โรคคอตีบ ห่างหายไปจากเมืองไทยนานแสนนานแล้ว จนคนรุ่นใหม่ ไม่รู้จัก "โรคคอตีบ" เป็นไง และไม่นึกว่า วันนี้จะกลับมาเยือนไทยอีกครั้ง! เหมือนโรคเท้าช้างที่ระบาดอีกโดยชาวต่างชาติเพื่อนบ้านเป็นพาหะ
ช่วยฉันหน่อย ช่วยพากันไปฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคคอตีบกันเหอะ แต่ ! อย่าโกลาหล? เพราะสถานที่ฉีดวัคซีนนั้น เป็นสุขศาลา อนามัยใกล้บ้าน คุณต้องไปติดต่อกับเขาก่อน เขาจะนัดฉีดกันวันไหน และ กติกาของเขาคือ คุณจะต้อง มีอายุที่ลงท้ายครบปีด้วยเลข 0 เช่น 20 30 40 50 60 70 ปีเป็นต้น ที่กำหนดเช่นนี้ เพราะ พวกเขาและคุณจะได้จำง่าย และวัคซีนก็มีสต๊อกไว้น้อย
ต้องถามกันก่อนว่าฉีดวันไหน เช่น วันอังคาร สัปดาห์ที่ 4 ของทุกเดือนเป็นต้น สุขศาลา อนามัย ไม่ได้ฉีดให้ทุกวัน
แต่หากรีบ หรือ ลืมว่าฉีดเข็มสุดท้ายเมื่อไหร่? ก็ค้นหาข้อมูล สถานที่ให้บริการคุณได้ ก็ไปใช้บริการเสียเงินนะ เร็วทันใจ
คอตีบ (Diphtheria) เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีความรุนแรง มักจะมีผลต่อเยื่อบุจมูกและลำคอ หรืออาจเกิดกับผิวหนังได้ในบางราย โดยคอตีบเป็นโรคที่ติดต่อกันได้ง่ายผ่านทางการไอและจาม หรือการสัมผัสกับผู้ป่วยโรคคอตีบ นอกจากนั้นการสัมผัสกับสิ่งของเครื่องใช้ของผู้ป่วย เช่น เครื่องนอนหรือเสื้อผ้า ก็มีโอกาสทำให้ติดเชื้อได้
อาการของคอตีบ
สัญญาณและอาการของคอตีบมักจะเกิดขึ้นหลังจากได้รับเชื้อ 2-5 วัน ซึ่งอาจเกิดอาการเหล่านี้ ได้แก่
เป็นแผลและมีเยื่อบุสีเทาเกิดขึ้นที่ในลำคอและบริเวณต่อมทอนซิล
มีไข้สูงตั้งแต่ 38 องศาเซลเซียส ขึ้นไป
หนาวสั่น
รู้สึกเมื่อยล้า อ่อนเพลีย
มีอาการปวดศีรษะ
มีน้ำมูก
มีอาการเจ็บคอ ไอ เสียงแหบ
ต่อมน้ำเหลืองในคอบวม
กลืนอาหารลำบาก หรือรู้สึกเจ็บเวลากลืน
หอบ เหนื่อย หายใจลำบาก
ในบางครั้งโรคคอตีบยังสามารถเกิดขึ้นได้ที่ผิวหนังซึ่งเรียกว่า (Cutaneous Diphtheria) ซึ่งจะเกิดตุ่มหนองขึ้นที่ผิวหนัง มักจะเกิดขึ้นที่ขา เท้า และมือ โดยแผลและตุ่มพองเหล่านี้จะก่อตัวจนเป็นแผลขนาดใหญ่ขึ้นและล้อมรอบไปด้วยปื้นแดงและมีเยื่อบุสีเทา ลักษณะของผิวดูคล้ายแผลกดทับ แผลเหล่านี้มักจะหายไปได้เองภายใน 2-3 เดือน แต่อาจทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้ หากพบว่าตนเองหรือบุตรหลานมีสัญญาณและอาการของโรคคอตีบ ควรรีบพาไปพบแพทย์โดยเร็ว เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
สาเหตุของคอตีบ
เชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคคอตีบ คือ Corynebacterium Diphtheriae โดยเชื้อตัวนี้มักพบว่ามีการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนเชื้อขึ้นบริเวณเยื่อบุที่คอ และสามารถแพร่กระจายเชื้อได้ผ่านทาง 3 ทาง ได้แก่
ทางอากาศ เมื่อผู้ป่วยคอตีบไอหรือจาม จะปล่อยแพร่ละอองที่ปนเปื้อนเชื้ออยู่ ซึ่งผู้ที่อยู่ใกล้เคียงอาจสูดเอาเชื้อนี้เข้าไป โดยโรคคอตีบจะแพร่กระจายและติดต่อได้ดีในทางอากาศ โดยเฉพาะในที่ที่มีคนจำนวนมาก
ของใช้ส่วนตัวที่ปนเปื้อนเชื้อ ผู้ป่วยคอตีบบางรายพบว่าได้รับเชื้อจากการจับหรือสัมผัสกับกระดาษทิชชู่ที่ใช้แล้วของผู้ที่ติดเชื้อ รวมถึงดื่มน้ำจากแก้วของผู้ที่มีเชื้อ
ของใช้ภายในบ้านที่ปนเปื้อนเชื้อ เป็นสาเหตุที่พบได้น้อย โดยอาจได้รับการแพร่เชื้อจากของใช้ที่ใช้ร่วมกันภายในบ้าน เช่น เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว หรือของเล่นเด็ก
นอกจากนั้น การสัมผัสกับแผลของผู้ที่ติดเชื้อคอตีบ ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ติดเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ ได้เช่นกัน ผู้ที่มีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคคอตีบ ได้แก่ เด็กและผู้ใหญ่ที่ไม่มีภูมิคุ้มกันโรคคอตีบ และผู้ที่ใช้ชีวิตประจำวันที่ต้องพบผู้คนจำนวนมาก ๆ หรือขาดสุขอนามัยที่ดี รวมไปถึงผู้ที่เดินทางไปในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคคอตีบ
การวินิจฉัยคอตีบ
แพทย์มักพิจารณาโรคคอตีบจากสัญญาณและอาการของผู้ป้วย เช่น มีอาการเจ็บคอและมีเยื่อบุสีเทาเกิดขึ้นในคอและทอนซิล แพทย์จะวินิจฉัยโรคจากการเพาะเชื้อในห้องทดลองจากเยื่อบุในคอ นอกจาก นั้น ยังใช้ตัวอย่างจากแผลที่ผิวหนังนำไปเพาะเชื้อเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ป่วยเป็นโรคคอตีบ
การรักษาคอตีบ
โรคคอตีบเป็นโรคที่มีความรุนแรง มีความจำเป็นต้องได้รับการรักษาทันทีหากแพทย์สงสัยว่าเป็นโรค โดยที่ไม่ต้องรอการยืนยันจากการทดลองเพาะเชื้อ โดยการรักษาโรคคอตีบในปัจจุบัน ได้แก่
การใช้ยาต้านพิษ (Diphtheria Antitoxin) ใช้ยาต้านพิษเพื่อหยุดพิษที่ผลิตจากแบคทีเรียที่กำลังโจมตีร่างกาย เมื่อแพทย์คาดว่าคนไข้เป็นโรคคอตีบ แพทย์จะฉีดยาต้านพิษนี้เข้าทางหลอดเลือดดำหรือกล้ามเนื้อ
การใช้ยาปฏิชีวนะ โรคคอตีบสามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะ เช่น เพนิซิลิน (Penicillin) เพื่อฆ่าและกำจัดเชื้อแบคทีเรียในร่างกาย
โดยปกติของคนไข้โรคคอตีบจะต้องถูกแยกพักรักษาจากคนไข้อื่น ๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ และแยกรักษาไว้จนกว่าจะมั่นใจว่าไม่สามารถแพร่กระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่นได้ ซึ่งโดยปกติจะเป็นเวลาประมาณ 48 ชั่วโมงหลังจากเริ่มให้ยาปฏิชีวนะ และหลังจากคนไข้ได้รับยาปฏิชีวนะจนครบและเสร็จสิ้นแล้ว แพทย์จะทำการทดสอบเพื่อให้แน่ใจว่าเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ไม่ได้อยู่ในร่างกายของคนไข้แล้ว
ภาวะแทรกซ้อนของคอตีบ
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากโรคคอตีบ ได้แก่
การอุดกั้นของทางเดินหายใจ หายใจลำบาก ปอดติดเชื้อ และมีภาวะระบบหายใจล้มเหลวตามมา
สร้างความเสียหายให้กับระบบประสาท (Polyneuropathy) และเป็นอัมพาต
ทำให้มีกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (Myocarditis) และมีโอกาสหัวใจวาย
การป้องกันคอตีบ
หากได้รับการสัมผัสกับผู้ที่เป็นคอตีบ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจสอบและการรักษาที่สามารถทำได้ทันท่วงที ซึ่งแพทย์อาจสั่งยาปฏิชีวนะเพื่อช่วยป้องกันการพัฒนาของโรค นอกจากนั้น อาจต้องได้รับวัคซีนป้องกันโรคคอตีบเพิ่มเติม โดยการป้องกันที่ดีที่สุด คือการรับวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ ซึ่งในประเทศไทยแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบตั้งแต่ช่วงทารกและวัยเด็ก รวมถึงการฉีดวัคซีนกระตุ้นในช่วงวัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่ โดยวัคซีนที่ใช้เพื่อป้องกันมี 4 ชนิด ได้แก่ DTaP, Tdap, DT และ Td โดยวัคซีนเหล่านี้ใช้ในการป้องกันทั้งโรคคอตีบและบาดทะยัก
วัคซีน DTaP และ Tdap ยังใช้ในการป้องกันโรคไอกรนได้อีกด้วย ส่วนวัคซีน DTaP และ DT จะใช้กับเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 7 ปี ส่วน Tdap และ Td จะใช้ในเด็กโต วัยรุ่น และผู้ใหญ่
การรับรู้การแพร่ระบาด มาจากเสียงตามสาย ประกาศของจังหวัดต่างๆ
เนื้อหาอาการและยาวัคซีนที่สอดแทรก Cr.มาจาก www.pobpad.com/คอตีบ
โรคคอตีบ กลับมาเยือนไทยแล้ว ไปฉีดวัคซีนกันเหอะ
ช่วยฉันหน่อย ช่วยพากันไปฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคคอตีบกันเหอะ แต่ ! อย่าโกลาหล? เพราะสถานที่ฉีดวัคซีนนั้น เป็นสุขศาลา อนามัยใกล้บ้าน คุณต้องไปติดต่อกับเขาก่อน เขาจะนัดฉีดกันวันไหน และ กติกาของเขาคือ คุณจะต้อง มีอายุที่ลงท้ายครบปีด้วยเลข 0 เช่น 20 30 40 50 60 70 ปีเป็นต้น ที่กำหนดเช่นนี้ เพราะ พวกเขาและคุณจะได้จำง่าย และวัคซีนก็มีสต๊อกไว้น้อย
ต้องถามกันก่อนว่าฉีดวันไหน เช่น วันอังคาร สัปดาห์ที่ 4 ของทุกเดือนเป็นต้น สุขศาลา อนามัย ไม่ได้ฉีดให้ทุกวัน
แต่หากรีบ หรือ ลืมว่าฉีดเข็มสุดท้ายเมื่อไหร่? ก็ค้นหาข้อมูล สถานที่ให้บริการคุณได้ ก็ไปใช้บริการเสียเงินนะ เร็วทันใจ
คอตีบ (Diphtheria) เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีความรุนแรง มักจะมีผลต่อเยื่อบุจมูกและลำคอ หรืออาจเกิดกับผิวหนังได้ในบางราย โดยคอตีบเป็นโรคที่ติดต่อกันได้ง่ายผ่านทางการไอและจาม หรือการสัมผัสกับผู้ป่วยโรคคอตีบ นอกจากนั้นการสัมผัสกับสิ่งของเครื่องใช้ของผู้ป่วย เช่น เครื่องนอนหรือเสื้อผ้า ก็มีโอกาสทำให้ติดเชื้อได้
อาการของคอตีบ
สัญญาณและอาการของคอตีบมักจะเกิดขึ้นหลังจากได้รับเชื้อ 2-5 วัน ซึ่งอาจเกิดอาการเหล่านี้ ได้แก่
เป็นแผลและมีเยื่อบุสีเทาเกิดขึ้นที่ในลำคอและบริเวณต่อมทอนซิล
มีไข้สูงตั้งแต่ 38 องศาเซลเซียส ขึ้นไป
หนาวสั่น
รู้สึกเมื่อยล้า อ่อนเพลีย
มีอาการปวดศีรษะ
มีน้ำมูก
มีอาการเจ็บคอ ไอ เสียงแหบ
ต่อมน้ำเหลืองในคอบวม
กลืนอาหารลำบาก หรือรู้สึกเจ็บเวลากลืน
หอบ เหนื่อย หายใจลำบาก
ในบางครั้งโรคคอตีบยังสามารถเกิดขึ้นได้ที่ผิวหนังซึ่งเรียกว่า (Cutaneous Diphtheria) ซึ่งจะเกิดตุ่มหนองขึ้นที่ผิวหนัง มักจะเกิดขึ้นที่ขา เท้า และมือ โดยแผลและตุ่มพองเหล่านี้จะก่อตัวจนเป็นแผลขนาดใหญ่ขึ้นและล้อมรอบไปด้วยปื้นแดงและมีเยื่อบุสีเทา ลักษณะของผิวดูคล้ายแผลกดทับ แผลเหล่านี้มักจะหายไปได้เองภายใน 2-3 เดือน แต่อาจทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้ หากพบว่าตนเองหรือบุตรหลานมีสัญญาณและอาการของโรคคอตีบ ควรรีบพาไปพบแพทย์โดยเร็ว เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
สาเหตุของคอตีบ
เชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคคอตีบ คือ Corynebacterium Diphtheriae โดยเชื้อตัวนี้มักพบว่ามีการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนเชื้อขึ้นบริเวณเยื่อบุที่คอ และสามารถแพร่กระจายเชื้อได้ผ่านทาง 3 ทาง ได้แก่
ทางอากาศ เมื่อผู้ป่วยคอตีบไอหรือจาม จะปล่อยแพร่ละอองที่ปนเปื้อนเชื้ออยู่ ซึ่งผู้ที่อยู่ใกล้เคียงอาจสูดเอาเชื้อนี้เข้าไป โดยโรคคอตีบจะแพร่กระจายและติดต่อได้ดีในทางอากาศ โดยเฉพาะในที่ที่มีคนจำนวนมาก
ของใช้ส่วนตัวที่ปนเปื้อนเชื้อ ผู้ป่วยคอตีบบางรายพบว่าได้รับเชื้อจากการจับหรือสัมผัสกับกระดาษทิชชู่ที่ใช้แล้วของผู้ที่ติดเชื้อ รวมถึงดื่มน้ำจากแก้วของผู้ที่มีเชื้อ
ของใช้ภายในบ้านที่ปนเปื้อนเชื้อ เป็นสาเหตุที่พบได้น้อย โดยอาจได้รับการแพร่เชื้อจากของใช้ที่ใช้ร่วมกันภายในบ้าน เช่น เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว หรือของเล่นเด็ก
นอกจากนั้น การสัมผัสกับแผลของผู้ที่ติดเชื้อคอตีบ ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ติดเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ ได้เช่นกัน ผู้ที่มีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคคอตีบ ได้แก่ เด็กและผู้ใหญ่ที่ไม่มีภูมิคุ้มกันโรคคอตีบ และผู้ที่ใช้ชีวิตประจำวันที่ต้องพบผู้คนจำนวนมาก ๆ หรือขาดสุขอนามัยที่ดี รวมไปถึงผู้ที่เดินทางไปในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคคอตีบ
การวินิจฉัยคอตีบ
แพทย์มักพิจารณาโรคคอตีบจากสัญญาณและอาการของผู้ป้วย เช่น มีอาการเจ็บคอและมีเยื่อบุสีเทาเกิดขึ้นในคอและทอนซิล แพทย์จะวินิจฉัยโรคจากการเพาะเชื้อในห้องทดลองจากเยื่อบุในคอ นอกจาก นั้น ยังใช้ตัวอย่างจากแผลที่ผิวหนังนำไปเพาะเชื้อเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ป่วยเป็นโรคคอตีบ
การรักษาคอตีบ
โรคคอตีบเป็นโรคที่มีความรุนแรง มีความจำเป็นต้องได้รับการรักษาทันทีหากแพทย์สงสัยว่าเป็นโรค โดยที่ไม่ต้องรอการยืนยันจากการทดลองเพาะเชื้อ โดยการรักษาโรคคอตีบในปัจจุบัน ได้แก่
การใช้ยาต้านพิษ (Diphtheria Antitoxin) ใช้ยาต้านพิษเพื่อหยุดพิษที่ผลิตจากแบคทีเรียที่กำลังโจมตีร่างกาย เมื่อแพทย์คาดว่าคนไข้เป็นโรคคอตีบ แพทย์จะฉีดยาต้านพิษนี้เข้าทางหลอดเลือดดำหรือกล้ามเนื้อ
การใช้ยาปฏิชีวนะ โรคคอตีบสามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะ เช่น เพนิซิลิน (Penicillin) เพื่อฆ่าและกำจัดเชื้อแบคทีเรียในร่างกาย
โดยปกติของคนไข้โรคคอตีบจะต้องถูกแยกพักรักษาจากคนไข้อื่น ๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ และแยกรักษาไว้จนกว่าจะมั่นใจว่าไม่สามารถแพร่กระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่นได้ ซึ่งโดยปกติจะเป็นเวลาประมาณ 48 ชั่วโมงหลังจากเริ่มให้ยาปฏิชีวนะ และหลังจากคนไข้ได้รับยาปฏิชีวนะจนครบและเสร็จสิ้นแล้ว แพทย์จะทำการทดสอบเพื่อให้แน่ใจว่าเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ไม่ได้อยู่ในร่างกายของคนไข้แล้ว
ภาวะแทรกซ้อนของคอตีบ
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากโรคคอตีบ ได้แก่
การอุดกั้นของทางเดินหายใจ หายใจลำบาก ปอดติดเชื้อ และมีภาวะระบบหายใจล้มเหลวตามมา
สร้างความเสียหายให้กับระบบประสาท (Polyneuropathy) และเป็นอัมพาต
ทำให้มีกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (Myocarditis) และมีโอกาสหัวใจวาย
การป้องกันคอตีบ
หากได้รับการสัมผัสกับผู้ที่เป็นคอตีบ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจสอบและการรักษาที่สามารถทำได้ทันท่วงที ซึ่งแพทย์อาจสั่งยาปฏิชีวนะเพื่อช่วยป้องกันการพัฒนาของโรค นอกจากนั้น อาจต้องได้รับวัคซีนป้องกันโรคคอตีบเพิ่มเติม โดยการป้องกันที่ดีที่สุด คือการรับวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ ซึ่งในประเทศไทยแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบตั้งแต่ช่วงทารกและวัยเด็ก รวมถึงการฉีดวัคซีนกระตุ้นในช่วงวัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่ โดยวัคซีนที่ใช้เพื่อป้องกันมี 4 ชนิด ได้แก่ DTaP, Tdap, DT และ Td โดยวัคซีนเหล่านี้ใช้ในการป้องกันทั้งโรคคอตีบและบาดทะยัก
วัคซีน DTaP และ Tdap ยังใช้ในการป้องกันโรคไอกรนได้อีกด้วย ส่วนวัคซีน DTaP และ DT จะใช้กับเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 7 ปี ส่วน Tdap และ Td จะใช้ในเด็กโต วัยรุ่น และผู้ใหญ่
การรับรู้การแพร่ระบาด มาจากเสียงตามสาย ประกาศของจังหวัดต่างๆ
เนื้อหาอาการและยาวัคซีนที่สอดแทรก Cr.มาจาก www.pobpad.com/คอตีบ