วันนี้ ( 16 มิ.ย. 63 )ผู้ใช้เฟซบุ๊ก นกกระจิบ นกกระจาบ ได้โพสต์วิดีโอเหตุการณ์ขณะที่ผู้ใช้รถรายหนึ่งถูกรถตำรวจนำขบวน รวมไปถึงรถตู้ของหน่วยงานราชการขับแซง เบียดและปาดหน้าอย่างกระชั้นชิด ซึ่ง นางสาวพัชรินทร์ วิกิตเศรษฐ เจ้าของโพสต์ดังกล่าว เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 12 มิถุนายน ขณะที่ตนและเพื่อนซึ่งเป็นทหารและเภสัชกรกำลังเดินทางกลับ กทม.หลังจากที่ไปสอนทำเจลแอลกอฮอล์ล้างมือที่ จังหวัดจันทบุรี ระหว่างที่ขับมาตามถนนเส้นทางลัดแกลง-จันทบุรี เป็นถนนแคบๆเพียงสองช่องทางจราจรวิ่งสวนไปมา
ปรากฎว่ามีรถตำรวจนำขบวนรถตู้อีก 3 คัน ขับมาจี้ท้ายรถและเปิดไซเรน แต่ตนไม่สามารถขับหลบได้ ด้วยความที่เป็นเลนสวนกัน ข้างทางก็มีไหล่ทางเพียงเล็กน้อยก็ไม่รู้จะขับหลบให้ขบวนไปทางไหน พอได้จังหวะที่เลนสวนมาไม่มีรถ รถตำรวจนำขบวนก็เร่งเครื่องแซงขวาและตบเข้าซ้ายปาดหน้ารถเราทันที ตามด้วยรถตู้คันสีดำที่คาดว่าบุคคลภายในรถจะเป็นข้าราชการระดับสูง ได้ขับแซงไปอย่างเดียว แต่รถตู้ตามหลังอีกคันที่ด้านข้างมีสัญลักษณ์หน่วยงานราชการ "สป.กษ."หรือ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กลับขับมาเบียดข้างๆ จนระบบเซนเซอร์ป้องกันความปลอดภัยของรถตนทำงานแล้วหักอัตโนมัติให้ ซึ่งรถนำขบวนดังกล่าวก็เร่งเครื่องแซงปาดหน้าไป หลังจากแซงไปไม่นาน ก็พบว่ายังมีการฝ่าไฟแดงบนเลนเลี้ยวขวาจนรถประชาชนรอบข้างต้องเบรกแบบกระทันหันอีกด้วย อย่างไรก็ตามนางสาวพัชรินทร์ ยังระบุว่า การกระทำของรถตำรวจนำขบวนและรถตู้สังกัดกระทรวงเกษตรที่กระทำเช่นนี้ รถของประชาชนจะต้องลงไหล่ทางจนเกิดอุบัติเหตุหรือไม่ ทั้งนี้ตนตั้งใจว่าจะไปแจ้งความข้อหาพยายามฆ่า เพราะการกระทำของบุคคลในขบวนนี้ จงใจกลั่นแกล้ง ให้ประชาชนเกิดอุบัติเหตุ
สำหรับ กฎเกณฑ์ในการใช้รถนำขบวน กรณีออกนอกเขตกรุงเทพมหานคร จะต้องขออนุญาตจากผู้บังคับการตำรวจทางหลวงหรือผู้รักษาราชการแทน หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับการตำรวจทางหลวงเป็นผู้พิจารณาอนุญาตโดยบุคคลผู้มีสิทธิขออนุญาตใช้รถนำขบวนได้
กรณีเป็นข้าราชการประจำต้องตั้งแต่ปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่าขึ้นไป และกรณีเป็นรัฐมนตรีต้องการใช้รถนำขบวน รัฐมนตรีควรพิจารณาใช้รถตำรวจนำขบวนตามความจำเป็นและเร่งด่วนตามภารกิจของทางราชการเป็นกรณี ๆ ไป
โดยแจ้งให้ทางฝ่ายที่มีหน้าที่จัดรถตำรวจนำขบวนทราบเป็นการล่วงหน้า ซึ่งการใช้รถตำรวจนำขบวนต้องใช้เฉพาะเพื่อการเดินทางไปราชการเท่านั้น ไม่ควรใช้ในกิจส่วนตัว นอกจากนี้ต้องขับด้วยความระมัดระวังให้เป็นที่ปลอดภัยแก่ผู้ร่วมใช้ถนน
https://www.tnnthailand.com/content/44129
รถเก๋งหลบเองได้ด้วย.. สาวเปิดคลิปนาทีถูกรถนำขบวน พร้อมรถตู้สำนักปลัดขับจี้ท้าย ก่อนเร่งเครื่องแซง-เบียด-ปาด
ปรากฎว่ามีรถตำรวจนำขบวนรถตู้อีก 3 คัน ขับมาจี้ท้ายรถและเปิดไซเรน แต่ตนไม่สามารถขับหลบได้ ด้วยความที่เป็นเลนสวนกัน ข้างทางก็มีไหล่ทางเพียงเล็กน้อยก็ไม่รู้จะขับหลบให้ขบวนไปทางไหน พอได้จังหวะที่เลนสวนมาไม่มีรถ รถตำรวจนำขบวนก็เร่งเครื่องแซงขวาและตบเข้าซ้ายปาดหน้ารถเราทันที ตามด้วยรถตู้คันสีดำที่คาดว่าบุคคลภายในรถจะเป็นข้าราชการระดับสูง ได้ขับแซงไปอย่างเดียว แต่รถตู้ตามหลังอีกคันที่ด้านข้างมีสัญลักษณ์หน่วยงานราชการ "สป.กษ."หรือ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กลับขับมาเบียดข้างๆ จนระบบเซนเซอร์ป้องกันความปลอดภัยของรถตนทำงานแล้วหักอัตโนมัติให้ ซึ่งรถนำขบวนดังกล่าวก็เร่งเครื่องแซงปาดหน้าไป หลังจากแซงไปไม่นาน ก็พบว่ายังมีการฝ่าไฟแดงบนเลนเลี้ยวขวาจนรถประชาชนรอบข้างต้องเบรกแบบกระทันหันอีกด้วย อย่างไรก็ตามนางสาวพัชรินทร์ ยังระบุว่า การกระทำของรถตำรวจนำขบวนและรถตู้สังกัดกระทรวงเกษตรที่กระทำเช่นนี้ รถของประชาชนจะต้องลงไหล่ทางจนเกิดอุบัติเหตุหรือไม่ ทั้งนี้ตนตั้งใจว่าจะไปแจ้งความข้อหาพยายามฆ่า เพราะการกระทำของบุคคลในขบวนนี้ จงใจกลั่นแกล้ง ให้ประชาชนเกิดอุบัติเหตุ
สำหรับ กฎเกณฑ์ในการใช้รถนำขบวน กรณีออกนอกเขตกรุงเทพมหานคร จะต้องขออนุญาตจากผู้บังคับการตำรวจทางหลวงหรือผู้รักษาราชการแทน หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับการตำรวจทางหลวงเป็นผู้พิจารณาอนุญาตโดยบุคคลผู้มีสิทธิขออนุญาตใช้รถนำขบวนได้
กรณีเป็นข้าราชการประจำต้องตั้งแต่ปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่าขึ้นไป และกรณีเป็นรัฐมนตรีต้องการใช้รถนำขบวน รัฐมนตรีควรพิจารณาใช้รถตำรวจนำขบวนตามความจำเป็นและเร่งด่วนตามภารกิจของทางราชการเป็นกรณี ๆ ไป
โดยแจ้งให้ทางฝ่ายที่มีหน้าที่จัดรถตำรวจนำขบวนทราบเป็นการล่วงหน้า ซึ่งการใช้รถตำรวจนำขบวนต้องใช้เฉพาะเพื่อการเดินทางไปราชการเท่านั้น ไม่ควรใช้ในกิจส่วนตัว นอกจากนี้ต้องขับด้วยความระมัดระวังให้เป็นที่ปลอดภัยแก่ผู้ร่วมใช้ถนน
https://www.tnnthailand.com/content/44129