เมื่อวานดูรายการโหนกระแส ของคุณหนุ่ม กรรชัย เอาเรื่องที่มีรถวอลโว่ 740
ขับชนรถจักรยานยนต์จนตัวของผู้หญิงมาอยู่บนฝากระโปรงรถ
ซึ่งถ้าแค่ตรงนี้ แล้วหยุดรถ ลงมาดูแลคนเจ็บส่งโรงพยาบาล ทั้งแม่และเด็กก็คงรอดชีวิต
แต่คงจะด้วยความเมา กับกฎหมายที่ห่วยสาด
คนขับตัดสินใจไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ จะได้ไม่โดนจับตรวจวัดแอลกอฮอล์
เลยตัดสินใจ ขับหนี ด้วยการขับรถข้ามทั้งจยย และคน
แต่ยางล้อได้แตกไปแล้ว สิ่งที่ทับไปบนตัวสาวก็คือล้อแม็ก
ในที่เกิดเหตุช่วงแรก แม่ยังพูดได้ แต่เด็กไม่รอดแล้วเมื่อถึงโรงพยาบาล
หมอตรวจแล้ว ก็พบว่าอวัยวะภายในได้รับความเสียหายมาก
และก็สิ้นใจในคืนนั้น
มีผู้ขับรถตาม(ยินยอมที่จะเป็นพยานในคดีด้วย) ก็ไปพบว่า วอลโว่ ได้ขับไปทั้งที่ยางแตก
จนไปชนกับแท่งปูนข้างทางอีก ตัวคนขับก็ไม่ลงจากรถ และพยายามขับหนีอีก
ในรายการ ทนายได้พูดขึ้นว่า
คนขับคนนี้ เหมือนจะรู้ดีว่า หากอยู่ในที่เกิดเหตุ
ผลการตรวจเจอว่ามีแอลกอฮอล์เกิดกฎหมายจะมีโทษสูง
แต่ถ้าไม่อยู่ให้ตรวจ โทษก็จะเบาลงมามาก
คนขับอ้างว่าตกใจ หนีไปตั้งหลัก
เข้ามามอบตัวตอนสายของวันรุ่งขึ้นซึ่งจะไม่สามารถตรวจวัดแอลกอฮอล์ในร่างกายได้แล้ว
และตำรวจเจ้าของคดี ก็ตอบคุณหนุ่มไม่เคลียร์
เรื่องพยาน หรือสิ่งแวดล้อม ว่าจะเอามาใช้ในคดีได้หรือไม่
เพราะมีคลิปว่า คนขับรถเดินเซไปเซมาก่อนขึ้นรถขับ
ต่างจากญี่ปุ่นที่ผิดตั้งแต่อยู่ในร้าน เจ้าของร้านก็ผิดไปด้วยที่ปล่อยให้คนดื่มขับรถกลับบ้าน
ป.ล. ขอยืนยันอีกที รถที่ไม่มีประกันภัย ไม่ควรให้มีในท้องถนน รถคันนี้ ไม่มีแม้แต่ พรบ.
จึงตัดสินใจหนี เพราะคิดว่าถ้าหนีพ้นก็รอดไม่ต้องชดใช้ใดๆ แต่ผลของการหนี
ถึงกลับพร่าชีวิตสองแม่ลูก
ป.ล.2 เมื่อครู่ 7.40 น.25/6/62 ดูข่าว จากช่อง35 ตำรวจให้สัมภาษณ์ว่า จะเอาหลักฐานรอบด้านมาประกอบการพิจารณาด้วย
ตำรวจคัดค้านการประกันตัว เพราะมีพฤติการณ์หลบหนี แต่ดูรูปทรงแล้ว คงไม่ได้อะไรจากผู้ขับชน คงตายฟรีครับ
อยากให้ลุงตู่ แก้กฎหมาย เมาแล้วขับ เพราะถ้าไม่แก้ เหตุการณ์ที่วอลโว่ชนสาวท้องเสียชีวิต จะเกิดขึ้นได้อีก
ขับชนรถจักรยานยนต์จนตัวของผู้หญิงมาอยู่บนฝากระโปรงรถ
ซึ่งถ้าแค่ตรงนี้ แล้วหยุดรถ ลงมาดูแลคนเจ็บส่งโรงพยาบาล ทั้งแม่และเด็กก็คงรอดชีวิต
แต่คงจะด้วยความเมา กับกฎหมายที่ห่วยสาด
คนขับตัดสินใจไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ จะได้ไม่โดนจับตรวจวัดแอลกอฮอล์
เลยตัดสินใจ ขับหนี ด้วยการขับรถข้ามทั้งจยย และคน
แต่ยางล้อได้แตกไปแล้ว สิ่งที่ทับไปบนตัวสาวก็คือล้อแม็ก
ในที่เกิดเหตุช่วงแรก แม่ยังพูดได้ แต่เด็กไม่รอดแล้วเมื่อถึงโรงพยาบาล
หมอตรวจแล้ว ก็พบว่าอวัยวะภายในได้รับความเสียหายมาก
และก็สิ้นใจในคืนนั้น
มีผู้ขับรถตาม(ยินยอมที่จะเป็นพยานในคดีด้วย) ก็ไปพบว่า วอลโว่ ได้ขับไปทั้งที่ยางแตก
จนไปชนกับแท่งปูนข้างทางอีก ตัวคนขับก็ไม่ลงจากรถ และพยายามขับหนีอีก
ในรายการ ทนายได้พูดขึ้นว่า
คนขับคนนี้ เหมือนจะรู้ดีว่า หากอยู่ในที่เกิดเหตุ
ผลการตรวจเจอว่ามีแอลกอฮอล์เกิดกฎหมายจะมีโทษสูง
แต่ถ้าไม่อยู่ให้ตรวจ โทษก็จะเบาลงมามาก
คนขับอ้างว่าตกใจ หนีไปตั้งหลัก
เข้ามามอบตัวตอนสายของวันรุ่งขึ้นซึ่งจะไม่สามารถตรวจวัดแอลกอฮอล์ในร่างกายได้แล้ว
และตำรวจเจ้าของคดี ก็ตอบคุณหนุ่มไม่เคลียร์
เรื่องพยาน หรือสิ่งแวดล้อม ว่าจะเอามาใช้ในคดีได้หรือไม่
เพราะมีคลิปว่า คนขับรถเดินเซไปเซมาก่อนขึ้นรถขับ
ต่างจากญี่ปุ่นที่ผิดตั้งแต่อยู่ในร้าน เจ้าของร้านก็ผิดไปด้วยที่ปล่อยให้คนดื่มขับรถกลับบ้าน
ป.ล. ขอยืนยันอีกที รถที่ไม่มีประกันภัย ไม่ควรให้มีในท้องถนน รถคันนี้ ไม่มีแม้แต่ พรบ.
จึงตัดสินใจหนี เพราะคิดว่าถ้าหนีพ้นก็รอดไม่ต้องชดใช้ใดๆ แต่ผลของการหนี
ถึงกลับพร่าชีวิตสองแม่ลูก
ป.ล.2 เมื่อครู่ 7.40 น.25/6/62 ดูข่าว จากช่อง35 ตำรวจให้สัมภาษณ์ว่า จะเอาหลักฐานรอบด้านมาประกอบการพิจารณาด้วย
ตำรวจคัดค้านการประกันตัว เพราะมีพฤติการณ์หลบหนี แต่ดูรูปทรงแล้ว คงไม่ได้อะไรจากผู้ขับชน คงตายฟรีครับ