เมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 10 มิ.ย. 2563 ได้ฝากส่ง EMS ผ่าน Lotus Express สาขา ชุมชนนเรศวร จ.อยุธยา โดยจะให้นำจ่ายที่ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
*ข้อสังเกตุที่ 1 ทางพนักงานได้ให้หมายเลขพัศดุตามรูปที่แนบมา แต่ยังไม่สามารถค้นหาในระบบของไปรษณีย์ไทยได้ ต้องรอให้เจ้าหน้าไปรษณีย์เข้ารับพัสดุก่อนถึงจะสามารถตรวจสอบสถานะจากระบบได้



วันที่ 11 มิ.ย. 2563 เวลา 17:36 (1 วันหลังจากนำฝากพัสดุ) ได้มีเจ้าหน้าที่มารับของ ช่วงเช้าของวันที่ 13 มิ.ย. 2563 จึงได้ตรวจสอบสถานะจากระบบอีกครั้งจึงได้พบว่าพัสดุยังอยู่ที่ลำพูนและจอมทอง จึงได้โทรแจ้ง 1545 อยู่หลายครั้ง ระหว่างวันที่ 13 - 18 มิ.ย. 2563
*ข้อสังเกตที่ 2 เมื่อแจ้งหมายเลขพัสดุ 13 หลักกับ 1545 เจ้าหน้าที่ไม่สามารถค้นหาชื่อ-ที่อยู่ของผู้ส่งและผู้รับจากระบบได้
*ข้อสังเกตที่ 3 ทุกคร้งที่ติดต่อ 1545 ต้องรอสายถึง 10 นาที



วันที่นำพัศดุจ่ายจริงคือวันที่ 18 มิ.ย. 2563 สำหรับการนำส่งผ่าน EMS ไม่สมควรจะใช้เวลาถึง 1 สัปดาห์ในการนำจ่าย จึงได้สอบถามผ่าน 1545 ได้ใจความว่าให้ลูกค้าไปทำเรื่องเรียกร้องที่สาขาต้นทางเท่านั้น (ไม่สามารถทำเรื่องที่สาขาอื่นได้) นั่นก็คือสาขาอยุธยา ระยะทางจากจุดรับฝากพัสดุถึงสาขาอยุธยาอยู่ที่ประมาณ 7 กม. เนื่องด้วยระยะทางขนาดนี้ ไม่คุ้บกับค่าใช้จ่ายที่จะต้องเดินทางไป

สิ่งที่อยากจะไห้ไปรษณีย์ไทยพัฒนา เพราะตามข้อมูลด้านล่างนี้บริษัทขนส่งอื่นๆทำได้หมดแล้ว
1.เมื่อผู้รับบริการนำฝากให้ระหัส 13 หลักของพัศดุมาต้องสามารถค้าหาในระบบได้ ไม่ต้องให้รอจนถึงวันถัดไป
2.เมื่อทางไปรษณีย์ไทยให้ระหัส 13 หลักกับลูกค้า จะต้องค้นหาข้อมูลผู้ส่งและผู้รับได้ ถ้าไม่อย่างงั้นก็จะไม่มีประโยชน์ในการให้บริการหมายเลขนี้
3.ควรจะให้ลูกค้ารอสาย 1545 ไม่เกิน 2-3 นาที
4.สำหรับเวลาในการนำจ่ายของ EMS ไม่สมควรจะนานถึง 1 สัปดาห์
5.สาขาของไปรษรณีย์ไทยมีจำนวนมาก สมควรที่จะสามารถทำแทนกันได้ แต่พอมีปัญหาแบบกรณีนี้ ต้องให้ลูกค้ากลับไปเรียกร้องที่สาขาต้นทาง

ที่เล่าประสบการมาทั้งหมดนี้ก็เพื่อแบ่งปันประสบการให้เพื่อนๆสมาชิก