เรื่องสั้น-ประสบการณ์ผวา " กลิ่นซ่อน"

ปกติเราเขียนเรื่องลงในกลุ่มเฟซบุคกลุ่มหนึ่งอยู่เรื่อยๆ 
คือกลุ่มเรื่องเล่า ผี เขย่าขวัญ 
รวมๆ แล้วคงประมาณ สิบกว่าเรื่องแล้วมั้ง
แต่ขอเรื่องนี้มาลงแบ่งปันให้อ่านครั้งแรก  เพราะเรื่องล่าสุดนี้  เรตติ้งดีกว่าทุกเรื่องที่เคยลง คือเกือบ 300ไลก์ (ปกติจะอยู่ 60-70 )จากสมาชิกหลายหมื่น
ส่วนใหญ่เป็นประสบการณ์จริง รวมทั้งฝันที่ชวนขนลุก

เรื่องนี้ก็เช่นกัน 
ข้อเท็จจริงบางอย่างถูกบิดออกเล็กน้อย เพื่อเคารพบุคคล และสถานที่   แต่เกือบทั้งหมดคือเรื่องจริง
ลองอ่านดูนะคับ 

                            "กลิ่นซ่อน"

                       เรื่องนี้เล่าย้อนไปไม่นานมากเหมือนเรื่องก่อน  คือย้อนไปราวสิบกว่าปีเศษๆเท่านั้น  เรียกว่ายังอยู่ในยุคปัจจุบัน แต่ไม่ใหม่มาก (เรื่องหน้าจะขยับเข้ามาเรื่อยๆ เล่าฮูขอย้อนอดีตเล็กน้อย) 👨‍🦳👨‍🦳👨‍🦳👨‍🦳
                       นพ เป็นเด็กหนุ่มรูปหล่อชาวเหนือ ผิวขาวจัด ในวัยยี่สิบเกือบปลายแล้ว สะอาด สำอางค์เอี่ยมตั้งแต่หัวจรดเท้า มีเสน่ห์ทั้งคำพูด หน้าตาและวาจาอ่อนหวานขี้เล่น ชอบเย้าหยอก เป็นที่รักของทั้งชายและหญิง ใครอยู่ใกล้พลอยแช่มชื่น
                        ใช่แร้วว นพเป็นเพศชายเมโทร.ที่ชัดเจนแจ่มแจ้ง ความหน้าตาดีทำให้เขาเปลี่ยนแฟนเป็นว่าเล่น จากเหนือจรดใต้
                         เรารู้จักกันโดยบังเอิญจากการประสานงานครั้งหนึ่ง ตอนนั้นเขาทำ NGo. เรื่องส่วนตัวไม่มีใครยุ่งใคร แต่นพเคารพเราเป็นพี่ชายที่คอยปรึกษาปัญหาเสมอ หลายครั้งก็ไปกินเหล้าด้วยกันแล้วต่างแยกย้าย
(วัยทำงานกินเหล้าเป็นแล้ว😂😂😂)
                         แน่ละเรื่องราวที่เขาพูดด้วยบ่อยๆ ก็คงเป็นเรื่องของความรัก และการทำงาน ที่เจ้าตัวทนกับอะไรไม่ค่อยได้จึง
เปลี่ยนงานเป็นว่าเล่น
                         แล้วนพก็ย้ายกลับเชียงใหม่ ไม่ได้ข่าวคราวเลยว่าไปทำอะไร? ที่ไหนต่อ

                         เงียบหายไปนาน ฤดูร้อนของปีนึง นพก็ส่งข่าวมาว่าจะมาเที่ยวเล่น บ้านเราก็ต้อนรับขับสู้อย่างดี จัดห้องหับให้หลับนอน เราไปทำงานเขาก็นั่งเล่นที่บ้านคุยกับแม่ไปสัพเพเหระ อ่านหนังสืออ่านเล่น ทำกับข้าว อาทิตย์เดียวก็ไปต่อ
                       สรุปมาคราวนี้บอกอกหัก เที่ยวตระเวนหาเพื่อนทุกภาค จากเหนือ มาอีสาน ล่องไปใต้
                       เคยพาไปนั่งฟังเพลงร้านเหล้าเล็กๆ เห็นนักดนตรีเล่นเพลงแล้วเขาจุ๊ปาก เป็นเชิงดูถูกว่าเล่นได้แค่นี้เองเหรอ 
                            "ถ้าพี่ไปเชียงใหม่นะ น้องจะพาไปพังเพลงอย่างเพราะกว่านี้มาก"  ก็จริงเพราะนี่เป็นเพียงร้านเล็กๆ นักดนตรีเล่นกันสบายๆ 2 -3 คน 
                        ว่าแล้วเขาก็ขอเพลง "คำสัญญาที่หาดใหญ่"
                        ละอ่อนเหนือชอบใช้คำแทนตัวว่า"น้อง"
                             "แหม ย้อนไปไกลอยู่นะ 5555" เราเย้าที่เขาขอเพลงย้อนไปอีก

                       ขากลับเขาบอกว่าไปคราวนี้คงไม่ได้มาอีก
                            " ไปลับแล้วนะพี่ "เจ้าตัวยังแย้มเยื้อน ไม่มีท่าทีโศรกเศร้า หรือถ้ามี เขาก็ไม่แสดงให้เห็น
                           " เฮ่ย หาว่าไป ไว้เจอกันใหม่ โชคดีๆ มีไรก็โทรมา ส่งข่าว"
                          " เด่วน้องจะให้เบอร์ที่ทำงานไว้นะ " นพไม่มีมือถือใช้ สิบกว่าปีก่อนไม่แปลกอะไร ไม่เหมือนตอนนี้ ที่คนไทย 90% ติดเป็นปัจจัยที่ 5 เสียแล้ว (แซงปัจจัย 6 น่าจะเป็นรถยนต์)
                               😬😬😬😬😬😬😬😬😬
                       หลายเดือนต่อมา แม่มาปลุกแต่เช้า
                           "ได้ยินเสียงน้อง(นพ)มาหา ไปไหนเสียแล้ว บอกว่ามากราบแม่"
                           " ไม่ได้มาเด้ แม่หูฝาดไหม"
                          " ไม่นะ เหมือนเข้ามาในห้องนี่ล่ะ"
                      สรุปว่าแม่คงฝัน หรือละเมอ เราก็ไม่ได้สนใจ ลืมๆที่จะโทรถามข่าวด้วยซ้ำ
                      ช่วงนั้นก็แปลกใจจัง
                      ไปไหนก็ตาม กลิ่นน้ำหอมคุ้นเคยวูบมาเป็นระยะเหมือนเราฉีดเองจนเพื่อนทัก
                           " แหม ตัวหอมจังเลยอะวันนี้"
                      เราก็ยิ้ม ๆ แน่นอน เราไม่ได้ฉีดน้ำหอมใดๆ ใช้แต่โรลออนกลิ่นเดิมคุ้นชินทุกวัน
                      บางวันมาเป็นกลิ่นธูป หอมจางๆ แตะจมูกวูบวาบแล้วก็ไป
                      เดินทางไปไหนก็ตาม ทันทีที่ขึ้นรถ กลิ่นธูปนี่มาล่ะ ติดจมูก (บนรถจะมาจากไหนไม่ทราบ)
                      ก็ยังซื้อบื้อไม่คิดอะไร ความรู้สึกช้า ว่างั้น
                      สักเดือนนึงได้แหละ ที่กลิ่นและเสียงตามติดอยู่รอบกาย แผ่วเบาพอให้สัมผัสได้ว่ามี"อะไร"อยู่ข้างๆ
                     วันนึงไม่รู้เป็นไง เกิดอยากโทรหาขึ้นมาดื้อๆ เลยค้นเบอร์โทร.โทรหา
                           "ขอสายนพคับ"
                           " นพ เหรอคะ !! " ปลายสายเป็นสตรี น้ำเสียงตกใจปิดไม่มิด "โทรมาจากไหน?"
                       พอเราบอก เสียงก็คลายลงคล้ายโล่งใจ
                           "เอ่อ...พี่เป็นพี่สาวนพค่ะ น้องเสียแล้วนะคะ ขอโทษด้วยที่ไม่ได้บอก เขาสั่งไว้ว่าห้ามโทรหาคุณ เขาบอกสักวันคุณจะโทรมาเอง
พี่รอหลายเดือนเหมือนกันนะคะนี่ "
                        หูอื้อ ตาลาย ใจหายวาบขนลุกซู่ เราค่อยๆวางสายอย่างไร้เรี่ยวแรง พี่สาวไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรมาก นอกจากบอกว่าหลังกลับจากเยี่ยมเพื่อนที่ภาคใต้ไม่นานนัก...
                          เหมือนเขารู้ตัวและวางแผนไว้แล้ว....
                          เลยตระเวนสั่งลาคนรู้จักไปหลายคน😨😨😨😨😨😨
......................................................................
                   ค่ำนั้น เราก้าวเท้าเข้าไปในร้านอาหารเปิดโล่งกับเพื่อนสาวอายุเยอะกว่าเรานิดหน่อย ฉลองการถูกหวย อารมณ์ดีอยากฟังเพลง
                  อินโทรเพลงทำนองคุ้นหู..ทักทายดอกแรก!!!
                       "ก่อนจากกันไป เหลือไว้เพียงคำสัญญา..."
                  พนักงานเสริ์ฟวางชุดจาน - ส้อม ลงเบื้องหน้า 3 ชุด เพื่อนสาวเหล่ตาทันที เป็นเชิงว่า เอาอีกแล้ว
                       "มาสองคนค่ะลูกกก"
                       "มีน้องผู้ชายอีกคนนี่คะ คนผิวขาวๆหล่อๆ ขาวคัก (ขาวมาก) เดินคู่กับพี่ผู้ชาย ตะกี้ยังเห็นอยู่ค่ะ" ทักทายดอกที่สอง
                        "อ๋ออออออ ไปห้องน้ำ วางไว้เลยคับ"
                    เราก้มลงไปพูดเบาๆกับจานเปล่า
                          "มาก็ไม่บอกนะนพ"
               ขนบนต้นคอลุกวาบ ลมเย็นโชยผ่านเป็นดอกที่สาม กลิ่นน้ำหอมคุ้นเคยกรุ่นมาแล้วจางหายไปกับสายลมยามค่ำ.

                                                                                                                                              @pongchotiwong
                                                                                                                                                      16/06/2563
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่