หน้าฝนแล้ว บ้านก็ยังร้อน ! ทำอย่างไรให้ บ้านเย็นสบาย?

อย่างที่รู้กันว่าประเทศไทยปัจจุบันนี้มี 3 ฤดู คือ ร้อน ร้อนมาก และร้อนนนนนนที่สุด ยิ่งดูเหมือนทุกวันนี้อุณหภูมิความร้อนจะสูงปรี๊ดขึ้นทุกวัน บ้านที่เคยอยู่สบายๆ ก็เริ่มกลายเป็นเตาอบมนุษย์ ครั้นจะเปิดแอร์สู้ร้อนทั้งวัน ก็เกรงว่าจะหัวร้อนตอนสิ้นเดือนเพราะบิลค่าไฟ ยิปรอค ยิปซัมกูรู มีเคล็ดไม่ลับดีๆ มาฝากเพื่อรับมือกับหน้าร้อนนี้ได้อย่างเย็นกาย สบายใจกัน หรือใครมีเคล็ดลับดีๆ ในทำให้บ้านเย็นขึ้น ลดค่าแอร์ ประหยัดค่าแอร์ มาแชร์หรือเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ 
เพี้ยนร้อน
ก่อนจะไปถึงประเด็น ฮาวทูทำให้บ้านของเราเย็นขึ้น รู้หรือไม่ว่า ในด้านของการใช้พลังงานเพื่อสร้างสภาวะอากาศที่เย็นมีค่าใช้จ่ายแพงและสูงกว่าถึง 2.5 เท่าเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายในการผลิตความร้อน โอ้ววว ถ้าอย่างนั้น เรามาช่วยระดมสมองหาวิธีคลายร้อนทำให้บ้านของเราเย็นสบายกันดีกว่าครับ


1. ติดผ้าม่านกันแสง หรือผ้าม่านลดแสงยูวี
แนะนำผ้าม่านกันแสง หรือผ้าม่านลดแสงยูวี ที่มีส่วนผสมของเส้นใยโพลีเอสเตอร์ ซึ่งมีคุณสมบัติสามารถคงสภาพได้ดี ยืดหยุ่น ไม่ยับง่าย แต่อากาศจะไหลผ่านเข้าออกได้ดี สามารถทนความร้อนได้ดี ซึ่งเหมาะกับหน้าต่างด้านทิศใต้ และตะวันตก ส่วนหน้าต่าง ด้านทิศเหนือ และทิศตะวันออก เลือกใช้ม่านแบบโปร่งแสง เนื้อบาง สีอ่อนได้ครับ ที่สำคัญเราควรเลือกผ้าม่านที่มีเนื้อผ้าบางเพื่อให้ลมพัดผ่านได้ดี ยิ่งผ้าม่านสีอ่อนห้องก็จะไม่ร้อน เพราะจะไม่ดูดความร้อนเท่ากับผ้าม่านสีเข้มครับ 

2.เปลี่ยนหลอดไฟธรรมดาให้เป็นหลอด LED
เปลี่ยนมาใช้หลอด LED กันดีกว่าครับ เพราะหลอดไฟ LED จะปล่อยพลังงานความร้อนออกมาน้อยกว่าหลอดชนิดอื่น แสงดูเย็นสบายตา กว่าหลอดฟลูออเรสเซนต์ทั่วไปได้ ทำให้ประหยัดค่าไฟ มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า และช่วยให้เครื่องปรับอากาศทำงานเบาลงด้วย

3.ปลูกต้นไม้ภายในบ้าน
ต้นไม้ แอร์จากธรรมชาติที่ดีที่สุดที่ช่วยสร้างความเย็นให้กับร่างกายและจิตใจ แบ่งพื้นที่ในบริเวณบ้านซักนิดปลูกต้นไม้ในร่มที่สามารถช่วยดูดสารพิษ เปลี่ยนอากาศเสียในบ้านให้เป็นอากาศสะอาดและบริสุทธิ์ ตัวอย่างเช่น ต้นยางอินเดีย ลิ้นมังกร พลูด่าง ว่านหางจระเข้ ส่วนภายนอกบ้านแนะนำให้มีพื้นคอนกรีตน้อยที่สุด และเพิ่มพื้นที่ปลูกต้นไม้ใบเขียวรอบๆ บ้าน ก็จะช่วยให้บ้านเย็นขึ้น 

4.เปิดหน้าต่าง ประตูห้อง เพื่อรับอากาศ
ในช่วงเวลาของฤดูร้อนในบางพื้นที่อากาศจะเย็นลงในช่วงเวลากลางคืน ฉะนั้นจึงสามารถเปิดหน้าต่างรับลมเย็นก่อนเข้านอนเพื่อถ่ายเทอากาศร้อนที่สะสมมาในช่วงเวลากลางวันออกไปได้ 

5.หลีกเลี่ยงการใช้พรม หรือขนสัตว์
พื้นที่ปูด้วยไม้หรือกระเบื้องจะทำให้บ้านเย็นกว่าพรมหรือขนสัตว์หนาๆ เพราะเป็นตัวการกักเก็บความร้อนเอาไว้ในบ้าน  แถมยังทำความสะอาดง่าย ไม่เป็นที่หมักหมมของฝุ่นผงที่ฝังอยู่ในพรม หรือขนสัตว์ด้วยครับ

6.ทาสีผนังห้องด้วยสีโทนเย็น
แน่นอนครับสีมีผลกับความร้อนเย็นในบ้าน รวมไปถึงความสบายของสายตา แนะนำให้ทาสีห้องด้วยโทนสีสว่างๆ ที่ดูเย็นสบายตา อย่าง สีขาว  สีครีม สีมุกสีเขียว สีฟ้า 

7.ข้อนี้สำคัญนะครับเพราะมีเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ห้องของเราเย็นได้มมากโดยการติดตั้งฝ้าเพดานและผนัง องกันความร้อนให้กับห้อง โดยเลือกตามระดับความเย็นที่ต้องการ และที่สำคัญตามงบในกระเป๋าของเรา  
***ที่สำคัญถ้าเรามีผนังเดิมอยู่แล้วสามารถ เพิ่มผนังกันความร้อนจากผนังเดิมได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โดยไม่ต้องทุบหรือรื้อผนังเดิมออกเลยครับ

ideaผนังทิศตะวันตก ทิศใต้ หรือฝ้าชั้นบนสุด ที่ต้องการกันความร้อนแบบสูงสุด ระดับ A+ : แนะนำให้ติดตั้งแผ่นยิปซัมบุฉนวนโฟมที่มีคุณสมบัติกันความร้อนได้สูงสุด  ซึ่งแผ่นยิปซัมบางรุ่นมีคุณสมบัติกันความร้อนและประหยัดไฟได้ถึง 69% เลยนะครับ

ideaผนังทิศตะวันตก ทิศใต้ หรือฝ้าชั้นบนสุด ที่ต้องการกันความร้อน ระดับเกรด A และกันเสียงไปด้วย  : ควรติดตั้งฝ้าเพดานแบบฝ้าฉาบเรียบ ด้วยแผ่นยิปซัม และใส่ฉนวนกันความร้อนประเภทไฟเบอร์กลาสคุณภาพสูง ซึ่งสามารถทนต่อสภาวะความร้อนและอุณหภูมิสูงในอาคารได้เป็นอย่างดี

ideaฝ้าชั้นบนสุด ใต้หลังคา ห้องที่ต้องการลดความร้อนภายในบ้าน หรือมีงบประมาณไม่สูงมาก : แนะนำติดตั้งฝ้าเพดานแบบฝ้าฉาบเรียบพร้อมใช้แผ่นยิปซัมชนิดสะท้อนความร้อน บุอลูมิเนียม ฟอยล์ ซึ่งลองหารุ่นแผ่นยิปซัมที่เชื่อถือได้ มีคุณภาพ สามารถสะท้อนรังสีและความร้อนแบบเปอร์เซ็นต์สูงๆ นะครับ 

ทั้งหมดนี้ คือ เคล็ดที่ไม่ลับและดีๆ ที่ทำให้บ้านเย็นได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเครื่องปรับอากาศทั้งวันอีกต่อไป และยังช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะเลย ที่สำคัญลงทุนวันนี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้ด้วยนะครับ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่