ข้อแรกคือเท่าที่ทราบมานักปั่นจักรยานถ้าปั่นจริงๆหลายกิโลเขาจะไม่นุ่งกกน.กันใช่ไหมคะเพราะเขาบอกมันจะเสียดสีและบาดตรงง่ามขา
แล้วที่เราสงสัยเราไม่ได้สงสัยในขณะที่กำลังปั่นแต่เราสงสัยว่าตอนที่เขาลงมาเดินในที่สาธารณะหรือชุมชนเราไม่ได้เป็นสปายหรือช่างสังเกตุอะไรขนาดนั้นแต่บางทีพอมันผ่านตาอยู่ในระดับสายตาเราก็เลยนึกสงสัยขึ้นมาและเรามั่นใจว่าหลายๆคนก็สงสัยเพียงแต่อาจจะไม่กล้าถาม
ไอ้ที่ตุ่งตุ๊งออกมาเนี่ยมันคือของจริงหรือเป็นฟองน้ำที่ support ด้านในมันหลอกตาเราที่เราถามเพราะเราเคยถามนักปั่นจักรยานหลายคนที่เขาไม่นุ่งกกนเขาก็เคยบอกแล้วว่าไม่จริงหรอกน้องฟองน้ำทั้งนั้นแหละมันหลอกตามันทำให้ดูตุ่งตุ๊ง แต่ในขณะที่หลายๆคนที่ปั่นเหมือนกันก็ตอบเราว่าฟองน้ำมันรองแค่ที่ด่นเลยมาข้างหน้าปิดแค่ไอ้ที่โตงเตงอยู่ 2 ฟองนิดเดียว ไอ้ส่วนที่ตุ่งตุ๊งขึ้นมาก็คือไอ้นั่นอ่ะแหละ
เราก็เลยงงว่าสรุปแล้วคือทำไมถามคนปั่นเหมือนกันแต่ได้คำตอบไม่เหมือนกัน

ข้อต่อมาคือเราเห็นมีคนขายกางเกงปั่นจักรยานมือสองกันเราก็เลยงงว่ากางเกงปั่นเนี่ยราคามือหนึ่งมันแพงจนเอื้อมไม่ถึงเลยหรอทำไมถึงมีคนกล้าซื้อของมือสองมาใส่กันโดยเฉพาะของใช้ส่วนตัวแบบนี้เพราะโดยปกติพวกแปรงสีฟันหรือกางเกงในเขาไม่ยืมใครใส่กันไม่ใช่เหรอ
แล้วซื้อมาอย่างนี้ไม่กลัว "หมอกระเด็น" เหรอ อีกอย่างไม่กลัวคนอื่นเป็นโรคอะไรเหรอถึงกล้าซื้อมาใช้ของส่วนตัวแบบนี้

สุดท้ายเราอยากจะถามว่าจริงไหมที่เขาบอกว่าผู้ชายที่มีปัญหานกเขาไม่ขันถ้าเกิดได้มาลองปั่นจักรยานสักพักใหญ่ๆเนี่ยจะทำให้เหมือนปึ๋งปั๋งและอึดขึ้น
เราเคยได้ยินพวกผู้หญิงเขาเมาธ์กันแต่เราก็ไม่รู้ว่าเขาเมาธ์กันขำๆหรือเรื่องจริง
เคยได้ยินว่านักปั่นจักรยานได้ปั่นไปสักพักเนี่ยจะปึ๋งปั๋งและอึดมาก จริงเท็จเป็นอย่างไรคะ

คำถามดูเหมือนทะลึ่งแต่อยากรู้จริงๆค่ะ ถ้าอยากรู้แล้วถามคนที่ปั่นจริงๆคิดว่าไม่น่าจะผิดหรือเสียมารยาทใช่ไหมคะ
ขอบคุณมากค่ะหากจะช่วยแชร์ข้อมูลกันมา...