อ้างอิงจากกระทู้แรกเรื่องการวางแผนทริป 100% Pure New Zealand สัมผัสมหัศจรรย์ธรรมชาติแห่งซึกโลกใต้
https://ppantip.com/topic/40001060
วันนี้เราจะออกเดินทางกันแล้ว ในช่วงการเดินทางจาก กทม ไปถึง NZ จะสรุปแบบสั้นๆนะครับ จะได้ไม่เป็นการเสียเวลา
ว่าแล้วก็ไปกันเลย เราเดินทางด้วยเครื่องของ Cathay Pacific Flight CX712 ออกจากสุวรรณภูมิเวลา 16.30 น.
แป้บเดียวเครื่องก็พาเราขึ้นมาอยู่ท่ามกลางท้องฟ้า นานๆครั้งจะเห็นท้องฟ้ากรุงเทพปลอดโปร่ง ไร้เมฆ สีฟ้าสดใสขนาดนี้
จากนั้นเราก็ transfer ที่ Hong Kong เพื่อเปลี่ยนเป็นเครื่อง CX197 บินตรงไปถึง New Zealand
ใช้เวลา 10 ชม 50 นาที เวลาบ่ายโมงนิดๆ เครื่องก็พาเราร่อนลงสู่สนามบิน Auckland
ขนาดเป็นเมืองใหญ่บ้านเมืองเค้ายังมีความเป็นธรรมชาติมากขนาดนี้ น่าอยู่จริงๆ
เข้ามาในสนามบินก็ต้อนรับเราด้วยคู่มือการท่องเที่ยว หลากหลายภาษา หนังสือ Arrival Guide สำคัญมากๆ เพราะข้างในมีคูปองลดราคาสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง ช่วยเราประหยัดตังไปได้เยอะเลย ( ^-^ )
มาถึงด่าน Immigration ที่หลายๆรีวิวร่ำลือกันว่าเข้มงวดมากกับการตรวจค้นกระเป๋าเดินทาง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่นำอาหารและยาเข้ามา เพราะประเทศนี้ระมัดระวังเรื่องการนำเชื้อโรคแปลกปลอมเข้าประเทศมากๆ เราก็ระแวงว่าจะโดนตรวจเหมือนกันเพราะเราก็นำยาติดตัวมาพอสมควร แต่เอาเข้าจริงๆพอมาถึงด่าน เราเจอกับคุณลุงท่าทางใจดีคนนึง ไม่แน่ใจว่าเป็นคนที่ในรีวิวบอกว่าใจดีมากๆรึเปล่า พอเราบอกแกว่ามาฮันนีมูนที่นี่กัน แกก็ยิ้มและปล่อยให้เราผ่านเข้าไปโดยไม่ถามอะไรต่อเลย สรุปว่าประเทศนี้เข้มงวดหรือใจดีกันแน่เนี่ย แต่ที่แน่ๆเราโชคดีตั้งแต่เริ่มเลย
ออกจาก Immigration เราก็เห็นข่อง Domestic Transfer ของ Air New Zealand มาต้อนรับเลย ดูดีสมกับที่เป็นสายการบินประจำชาติ
แต่เราไม่ได้ไปด้วยสายการบินนี้ เราต้อง transfer ไปอีก terminal นึง รู้สึกเหมือนถูกกีดกันยังไงไม่รู้ ^-^
เราก็เลยจำใจต้องมา transfer ไป Terminal 2 ด้วยรถบัสสีเขียวคันนี้
เดินมาจนถึงจุดเช็คอิน คนละอารมณ์กับของ Air NZ เมื่อกี้เลย ดูไม่เป็นสัดส่วน วุ่นวายมากเลย ก็สายการบิน Low Cost อะนะ
แต่จริงๆที่วุ่นวายเพราะเจ้าหน้าที่คอยวิ่งไปมาเพื่อช่วยลูกค้าทำการ Self Check-In
เราก็เลยได้สนุกกับการทำ Self Check-In เป็นครั้งแรกเลย สนุกดีเหมือนกัน อิอิ
เรามาถึงที่ gate ก่อนเวลาประมาณ 20 นาที เลยมีเวลานั่งชมสนามบิน Auckland และเครื่อง Jetstar ที่จะพาเราไป
ถ่ายเครื่อง Air NZ ที่กำลังจะ take off ก่อนหน้าเรา ตกแต่งสีเข้มสไตล์ All Black ดูดุดันจริงๆ
และแล้วก็ได้เวลาบินออกจาก Auckland กันแล้ว ไปก่อนนะ แล้วเดี๋ยวจะกลับมาหาใหม่ขากลับ
เรามาถึงสนามบิน Christchurch เวลา 17.30 น.เป๊ะ ตรงเวลาจริงๆ
มาถึงเห็นเจ้าถิ่น Air NZ เต็มไปหมด ไม่รู้ลำที่ออกมาก่อนเราจะใช่ 1 ใน 2 ลำนี้รึเปล่าน้า
เข้ามาในอาคาร ตกแต่งเรียบง่าย สไตล์โมเดิร์น ต้อนรับเราด้วยรูป Mt. Cook สวยๆ รอหน่อยนะ เราจะไปพิชิตถึงบนยอดกัน
ก่อนออกจากสนามบิน แวะ i SITE เพื่อเก็บข้อมูล แผนที่ และโปรโมชั่น ที่เป็นประโยชน์ต่างๆ
หลังรับรถ เราก็เดินทางเข้าตัวเมือง Christchurch ใช้เวลาประมาณครึ่ง ชม. โดยมีจุดมุ่งหมายคือโรงแรมที่เราจองไว้สำหรับเป็นที่พักเอาแรงในคืนนึ้ เตรียมตัวสำหรับทริปยาวๆที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น
โรงแรมที่เราพักไม่มีที่จอดรถให้ มีแค่ให้จอดรับส่งไม่เกิน 5 นาที เราเลยต้องหาที่จอดรถข้างนอก ต้องเรียนรู้ระบบป้าย
อย่างในรูปแปลว่า เป็นที่จอดรถที่ต้องเสียเงิน แต่ก็จอดได้ไม่เกิน 60 นาที สำหรับเวลาที่กำหนดในป้าย
นอกเหนือจากวันและเวลาดังกล่าว จอดฟรี (ขอบคุณข้อมูลจากคุณ Mrs CheeSeCaKe ครับ)
จอดรถเสร็จต้องจัดกระเป๋าเล็กเอาขึ้นห้อง ก็เป็นประสบการณ์ที่แปลกดี
จุดเด่นของโรงแรมที่เราจองแห่งนี้ คือสามารถมองลงไปเห็น Historical Site ได้จากบนโรงแรมเลย แต่เราจะยังไม่ไปเดินชมในวันนี้
ตอนนี้เป็นเวลาประมาณ 2 ทุ่มครึ่งแล้ว ท้องฟ้าที่นี่ยังไม่มืดเลย เหมือนกับภารกิจของเราในวันนี้ที่ยังไม่จบ
เราจะต้องเตรียมซื้อของกินของใช้ให้พร้อมสำหรับใช้ในการเดินทาง เรามาเลือกซื้อของกันที่ Supermarket ชื่อดัง ซึ่งห่างจากโรงแรมประมาณ 10 นาที
เหมือนรู้ใจ ก้าวแรกที่เดินเข้ามา เราถูกต้อนรับด้วยแผงผลไม้สีสันสดใสน่ากิน
สิ่งแรกที่เราเข้าไปจับก็คือ เชอรี่นั่นเอง เราติดใจการกินเชอรี่ตั้งแต่ที่ออสเตรเลียแล้ว ทริปนี้ตั้งใจมาซื้อกินให้จุใจ
เชอรี่ที่นี่เป็นแบบคัด ลูกใหญ่ ราคาไม่แพงแต่ก็ยังไม่ถูกมาก ซื้อมากินให้หายอยากไว้ก่อน
ผลไม้ที่นี่ล้วนดูน่ากินทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นสตอเบอร์รี่ พลัม แอพริคอต พีช และแน่นอน เนคทารีนของโปรด
ราคาก็ถูกกว่าบ้านเราเยอะ เราซื้อไปชิมอย่างละหน่อย
แล้วก็ถึงคิวของกินทั้งน้ำทั้งขนม จัดกันเต็มๆ เราเน้นแต่ยี่ห้อในประเทศ ซึ่งก็เป็นของคุณภาพดีทั้งนั้น เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปไว้ แต่อันนึงที่ติดใจมากๆคือ Ferrero ลูกยักษ์ ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ลูกละ 14 NZD เห็นแล้วอยากซื้อกลับเป็นของฝากมากๆ กะจะไปหาซื้อตอนวันท้ายๆ แต่ก็หาไม่เจออีกเลย
จากนั้นก็ไปเดินซื้อของใช้ต่างๆ และที่สำคัญคือครีมกันแดด ลืมไม่ได้โดยเด็ดขาด เค้าว่าแดดที่นี่ ครีมจากประเทศไหนก็เอาไม่อยู่ ต้องใช้ของที่นี่เท่านั้น
ตอนจ่ายเงิน เราสามารถสแกนบาร์โค๊ดได้เองและจ่ายเงินเอง แต่ก็มีเจ้าหน้าที่หนุ่มใจดีมาคอยช่วยเหลือ และพอรู้ว่าเราเพิ่งมาถึง ก็เอาบาร์โค๊ดสมาชิกมาให้เราใช้ และให้เราเก็บไว้ใช้ตลอดทั้งทริปเลย คนที่นี่ใจดีจริงๆ ดีใจจัง
Happy Shopping @ New World NZ ^-^
2018 Trip – 100% Pure New Zealand : Day 1&2 เดินทางสู่แดนกีวี เริ่มต้นท่องเที่ยว จากใต้จรดเหนือ 4,000 กม.
https://ppantip.com/topic/40001060
วันนี้เราจะออกเดินทางกันแล้ว ในช่วงการเดินทางจาก กทม ไปถึง NZ จะสรุปแบบสั้นๆนะครับ จะได้ไม่เป็นการเสียเวลา
ว่าแล้วก็ไปกันเลย เราเดินทางด้วยเครื่องของ Cathay Pacific Flight CX712 ออกจากสุวรรณภูมิเวลา 16.30 น.
แป้บเดียวเครื่องก็พาเราขึ้นมาอยู่ท่ามกลางท้องฟ้า นานๆครั้งจะเห็นท้องฟ้ากรุงเทพปลอดโปร่ง ไร้เมฆ สีฟ้าสดใสขนาดนี้
จากนั้นเราก็ transfer ที่ Hong Kong เพื่อเปลี่ยนเป็นเครื่อง CX197 บินตรงไปถึง New Zealand
ใช้เวลา 10 ชม 50 นาที เวลาบ่ายโมงนิดๆ เครื่องก็พาเราร่อนลงสู่สนามบิน Auckland
ขนาดเป็นเมืองใหญ่บ้านเมืองเค้ายังมีความเป็นธรรมชาติมากขนาดนี้ น่าอยู่จริงๆ
เข้ามาในสนามบินก็ต้อนรับเราด้วยคู่มือการท่องเที่ยว หลากหลายภาษา หนังสือ Arrival Guide สำคัญมากๆ เพราะข้างในมีคูปองลดราคาสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง ช่วยเราประหยัดตังไปได้เยอะเลย ( ^-^ )
มาถึงด่าน Immigration ที่หลายๆรีวิวร่ำลือกันว่าเข้มงวดมากกับการตรวจค้นกระเป๋าเดินทาง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่นำอาหารและยาเข้ามา เพราะประเทศนี้ระมัดระวังเรื่องการนำเชื้อโรคแปลกปลอมเข้าประเทศมากๆ เราก็ระแวงว่าจะโดนตรวจเหมือนกันเพราะเราก็นำยาติดตัวมาพอสมควร แต่เอาเข้าจริงๆพอมาถึงด่าน เราเจอกับคุณลุงท่าทางใจดีคนนึง ไม่แน่ใจว่าเป็นคนที่ในรีวิวบอกว่าใจดีมากๆรึเปล่า พอเราบอกแกว่ามาฮันนีมูนที่นี่กัน แกก็ยิ้มและปล่อยให้เราผ่านเข้าไปโดยไม่ถามอะไรต่อเลย สรุปว่าประเทศนี้เข้มงวดหรือใจดีกันแน่เนี่ย แต่ที่แน่ๆเราโชคดีตั้งแต่เริ่มเลย
ออกจาก Immigration เราก็เห็นข่อง Domestic Transfer ของ Air New Zealand มาต้อนรับเลย ดูดีสมกับที่เป็นสายการบินประจำชาติ
แต่เราไม่ได้ไปด้วยสายการบินนี้ เราต้อง transfer ไปอีก terminal นึง รู้สึกเหมือนถูกกีดกันยังไงไม่รู้ ^-^
เราก็เลยจำใจต้องมา transfer ไป Terminal 2 ด้วยรถบัสสีเขียวคันนี้
เดินมาจนถึงจุดเช็คอิน คนละอารมณ์กับของ Air NZ เมื่อกี้เลย ดูไม่เป็นสัดส่วน วุ่นวายมากเลย ก็สายการบิน Low Cost อะนะ
แต่จริงๆที่วุ่นวายเพราะเจ้าหน้าที่คอยวิ่งไปมาเพื่อช่วยลูกค้าทำการ Self Check-In
เราก็เลยได้สนุกกับการทำ Self Check-In เป็นครั้งแรกเลย สนุกดีเหมือนกัน อิอิ
เรามาถึงที่ gate ก่อนเวลาประมาณ 20 นาที เลยมีเวลานั่งชมสนามบิน Auckland และเครื่อง Jetstar ที่จะพาเราไป
ถ่ายเครื่อง Air NZ ที่กำลังจะ take off ก่อนหน้าเรา ตกแต่งสีเข้มสไตล์ All Black ดูดุดันจริงๆ
และแล้วก็ได้เวลาบินออกจาก Auckland กันแล้ว ไปก่อนนะ แล้วเดี๋ยวจะกลับมาหาใหม่ขากลับ
เรามาถึงสนามบิน Christchurch เวลา 17.30 น.เป๊ะ ตรงเวลาจริงๆ
มาถึงเห็นเจ้าถิ่น Air NZ เต็มไปหมด ไม่รู้ลำที่ออกมาก่อนเราจะใช่ 1 ใน 2 ลำนี้รึเปล่าน้า
เข้ามาในอาคาร ตกแต่งเรียบง่าย สไตล์โมเดิร์น ต้อนรับเราด้วยรูป Mt. Cook สวยๆ รอหน่อยนะ เราจะไปพิชิตถึงบนยอดกัน
ก่อนออกจากสนามบิน แวะ i SITE เพื่อเก็บข้อมูล แผนที่ และโปรโมชั่น ที่เป็นประโยชน์ต่างๆ
หลังรับรถ เราก็เดินทางเข้าตัวเมือง Christchurch ใช้เวลาประมาณครึ่ง ชม. โดยมีจุดมุ่งหมายคือโรงแรมที่เราจองไว้สำหรับเป็นที่พักเอาแรงในคืนนึ้ เตรียมตัวสำหรับทริปยาวๆที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น
โรงแรมที่เราพักไม่มีที่จอดรถให้ มีแค่ให้จอดรับส่งไม่เกิน 5 นาที เราเลยต้องหาที่จอดรถข้างนอก ต้องเรียนรู้ระบบป้าย
อย่างในรูปแปลว่า เป็นที่จอดรถที่ต้องเสียเงิน แต่ก็จอดได้ไม่เกิน 60 นาที สำหรับเวลาที่กำหนดในป้าย
นอกเหนือจากวันและเวลาดังกล่าว จอดฟรี (ขอบคุณข้อมูลจากคุณ Mrs CheeSeCaKe ครับ)
จอดรถเสร็จต้องจัดกระเป๋าเล็กเอาขึ้นห้อง ก็เป็นประสบการณ์ที่แปลกดี
จุดเด่นของโรงแรมที่เราจองแห่งนี้ คือสามารถมองลงไปเห็น Historical Site ได้จากบนโรงแรมเลย แต่เราจะยังไม่ไปเดินชมในวันนี้
ตอนนี้เป็นเวลาประมาณ 2 ทุ่มครึ่งแล้ว ท้องฟ้าที่นี่ยังไม่มืดเลย เหมือนกับภารกิจของเราในวันนี้ที่ยังไม่จบ
เราจะต้องเตรียมซื้อของกินของใช้ให้พร้อมสำหรับใช้ในการเดินทาง เรามาเลือกซื้อของกันที่ Supermarket ชื่อดัง ซึ่งห่างจากโรงแรมประมาณ 10 นาที
เหมือนรู้ใจ ก้าวแรกที่เดินเข้ามา เราถูกต้อนรับด้วยแผงผลไม้สีสันสดใสน่ากิน
สิ่งแรกที่เราเข้าไปจับก็คือ เชอรี่นั่นเอง เราติดใจการกินเชอรี่ตั้งแต่ที่ออสเตรเลียแล้ว ทริปนี้ตั้งใจมาซื้อกินให้จุใจ
เชอรี่ที่นี่เป็นแบบคัด ลูกใหญ่ ราคาไม่แพงแต่ก็ยังไม่ถูกมาก ซื้อมากินให้หายอยากไว้ก่อน
ผลไม้ที่นี่ล้วนดูน่ากินทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นสตอเบอร์รี่ พลัม แอพริคอต พีช และแน่นอน เนคทารีนของโปรด
ราคาก็ถูกกว่าบ้านเราเยอะ เราซื้อไปชิมอย่างละหน่อย
แล้วก็ถึงคิวของกินทั้งน้ำทั้งขนม จัดกันเต็มๆ เราเน้นแต่ยี่ห้อในประเทศ ซึ่งก็เป็นของคุณภาพดีทั้งนั้น เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปไว้ แต่อันนึงที่ติดใจมากๆคือ Ferrero ลูกยักษ์ ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ลูกละ 14 NZD เห็นแล้วอยากซื้อกลับเป็นของฝากมากๆ กะจะไปหาซื้อตอนวันท้ายๆ แต่ก็หาไม่เจออีกเลย
จากนั้นก็ไปเดินซื้อของใช้ต่างๆ และที่สำคัญคือครีมกันแดด ลืมไม่ได้โดยเด็ดขาด เค้าว่าแดดที่นี่ ครีมจากประเทศไหนก็เอาไม่อยู่ ต้องใช้ของที่นี่เท่านั้น
ตอนจ่ายเงิน เราสามารถสแกนบาร์โค๊ดได้เองและจ่ายเงินเอง แต่ก็มีเจ้าหน้าที่หนุ่มใจดีมาคอยช่วยเหลือ และพอรู้ว่าเราเพิ่งมาถึง ก็เอาบาร์โค๊ดสมาชิกมาให้เราใช้ และให้เราเก็บไว้ใช้ตลอดทั้งทริปเลย คนที่นี่ใจดีจริงๆ ดีใจจัง
Happy Shopping @ New World NZ ^-^