็ทำให้ผมตัดสินใจที่จะเก็บเรืองนี้ไว้กัตัวต่อไป
จนผมรู้สึกแย่มาก ๆ และกไม่รู้ว่าจะต้องจัดการแบบนี้อย่างไรดี เลยขอมาโพสถามในนี้นะครับ อย่างน้อยผมก็คงอาจจะได้ระบายออกมาบ้าง