คุณภาส พัฒนกำจร ผู้กำกับซีรีส์เรื่อง The Underclass ห้องนี้ไม่มีห่วยได้เล่าถึงเหตุผลที่เลือกน้องมิวนิคมาเล่นซีรีส์เรื่องนี้ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว
CASTING : MEWNICH
ตอนแคสรอบแรกนั้น เราก็เคยวางสิคให้เป็นแพงเหมือนกัน เพราะดูผิวเผินเราจะนึกว่าน้องเรียบร้อย คงแก่เรียนสไตล์เด็กห้อง A แต่พอลองแคสดูเราก็ว่าสิคก็ทำได้ดีนะตอนแคสเป็นแพง แต่ยังไม่ใช่แพงแบบในหัวเราเท่าไหร่ ซึ่งเรื่องที่ว่าสิคกลายมาเป็นมีนได้ยังไงเดี๋ยวไว้ว่ากันคราวหลัง คราวนี้จะมาพูดถึงมิวนิคกัน
เนื่องจากแคสหนแรก น้องในวงที่ไปเล่น Oneyear นั้นติด One year ไปอยู่ ซึ่งในแคสรอบแรกก็มีน้องคนหนึ่งที่เราวางไว้เป็นแพง แต่พอโปรเจ็คโดนพัก (ซึ่งเป็น่ชวงที่เสียวมากว่าโปรเจ็คจะถูกยุบไม่ยุบ) ผ่านไปเกือบ 7 เดือนถึงจะกลับมาไฟเขียวต่อ เนื่องจากเวลาที่เว้นไปนานก็มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องตารางงานของเมมเบอร์แต่ละคน ทำให้เราต้องหาแพงคนใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องปกติมากครับสำหรับการแคส ไม่ว่าจะหนัง ซีรีส์ หรือละคร การเปลี่ยนไปมาถือเป็นเรื่องปกติ และผมก็คงขอไม่พูดอ้างอิงถึงเมมเบอร์คนอื่นที่ไม่ได้เล่นเรื่องนี้ครับ ได้โปรดให้เกียรติทีมงานและน้องทุกคนกันด้วยนะครับ
พอแคสรอบสอง ตอนนี้เราสามารถเลือกน้องที่เล่น One year มาแคสได้แล้ว ทางเราก็ลองเรียกน้องมิวนิคมา ซึ่งสารภาพตรงๆว่าก่อนจะเรียกน้องมาแคสเราไม่ได้ทำการบ้านมาท่าไหร่ว่ามิวนิคนั้นผ่านงานอะไรมาบ้าง รู้แค่น้องไปเล่นหนังพี่ปรัช(กระสือสยาม)ซึ่งตอนนั้นเรายังไม่ได้ดูและซีรีส์ one year มา และเราก็มารู้ทีหลังว่าน้องผ่านงานแสดงละครมาเยอะตั้งแต่เด็ก พี่ตุ่นที่เป็นโปรดัคชั่นดีไซน์เนอร์ของเรื่องนี้ก็มาบอกในคิวกลางๆว่าแกจำมิวนิคได้และเคยร่วมงานละครกันมาก่อนตอนน้องยังเด็ก แม้แต่พี่สวัสดิการก็บอกว่าจำน้องได้จากละครเรื่องนึง ที่ตลกก็คือมีวันหนึ่งที่เรานั่งดูหนังไทยเก่าเรื่องหนึ่งแล้วเห็นเด็กคนนึงหน้าคุ้นๆ พอเปิดวิกิดู อ้าว เห้ย มิวนิคนี่นา ผ่านไปหลายคิวเราถึงเพิ่งจะรู้ในบรรดานักแสดงทั้งหมด มิวนิคนั้นมีประสบการณ์การแสดงมากสุดอย่างไม่ต้องสงสัย (ไม่ทำการบ้านตั้งแต่ต้นเอง ภาส 555)
กลับมาที่ตอนแคส พอลองแคสปุ๊ป ก็พบว่าน้องมีความใกล้เคียงกับแพงในหัวเราที่สุด อาจเพราะแพงกับน้องมีอะไรหลายๆอย่างคล้ายๆกันด้วย และน้องเองมีทักษะที่แข็งแรงอยู่แล้ว เนืองจากผ่านงานละครมาทำให้น้องรับมือกับซีนดราม่าได้ดี ซึ่งบทแพงนั้นค่อนข้างดรามาติกสูง มือสมัครเล่นจะเล่นได้ยาก ซึ่งประสบการณ์ที่ผ่านมาของน้องมันก็แสดงออกมาให้เห็นทางการแสดงจริงๆ ทำให้เราตัดสินใจได้ไม่อยาก และพอวางรูปมิวนิค(แพง)กับมิวสิค(มีน)คู่กัน เราว่ามันเวิร์ค คือขอเล่าให้ฟังหน่อยว่าการแคสนั้นเราจะมองที่ตัวบุคคลเดี่ยวๆไม่ได้ด้วยครับ เราต้องมองว่าใครคู่กับใครแล้วมันเข้าไหม ยิ่งกลุ่มเพื่อนเรายิ่งต้องจับรูปมาวางเรียงๆกันเพื่อดูความเหมาะสม ในกลุ่มนั้นมีความหลากหลายและดูเข้ากันไหม ถ้าเลือกหน้าไทป์เดียวกันหมดคนดูก็จะแยกตัวละครไม่ออก
ตอนแรกมิวนิคก็ไม่มั่นใจว่าตัวเองถูกเลือกมารับบทนี้เพราะเราถูกทางต้นสังกัดบีบให้เลือกน้องมาหรือเปล่า เพราะวันที่แคสมิวนิคคุณต้อมก็เข้ามาดูด้วย น้องมาบอกทีหลังว่าวันนั้นกดดันมาก (ตอนนั้นพี่เองก็กดดันเหมือนกันแหละน้องเอ๊ย 5555) เราจึงบอกไปว่าไม่มีใครบังคับให้เราเลือกว่าใครต้องเล่นบทไหน เราเลือกด้วยตัวเองเพราะเชื่อว่าน้องจะทำได้ จริงๆมานึกย้อนดูในข้อจำกัดมากมายของโปรดัคชั่น(หนักที่สุดคือเวลา) เราโชคดีมากที่ได้มิวนิคมาเล่นเป็นแพง เพราะน้องรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองได้ดี ทำการบ้านเรื่องบทมา ตั้งใจ มีสมาธิ น้อยครั้งมากที่น้องจะพูดบทผิด สามารถเป็นเดอะแบกได้เพราะหากนักแสดงตัวเอกทำหน้าที่ตัวเองได้ดี จะส่งผลต่อขวัญกำลังใจทีมงานทุกคนมากๆเพราะงานมันจะ flow และมันช่วยให้ทุกคนอยากช่วยกันทำให้งานออกมาได้ดี ในคิวสุดท้ายเราก็บอกน้องไปว่าที่สามารถถ่ายจนเสร็จได้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะได้มิวนิคมาเล่น ไม่ใช่แค่เราที่คิดอย่างนี้ ทั้งโปรดิวซ์เซอร์ ผู้ช่วย ตากล้องและฝ่ายอื่นๆก็คิดแบบนี้เช่นกัน น้องยิ้มกว้างและบอกว่าได้ยินแล้วหายเหนื่อยเลย (เพราะช่วงที่ถ่ายนั้นเมมเบอร์ทุกคนเหนื่อยกันมาก ทั้งเรียน งานในวง คอนเสิร์ต ถ่ายซีรีส์)
ไว้พอซีรีส์เริ่มฉายไปซักพัก ให้คนดูเริ่มรู้จักตัวแพงก่อน จะมาเล่าเรื่องราวของมิวนิคกับการเล่นเป็นแพงอีกทีครับ
สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นครับ เขียนมาเยอะแต่ถ้าไม่เห็นด้วยตาก็เปล่าประโยชน์ มาพิสูจน์การแสดงของน้องได้ในวันที่ 5 กรฏกาคมนี้ครับ #TheUnderclassTH
Cr. Facebook - Pass Patthanakumjon
ที่มาของโพสต์ :
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=3004580326262670&set=a.113383028715762&type=3&theater
ผู้กำกับ The Underclass เล่าถึงเหตุผลที่เลือก "มิวนิค" มารับบท "แพง"
CASTING : MEWNICH
ตอนแคสรอบแรกนั้น เราก็เคยวางสิคให้เป็นแพงเหมือนกัน เพราะดูผิวเผินเราจะนึกว่าน้องเรียบร้อย คงแก่เรียนสไตล์เด็กห้อง A แต่พอลองแคสดูเราก็ว่าสิคก็ทำได้ดีนะตอนแคสเป็นแพง แต่ยังไม่ใช่แพงแบบในหัวเราเท่าไหร่ ซึ่งเรื่องที่ว่าสิคกลายมาเป็นมีนได้ยังไงเดี๋ยวไว้ว่ากันคราวหลัง คราวนี้จะมาพูดถึงมิวนิคกัน
เนื่องจากแคสหนแรก น้องในวงที่ไปเล่น Oneyear นั้นติด One year ไปอยู่ ซึ่งในแคสรอบแรกก็มีน้องคนหนึ่งที่เราวางไว้เป็นแพง แต่พอโปรเจ็คโดนพัก (ซึ่งเป็น่ชวงที่เสียวมากว่าโปรเจ็คจะถูกยุบไม่ยุบ) ผ่านไปเกือบ 7 เดือนถึงจะกลับมาไฟเขียวต่อ เนื่องจากเวลาที่เว้นไปนานก็มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องตารางงานของเมมเบอร์แต่ละคน ทำให้เราต้องหาแพงคนใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องปกติมากครับสำหรับการแคส ไม่ว่าจะหนัง ซีรีส์ หรือละคร การเปลี่ยนไปมาถือเป็นเรื่องปกติ และผมก็คงขอไม่พูดอ้างอิงถึงเมมเบอร์คนอื่นที่ไม่ได้เล่นเรื่องนี้ครับ ได้โปรดให้เกียรติทีมงานและน้องทุกคนกันด้วยนะครับ
พอแคสรอบสอง ตอนนี้เราสามารถเลือกน้องที่เล่น One year มาแคสได้แล้ว ทางเราก็ลองเรียกน้องมิวนิคมา ซึ่งสารภาพตรงๆว่าก่อนจะเรียกน้องมาแคสเราไม่ได้ทำการบ้านมาท่าไหร่ว่ามิวนิคนั้นผ่านงานอะไรมาบ้าง รู้แค่น้องไปเล่นหนังพี่ปรัช(กระสือสยาม)ซึ่งตอนนั้นเรายังไม่ได้ดูและซีรีส์ one year มา และเราก็มารู้ทีหลังว่าน้องผ่านงานแสดงละครมาเยอะตั้งแต่เด็ก พี่ตุ่นที่เป็นโปรดัคชั่นดีไซน์เนอร์ของเรื่องนี้ก็มาบอกในคิวกลางๆว่าแกจำมิวนิคได้และเคยร่วมงานละครกันมาก่อนตอนน้องยังเด็ก แม้แต่พี่สวัสดิการก็บอกว่าจำน้องได้จากละครเรื่องนึง ที่ตลกก็คือมีวันหนึ่งที่เรานั่งดูหนังไทยเก่าเรื่องหนึ่งแล้วเห็นเด็กคนนึงหน้าคุ้นๆ พอเปิดวิกิดู อ้าว เห้ย มิวนิคนี่นา ผ่านไปหลายคิวเราถึงเพิ่งจะรู้ในบรรดานักแสดงทั้งหมด มิวนิคนั้นมีประสบการณ์การแสดงมากสุดอย่างไม่ต้องสงสัย (ไม่ทำการบ้านตั้งแต่ต้นเอง ภาส 555)
กลับมาที่ตอนแคส พอลองแคสปุ๊ป ก็พบว่าน้องมีความใกล้เคียงกับแพงในหัวเราที่สุด อาจเพราะแพงกับน้องมีอะไรหลายๆอย่างคล้ายๆกันด้วย และน้องเองมีทักษะที่แข็งแรงอยู่แล้ว เนืองจากผ่านงานละครมาทำให้น้องรับมือกับซีนดราม่าได้ดี ซึ่งบทแพงนั้นค่อนข้างดรามาติกสูง มือสมัครเล่นจะเล่นได้ยาก ซึ่งประสบการณ์ที่ผ่านมาของน้องมันก็แสดงออกมาให้เห็นทางการแสดงจริงๆ ทำให้เราตัดสินใจได้ไม่อยาก และพอวางรูปมิวนิค(แพง)กับมิวสิค(มีน)คู่กัน เราว่ามันเวิร์ค คือขอเล่าให้ฟังหน่อยว่าการแคสนั้นเราจะมองที่ตัวบุคคลเดี่ยวๆไม่ได้ด้วยครับ เราต้องมองว่าใครคู่กับใครแล้วมันเข้าไหม ยิ่งกลุ่มเพื่อนเรายิ่งต้องจับรูปมาวางเรียงๆกันเพื่อดูความเหมาะสม ในกลุ่มนั้นมีความหลากหลายและดูเข้ากันไหม ถ้าเลือกหน้าไทป์เดียวกันหมดคนดูก็จะแยกตัวละครไม่ออก
ตอนแรกมิวนิคก็ไม่มั่นใจว่าตัวเองถูกเลือกมารับบทนี้เพราะเราถูกทางต้นสังกัดบีบให้เลือกน้องมาหรือเปล่า เพราะวันที่แคสมิวนิคคุณต้อมก็เข้ามาดูด้วย น้องมาบอกทีหลังว่าวันนั้นกดดันมาก (ตอนนั้นพี่เองก็กดดันเหมือนกันแหละน้องเอ๊ย 5555) เราจึงบอกไปว่าไม่มีใครบังคับให้เราเลือกว่าใครต้องเล่นบทไหน เราเลือกด้วยตัวเองเพราะเชื่อว่าน้องจะทำได้ จริงๆมานึกย้อนดูในข้อจำกัดมากมายของโปรดัคชั่น(หนักที่สุดคือเวลา) เราโชคดีมากที่ได้มิวนิคมาเล่นเป็นแพง เพราะน้องรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองได้ดี ทำการบ้านเรื่องบทมา ตั้งใจ มีสมาธิ น้อยครั้งมากที่น้องจะพูดบทผิด สามารถเป็นเดอะแบกได้เพราะหากนักแสดงตัวเอกทำหน้าที่ตัวเองได้ดี จะส่งผลต่อขวัญกำลังใจทีมงานทุกคนมากๆเพราะงานมันจะ flow และมันช่วยให้ทุกคนอยากช่วยกันทำให้งานออกมาได้ดี ในคิวสุดท้ายเราก็บอกน้องไปว่าที่สามารถถ่ายจนเสร็จได้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะได้มิวนิคมาเล่น ไม่ใช่แค่เราที่คิดอย่างนี้ ทั้งโปรดิวซ์เซอร์ ผู้ช่วย ตากล้องและฝ่ายอื่นๆก็คิดแบบนี้เช่นกัน น้องยิ้มกว้างและบอกว่าได้ยินแล้วหายเหนื่อยเลย (เพราะช่วงที่ถ่ายนั้นเมมเบอร์ทุกคนเหนื่อยกันมาก ทั้งเรียน งานในวง คอนเสิร์ต ถ่ายซีรีส์)
ไว้พอซีรีส์เริ่มฉายไปซักพัก ให้คนดูเริ่มรู้จักตัวแพงก่อน จะมาเล่าเรื่องราวของมิวนิคกับการเล่นเป็นแพงอีกทีครับ
สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นครับ เขียนมาเยอะแต่ถ้าไม่เห็นด้วยตาก็เปล่าประโยชน์ มาพิสูจน์การแสดงของน้องได้ในวันที่ 5 กรฏกาคมนี้ครับ #TheUnderclassTH
Cr. Facebook - Pass Patthanakumjon
ที่มาของโพสต์ : https://www.facebook.com/photo.php?fbid=3004580326262670&set=a.113383028715762&type=3&theater