ตอนนี้ เป็นตอนที่ผมอยากเขียนดีๆเป็นพิเศษเลยล่ะครับ เพราะประทับใจมาก
ออกมาอาจจะยาวหน่อยนะครับ
เริ่มตอนมาด้วย ย้อนความ เซนคู/ไทจู สมัยเด็ก กำลังทำโปรเจคจรวดกันอยู่
ไทจูแต่เปิดหนังสือก็สมองไหม้ พอเซนคูทำให้ดูว่า ดูในเนตก็ได้ ก็รู้สึกดีขึ้นมานิดนึง
ก่อนจะพบว่า ข้อมูลในเนตก็เป็นภาษาอังกฤษล้วนๆ ฮ่าๆ
แต่ทั้งนี้เซนคูก็ออกตัวว่าเขาไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษ แต่การจะรวบรวมข้อมูลนั้น ต้องใช้เปเปอร์พวกนี้เท่านั้น
เขาก็เลยเปิดดิคแต่งประโยคเอา โดยเขาใช้วิธี ส่งอีเมล์สแปมสิ่งที่ต้องการถาม ไปหาผู้เชี่ยวชาญต่างๆทั่วโลกนั้นเอง
ตัดมาที่นาซ่า สหรัฐอเมริกา
พวกนักวิทย์กำลังคิดว่า เด็กที่ส่งอีเมล์มาถามเรื่องวิทยาศาสตร์ ช่างน่ารักจริงๆ
เช่นถามว่า "ทำไมท้องฟ้าถึงสีฟ้าอะคะ ทั้งที่อวกาศเป็นสีดำ"
แต่หลังจากนั้นก็มีเมล์จากเด็กญี่ปุ่นส่งเข้ามา
เนื้อหาในเมล์(คร่าวๆ)
"สำหรับโปรเจคจรวดของผม ผมได้เริ่มจากการทำสิ่งบ้าๆ เช่น แยกส่วนระบบเทอร์โบของรถยนต์เพื่อหวังจะนำมันมาใช้ แต่ผมก็ยังเจออุปสรรคมากมาย
อย่างแรกคือกระบอกเผาเชื้อเพลิงแบบแกว่ง ซึ่งภายหลังผมก็รู้ว่าวิธีการวัดค่าของผมมันมีปัญหา ทำให้ กระบอกแบบกำหนดความถี่เองของผมใช้งานไม่ได้ แต่ทั้งนี้ผมใช้คอมพิวเตอร์มาจำลองช่วยจนลด error ได้ +-7% แต่ก็ยังไม่เพียงพอ...."
นอกจากนี้จดหมายก็ยังพูดถึงเรื่องวัสดุไม่ทนความร้อนเพียงพอและ บลาๆ ซึ่งทำเอาเหล่านักวิทยาศาสตร์มามุงดูกันใหญ่เลย
แต่พอถึงท้ายจดหมายพูดถึงการใช้ ID ของเบียคุยะลักลอบเข้ามาเอาข้อมูลของนาซ่า ทุกคนก็เริ่มคิดไม่อยากยุ่งกับเด็กอันตราย 555
แต่ในขณะนั้นก็มีคนหนึ่งที่มองแล้วยิ้มอยู่ห่างๆ "ด๊อคเตอร์เซโน่"
เซโน่ตอบจดหมาย ใช้ชื่อ Dr.X และอธิบายว่า เครื่องวัดที่เซนคูมี มันไม่ดีพอ และยังแนะนำชนิดที่ควรซื้อด้วย
ซึ่งพอไปเสิจราคาแล้วก็พบว่าราคาสูงถึง 5 แสนเยน (ราว 150000 บาท)
ทำให้เซนคูรีบนั่งเครื่องบินไปหาเบียคุยะ
เบียคุยะกำลังดีใจว่าลูกคิดถึง แต่เปล่า... เซนคูต้องการ "บัตรวิเศษของนักบินอวกาศ" ที่ทำให้รูดซื้ออุปกรณ์แพงๆได้นั่นเอง
และเซนคูยังบอกอีกด้วยว่าจะเจอกันอีกทีตอนวงเงินเต็ม (ไอ้เด็กนี่มัน...)
เซนคูกลับมาถึงก็ซื้ออุปกรณ์มาเป็นล้าน และโปรเจคของเขาก็คืบหน้าขึ้นเรื่อยๆ โดยมีเซโน่ให้คำปรึกษา
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พิเศษมาก แต่ทว่าวันหนึ่ง จุดแตกหัก..
เซโน่ : วิทยาศาสตร์คือพลัง ที่ชั้นจะใช้สยบพวกโง่เง่าที่โง่กว่าชั้นทั้งหมด
เซนคู : ม่ายอะ ผมแค่อยากรู้ อยากรู้ ทุกอย่าง แค่นั้นเอง
นอกจากนี้เซโน่ยังได้คุยกับเบียคุยะและคนอื่นๆว่า ถ้าโลกนี้ย้อนไปเป็นยุคหิน
เขาจะใช้พลังวิทยาศาสตร์ ไต่ขึ้นมาปกครองมนุษย์ที่เหลือเอง
ในขณะที่เซนคูโตขึ้นเรื่อยๆ และศึกษาพวกยา เพราะคิดว่ามันโหลดไปกับจรวดได้ (ยาที่รักษารูริ)
นอกจากนี้เซนคูยังไปอาฟริกาเพื่อทำโปรเจคบางอย่างกับนักวิทย์ที่นั่นด้วย
สุดท้ายเซนคูนำบัตรมาคืนเบียคุยะ และได้เจอกับเซโน่
ทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรแต่ยิ้มกับตัวเอง
สุดยอดนักวิทยาศาสตร์ทั้งสองที่แตกต่างกันทางความคิด
ดูแล้วเซนคูก็ชอบเซโน่มากๆ แต่ อุดมการณ์ไปด้วยกันไม่ได้
จบตอน
Dr. Stone 156 นักวิทยาศาสตร์ทั้งสอง
ออกมาอาจจะยาวหน่อยนะครับ
เริ่มตอนมาด้วย ย้อนความ เซนคู/ไทจู สมัยเด็ก กำลังทำโปรเจคจรวดกันอยู่
ไทจูแต่เปิดหนังสือก็สมองไหม้ พอเซนคูทำให้ดูว่า ดูในเนตก็ได้ ก็รู้สึกดีขึ้นมานิดนึง
ก่อนจะพบว่า ข้อมูลในเนตก็เป็นภาษาอังกฤษล้วนๆ ฮ่าๆ
แต่ทั้งนี้เซนคูก็ออกตัวว่าเขาไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษ แต่การจะรวบรวมข้อมูลนั้น ต้องใช้เปเปอร์พวกนี้เท่านั้น
เขาก็เลยเปิดดิคแต่งประโยคเอา โดยเขาใช้วิธี ส่งอีเมล์สแปมสิ่งที่ต้องการถาม ไปหาผู้เชี่ยวชาญต่างๆทั่วโลกนั้นเอง
ตัดมาที่นาซ่า สหรัฐอเมริกา
พวกนักวิทย์กำลังคิดว่า เด็กที่ส่งอีเมล์มาถามเรื่องวิทยาศาสตร์ ช่างน่ารักจริงๆ
เช่นถามว่า "ทำไมท้องฟ้าถึงสีฟ้าอะคะ ทั้งที่อวกาศเป็นสีดำ"
แต่หลังจากนั้นก็มีเมล์จากเด็กญี่ปุ่นส่งเข้ามา
เนื้อหาในเมล์(คร่าวๆ)
"สำหรับโปรเจคจรวดของผม ผมได้เริ่มจากการทำสิ่งบ้าๆ เช่น แยกส่วนระบบเทอร์โบของรถยนต์เพื่อหวังจะนำมันมาใช้ แต่ผมก็ยังเจออุปสรรคมากมาย
อย่างแรกคือกระบอกเผาเชื้อเพลิงแบบแกว่ง ซึ่งภายหลังผมก็รู้ว่าวิธีการวัดค่าของผมมันมีปัญหา ทำให้ กระบอกแบบกำหนดความถี่เองของผมใช้งานไม่ได้ แต่ทั้งนี้ผมใช้คอมพิวเตอร์มาจำลองช่วยจนลด error ได้ +-7% แต่ก็ยังไม่เพียงพอ...."
นอกจากนี้จดหมายก็ยังพูดถึงเรื่องวัสดุไม่ทนความร้อนเพียงพอและ บลาๆ ซึ่งทำเอาเหล่านักวิทยาศาสตร์มามุงดูกันใหญ่เลย
แต่พอถึงท้ายจดหมายพูดถึงการใช้ ID ของเบียคุยะลักลอบเข้ามาเอาข้อมูลของนาซ่า ทุกคนก็เริ่มคิดไม่อยากยุ่งกับเด็กอันตราย 555
แต่ในขณะนั้นก็มีคนหนึ่งที่มองแล้วยิ้มอยู่ห่างๆ "ด๊อคเตอร์เซโน่"
เซโน่ตอบจดหมาย ใช้ชื่อ Dr.X และอธิบายว่า เครื่องวัดที่เซนคูมี มันไม่ดีพอ และยังแนะนำชนิดที่ควรซื้อด้วย
ซึ่งพอไปเสิจราคาแล้วก็พบว่าราคาสูงถึง 5 แสนเยน (ราว 150000 บาท)
ทำให้เซนคูรีบนั่งเครื่องบินไปหาเบียคุยะ
เบียคุยะกำลังดีใจว่าลูกคิดถึง แต่เปล่า... เซนคูต้องการ "บัตรวิเศษของนักบินอวกาศ" ที่ทำให้รูดซื้ออุปกรณ์แพงๆได้นั่นเอง
และเซนคูยังบอกอีกด้วยว่าจะเจอกันอีกทีตอนวงเงินเต็ม (ไอ้เด็กนี่มัน...)
เซนคูกลับมาถึงก็ซื้ออุปกรณ์มาเป็นล้าน และโปรเจคของเขาก็คืบหน้าขึ้นเรื่อยๆ โดยมีเซโน่ให้คำปรึกษา
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พิเศษมาก แต่ทว่าวันหนึ่ง จุดแตกหัก..
เซโน่ : วิทยาศาสตร์คือพลัง ที่ชั้นจะใช้สยบพวกโง่เง่าที่โง่กว่าชั้นทั้งหมด
เซนคู : ม่ายอะ ผมแค่อยากรู้ อยากรู้ ทุกอย่าง แค่นั้นเอง
นอกจากนี้เซโน่ยังได้คุยกับเบียคุยะและคนอื่นๆว่า ถ้าโลกนี้ย้อนไปเป็นยุคหิน
เขาจะใช้พลังวิทยาศาสตร์ ไต่ขึ้นมาปกครองมนุษย์ที่เหลือเอง
ในขณะที่เซนคูโตขึ้นเรื่อยๆ และศึกษาพวกยา เพราะคิดว่ามันโหลดไปกับจรวดได้ (ยาที่รักษารูริ)
นอกจากนี้เซนคูยังไปอาฟริกาเพื่อทำโปรเจคบางอย่างกับนักวิทย์ที่นั่นด้วย
สุดท้ายเซนคูนำบัตรมาคืนเบียคุยะ และได้เจอกับเซโน่
ทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรแต่ยิ้มกับตัวเอง
สุดยอดนักวิทยาศาสตร์ทั้งสองที่แตกต่างกันทางความคิด
ดูแล้วเซนคูก็ชอบเซโน่มากๆ แต่ อุดมการณ์ไปด้วยกันไม่ได้
จบตอน