คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
คิดว่าน้อยคนจริงๆ ที่จะตอบคำถามนี้ได้นะ
ลำพังแค่ 540 กลิ่นเป็นยังไง ก็คัดผู้เข้ารอบออกไปเกินกว่าครึ่งสนามสอบแล้ว
พอดีเมื่อคืนผ่านตากระทู้เก่า [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วยังคิดอยู่เลยว่า ในวาระนั้นยังไม่ถึงแก่กาลที่เหมาะสำหรับการจำแนกสองตัวนี้
หลังจากเลื่อนผ่านๆ คำถามแถวนี้ช่วงนี้แล้ว ไม่ค่อยเจออันไหนชวนคิดชวนคุยสักเท่าไร
นั่งคิดนอนคิดว่า หรือเมืองไทยจะขายได้แต่ Bleu de Chanel กะ Dior Sauvage
สมาคมผู้ใช้น้ำหอมชื่อแปลกหู ก็ต้องรอสักปีสองปีกว่าจะฉีดหมด แล้วไปซื้อของใหม่
ถ้าเกิดรักชอบก็กลับไปซื้อกลิ่นเดิมอีก ไม่ค่อยเจอนักผจญภัยลองของใหม่เท่าไรเลยนะ
มันก็เลยเป็นเรื่องแปลกมากที่วันนี้มาเจอกับกระทู้นี้ อย่างกะมีคำถามที่อยากเห็นพอดีเหมือนเสกมา
รู้สึกขอบคุณเหมือนกันที่สร้างสรรค์คำถามนี้ขึ้นมา
คำตอบของคำถามนี้ ควรจะเป็นความคิดเห็นของคนหลายๆคน
โดยเฉพาะคนที่เคยใช้ หรือสัมผัสขวดใดขวดหนึ่งมานานวัน แล้วเจอกับอีกขวด จะให้คำตอบได้น่าสนใจ
เพราะคนที่สัมผัสมาบ่อย จะรู้แล้วว่ากลิ่นเป็นยังไง ถ้าเจอกับอีกตัว จะบอกได้ว่ามันต่างหรือไม่ต่าง
ไม่เหมือนขาจร ที่ต้องเสี่ยงเลือกเอาตัวใดตัวใดตัวนึงตามกำลังทรัพย์หรือตามความเข้มข้น
ใครรู้สึกท้าทาย ไม่เคยลองก็ไปลองที่สนามสอบร้านน้ำหอมดูก็ได้นะ ว่าต่างกันไหม อย่าลืมเก็บกระดาษเทสมา
คำถามนี้น่าสนใจมาก เพราะถ้าเลือกผิด ชีวิตจะต้องอยู่กับขวดที่เลือกไปอีกยาวนาน
ขออนุญาตแอบฮาหน่อย ที่ว่าไม่มีเวลาไปลอง ก็พอเข้าใจ ไม่มีใครว่าอะไรหรอก (แต่ถ้ามีเวลา อยากรู้ แล้วไม่ไปลองนี่สิแปลก)
ถ้าคาดหวังเพียงแค่ดูทางตามความเห็นของคนอื่นก็พอโอนะ แต่สุดท้ายแล้วตอนที่จะเลือกซื้อมันต้องไปลองเองอยู่ดี
เว้นแต่ว่า.. ไม่ต้องการความสมบูรณ์แบบของน้ำหอมขวดเต็มพร้อมกล่อง full package
ขอยกตัวอย่างน้ำหอมตัวนึงที่หอมมาก Guerlain L'Homme Ideal EDT ปี 2014
เป็นน้ำหอมที่หอม สมบูรณ์แบบมาก หอมละลายใจ ใส่พานถวายตัว
แต่คลอด EDP ชื่อกลิ่นเดียวกันปี 2015 ด้วยเวลาที่ใกล้กันขนาดนี้ มีหลายคนเชื่อว่ากลิ่นต้องเหมือนกัน
คิดสูตรใหม่ไม่ทันแน่ๆ แต่ความจริงคือ กลิ่นแตกต่างกันมากพอสมควร
EDT กรอบดำ หอมสวยละมุน จนไม่รู้จะบรรยายยังไง หวาน อุ่น อร่อย หลับตาอ้าปากเอาอะไรกรอกก็ยอม
ส่วน EDP กรอบหม่นๆ ลดความสดชื่นแจ่มใสรสส้มออกไป ใส่เชอร์รี่ ธูป และเครื่องเทศ แสบทรวงมาก
คอยสังเกตดูในตลาด เวลาขายคนแย่งกันซื้อ EDP ด้วยความเชื่อที่ว่าต้องเหมือน แถมยังเจ้มจ้นกว่า
แต่ไม่นานเท่าไรก็พากันขายทิ้ง เพราะไม่ไหวจะเพลีย กลิ่นธูปทำลายความ ideal ที่เคยมี มันแหลมแสบจมูกมาก
บางคนอาจจะชอบก็ได้นะ ถ้าฉีดโบกแถวตลาดตะวันออกกลาง ผู้ชมอาจพากันโผเข้าใส่
(ในวงเล็บนี้จะนอกเรื่อง ไปถึงตัว ideal cologne กรอบขาว
อันนั้นก็หอมมาก เหมือนเอา ideal edt ตัวตั้งต้นเทรวมกับ Chanel sport blanche
แวะพักสายตา กับโฆษณายิ่งใหญ่ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ )
ต้องบอกก่อนว่า ส่วนตัวยังไม่ซื้อกลิ่นนี้เก็บเลย เพราะไปลองอยู่หลายรอบมาก
เพื่อแยกแยะสองตัวนี้แหละว่ามันต่างกันหรือเปล่า เท้าความหน่อยว่า EDP ขวดใส, EXT ขวดแดง
คือ สมมติถ้ามันกลิ่นเหมือนกัน ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องเก็บขวดแพง เพราะกิตติศัพท์ลือเลื่องว่าทนทานมาก
หรือถ้าไม่เช่นนั้น หากว่าเงินเหลือเยอะ ก็ซื้อขวดแดงไปเลยสุดทางความเจ้มจ้น
ราคาที่ต่างกันราวๆ 5 พันบาท ก็น่าคิดนะ ว่ากลิ่นต่างไหม
เวลาลองที่ร้าน จุดลองมีอยู่แค่พารากอนกับ Emquatier เท่านั้น
ในพารากอนเดี๋ยวนี้คนจีนคนไทยแห่กันฉีดเกลี้ยงเป็นขวดๆ เรทติ้งแรงมาก
เขาจึงเอาซุกไว้ในลิ้นชัก ต้องปรึกษาคนขาย ส่วนที่ Emquatier ไปถูกวันก็โชคดีมีให้ฉีด
บางคราวบุญมีแต่กรรมบัง ไปเจอแต่ขวดเปล่า ดมฝาจินตนาการเอาจากคราบที่เหลือ
สารภาพว่าตอนช่วงแรกที่ลองสองตัวนี้ คือ แยกไม่ออกเลยว่ามันต่างกันยังไง นอกจากความเข้ม
กลับไปลองวนหลายครั้งมาก ถามคนขายก็ให้ความเห็นโอเค คงคล้ายๆที่ท่านจะได้เห็นใน pantip นี่แหละ
สุดท้ายก็ยังไม่เคลียร์ ก็เลยลองฉีดใส่ตัวเอง แขนซ้ายขวา เสื้อผ้า ต่างวันวาระ
และใส่กระดาษมาอีกไม่นับรอบได้ วางทิ้งไว้
กลิ่นมันโชยจนเต็มห้องนอน หลอนจนหลับไม่ได้ อานุภาพยิ่งใหญ่มาก
ตอนซื้อน้ำหอมกลิ่นอื่น ที่ Emquatier เขาจะฉีดใส่กระดาษรองถุง
เลือกเอากลิ่นนี้ให้คนขายช่วยรัว ปรื้ดๆๆ พอเอามาเปิดถุงในห้อง บึ้มมม.. พระเจ้าว...
อยู่ร่วมโลกกันไม่ได้เลย ต้องย้ายไปใส่ตู้เสื้อผ้า จากนั้นเปิดมาทุกวันตลอดเดือนได้กลิ่นนี้ตลอด 540 EDP
จนพอเข้าใจเนื้อกลิ่นแล้ว กลับไปลอง Ext อีก แต่ไม่วาย สับสน กลับมาฉีด EDP ทวนความจำ
กระทั่งมีจังหวะนึง โปรเด็ด เหมาะสมที่จะซื้อ 540 มาก (โปรยอดซื้อสูง) ตัวไหนก็ได้
แต่วันนั้นมีเหตุอะไรสักอย่าง พอไปถึงห้างต้องลัดคิว ไปเอาอย่างอื่นแทน
ประกอบกับช่วงนั้นก็ยังไม่กระจ่างกับการแยกแยะสองกลิ่นนี้ด้วย มาถึงขั้นนี้คงแปลกใจไปด้วยกัน
ว่ามันคงจะคล้ายกันมากจริงๆ แต่ตะหงิดใจมาตลอดเลยว่า มันต้องมีเหตุผลบางอย่างที่ต่าง
คนขายที่พารากอนค่อนข้างเชี่ยวชาญพอควร บอกข้อมูลรีเสิช โดยสรุปว่า Ext กลิ่นดีกว่า
ข้อนี้ถ้าอยากทราบ จะต้องเรียนเชิญไปคุยกะเขา เพราะสมองเสื่อม จำไม่ค่อยได้เหมือนกัน
ต่อไปนี้จะเป็นคำตอบจาก คหสต.
ชี้แจงไว้อย่างนี้ก่อน เผื่อมีคนแย้งว่าไม่จริง พูดอะไรของเธอ เพราะเขาสัมผัสได้เป็นอีกอย่าง เป็นกลิ่นขรี้ปลา บลาๆๆ
EDP ขวดใส กลิ่นค่อนข้างหนืดมาก ถึงระดับที่มีคนเปรียบเปรยว่าเหมือนถุงมือยางหรือทำให้ประหวัดคิดถึงถุงยางก็มี
กลิ่นหนืดๆนั้นเป็นประเภทยางไม้ ถ้าแผ่วๆมาตามลมหอมชวนดม ชื่นชมมองตาม คนชอบ amber มีแนวโน้มชอบอันนี้สูง
มีออร่าล้อม แบบเดียวกับออร่า ambergris ฟุ้งๆฟูๆ ดูเป็นผู้วิเศษ ในน้ำหอม Creed
ในปริมาณที่มากก็ตึ้บเหมือนกัน คือคล้ายจะมึน
ยอมใจพวกที่ฉีดน้ำหอมกลิ่นนี้ตรงอกจริงๆ เพราะมันคงโชยเข้าจมูกตลอดเวลา
แต่ถ้าบอกว่า กลิ่นอ่อน ไม่ได้กลิ่น สงสัยจมูกดับไปแล้ว
มีการแต่งกลิ่นfloralและเครื่องเทศสารหอม กลมกลืนกันไม่โดดออกมาเป็นโน้ตสักเท่าไร
ในปริมาณที่เหมาะสม กลิ่นนี้เพลินประสาทรับกลิ่นมากทีเดียว
เคยรู้สึกคล้ายน้ำตาลไหม้เหมือนกัน มันเย้ายวนชมดม ชวนกิน สร้างความสงสัย ดึงความสนใจจริงๆ
แต่ความรู้สึกนี้ไม่คงอยู่นานเท่าความรู้สึกหนืดๆ เหมือนเป็นวุ้นกลิ่น ที่คงอยู่ยาวนานมาก
ปัญหาความทึบใน EDP ทำให้เกิดกลุ่มคนที่ไม่ชอบกลิ่นนี้ผุดมาเรื่อยๆ
จุดนี้เลยพอเข้าใจการมาของ Ext ขวดแดง ที่ทำให้เนื้อกลิ่นดูแตกตัวเป็นผงมากขึ้น
Ext หวานกว่า สดชื่น และกลิ่นดูแตกประกายไม่หนืดเท่าเดิม
เข้าถึงง่ายนะ โดยเฉพาะช่วงเริ่ม คนที่ชอบหนืดๆก็จะผิดหวังหน่อย
ถ้าเป็นอาหาร ตัว EDP จะดูเหนียวๆ เป็นวุ้น แต่ Ext เหมือนป่นเป็นผงหรืออาหารที่สับแล้ว โดยเฉพาะช่วงแรก
และ Ext เข้มข้นมาก ถ้าฉีดเทียบกันแล้วตอนกลับไปดม EDP ก็ไม่ค่อยได้กลิ่นเท่าไร
พอกลิ่นสลายตัวดรายดาวไปแล้ว ค่อนข้างคล้ายคลึงกันจน EDP อาจทดแทนกันได้นะคิดว่าอย่างนี้
ด้วยความเข้มข้นของ Ext เคยอัดมาหลายสเปรย์ แล้วก็มึนไปเหมือนกัน
เดินห้างสัญจรยังไม่รู้สึกเท่าไร พอมาอยู่ในห้องที่สงบ นิวเคลียร์บอมสุดๆ
กลิ่นขจายฟูขึ้นมาแล้วรู้สึกมันรบกวนการหายใจ
โดยส่วนตัวเลย ชอบ EDP มากกว่า มันดูสมบูรณ์แบบในตัวมันเอง
เหมาะกับการใช้งานดีด้วย ส่วนอีกตัว ขอมาเป็นของแถม นานๆใช้ทีก็ไม่สาย
อันนี้เป็นความคิดในตอนนี้นะ ซึ่งมันอาจจะเปลี่ยนไปอีกก็ได้
เช่นว่า สมมติมีโปรห้างหรือบัตรเครดิตที่ทำให้ซื้อ Ext ในราคา EDP
แล้วขอ EDP เป็นของแถม มาฉีดเล่นก็โอเครซะงั้น
คือไม่ได้คลั่งไคล้ขนาดว่าจะต้องมีกลิ่นนี้ในรูปแบบไหน ขวด Ext ก็แดง-ทอง สวยไม่เบา
แต่ Ext เหมือนพยายามแก้ไขของเดิม
มันก็หอมหวานจริงๆ แต่ดูลดทอนความคลาสสิค เพื่อให้เสพง่าย
อารมณ์คล้ายกาแฟที่ตัดต่อพันธุกรรม ลดความขม อมความชะมดอะไรแบบนั้น
บางคนยังต้องการความดิบแบบดั้งเดิมงัย
หรือยกตัวอย่างง่ายๆ นมจืด อยู่ดีๆมีคนตัดต่อพันธุกรรมทำพร่องมันเนยเพื่อสุขภาพ
แต่บางคนก็ชอบกินแบบมันๆอยู่งัย เอาที่ชัดๆเลยขนมเค้ก low fat มันดีต่อไส้ แต่ไม่อร่อยเท่าครีมๆเนยๆ
ส่วนตัวก็ไม่ชอบกินเค้ก low fat คือคิดว่าถ้าคนจะอ้วน ทำทีกินแต่สลัด มันก็อ้วนอยู่ดี
ในส่วนที่เขาพยายามรักษาจุดเหมือนเอาไว้ นี่ก็นับว่าคนปรุงเชี่ยวชาญและเข้าใจกลิ่นจริงๆ
(ในทางกลับกัน ถ้าพูดถึงแบรนด์ Chanel รายนั้นปรับสูตรทำลายกลิ่น ดาวดับไปหลายดวงช่วง 2016)
Ext. น่าจะเหมาะกับคนที่ทน EDP ไม่ได้ซะมากกว่า แต่ไปๆมาๆ ลองไม่ชอบEDPแล้ว
ถึงตามไปฉีด Ext ก็ยากที่จะกลายเป็นหอมอยู่ดี
มันมีความเป็นไปได้หลายๆอย่างนะ แม้จะเป็นคนที่ชอบ EDP
ถ้าได้มาฉีด Ext. แล้วดันชอบอีก ก็มีแววโดนและอาจจะกลับตัวยากละ ขึ้นบันไดไปอีกขั้นแล้ว
มันเป็นกลิ่นที่น่าคลั่งไคล้ไหลหลงจริงๆ ด้วยความไม่เหมือนใครแบบนี้
ดมแล้วบางครั้งอยู่เฉยก็ไม่สุข อยากได้กลิ่นอีก แต่ว่าตอนนี้คนเห่อใช้กันมาก เพื่อนก็ซื้อ EDP
ส่วนตัวก็เป็นโรคกลัวซ้ำชาวบ้านอยู่หน่อย ถึงแม้มันจะหอม สวย
แต่ถ้าใช้กลิ่นเดียวกันหมดทั้งเมือง มันจะมีความรู้สึกขาดความพิเศษไป เอามาฉีดทุกวันไม่ได้
คล้าย Bleu de Chanel ซึ่งเป็นน้ำหอมที่ดีมหาชนนิยมนะ แต่แทบจะเป็นกลิ่นปรับอากาศในสนามบินละ
คือเดินไปทางไหนก็เจอ ฉีดกันไม่บันยะบันยัง เหมือนกลัวโลกไม่รู้ตูใช้ของดี
จะว่าไปแล้วแบรนด์ MFK นี่ก็มีกลิ่นดีๆ เยอะนะ
พอดีของเข้ามาไทยหลังยุคคนรีวิวเทพๆ หายตัวไปจาก pantip ละ
ส่วนตัวเองเม้ากระแนะกระแหนคนช้อปน้ำหอมไปวันๆ สักวันอาจเจอดีเข้าเหมือนกัน
ใครอ่านมาถึงตอนจบ กดไล้ให้กำลังใจกันสักหน่อยละกัน พิมพ์จนฟ้าเหลืองละ อิอิ
ลำพังแค่ 540 กลิ่นเป็นยังไง ก็คัดผู้เข้ารอบออกไปเกินกว่าครึ่งสนามสอบแล้ว
พอดีเมื่อคืนผ่านตากระทู้เก่า [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วยังคิดอยู่เลยว่า ในวาระนั้นยังไม่ถึงแก่กาลที่เหมาะสำหรับการจำแนกสองตัวนี้
หลังจากเลื่อนผ่านๆ คำถามแถวนี้ช่วงนี้แล้ว ไม่ค่อยเจออันไหนชวนคิดชวนคุยสักเท่าไร
นั่งคิดนอนคิดว่า หรือเมืองไทยจะขายได้แต่ Bleu de Chanel กะ Dior Sauvage
สมาคมผู้ใช้น้ำหอมชื่อแปลกหู ก็ต้องรอสักปีสองปีกว่าจะฉีดหมด แล้วไปซื้อของใหม่
ถ้าเกิดรักชอบก็กลับไปซื้อกลิ่นเดิมอีก ไม่ค่อยเจอนักผจญภัยลองของใหม่เท่าไรเลยนะ
มันก็เลยเป็นเรื่องแปลกมากที่วันนี้มาเจอกับกระทู้นี้ อย่างกะมีคำถามที่อยากเห็นพอดีเหมือนเสกมา
รู้สึกขอบคุณเหมือนกันที่สร้างสรรค์คำถามนี้ขึ้นมา
คำตอบของคำถามนี้ ควรจะเป็นความคิดเห็นของคนหลายๆคน
โดยเฉพาะคนที่เคยใช้ หรือสัมผัสขวดใดขวดหนึ่งมานานวัน แล้วเจอกับอีกขวด จะให้คำตอบได้น่าสนใจ
เพราะคนที่สัมผัสมาบ่อย จะรู้แล้วว่ากลิ่นเป็นยังไง ถ้าเจอกับอีกตัว จะบอกได้ว่ามันต่างหรือไม่ต่าง
ไม่เหมือนขาจร ที่ต้องเสี่ยงเลือกเอาตัวใดตัวใดตัวนึงตามกำลังทรัพย์หรือตามความเข้มข้น
ใครรู้สึกท้าทาย ไม่เคยลองก็ไปลองที่สนามสอบร้านน้ำหอมดูก็ได้นะ ว่าต่างกันไหม อย่าลืมเก็บกระดาษเทสมา
คำถามนี้น่าสนใจมาก เพราะถ้าเลือกผิด ชีวิตจะต้องอยู่กับขวดที่เลือกไปอีกยาวนาน
ขออนุญาตแอบฮาหน่อย ที่ว่าไม่มีเวลาไปลอง ก็พอเข้าใจ ไม่มีใครว่าอะไรหรอก (แต่ถ้ามีเวลา อยากรู้ แล้วไม่ไปลองนี่สิแปลก)
ถ้าคาดหวังเพียงแค่ดูทางตามความเห็นของคนอื่นก็พอโอนะ แต่สุดท้ายแล้วตอนที่จะเลือกซื้อมันต้องไปลองเองอยู่ดี
เว้นแต่ว่า.. ไม่ต้องการความสมบูรณ์แบบของน้ำหอมขวดเต็มพร้อมกล่อง full package
ขอยกตัวอย่างน้ำหอมตัวนึงที่หอมมาก Guerlain L'Homme Ideal EDT ปี 2014
เป็นน้ำหอมที่หอม สมบูรณ์แบบมาก หอมละลายใจ ใส่พานถวายตัว
แต่คลอด EDP ชื่อกลิ่นเดียวกันปี 2015 ด้วยเวลาที่ใกล้กันขนาดนี้ มีหลายคนเชื่อว่ากลิ่นต้องเหมือนกัน
คิดสูตรใหม่ไม่ทันแน่ๆ แต่ความจริงคือ กลิ่นแตกต่างกันมากพอสมควร
EDT กรอบดำ หอมสวยละมุน จนไม่รู้จะบรรยายยังไง หวาน อุ่น อร่อย หลับตาอ้าปากเอาอะไรกรอกก็ยอม
ส่วน EDP กรอบหม่นๆ ลดความสดชื่นแจ่มใสรสส้มออกไป ใส่เชอร์รี่ ธูป และเครื่องเทศ แสบทรวงมาก
คอยสังเกตดูในตลาด เวลาขายคนแย่งกันซื้อ EDP ด้วยความเชื่อที่ว่าต้องเหมือน แถมยังเจ้มจ้นกว่า
แต่ไม่นานเท่าไรก็พากันขายทิ้ง เพราะไม่ไหวจะเพลีย กลิ่นธูปทำลายความ ideal ที่เคยมี มันแหลมแสบจมูกมาก
บางคนอาจจะชอบก็ได้นะ ถ้าฉีดโบกแถวตลาดตะวันออกกลาง ผู้ชมอาจพากันโผเข้าใส่
(ในวงเล็บนี้จะนอกเรื่อง ไปถึงตัว ideal cologne กรอบขาว
อันนั้นก็หอมมาก เหมือนเอา ideal edt ตัวตั้งต้นเทรวมกับ Chanel sport blanche
แวะพักสายตา กับโฆษณายิ่งใหญ่ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ )
ต้องบอกก่อนว่า ส่วนตัวยังไม่ซื้อกลิ่นนี้เก็บเลย เพราะไปลองอยู่หลายรอบมาก
เพื่อแยกแยะสองตัวนี้แหละว่ามันต่างกันหรือเปล่า เท้าความหน่อยว่า EDP ขวดใส, EXT ขวดแดง
คือ สมมติถ้ามันกลิ่นเหมือนกัน ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องเก็บขวดแพง เพราะกิตติศัพท์ลือเลื่องว่าทนทานมาก
หรือถ้าไม่เช่นนั้น หากว่าเงินเหลือเยอะ ก็ซื้อขวดแดงไปเลยสุดทางความเจ้มจ้น
ราคาที่ต่างกันราวๆ 5 พันบาท ก็น่าคิดนะ ว่ากลิ่นต่างไหม
เวลาลองที่ร้าน จุดลองมีอยู่แค่พารากอนกับ Emquatier เท่านั้น
ในพารากอนเดี๋ยวนี้คนจีนคนไทยแห่กันฉีดเกลี้ยงเป็นขวดๆ เรทติ้งแรงมาก
เขาจึงเอาซุกไว้ในลิ้นชัก ต้องปรึกษาคนขาย ส่วนที่ Emquatier ไปถูกวันก็โชคดีมีให้ฉีด
บางคราวบุญมีแต่กรรมบัง ไปเจอแต่ขวดเปล่า ดมฝาจินตนาการเอาจากคราบที่เหลือ
สารภาพว่าตอนช่วงแรกที่ลองสองตัวนี้ คือ แยกไม่ออกเลยว่ามันต่างกันยังไง นอกจากความเข้ม
กลับไปลองวนหลายครั้งมาก ถามคนขายก็ให้ความเห็นโอเค คงคล้ายๆที่ท่านจะได้เห็นใน pantip นี่แหละ
สุดท้ายก็ยังไม่เคลียร์ ก็เลยลองฉีดใส่ตัวเอง แขนซ้ายขวา เสื้อผ้า ต่างวันวาระ
และใส่กระดาษมาอีกไม่นับรอบได้ วางทิ้งไว้
กลิ่นมันโชยจนเต็มห้องนอน หลอนจนหลับไม่ได้ อานุภาพยิ่งใหญ่มาก
ตอนซื้อน้ำหอมกลิ่นอื่น ที่ Emquatier เขาจะฉีดใส่กระดาษรองถุง
เลือกเอากลิ่นนี้ให้คนขายช่วยรัว ปรื้ดๆๆ พอเอามาเปิดถุงในห้อง บึ้มมม.. พระเจ้าว...
อยู่ร่วมโลกกันไม่ได้เลย ต้องย้ายไปใส่ตู้เสื้อผ้า จากนั้นเปิดมาทุกวันตลอดเดือนได้กลิ่นนี้ตลอด 540 EDP
จนพอเข้าใจเนื้อกลิ่นแล้ว กลับไปลอง Ext อีก แต่ไม่วาย สับสน กลับมาฉีด EDP ทวนความจำ
กระทั่งมีจังหวะนึง โปรเด็ด เหมาะสมที่จะซื้อ 540 มาก (โปรยอดซื้อสูง) ตัวไหนก็ได้
แต่วันนั้นมีเหตุอะไรสักอย่าง พอไปถึงห้างต้องลัดคิว ไปเอาอย่างอื่นแทน
ประกอบกับช่วงนั้นก็ยังไม่กระจ่างกับการแยกแยะสองกลิ่นนี้ด้วย มาถึงขั้นนี้คงแปลกใจไปด้วยกัน
ว่ามันคงจะคล้ายกันมากจริงๆ แต่ตะหงิดใจมาตลอดเลยว่า มันต้องมีเหตุผลบางอย่างที่ต่าง
คนขายที่พารากอนค่อนข้างเชี่ยวชาญพอควร บอกข้อมูลรีเสิช โดยสรุปว่า Ext กลิ่นดีกว่า
ข้อนี้ถ้าอยากทราบ จะต้องเรียนเชิญไปคุยกะเขา เพราะสมองเสื่อม จำไม่ค่อยได้เหมือนกัน
ต่อไปนี้จะเป็นคำตอบจาก คหสต.
ชี้แจงไว้อย่างนี้ก่อน เผื่อมีคนแย้งว่าไม่จริง พูดอะไรของเธอ เพราะเขาสัมผัสได้เป็นอีกอย่าง เป็นกลิ่นขรี้ปลา บลาๆๆ
EDP ขวดใส กลิ่นค่อนข้างหนืดมาก ถึงระดับที่มีคนเปรียบเปรยว่าเหมือนถุงมือยางหรือทำให้ประหวัดคิดถึงถุงยางก็มี
กลิ่นหนืดๆนั้นเป็นประเภทยางไม้ ถ้าแผ่วๆมาตามลมหอมชวนดม ชื่นชมมองตาม คนชอบ amber มีแนวโน้มชอบอันนี้สูง
มีออร่าล้อม แบบเดียวกับออร่า ambergris ฟุ้งๆฟูๆ ดูเป็นผู้วิเศษ ในน้ำหอม Creed
ในปริมาณที่มากก็ตึ้บเหมือนกัน คือคล้ายจะมึน
ยอมใจพวกที่ฉีดน้ำหอมกลิ่นนี้ตรงอกจริงๆ เพราะมันคงโชยเข้าจมูกตลอดเวลา
แต่ถ้าบอกว่า กลิ่นอ่อน ไม่ได้กลิ่น สงสัยจมูกดับไปแล้ว
มีการแต่งกลิ่นfloralและเครื่องเทศสารหอม กลมกลืนกันไม่โดดออกมาเป็นโน้ตสักเท่าไร
ในปริมาณที่เหมาะสม กลิ่นนี้เพลินประสาทรับกลิ่นมากทีเดียว
เคยรู้สึกคล้ายน้ำตาลไหม้เหมือนกัน มันเย้ายวนชมดม ชวนกิน สร้างความสงสัย ดึงความสนใจจริงๆ
แต่ความรู้สึกนี้ไม่คงอยู่นานเท่าความรู้สึกหนืดๆ เหมือนเป็นวุ้นกลิ่น ที่คงอยู่ยาวนานมาก
ปัญหาความทึบใน EDP ทำให้เกิดกลุ่มคนที่ไม่ชอบกลิ่นนี้ผุดมาเรื่อยๆ
จุดนี้เลยพอเข้าใจการมาของ Ext ขวดแดง ที่ทำให้เนื้อกลิ่นดูแตกตัวเป็นผงมากขึ้น
Ext หวานกว่า สดชื่น และกลิ่นดูแตกประกายไม่หนืดเท่าเดิม
เข้าถึงง่ายนะ โดยเฉพาะช่วงเริ่ม คนที่ชอบหนืดๆก็จะผิดหวังหน่อย
ถ้าเป็นอาหาร ตัว EDP จะดูเหนียวๆ เป็นวุ้น แต่ Ext เหมือนป่นเป็นผงหรืออาหารที่สับแล้ว โดยเฉพาะช่วงแรก
และ Ext เข้มข้นมาก ถ้าฉีดเทียบกันแล้วตอนกลับไปดม EDP ก็ไม่ค่อยได้กลิ่นเท่าไร
พอกลิ่นสลายตัวดรายดาวไปแล้ว ค่อนข้างคล้ายคลึงกันจน EDP อาจทดแทนกันได้นะคิดว่าอย่างนี้
ด้วยความเข้มข้นของ Ext เคยอัดมาหลายสเปรย์ แล้วก็มึนไปเหมือนกัน
เดินห้างสัญจรยังไม่รู้สึกเท่าไร พอมาอยู่ในห้องที่สงบ นิวเคลียร์บอมสุดๆ
กลิ่นขจายฟูขึ้นมาแล้วรู้สึกมันรบกวนการหายใจ
โดยส่วนตัวเลย ชอบ EDP มากกว่า มันดูสมบูรณ์แบบในตัวมันเอง
เหมาะกับการใช้งานดีด้วย ส่วนอีกตัว ขอมาเป็นของแถม นานๆใช้ทีก็ไม่สาย
อันนี้เป็นความคิดในตอนนี้นะ ซึ่งมันอาจจะเปลี่ยนไปอีกก็ได้
เช่นว่า สมมติมีโปรห้างหรือบัตรเครดิตที่ทำให้ซื้อ Ext ในราคา EDP
แล้วขอ EDP เป็นของแถม มาฉีดเล่นก็โอเครซะงั้น
คือไม่ได้คลั่งไคล้ขนาดว่าจะต้องมีกลิ่นนี้ในรูปแบบไหน ขวด Ext ก็แดง-ทอง สวยไม่เบา
แต่ Ext เหมือนพยายามแก้ไขของเดิม
มันก็หอมหวานจริงๆ แต่ดูลดทอนความคลาสสิค เพื่อให้เสพง่าย
อารมณ์คล้ายกาแฟที่ตัดต่อพันธุกรรม ลดความขม อมความชะมดอะไรแบบนั้น
บางคนยังต้องการความดิบแบบดั้งเดิมงัย
หรือยกตัวอย่างง่ายๆ นมจืด อยู่ดีๆมีคนตัดต่อพันธุกรรมทำพร่องมันเนยเพื่อสุขภาพ
แต่บางคนก็ชอบกินแบบมันๆอยู่งัย เอาที่ชัดๆเลยขนมเค้ก low fat มันดีต่อไส้ แต่ไม่อร่อยเท่าครีมๆเนยๆ
ส่วนตัวก็ไม่ชอบกินเค้ก low fat คือคิดว่าถ้าคนจะอ้วน ทำทีกินแต่สลัด มันก็อ้วนอยู่ดี
ในส่วนที่เขาพยายามรักษาจุดเหมือนเอาไว้ นี่ก็นับว่าคนปรุงเชี่ยวชาญและเข้าใจกลิ่นจริงๆ
(ในทางกลับกัน ถ้าพูดถึงแบรนด์ Chanel รายนั้นปรับสูตรทำลายกลิ่น ดาวดับไปหลายดวงช่วง 2016)
Ext. น่าจะเหมาะกับคนที่ทน EDP ไม่ได้ซะมากกว่า แต่ไปๆมาๆ ลองไม่ชอบEDPแล้ว
ถึงตามไปฉีด Ext ก็ยากที่จะกลายเป็นหอมอยู่ดี
มันมีความเป็นไปได้หลายๆอย่างนะ แม้จะเป็นคนที่ชอบ EDP
ถ้าได้มาฉีด Ext. แล้วดันชอบอีก ก็มีแววโดนและอาจจะกลับตัวยากละ ขึ้นบันไดไปอีกขั้นแล้ว
มันเป็นกลิ่นที่น่าคลั่งไคล้ไหลหลงจริงๆ ด้วยความไม่เหมือนใครแบบนี้
ดมแล้วบางครั้งอยู่เฉยก็ไม่สุข อยากได้กลิ่นอีก แต่ว่าตอนนี้คนเห่อใช้กันมาก เพื่อนก็ซื้อ EDP
ส่วนตัวก็เป็นโรคกลัวซ้ำชาวบ้านอยู่หน่อย ถึงแม้มันจะหอม สวย
แต่ถ้าใช้กลิ่นเดียวกันหมดทั้งเมือง มันจะมีความรู้สึกขาดความพิเศษไป เอามาฉีดทุกวันไม่ได้
คล้าย Bleu de Chanel ซึ่งเป็นน้ำหอมที่ดีมหาชนนิยมนะ แต่แทบจะเป็นกลิ่นปรับอากาศในสนามบินละ
คือเดินไปทางไหนก็เจอ ฉีดกันไม่บันยะบันยัง เหมือนกลัวโลกไม่รู้ตูใช้ของดี
จะว่าไปแล้วแบรนด์ MFK นี่ก็มีกลิ่นดีๆ เยอะนะ
พอดีของเข้ามาไทยหลังยุคคนรีวิวเทพๆ หายตัวไปจาก pantip ละ
ส่วนตัวเองเม้ากระแนะกระแหนคนช้อปน้ำหอมไปวันๆ สักวันอาจเจอดีเข้าเหมือนกัน
ใครอ่านมาถึงตอนจบ กดไล้ให้กำลังใจกันสักหน่อยละกัน พิมพ์จนฟ้าเหลืองละ อิอิ
แสดงความคิดเห็น
MFK baccarat 540 EDP กับ Extrait กลิ่นต่างกันเยอะมั้ยครับ
ตอนนี้เล็งๆ extrait อยู่เเต่เคยเห็นบางคนบอกกลิ่นแทบไม่ต่างกันถ้าไม่ดมใกล้ๆ ไม่คุ้มจะเพิ่มเงิน
บางคนบอกว่า extrait กลิ่นอัลมอนต์เด่นกว่าเยอะ ดูแมนขึ้น
เลยอยากรู้ว่าโทนกลิ่น ความทน ความกระจายตัว ต่างจากตัว edp เยอะมั้ยครับ
(ว่าจะหาโอกาสไปลองเอง แต่ยังไม่มีเวลาเลยครับ)