สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
เราว่าโควิด ทำให้ life style คนไทยเปลี่ยนค่ะ
ช่วงหยุดไม่ใช่อยู่บ้านอัดอั้นไปวันๆ รอวันคลายล็อกดาวน์ค่อยช็อปปิ้ง
หยุดโควิด คนหันไปซื้อออนไลน์ค่ะ เรามองว่าซื้อเกินความจำเป็นด้วยซ้ำ รูดบัตรไปก่อน พอตอนนี้ปลดล็อก เงินที่ควรหมุนในระบบ มันกลับต้องเอาไปใช้หนี้บัตรที่กดออนไลน์ไว้ช่วงกักตัว ทำให้คนไม่ค่อยซื้อของ ยกเว้นของกินของใช้ในชีวิตประจำวันค่ะ
ยังไงก็สู้ๆ นะคะ
ช่วงหยุดไม่ใช่อยู่บ้านอัดอั้นไปวันๆ รอวันคลายล็อกดาวน์ค่อยช็อปปิ้ง
หยุดโควิด คนหันไปซื้อออนไลน์ค่ะ เรามองว่าซื้อเกินความจำเป็นด้วยซ้ำ รูดบัตรไปก่อน พอตอนนี้ปลดล็อก เงินที่ควรหมุนในระบบ มันกลับต้องเอาไปใช้หนี้บัตรที่กดออนไลน์ไว้ช่วงกักตัว ทำให้คนไม่ค่อยซื้อของ ยกเว้นของกินของใช้ในชีวิตประจำวันค่ะ
ยังไงก็สู้ๆ นะคะ
ความคิดเห็นที่ 6
ต่อให้ปลดล็อคกลับมาเป็นเหมือนเดิม 100% แล้วก็เถอะ แต่คนที่โดนเลิกจ้าง พักงาน ลดเงินเดือน ลดวันทำงาน อะไรทั้งหลายแหล่ ยังไม่ได้กลับไปเป็นเหมือนเดิมด้วยนี่ครับ
อย่างพวกที่ทำเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ที่ต้องอาศัย นทท. จาก ตปท. เป็นกลุ่มลูกค้าหลักนี่ เดี้ยงยาว ยังไม่มีแววว่าจะฟื้นได้เมื่อไหร่เลย
หลาย ๆ กิจกรรม ก็ยังไม่สามารถจัดหรือทำเหมือนเดิมได้แบบ 100% มีข้อห้ามเพียบ เช่น พวกจัดงานอีเว้นท์ คอนเสิร์ต
หลายคนนี่ ตกงานโดยสมบูรณ์แบบในเวลาที่ยังไม่มีความพร้อมอะไร ยังไม่รู้ว่าจะเอาอย่างไรกับชีวิตต่อไปดีเลย เสียด้วยซ้ำไป
เศรษฐกิจระดับกลางล่างลงมาถึงรากหญ้า น่าจะยังอยู่ในสภาวะซบเซา ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง แบบนี้ไปอีกหลายปีครับ
ต้องใช้เวลาในการเยียวยากันอีกนาน เที่ยวนี้หนักกว่าตอนต้มยำกุ้งเยอะ (ในความรู้สึกของคนระดับกลางล่างลงมาถึงรากหญ้า)
อย่างพวกที่ทำเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ที่ต้องอาศัย นทท. จาก ตปท. เป็นกลุ่มลูกค้าหลักนี่ เดี้ยงยาว ยังไม่มีแววว่าจะฟื้นได้เมื่อไหร่เลย
หลาย ๆ กิจกรรม ก็ยังไม่สามารถจัดหรือทำเหมือนเดิมได้แบบ 100% มีข้อห้ามเพียบ เช่น พวกจัดงานอีเว้นท์ คอนเสิร์ต
หลายคนนี่ ตกงานโดยสมบูรณ์แบบในเวลาที่ยังไม่มีความพร้อมอะไร ยังไม่รู้ว่าจะเอาอย่างไรกับชีวิตต่อไปดีเลย เสียด้วยซ้ำไป
เศรษฐกิจระดับกลางล่างลงมาถึงรากหญ้า น่าจะยังอยู่ในสภาวะซบเซา ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง แบบนี้ไปอีกหลายปีครับ
ต้องใช้เวลาในการเยียวยากันอีกนาน เที่ยวนี้หนักกว่าตอนต้มยำกุ้งเยอะ (ในความรู้สึกของคนระดับกลางล่างลงมาถึงรากหญ้า)
ความคิดเห็นที่ 20
สังคมปรกติแบบใหม่... มันไม่ได้เปลี่ยนคนหรือวิถีชีวิตคนไปได้100% ภายในเวลาอันสั้นอย่างเดียวหรอก... จขกท ต้องเข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และอยู่ร่วมกับ "ความจนของคนและเศรษฐกิจที่พัง" ให้ได้ครับ
เรื่องออนลงออนไลน์ และ เรื่องส่งอาหารที่บ้าน..มันไม่ได้เปลี่ยนคนหรือลักษณะการใช้ชีวิตคน "ส่วนใหญ่" และกระทบกับทุกส่วนของสังคม.. มันมีผล..แต่ไม่ได้มีขนาดเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้คนอย่างสมบูรณ์แบบ.. จริงๆ ผมเคยลงเรื่อง "ด้านมืด"ของการขายออนไลน์ไว้.. เพราะผมเองก็ทำมาเป็นสิบปีแล้ว..เกือบ20ปีด้วยซ้ำ.. เดี๋ยวค่อยๆหาจากกระทู้เก่าๆ ก่อน..ไม่อยากพิมพ์ขึ้นมาใหม่... เอาแค่ "น้ำจิ้ม"ก็แล้วกัน ขายของออนไลน์ กำไรน้อยมากๆ เพราะตัดราคากันเอง ไม่ว่าจะทั้งสินค้าและบริการ แถมถ้าเป็นเก็บเงินปลายทางลูกค้างคืนสินค้า ยกเลิกการสั่งซื้อ 80%-90%
รอดูเดือน กรกฏาคมนะครับ.. เราจะเห็นภาพลางๆ ว่าทิศทางเศรษฐกิจจะไปทางไหน? ปลายๆ กรกฏาคม พวกเราจะเห็นตัวเลขหัวขือ 1/2/3/4 ที่ผมเขียนไว้ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง?
พิษเศรษฐกิจนี่เพิ่งเริ่มนะครับ..
1. คนยังตกงานมากมาย
1.5 คนที่ได้เงินช่วยเหลืองวดสุดท้ายคือ 15มิย หลังจากนั้นเขาก็จะกลายสถานะเป็น คนตกงาน(ข้อ1)
2. คนที่มีเงินเขาก็ไม่ใช้เงิน เพราะเขาไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นภายภาคหน้า
3. ต่างชาติเข้าไม่ได้ เขาก็กลัวเรา เราก็กลัวเขา ไม่พวกเขานำเชื้อโรคเข้ามา เราก็ส่งออกโรคให้เขา
4. จาก 1/2/3 ร้านค้า ขายสินค้าและบริการได้แค่ 1ใน3 หรือ 1ใน2 ของเวลาปรกติ (ก่อนมกราคมนะ มกราคมก็แย่มากๆอยู่แล้ว)
ร้านรวงจะอยู่ได้แค่ 3-6เดือนเท่านั้น เพราะรายได้น้อยกว่ารายจ่าย (ค่าเช่า ค่าแรง ค่าสินค้า ค่าอุปกรณ์) หมดทุนก็ต้องปิดกิจการ (ตอนนี้ก็เห็นห้องว่างตามถนน ห้องว่างในห้างในหลายๆที่แล้ว)
5. อยากได้รถถูกๆ บ้านถูกๆไหม? ตอนนี้เยอะแยะ.. แต่ต้องเงินสดนะ ถ้าจะเข้าสินเชื่อ ไฟแนนซ์บอก ->ถามกรูก่อนไหม? กรูให้กู้ไหม?
ต้องดาวน์30% อาชีพเสี่ยงไม่ปล่อยให้กู้ อัตราปฏิเสธสินเชื่อตอนนี้คือร้อยละ 50 อีก3เดือนน่าจะร้อยละ 70 สินเชื่อบ้านเหรอ? ให้กู้ร้อยละ70ของราคาสินทรัพย์เท่านั้นนะ...
การบิน โรงแรม ท่องเที่ยว ทัวร์ รถรับส่งนักท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ อีเว้นต์ ออแกนไนเซอร์ โมษณา เดี้ยงไปแล้ว.. และคงวงเวียนอยู่กับความเงียบไปอีกนาน
เรื่องออนลงออนไลน์ และ เรื่องส่งอาหารที่บ้าน..มันไม่ได้เปลี่ยนคนหรือลักษณะการใช้ชีวิตคน "ส่วนใหญ่" และกระทบกับทุกส่วนของสังคม.. มันมีผล..แต่ไม่ได้มีขนาดเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้คนอย่างสมบูรณ์แบบ.. จริงๆ ผมเคยลงเรื่อง "ด้านมืด"ของการขายออนไลน์ไว้.. เพราะผมเองก็ทำมาเป็นสิบปีแล้ว..เกือบ20ปีด้วยซ้ำ.. เดี๋ยวค่อยๆหาจากกระทู้เก่าๆ ก่อน..ไม่อยากพิมพ์ขึ้นมาใหม่... เอาแค่ "น้ำจิ้ม"ก็แล้วกัน ขายของออนไลน์ กำไรน้อยมากๆ เพราะตัดราคากันเอง ไม่ว่าจะทั้งสินค้าและบริการ แถมถ้าเป็นเก็บเงินปลายทางลูกค้างคืนสินค้า ยกเลิกการสั่งซื้อ 80%-90%
รอดูเดือน กรกฏาคมนะครับ.. เราจะเห็นภาพลางๆ ว่าทิศทางเศรษฐกิจจะไปทางไหน? ปลายๆ กรกฏาคม พวกเราจะเห็นตัวเลขหัวขือ 1/2/3/4 ที่ผมเขียนไว้ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง?
พิษเศรษฐกิจนี่เพิ่งเริ่มนะครับ..
1. คนยังตกงานมากมาย
1.5 คนที่ได้เงินช่วยเหลืองวดสุดท้ายคือ 15มิย หลังจากนั้นเขาก็จะกลายสถานะเป็น คนตกงาน(ข้อ1)
2. คนที่มีเงินเขาก็ไม่ใช้เงิน เพราะเขาไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นภายภาคหน้า
3. ต่างชาติเข้าไม่ได้ เขาก็กลัวเรา เราก็กลัวเขา ไม่พวกเขานำเชื้อโรคเข้ามา เราก็ส่งออกโรคให้เขา
4. จาก 1/2/3 ร้านค้า ขายสินค้าและบริการได้แค่ 1ใน3 หรือ 1ใน2 ของเวลาปรกติ (ก่อนมกราคมนะ มกราคมก็แย่มากๆอยู่แล้ว)
ร้านรวงจะอยู่ได้แค่ 3-6เดือนเท่านั้น เพราะรายได้น้อยกว่ารายจ่าย (ค่าเช่า ค่าแรง ค่าสินค้า ค่าอุปกรณ์) หมดทุนก็ต้องปิดกิจการ (ตอนนี้ก็เห็นห้องว่างตามถนน ห้องว่างในห้างในหลายๆที่แล้ว)
5. อยากได้รถถูกๆ บ้านถูกๆไหม? ตอนนี้เยอะแยะ.. แต่ต้องเงินสดนะ ถ้าจะเข้าสินเชื่อ ไฟแนนซ์บอก ->ถามกรูก่อนไหม? กรูให้กู้ไหม?
ต้องดาวน์30% อาชีพเสี่ยงไม่ปล่อยให้กู้ อัตราปฏิเสธสินเชื่อตอนนี้คือร้อยละ 50 อีก3เดือนน่าจะร้อยละ 70 สินเชื่อบ้านเหรอ? ให้กู้ร้อยละ70ของราคาสินทรัพย์เท่านั้นนะ...
การบิน โรงแรม ท่องเที่ยว ทัวร์ รถรับส่งนักท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ อีเว้นต์ ออแกนไนเซอร์ โมษณา เดี้ยงไปแล้ว.. และคงวงเวียนอยู่กับความเงียบไปอีกนาน
แสดงความคิดเห็น
ทำไมชีวิตหลังโควิด ขายของเงียบกว่าเดิมอีกคะ จะหมดเดือนแล้วค่าเช่ายังไม่ได้เลย