เตือนภัย มิจฉาชีพที่โคตรเนียน (หลอกขายโทรศัพท์)

อยากจะเขียนขึ้นในวันนี้มีจุดประสงค์เพื่อที่จะเตือนทุกๆคนเกี่ยวกับมิจฉาชีพที่โคตรเนียน
และสิ่งที่เราได้เรียนรู้กับเหตุการณ์ร้ายๆที่มันเกิดขึ้น

ส่วนตัวเป็นคนที่ค่อนข้างระมัดระวังตัว ไม่ค่อยเชื่ออะไรง่ายๆ อยู่แล้ว. จนรู้สึกว่าเรามีอคติและมีทัศนคติทุกอย่างที่เป็นแง่ลบไปหมด เลยอาจจะลองคิดว่าบางทีสิ่งที่ดีมันก็อาจจะมีจริงๆ คือพยายามมองโลกในแง่บวก มาแทนที่จะมองว่าทุกอย่างคือเป็นเรื่องเลวร้ายหรือคนจะมาโกงเราตลอดเวลา

เริ่มจากที่ว่ามีคนทักทายเรามาแล้วก็มีการพูดคุยทักทายกันเป็นปกติว่าทำอะไรอยู่ ทางเค้าก็ตอบว่ากำลังจะเอามือถือไปขายพอดีซื้อมาด้วยโควต้าของพนักงานก็เลยจะขายเอากำไร เราเองก็เอะขึ้นมานิดนึงในใจว่าก็ดี เราเองก็ไม่อยากจะไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับสิ่งที่เขาได้มาเพราะว่าเราไม่รู้ว่าสิ่งที่เราจะเจอเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องโกหก แล้วก็มีความคิดแว๊บมาในหัวว่าจงอย่าโลภมาก เค้าอาจจะโกหกเราก็ได้

แล้วมีจังหวะที่ได้มาเจอกันเค้าก็มีการเปิดบทสนทนาว่า พอดีได้โควต้าซื้อโทรศัพท์ได้ในราคาพิเศษสนใจจะฝากซื้อหรือเปล่า ซึ่งตอนนั้นเอง เราก็ได้มีขอดูเอกสารเกี่ยวกับโปรโมชั่น นั้น ทางเค้าเองก็เนียนมากมีการส่งอีเมลให้ดูพร้อมกับแสดงบัตรพนักงานพร้อมให้เราถ่ายบัตรประชาชน และให้ดูว่าเป็นพนักงานของค่ายมือถือพัดสีฟ้านี้จริง (ตอนนั้นเราเองก็ได้มีการแอบถ่ายบัตรพนักงานไว้) หลังจากที่เขาได้แสดงหลักฐานแล้วความโลภก็ได้เข้าครอบงำ ซึ่งตอนนี้หลายคนก็คงต้องบอกว่าสมน้ำหน้าเรา แต่บอกเลยว่าเอกสารที่เค้าเอามาชัดเจนมาก แต่งตัวด้วยชุดฟอร์มของพนักงานพร้อมกับป้ายของพนักงาน 

บอกเลยทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะความโลภของเราก็เลยมีการโอนเงินให้ทั้งทั้งที่ก็ไม่ได้สนิทอะไรมาก่อนยอดโอนก้อนแรกคือประมาณ 350,000 บาท 

แต่เพียงอยากจะบอกว่าเอกสารที่เขานำเสนอมาทุกอย่างมีความชัดเจนหมดแม้กระทั่งหลอกในเรื่องของline บริษัท
 
โคตรเทพมาก 

พร้อมทั้งให้รายละเอียดว่าเค้าพักอยู่คอนโดนี้ ห้องนี้ พูดตรงๆตอนหลังเราก็ไปเช็คว่าห้องนี้ไม่ใช่ห้องที่เค้าซื้อจริงตามที่เขาได้บอกไว้ แต่จริงๆคนนี้ได้เช่าอยู่

ต่อมาวันรุ่งขึ้นเค้าก็มีการถ่ายรูปใบเสร็จรับเงิน แบบโชว์รูปใบเสร็จที่เคาน์เตอร์ว่ามีการชำระจริง รูปใบเสร็จรับเงินที่เคาน์เตอร์มือถือนั้นและตัวเลขในเอกสารทุกอย่างที่ออกมามีความเกี่ยวข้องตรงกันหมดซึ่งตอนนั้นก็ยังเอะใจว่าถ้าตั้งใจจะโกง คือจะต้องเป็นระดับมืออาชีพพอสมควร เพราะว่าเอกสารทุกตัวที่เขานำเสนอมามีตัวเลขเกี่ยวข้องกันหมด

โคตรรรจริงๆ

เหมือนว่าเค้าจะไม่พอใจก็เลยโกหก มีบอกอีกว่าถ้าจะให้โควต้าสำหรับซื้อมันจะต้องขาดไปอีกนิดหน่อยก็เลยหลงโอนเงินไปอีกประมาณ 150,000 บาทรวมเป็นประมาณ 500,000 บาท (เสียโง่รอบสอง)

อีกประมาณหนึ่งสัปดาห์บอกว่าโคต้าของมีจำนวนจำกัดจะเอาหมดเลยมั้ยตอนนั้นบอกตรงตรงเลยว่าคนทั้งโลกมาเพราะว่าเอกสารทุกอย่างที่เค้าจะส่งให้เป็นระยะ มันเนียนมาก เลยโอนไปอีกประมาณ 250,000 บาทรวมเป็นทั้งหมด 750,000 บาท (รู้สึกตัวเองว่าทำไมโง่และโลภมาขนาดนี้)

โง่มะ 

เอาจริงๆถ้าตอนนี้ใครจะด่าก็ด่านะครับ เพราะเมื่อถึงจุดๆนั้น มันมีเอกสารหลายอย่างที่แสดงว่าทุกอย่างมันมีความชัดเจนและถูกต้อง มันทำให้เราหลงเชื่อ
และเชื่อว่า หลายคน ก็ต้องเึคยโดนหลอกมา 
ถ้าเราเป็นคนอ่าน เรื่องของคนอื่น เราก็มีเวลาคิด และบอกได้ว่า เราฉลาดกว่า เหมือนกับเวลาที่เราดูพวก เกมโชว์ ที่เราเหมือนจะตอบคำถามได้หมด
แต่เมื่อบางเรื่องราว ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เราก็กลายเป็นเหยื่อ และเป็นคนโง่ได้เช่นกัน เหมือนกับสิ่งที่ผมได้เจอ

เพราะผ่านมาสักพักก็เริ่มเอะใจเพราะว่าวันที่เราตกลงว่าจะนำส่ง มันมีการยืดเวลาออกไปตอนนั้นเอะใจแล้วว่าโอกาสที่เราจะโดนหลอกมันก็มี ก็เลยเอาบัตรพนักงานไปเช็คในระบบของดีแทคปรากฏว่าไม่มีพนักงานชื่อนี้ และไม่มีรหัสแบบนี้ (เพื่อนเช็คให้) คือตอนนั้น เคยถามไป เค้าก็บอก โปรนั้นไม่เคยทีนะ หรือ ไม่แน่ใจ แต่คิดว่า ไม่น่ามี (เริ่มหวั่นๆ แต่ความโลภยังมีอยู่)

ระหว่างนั้น เค้าก็หลอกเราให้ตายใจอยู่ คือให้มือถือเรามา 1 เครื่อง กับ iwatch บอกว่า เบิกมาได้เท่านี้ก่อน ของติดโน่นนั้นนี่ คือยังแต่งเรื่องหลอก และถ่วงเวลา แต่เราเอง ก็พยายาม ทักไปตลอด เพราะกลัวเค้าจะบล๊อก และหายไป 

ต่อมา ก็ได้มีการหาทางติดต่อน้องบางคนที่ทำงานในบริษัทนั้น ว่าโค้ดรหัสสินค้านี้คืออะไร (เอาเอกสารให้ดูหมด) ปรากฏว่ามันไม่ใช่มือถือตามที่ได้บอกมา แต่มันเป็นซอฟต์แวร์ ทำให้เห็นว่ากลุ่มนี้ทำงานกันเป็นกระบวนการ และมีการวางแผนกันมาก่อน และจริงๆ คือน่าจะทำมานานแล้ว 

ซวยละกู 

ทีนี้เราก็ต้องมาคิดว่าเราจะทำยังไงถึงจะได้เงินก้อนนั้นกลับมา

สติ สติ สติ 

ระหว่างนั้นได้มีการถามตัวเองว่าถ้าเราถูกโกงเราจะเป็นอย่างไร แล้วสิ่งที่มันเกิดขึ้นหรือการที่เราโอนเงินง่ายเกินไปนั้นเป็นเพราะอะไร เราตั้งคำถาม เพื่อเรียนรู้ 

ระหว่างที่รอ เราก็ได้มีเวลามาเรียนรู้และคิดไตรตรองว่า บทเรียนที่เราได้รับ ถ้าเรามีการโดนโกงก็คือเราเป็นคนโลภมากเกินไป และเราก็เรียนรู้อะไรอีก จากเรื่อวราวนี้ .. นั้นคือ ความอดทน 

เราไม่โวยวายทันที เราเก็บเอกสารทั้งหมด เรียบเรียงเรื่องราว ทำความเข้าใจกับสภาวะ เหตุการณ์ ตั้งสติ ยอมรับความโง่ 

เอาจริงๆระยะเวลาที่เกิดขึ้นจนกระทั่งผ่านไปใช้เวลาเกือบสามเดือนระหว่างนั้นเราก็ไม่ได้บอกอะไรใครมีการปรึกษาทนายมีการปรึกษากฎหมายแต่รายละเอียด ขอไม่บอกนะ (น้องคนนั้นอาจได้มาอ่าน และจะระวังตัวมากขึ้น) 

ระหว่างนั้นเราได้ตั้งสติบอกกับตัวเองว่าถ้าเรื่องราวมันผ่านไปได้มันจะเป็นบทเรียนครั้งใหญ่สำหรับเราอีกเรื่องหนึ่ง

ระหว่างนั้นเราก็มีการพูดคุยกับพนักงานคนนั้นตลอดเวลา มีการรวบรวมหลักฐาน เอกสาร เช็คที่อยู่ คือเราพร้อมลุย รวมถึงมีการใช้จิตวิทยาบางอย่าง แม้กระทั่งปรึกษาหมอดู (ตรงมาก) 

สุดท้ายเราได้เงินคืนมากกว่า 700,000 บาทซึ่ง ดีใจมากกก
(มั่นใจว่า เค้าไปหลอกคนอื่นมาอีกที เพื่อเอามาคืนเรา) 

เชื่อว่าถ้าเรื่องที่เล่านี้ มีการแชร์ออกไป มิจฉาคน นั้นก็คงจะรู้ตัวว่าเป็นใครที่ได้มาหลอกเงินผมไป ผมขอไม่เล่าว่าทำอย่างไรผมถึงได้เงินคืน เพราะว่ามันจะเป็นช่องโหว่บอกว่าเค้าจะหนีได้ง่ายขึ้น

แค่อยากจะเล่าว่าบางครั้งความโลภหรือ คนที่แสดงว่าเค้าน่าเชื่อถือไม่ว่าจะเป็นเรื่องเอกสาร บัตรพนักงานหรืออะไรก็ตามที่เขาพยายามบอกเรานั้นคือเรื่องจริง 
 
ผมได้เรียนรู้ว่า ..จงอย่าโลภมาก 
จงมีสติ กับทุกการกระทำ 
คำว่ารวยทางลัด เราก็พลาดได้เหมือนกัน
อยากรวย เราต้องขยัน
เชื่อมั่นกับสัญชาตญาณตัวเอง

ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่