ต้องขอเกริ่นก่อนว่า เรื่องคือเรื่องไม่เป็นเรื่องจริงๆ
เรื่องมีอยู่ว่า เรากับคนข้างห้องไม่ถูกกัน เคยมีปัญหามาก่อนหน้านี้ เรื่องเก่าเราไม่ได้เริ่ม อย่างเช่นเรื่องนี้ เราก็ไม่ได้เริ่ม เราตำแตงกินใช่ไหม ตอนตี1ตี2อยู่ในช่วงเวลานี้ แต่วิธีการตำของเราคือ ไม่เอาครกวางไว้พื้น แต่เอามาวางไว้บนตัก เพื่อไม่เสียงกระทบไปห้องข้างล่าง แล้วข้างห้องเหมือนนางได้ยิน แล้วเอาไปโพสต์ว่าเรา เราทำกิน3วัน ก็โพสต์ว่า3วัน วัน1กับวันที่2ไม่ได้ใช้คำด่าหยาบ แต่วันที่3มีคำหยาบ(ไม่ได้เอ่ยชื่อเรา)นางไปบอกเสมียนว่าเราเสียงดัง เราก็ตกลงกับเสมียนว่า โอเคจะไม่ทำอีก แต่ด้วยความสงสัยว่าห้องไหนไปบอก เราก็เลยเดาว่าห้องข้างๆเพราะอยู่ติดกันแล้วมันดังขนาดนั้นเลยหรอ เลยเข้าไปส่องเฟสบุ๊กของเขา(เขาตั้งสาธารณะเอาไว้เลยเห็นที่จริงไม่ได้เป็นเพื่อนกัน)โพสต์2วันก่อนเราไม่ซีเรียสไง แต่วันที่3มีการด่า
เราก็ไม่โอเคไง บอกกับเสมียนเราไม่ว่า แต่โพสต์ด่าเราไม่โอเค เลยโพสต์ด่ากลับ แต่ไม่เอ่ยชื่อนาง ตั้งเฉพาะเพื่อน แล้วเพื่อนในเฟสคนนึงแคปไปให้นางดู แล้วนางก็โทรไปหาพี่ที่ทำงานเก่า เพื่อขอเบอร์เรา แล้วโทรมาด่า ตอนนั้นเราทำงาน นางให้เราออกงานมาหานาง ซึ่งระยะทางจากที่ทำงานไปหานาง23กิโลเมตร (แล้วใครจะไป) เราบอกไม่ไป นางบอกงั้นเดี๊ยวไปหาที่ทำงาน(นางจะกระเตงลูกน้อยมาด่าเราที่ทำงานหรอ)
เราก็บอกมาเลย แล้วนางบอกให้ไปโรงพักกับนางนางจะไปแจ้งความ เราบอกไม่ไปเพราะทำงานอยู่นางก็ด่าๆเรา แล้วไงจะทนเราก็ด่าๆกลับ นางบอกว่าโพสต์ด่าลูกนางทำไมเราก็บอกว่าไม่ได้ด่าลูกด่าแม่มัน แล้วโพสต์ก็ไม่มีชื่อด้วย นางก็บอกอย่า ปญอ เราก็บอกที่โพสต์ด่าเราละ ด่าได้แต่คนอื่นมั้งคนอื่นทำบ้างทำไปโวยวาย ด่ากันไปมานานอยู่พักนึง พี่ที่งานก็บอกให้วางเพราะเดี๊ยวหัวหน้าว่าเอา แล้วนางทิ้งท้ายไว้ว่า เข้าใจแหละว่าคนไม่มีพ่อแม่ เลยไม่มีคนสั่งสอน มีแม่เป็นแมงดาก็เลยเป็นแบบนี้(ฮัลโลใครจ๊ะ) เราเลยบอกว่าพูดถึงตัวเองให้เราฟังทำไม เราก็ตัดสายทิ้งเพราะจะต้องทำงาน แล้วนางก็โทรมาอีก เรารับแล้วบอกว่า “จะทำงานคะ”แล้วตัดสายทิ้งเลย นางโทรมาอีก4สายแต่ไม่รับค่ะ จากนั้นตอนประมาณเกือบ1ทุ่มไปลงบันทึกประจำวันไว้ว่า “มีคนใช้เฟสบุ๊ก(ชื่อเฟสเรา)ทักแชทไปตาอว่าเขาเสียงดัง และพาเพื่อนมาเสียงดังอีก(ฮัลโลเราไม่เคยทักแชทไปหาเขาเพราะไม่ได้เป็นเพื่อนกัน)แล้วนางก็ทักแชทหาพี่คนเดิมแล้วเอารูปบันทึกประวันที่นางไปแจ้งไว้ บอกให้ส่งให้เรา บอกว่ามันเป็นคดีทางเพ่ง จะเอาเรื่องเราก็ได้เดี๊ยวให้ทนายจัดการให้ พี่ก็ส่งมาให้ บอกให้คุยกันดีๆไม่อยากมีเรื่อง เราเคยคุยไปในสายนั้นแล้วว่า เราขอให้จบเองแต่นางไม่ยอม พอนางไปหาตร.นางบอกให้เรายอมนางจะไม่เอาเรื่อง
เราบอกไม่สนเพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด วันต่อมา ด้วยความที่เราเข้างานเย็น เลิกงานตี1ตี2ตื่นสาย เหมือนนางร้อนรน โทรไปหาพี่เขาอีกบอกว่าเราจะเอายังไง จะจบไหม(ฮัลโลอยู่ข้างห้องทำไมไม่มาเคาะแล้วถามคะ ถามคนอื่นทำไม) พี่เขาบอกว่า “น้องมันไม่สนใจหรอกว่าพี่จะทำยัง”ใช่คะ เราไม่สนใจ เพราะหลังเลิกงานเราแวะหาตำรวจถามความเป็นไปของเรื่องที่นางลงบันทึกเอาไว้ว่า จะเป็นยังไงต่อ ตำรวจอธิบายเข้าใจคุยดีคะ ก็โอเค เราแค่รอให้เขาว่าจะเอาเรื่องเราไหม ต่อจากที่นางโทรมาหาพี่นะคะ พี่เขาก็ทักมาหาเรา เราก็ตื่นแล้วลงไปห้องพี่เขาเลย เพื่อไปดูแชท นางแชทมาว่า เราลบโพสต์แล้วใช่ไหม(ที่จริงไม่ได้ลบจ้าแต่แค่ไม่ได้เป็นเพื่อนนางเลยไม่เห็น)นางบอกไม่อยากให้เป็นเรื่อง(แล้วไปหาตร.ทำไมอันนี้แอบสงสัยนะคะ)ในแชทนางบอกประมาณว่า”ให้เราเลิกบ้าโพสต์ด่าคนอื่นได้แล้วถ้าเราไม่ยอมจบนางจะเอาเรื่องเราจะให้ทนายเอาขึ้นศาลเรียกค่าเสียหายได้เป็นแสน”(ฮัลโลกูไปโกงแชร์เป็นล้านหรอหรอ)นางเข้าใจว่าเราลบโพสต์ แต่โทษโพสต์ของเรายังสบายดีอยู่จ๊ะ จากนั้นนางเข้าใจเองเออเองว่าเรายอมจบ แต่ไม่เห็นเดินมาคุยกับเราหรือถามเราเลยสักคำว่าจะเอายังไง555 เรางงมาก ตกลงคือใครที่ต้องคุยเพื่อไกล่เกลี่ยกัน เรากับนางไม่ใช่หรอ ทำไมไม่คุยกับเรา คุยกับคนอื่นเออออเองนี้นะ เราอยากรู้ว่าเขาติดต่อทนายแล้วหรอถึงพูดแต่ทนายแล้วก็ทนายอยู่นั้นแหละ พี่ก็บอกว่าพ่อนางเมาแล้วขับรถไปชนคนตายโดนไป7กระทงติดคุกไปแล้วนางให้ทนายวิ่งเต้นเพื่อให้พ่อนางรอด นางเลยเอาคำว่าทนายมาขู่กับเรา คำถามคือ
1. ที่นางลงบันทึกประจำวันมีผลอะไรกับเราในระยาวไหม
2. นางโทรมาด่าเราก่อน แล้วที่นางลงบันทึกเอาไว้ไม่ใช่เรื่องจริงต้องทำยัง
3. นางเอาทนายมาขู่ว่าจะเอาเรื่องเราเรียกค่าเสียหายได้เป็นแสน เอาสามรถเอาเรื่องกลับได้ไหม(ปล.นางไม่ได้ทักแชทมาหาเราแต่ทักแชทหาพี่)
4. คนแบบนี้มีอาการใกล้เคียงกับโรคประสาทหรือเปล่า (เพราะที่เซเว่นนางก็ลงมาด่าเรา เพราะแค่โพสต์เรื่องถุงซึ่งนางทะเลาะกับน้องอีกคนนึงไม่ใช่เราแต่มาเม้นโวยวายในโพสต์ของเรา จากนั้นเราตอบไปตอบมาเราเลยไม่ตอบ นางลงมาด่าเราถึงร้าน เสียงดังมาก จากนั้นนางทำถ้าจะเข้ามาทำร้ายร่างกายเรา แต่พ่อกับสามีนางดึงและกระชากออกจากร้านไป จำได้ว่าตอนนั้นเราร้องไห้ด้วยเพราะกลัวคนเสียงดัง ตอนที่พ่อกับสามีนางลากออกไปนางขัดขืนจะเข้ามาในร้านอีกแต่นางสู้แรงผู้ชายสองคนไม่ได้ นางเลยได้แต่โวยวายว่า “ปล่อยกูกูจะเข้าไป กูจะไปหามัน ปล่อย!ปล่อย! นานกว่าพักนึงถึงจะลากออกไปพ้นร้าน)
5. เรื่องทั่งหมดนี้ส่งผลต่อสภาพจิตใจเรามาก ใจนึงก็กลัว เราเดินเลี่ยงไม่ผ่านห้องเขา ไม่ใช่เรากลัว แต่ถ้ามีเรื่องกัน เรากลัวที่พักเขาให้เราออก
6. เรื่องทั้งหมดเป็นความขอสาบานว่าเล่าความจริงทั้งหมด ไม่มีหมกเม็ดแน่นอน เรายอมรับที่เราอารมณ์ร้อนด้วย แต่ไม่คิดจะปกปิดให้ตัวเองถูก ช่วยแนะนำด้วยค่ะ
เรื่องไม่เป็นเรื่อง
เรื่องมีอยู่ว่า เรากับคนข้างห้องไม่ถูกกัน เคยมีปัญหามาก่อนหน้านี้ เรื่องเก่าเราไม่ได้เริ่ม อย่างเช่นเรื่องนี้ เราก็ไม่ได้เริ่ม เราตำแตงกินใช่ไหม ตอนตี1ตี2อยู่ในช่วงเวลานี้ แต่วิธีการตำของเราคือ ไม่เอาครกวางไว้พื้น แต่เอามาวางไว้บนตัก เพื่อไม่เสียงกระทบไปห้องข้างล่าง แล้วข้างห้องเหมือนนางได้ยิน แล้วเอาไปโพสต์ว่าเรา เราทำกิน3วัน ก็โพสต์ว่า3วัน วัน1กับวันที่2ไม่ได้ใช้คำด่าหยาบ แต่วันที่3มีคำหยาบ(ไม่ได้เอ่ยชื่อเรา)นางไปบอกเสมียนว่าเราเสียงดัง เราก็ตกลงกับเสมียนว่า โอเคจะไม่ทำอีก แต่ด้วยความสงสัยว่าห้องไหนไปบอก เราก็เลยเดาว่าห้องข้างๆเพราะอยู่ติดกันแล้วมันดังขนาดนั้นเลยหรอ เลยเข้าไปส่องเฟสบุ๊กของเขา(เขาตั้งสาธารณะเอาไว้เลยเห็นที่จริงไม่ได้เป็นเพื่อนกัน)โพสต์2วันก่อนเราไม่ซีเรียสไง แต่วันที่3มีการด่า
เราก็ไม่โอเคไง บอกกับเสมียนเราไม่ว่า แต่โพสต์ด่าเราไม่โอเค เลยโพสต์ด่ากลับ แต่ไม่เอ่ยชื่อนาง ตั้งเฉพาะเพื่อน แล้วเพื่อนในเฟสคนนึงแคปไปให้นางดู แล้วนางก็โทรไปหาพี่ที่ทำงานเก่า เพื่อขอเบอร์เรา แล้วโทรมาด่า ตอนนั้นเราทำงาน นางให้เราออกงานมาหานาง ซึ่งระยะทางจากที่ทำงานไปหานาง23กิโลเมตร (แล้วใครจะไป) เราบอกไม่ไป นางบอกงั้นเดี๊ยวไปหาที่ทำงาน(นางจะกระเตงลูกน้อยมาด่าเราที่ทำงานหรอ)
เราก็บอกมาเลย แล้วนางบอกให้ไปโรงพักกับนางนางจะไปแจ้งความ เราบอกไม่ไปเพราะทำงานอยู่นางก็ด่าๆเรา แล้วไงจะทนเราก็ด่าๆกลับ นางบอกว่าโพสต์ด่าลูกนางทำไมเราก็บอกว่าไม่ได้ด่าลูกด่าแม่มัน แล้วโพสต์ก็ไม่มีชื่อด้วย นางก็บอกอย่า ปญอ เราก็บอกที่โพสต์ด่าเราละ ด่าได้แต่คนอื่นมั้งคนอื่นทำบ้างทำไปโวยวาย ด่ากันไปมานานอยู่พักนึง พี่ที่งานก็บอกให้วางเพราะเดี๊ยวหัวหน้าว่าเอา แล้วนางทิ้งท้ายไว้ว่า เข้าใจแหละว่าคนไม่มีพ่อแม่ เลยไม่มีคนสั่งสอน มีแม่เป็นแมงดาก็เลยเป็นแบบนี้(ฮัลโลใครจ๊ะ) เราเลยบอกว่าพูดถึงตัวเองให้เราฟังทำไม เราก็ตัดสายทิ้งเพราะจะต้องทำงาน แล้วนางก็โทรมาอีก เรารับแล้วบอกว่า “จะทำงานคะ”แล้วตัดสายทิ้งเลย นางโทรมาอีก4สายแต่ไม่รับค่ะ จากนั้นตอนประมาณเกือบ1ทุ่มไปลงบันทึกประจำวันไว้ว่า “มีคนใช้เฟสบุ๊ก(ชื่อเฟสเรา)ทักแชทไปตาอว่าเขาเสียงดัง และพาเพื่อนมาเสียงดังอีก(ฮัลโลเราไม่เคยทักแชทไปหาเขาเพราะไม่ได้เป็นเพื่อนกัน)แล้วนางก็ทักแชทหาพี่คนเดิมแล้วเอารูปบันทึกประวันที่นางไปแจ้งไว้ บอกให้ส่งให้เรา บอกว่ามันเป็นคดีทางเพ่ง จะเอาเรื่องเราก็ได้เดี๊ยวให้ทนายจัดการให้ พี่ก็ส่งมาให้ บอกให้คุยกันดีๆไม่อยากมีเรื่อง เราเคยคุยไปในสายนั้นแล้วว่า เราขอให้จบเองแต่นางไม่ยอม พอนางไปหาตร.นางบอกให้เรายอมนางจะไม่เอาเรื่อง
เราบอกไม่สนเพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด วันต่อมา ด้วยความที่เราเข้างานเย็น เลิกงานตี1ตี2ตื่นสาย เหมือนนางร้อนรน โทรไปหาพี่เขาอีกบอกว่าเราจะเอายังไง จะจบไหม(ฮัลโลอยู่ข้างห้องทำไมไม่มาเคาะแล้วถามคะ ถามคนอื่นทำไม) พี่เขาบอกว่า “น้องมันไม่สนใจหรอกว่าพี่จะทำยัง”ใช่คะ เราไม่สนใจ เพราะหลังเลิกงานเราแวะหาตำรวจถามความเป็นไปของเรื่องที่นางลงบันทึกเอาไว้ว่า จะเป็นยังไงต่อ ตำรวจอธิบายเข้าใจคุยดีคะ ก็โอเค เราแค่รอให้เขาว่าจะเอาเรื่องเราไหม ต่อจากที่นางโทรมาหาพี่นะคะ พี่เขาก็ทักมาหาเรา เราก็ตื่นแล้วลงไปห้องพี่เขาเลย เพื่อไปดูแชท นางแชทมาว่า เราลบโพสต์แล้วใช่ไหม(ที่จริงไม่ได้ลบจ้าแต่แค่ไม่ได้เป็นเพื่อนนางเลยไม่เห็น)นางบอกไม่อยากให้เป็นเรื่อง(แล้วไปหาตร.ทำไมอันนี้แอบสงสัยนะคะ)ในแชทนางบอกประมาณว่า”ให้เราเลิกบ้าโพสต์ด่าคนอื่นได้แล้วถ้าเราไม่ยอมจบนางจะเอาเรื่องเราจะให้ทนายเอาขึ้นศาลเรียกค่าเสียหายได้เป็นแสน”(ฮัลโลกูไปโกงแชร์เป็นล้านหรอหรอ)นางเข้าใจว่าเราลบโพสต์ แต่โทษโพสต์ของเรายังสบายดีอยู่จ๊ะ จากนั้นนางเข้าใจเองเออเองว่าเรายอมจบ แต่ไม่เห็นเดินมาคุยกับเราหรือถามเราเลยสักคำว่าจะเอายังไง555 เรางงมาก ตกลงคือใครที่ต้องคุยเพื่อไกล่เกลี่ยกัน เรากับนางไม่ใช่หรอ ทำไมไม่คุยกับเรา คุยกับคนอื่นเออออเองนี้นะ เราอยากรู้ว่าเขาติดต่อทนายแล้วหรอถึงพูดแต่ทนายแล้วก็ทนายอยู่นั้นแหละ พี่ก็บอกว่าพ่อนางเมาแล้วขับรถไปชนคนตายโดนไป7กระทงติดคุกไปแล้วนางให้ทนายวิ่งเต้นเพื่อให้พ่อนางรอด นางเลยเอาคำว่าทนายมาขู่กับเรา คำถามคือ
1. ที่นางลงบันทึกประจำวันมีผลอะไรกับเราในระยาวไหม
2. นางโทรมาด่าเราก่อน แล้วที่นางลงบันทึกเอาไว้ไม่ใช่เรื่องจริงต้องทำยัง
3. นางเอาทนายมาขู่ว่าจะเอาเรื่องเราเรียกค่าเสียหายได้เป็นแสน เอาสามรถเอาเรื่องกลับได้ไหม(ปล.นางไม่ได้ทักแชทมาหาเราแต่ทักแชทหาพี่)
4. คนแบบนี้มีอาการใกล้เคียงกับโรคประสาทหรือเปล่า (เพราะที่เซเว่นนางก็ลงมาด่าเรา เพราะแค่โพสต์เรื่องถุงซึ่งนางทะเลาะกับน้องอีกคนนึงไม่ใช่เราแต่มาเม้นโวยวายในโพสต์ของเรา จากนั้นเราตอบไปตอบมาเราเลยไม่ตอบ นางลงมาด่าเราถึงร้าน เสียงดังมาก จากนั้นนางทำถ้าจะเข้ามาทำร้ายร่างกายเรา แต่พ่อกับสามีนางดึงและกระชากออกจากร้านไป จำได้ว่าตอนนั้นเราร้องไห้ด้วยเพราะกลัวคนเสียงดัง ตอนที่พ่อกับสามีนางลากออกไปนางขัดขืนจะเข้ามาในร้านอีกแต่นางสู้แรงผู้ชายสองคนไม่ได้ นางเลยได้แต่โวยวายว่า “ปล่อยกูกูจะเข้าไป กูจะไปหามัน ปล่อย!ปล่อย! นานกว่าพักนึงถึงจะลากออกไปพ้นร้าน)
5. เรื่องทั่งหมดนี้ส่งผลต่อสภาพจิตใจเรามาก ใจนึงก็กลัว เราเดินเลี่ยงไม่ผ่านห้องเขา ไม่ใช่เรากลัว แต่ถ้ามีเรื่องกัน เรากลัวที่พักเขาให้เราออก
6. เรื่องทั้งหมดเป็นความขอสาบานว่าเล่าความจริงทั้งหมด ไม่มีหมกเม็ดแน่นอน เรายอมรับที่เราอารมณ์ร้อนด้วย แต่ไม่คิดจะปกปิดให้ตัวเองถูก ช่วยแนะนำด้วยค่ะ