ผมมีเพื่อนเป็นสลิ่มเกินสิบหลิ่ม
เวลาคุยเรื่องการเมือง กับ เพื่อน ๆ ที่เป็นสลิ่มหลายคน
ผมจะพูดกับเพื่อนว่า
เอ็งมีสิทธิ์ มีเสรีภาพ ที่จะชอบนักการเมืองคนไหนก็ได้ พรรคไหนก็ได้
จะเกลียด จะชอบ จะวิจารณ์ จะโจมตี จะชื่นชมยกย่องนักการเมืองคนไหนพรรคใดก็ได้เช่นเดียวกัน
แต่เอ็งต้องเข้าใจในครรลองของเรื่องรัฐศาสตร์การปกครอง
ต้องเชื่อมั่นและรักษาในระบบที่ใช้อยู่ ที่เป็นอยู่ ไม่ใช่อยากได้มะม่วง แต่ดันปลูกบักทัน
เกลียดนักการเมือง ชอบนักการเมือง เอ็งก็ต้องสนับสนุนในครรลอง
อย่าคิด อย่าสนับสนุนอะไรที่ผิดเพี้ยนบิดเบี้ยวไปจากครรลองที่ควรเป็น
เหมือนแกอยากกินต้มไก่ แต่มีคนปรุงรสชาติไม่ถูกปาก แกก็ต้องแก้ไข เปลี่ยนพ่อครัว หรือ ทนรอหม้อใหม่ ร้านใหม่
ไม่ใช่เตะหม้อต้มไก่กระเด็น แล้วเอาทุเรียนมาต้มกินแทน แล้วกระแดะบอกว่าอร๊อยอร่อย
ประชาธิปไตย คือ ระบอบ เป็นระบบที่โลกนี้พิสูจน์มานับพันปีแล้ว
ว่าเป็นระบอบระบบที่เลวร้ายน้อยที่สุดในการปกครองและบริหารจัดการบ้านเมือง
ทุกคนมีโอกาสเท่า ๆ กันในการดำเนินชีวิต เข้าถึงทรัพยากร มีโอกาสทางสังคม การศึกษา การเมือง เศรษฐกิจ
มีเสรีภาพในการพูด เขียน แสดงออก อยู่ร่วมกันบนความเห็นต่างหลากหลาย แต่เป้าหมายเดียวกัน คือความสงบสุข
การด่ากัน การบูลลี่ การไม่ยอมรับฟัง หรืออะไรต่าง ๆ ของผู้คนในบ้านเมือง
เป็นเรื่องปัจเจกเฉพาะบุคคล เฉพาะกลุ่ม เฉพาะพวก ไม่ใช่เรื่องระบอบและระบบ
ถ้าเอ็งเห็นว่าอะไรไม่ดี เอ็งต้องสรรหาสิ่งที่กว่า เลือกสิ่งที่ดีกว่ามาแทน
ไม่ใช่สรรหา เรียกร้อง เลือกสิ่งที่แย่กว่ามาแทน แล้วดัดจริตว่า ดี๊ดี
เอ็งต้องตระหนัก การเมืองต้องเป็นไปภายใต้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
และกฎหมายนั้น ต้องชอบธรรม เป็นธรรม ยุติธรรม อย่าอ้างแค่กฎหมายดุ่ย ๆ
หากมีนอกลู่นอกทาง ขัดกฎหมาย โกงกิน เอ็งก็ต้องหาทางป้องกัน แก้ไขตามครรลอง
เพราะหากไปแก้ไขนอกครรลอง อ้างว่าเพื่อปราบปรามการโกงกิน ผลที่ตามมาจะเลวร้ายกว่าการโกงกินหลายเท่า
ฯลฯ
ผมจะพูดทำนองนี้กับเพื่อน ๆ สลิ่มทุกคน พูดไปตามประสาคนหน้าตาดี
.
และทุกครั้ง เพื่อนสลิ่มผม จะเงียบ
จะมีก็แค่บางคนที่เถียงแบบแถ ๆ ว่า ประชาธิปไตยไม่เหมาะกับประเทศไทย
แต่พอผมถามว่า ไม่เหมาะยังไง เพื่อนหลิ่มก็จะบอกว่า เอ็งไม่เข้าใจหรอก อย่างเอ็งก็แค่เหยื่อนักการเมือง
ยังงี้ทุกที
.
แต่ไม่เคยขึ้งโกรธอะไรกัน ซดยาดองกันปกติ
บางทีมีประเด็นการเมืองเกิดขึ้น ก็เถียงกัน แย้งกัน แล้วก็จบลงตรงที่ว่า รอดู เมิงหรือกรู จะถูกหรือจะผิด
อย่างเรื่อง กปปส. ผ่านมาถึงวันนี้ เพื่อนหลิ่มผมสองคน ยังปวดใจกับลุงกำนันไม่หาย
กลายเป็นคนอมโรคกลัวนกหวีดไปเลย
.
นี่แหละครับ สังคมประชาธิปไตย
ถูกคอกันได้ ขัดคอกันได้ ถกเถียงทะเลาะหรือกลมกลืนกันได้
ไม่ต้องกลัวโพเดียมปลิวมาใส่
ทู้อินเทรนด์ ผมก็มีเพื่อนเป็นสลิ่ม ................................................ โดย ตระกองขวัญ
เวลาคุยเรื่องการเมือง กับ เพื่อน ๆ ที่เป็นสลิ่มหลายคน
ผมจะพูดกับเพื่อนว่า
เอ็งมีสิทธิ์ มีเสรีภาพ ที่จะชอบนักการเมืองคนไหนก็ได้ พรรคไหนก็ได้
จะเกลียด จะชอบ จะวิจารณ์ จะโจมตี จะชื่นชมยกย่องนักการเมืองคนไหนพรรคใดก็ได้เช่นเดียวกัน
แต่เอ็งต้องเข้าใจในครรลองของเรื่องรัฐศาสตร์การปกครอง
ต้องเชื่อมั่นและรักษาในระบบที่ใช้อยู่ ที่เป็นอยู่ ไม่ใช่อยากได้มะม่วง แต่ดันปลูกบักทัน
เกลียดนักการเมือง ชอบนักการเมือง เอ็งก็ต้องสนับสนุนในครรลอง
อย่าคิด อย่าสนับสนุนอะไรที่ผิดเพี้ยนบิดเบี้ยวไปจากครรลองที่ควรเป็น
เหมือนแกอยากกินต้มไก่ แต่มีคนปรุงรสชาติไม่ถูกปาก แกก็ต้องแก้ไข เปลี่ยนพ่อครัว หรือ ทนรอหม้อใหม่ ร้านใหม่
ไม่ใช่เตะหม้อต้มไก่กระเด็น แล้วเอาทุเรียนมาต้มกินแทน แล้วกระแดะบอกว่าอร๊อยอร่อย
ประชาธิปไตย คือ ระบอบ เป็นระบบที่โลกนี้พิสูจน์มานับพันปีแล้ว
ว่าเป็นระบอบระบบที่เลวร้ายน้อยที่สุดในการปกครองและบริหารจัดการบ้านเมือง
ทุกคนมีโอกาสเท่า ๆ กันในการดำเนินชีวิต เข้าถึงทรัพยากร มีโอกาสทางสังคม การศึกษา การเมือง เศรษฐกิจ
มีเสรีภาพในการพูด เขียน แสดงออก อยู่ร่วมกันบนความเห็นต่างหลากหลาย แต่เป้าหมายเดียวกัน คือความสงบสุข
การด่ากัน การบูลลี่ การไม่ยอมรับฟัง หรืออะไรต่าง ๆ ของผู้คนในบ้านเมือง
เป็นเรื่องปัจเจกเฉพาะบุคคล เฉพาะกลุ่ม เฉพาะพวก ไม่ใช่เรื่องระบอบและระบบ
ถ้าเอ็งเห็นว่าอะไรไม่ดี เอ็งต้องสรรหาสิ่งที่กว่า เลือกสิ่งที่ดีกว่ามาแทน
ไม่ใช่สรรหา เรียกร้อง เลือกสิ่งที่แย่กว่ามาแทน แล้วดัดจริตว่า ดี๊ดี
เอ็งต้องตระหนัก การเมืองต้องเป็นไปภายใต้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
และกฎหมายนั้น ต้องชอบธรรม เป็นธรรม ยุติธรรม อย่าอ้างแค่กฎหมายดุ่ย ๆ
หากมีนอกลู่นอกทาง ขัดกฎหมาย โกงกิน เอ็งก็ต้องหาทางป้องกัน แก้ไขตามครรลอง
เพราะหากไปแก้ไขนอกครรลอง อ้างว่าเพื่อปราบปรามการโกงกิน ผลที่ตามมาจะเลวร้ายกว่าการโกงกินหลายเท่า
ฯลฯ
ผมจะพูดทำนองนี้กับเพื่อน ๆ สลิ่มทุกคน พูดไปตามประสาคนหน้าตาดี