นศ.ชูป้ายตามหาคนโดนอุ้มหายกลางกรุง หวิดถูก ตร.พาไปโรงพัก
https://voicetv.co.th/read/w4E9ytNqX
นักศึกษากลุ่ม Spring Movement จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ชูป้าย "ถูกบังคับสูญหาย" หวิดโดนตำรวจพาไปโรงพัก แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ยอมแพ้ ด้านนศ.ตั้งข้อสงสัย ทำไมตำรวจมีปัญหากับกิจกรรมทวงความเป็นธรรมให้คนถูกอุ้ม
นักศึกษากลุ่ม Spring Movement และแนวร่วม จัดกิจกรรมชูโปสเตอร์ซึ่งมีรูปภาพและข้อความตามหาบุคคลที่ถูก
“อุ้มหาย” หรือถูกบังคับสูญหาย บริเวณทางเชื่อมบีทีเอสสถานีช่องนนทรี วันนี้ (15 มิถุนายน) เวลาประมาณ 17.00 น.
ป้ายตามหาคนหายปรากฎชื่อของนาย
วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมที่ถูกอุ้มหายที่กรุงพนมเปญกัมพูชา เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา รวมถึงบุคคลอื่น ได้แก่
สุรชัย แซ่ด่าน,
ไกรเดช ลือเลิศ หรือ
สหายกาสะลอง,
สยาม ธีรวุฒิ,
กฤษณะ ทัพไทย,
วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ,
อิทธิพล สุขแป้น,
ชัชชาญ บุปผาวัลย์ หรือ
สหายภูชนะ,
ชูชีพ ชีวะสุทธิ์ หรือ
ลุงสนามหลวง ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ที่ถูกบังคับสูญหายไปในช่วงที่ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการชูป้ายดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้เดินผ่านไปมาจำนวนมาก มีการหยุดถ่ายรูปและอ่านข้อความบนป้าย โดยหลังจากจัดกิจกรรมไปได้ไม่นาน ได้มีตำรวจพยายามจะนำตัวนักศึกษาไปยังสถานีตำรวจ
อย่างไรก็ตาม ไม่มีการแจ้งว่านักศึกษาทำผิดข้อหาใด นักศึกษาจึงไม่ยินยอมไปกับตำรวจ สุดท้ายตำรวจจึงยอมปล่อยให้มีการจัดกิจกรรมต่อไป
ตัวแทนนักศึกษาที่ร่วมกิจกรรมตั้งข้อสงสัยว่า พวกเขาทำกิจกรรมอย่างสันติ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับบุคคลที่โดนอุ้มหาย เหตุใดตำรวจจึงต้องการขัดขวาง ขณะเดียวกันตำรวจและเจ้าหน้าที่รัฐกลับดูจะเพิกเฉยต่อการติดตามนำตัวผู้เกี่ยวข้องกับการอุ้มหายมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ฝ่ายค้านแห่แปรญัตติโอนงบฯ63 ชงตัดงบกองทัพอีก1.2พันล้าน
https://www.dailynews.co.th/politics/780021
ฝ่ายค้าน แห่แปรญัตติร่างโอนงบฯเพียบ "พิจารณ์" ชงตัดงบกองทัพเพิ่มอีก 1.2 พันล้าน ด้าน "จิรายุ" เพิ่มโทษ "บิ๊กตู่" อ้างพบจ่ายสุรุ่ยสุร่าย ต้องชำระหนี้เอง
เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับร่างพ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. .... วงเงิน 8.8 หมื่นล้านบาท ตามที่คณะกมธ.วิสามัญฯ ได้พิจารณา และเสนอเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อพิจารณาในวาระ2 และ3ซึ่งมี 5 มาตรานั้น ไม่มีการแก้ไขเลยแม้แต่มาตราเดียว แต่มี ส.ส.ในฐานะกมธ.วิสามัญฯ ทั้งซีกรัฐบาล และฝ่ายค้าน สงวนความเห็น จำนวน 19 คน และมีส.ส.ทั้งซีกรัฐบาล และฝ่ายค้าน สงวนคำแปรญัตติ จำนวน 30 คน โดยสมาชิกขอสงวนคำแปรญัตติที่โดยเฉพาะในมาตรา 4 ซึ่งเป็นรายละเอียดของการโอนงบฯจากส่วนราชการต่างๆที่น่าสนใจ อาทิ นาย
พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้เสนอให้ตัดงบของกระทรวงกลาโหมเพิ่มเติมเพื่อโอนเข้าสู่งบกลางอีกอย่างน้อย 1.2 พันล้านบาท แล้วให้คืนงบกับกระทรวงการคลังในส่วนของงบชำระหนี้ภาครัฐในจำนวนเงินเท่ากัน
นอกจากนี้มี ส.ส.ซีกฝ่ายค้าน เสนอตัดรายการโอนงบประมาณของหน่วยรับงบตามรายการไปตั้งไว้เป็นงบรายจ่าย สำหรับงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือเป็นจำเป็น คืนให้กับส่วนราชการ โดยมีตั้งแต่ 10 - 100 เปอร์เซ็นต์ จากวงเงิน 8.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งนาย
อนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย ถือเป็นสมาชิกที่เสนอขอตัดรายการโอนงบฯมากที่สุด โดยเสนอคืนงบตามวงเงินให้กับหน่วยรับงบฯทั้งหมด
ขณะที่ นาย
จิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ได้สงวนคำแปรญัตติ โดยขอเพิ่มถ้อยคำ
"การใช้เงินงบประมาณตามมาตรา 4 ไม่บังคับใช้ในการซื้ออาวุธ ใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย อาทิ การแจกเงินโดยไม่คำนึงถึงวินัยการคลังในรูปแบบประชานิยมได้ และเงินแผ่นดินตามมาตรานี้ ให้ถือว่า นายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบชำระหนี้ หากใช้อย่างไม่คำนึงผลเสีย”
'เสรีพิศุทธ์' ลั่นจัดการคนใช้ตำแหน่งหน้าที่มิชอบ
https://www.dailynews.co.th/politics/780072
หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย โวลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครของพรรคหาเสียงเลือกตั้งซ่อม เขต 4 ลำปาง ได้รับเสียงตอบรับดีมาก เผยได้รับจดหมายร้องเรียนนายอำเภอเสริมงามไม่วางตัวเป็นกลาง
เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. พล.ต.อ.
เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และ สส. ลงพื้นที่ ตลาดวังพร้าว อ.เกาะคา จ.ลำปาง เพื่อช่วย ร.ต.ท.
สมบูรณ์ กล้าหาญ ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค หาเสียงในการเลือกตั้งซ่อม เขต 4 จ.ลำปาง โดยพล.ต.อ.
เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่เสียงตอบรับของพี่น้องประชาชนในส่วนที่ตนพบปะถือว่าดีมาก พี่น้องประชาชนไม่เอา [เผล่ะจัง] และรักฝ่ายประชาธิปไตย แต่ในส่วนที่ตนไปไม่ถึงก็ไม่อาจพูดว่าได้รับการตอบรับแค่ไหน แต่เรื่องการซื้อสิทธิขายเสียงมีมาก และมาร้องเรียนอยู่ตลอดแต่ไม่ชัดเจนและผู้ร้องเรียนไม่ได้เปิดเผยตัว ตนจึงเก็บเป็นข้อมูลไว้ แต่กรณีนี้มีการร้องเรียนเป็นลายลักษณ์อักษร มีชื่อที่อยู่ ตำแหน่งหน้าที่ และเขาไม่กลัว เขาถึงกล้าร้องเรียนมา
“เขาร้องเรียนนายอำเภอเสริมงามว่า ช่วยเหลือผู้สมัครแจกเงินต่าง ๆ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ผมได้พบกับรองผู้ว่าฯ จึงแจ้งว่า นายอำเภอท่านนี้มีพฤติกรรมกระทำผิดกฎหมาย ไม่วางตัวเป็นกลาง ใช้ตำแหน่งหน้าที่มิชอบ โดยการช่วยเหลือผู้สมัครพรรคหนึ่ง ซื้อสิทธิขายเสียง สรุปรองผู้ว่าฯ จะมีคำสั่งให้นายอำเภอไปประจำที่จังหวัดก่อน และส่งคนมารักษาราชการแทนนายอำเภอคนนี้ เพื่อให้การเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย บริสุทธิ์และยุติธรรม ส่วนการสอบสวนต่าง ๆ ค่อยว่ากันต่อไป” หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าว
เมื่อถามว่า จดหมายร้องเรียนฉบับนี้จะดำเนินการร้องเรียนกับทาง กกต. อีกหรือไม่ พล.ต.อ.
เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ตอนนี้ตนช่วยผู้สมัครหาเสียงก่อน แล้วค่อยดำเนินการ จะเป็น กกต. หรือ ตนเองก็ได้ในฐานนะ กมธ. โดยว่าไปตามกฎหมาย ทั้งนี้ อยากจะฝากพิจารณากรณี นายอำเภอเสริมงามด้วย ไปดูแลให้ดี ๆ ถ้าไม่ทำหน้าที่ ไม่ช่วยเหลือกันอีก ตนก็จะทำหน้าที่ของตน ถ้าท่านทำหน้าที่แล้ว ตนจะได้ไม่เหนื่อย จะได้ไปดูแลพี่น้องประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมต่อไป.
กกต.ยันพร้อมจัดเลือกตั้งท้องถิ่น งบ 800 ล้าน ยังอยู่ พร้อมดำเนินการทันที
https://www.matichon.co.th/politics/news_2229562
“จรุงวิทย์ ” เผย กกต.พร้อมกำกับดูแลเลือกตั้งท้องถิ่น ยันงบประมาณในส่วนของกกต. 800 ล้านบาทยังอยู่ พร้อมดำเนินการทันที หากรัฐบาลประกาศเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ต.อ.
จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการจัดเลือกตั้งท้องถิ่นว่า การจัดเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นหน้าที่หลักของกระทรวงมหาดไทย ส่วนกกต.เป็นหน่วยงานที่เข้าไปกำกับดูแลจึงใช้งบประมาณไม่มาก ซึ่งเรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรและงบประมาณอยู่แล้ว ส่วนจะเลือกตั้งท้องถิ่นในส่วนใดก่อนหลังก็อยู่ที่รัฐบาลกำหนดและกระทรวงมหาดไทยจะต้องของบประมาณ ที่ผ่านมาเคยใช้งบประมาณราว 3,000-4,000 ล้านบาท
พ.ต.อ.
จรุงวิทย์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีกระแสข่าวที่รัฐบาลจะเลื่อนการเลือกตั้งท้องถิ่นเหตุเพราะนำงบไปช่วยช่วงโควิด-19 นั้น ในส่วนการเตรียมการเลือกตั้งท้องถิ่นของกกต. ขณะนี้ถือว่าพร้อมระดับหนึ่ง โดยระเบียบต่างๆดำเนินการแล้วเสร็จ กำลังเตรียมเรื่องการจัดอบรมเจ้าหน้าที่ ส่วนเรื่องการแบ่งเขตขององค์การปกครองส่วนท้องแต่ละระดับ เหลือเพียงขั้นตอนการตรวจทานและประกาศราชกิจานุเบกษาเมื่อรัฐบาลประกาศให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งการเลือกตั้งท้องถิ่นตามกฎหมายกำหนดให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการ ส่วนกกต.จะเป็นผู้กำกับดูแล
“งบประมาณจะอยู่ที่กระทรวงมหาดไทยเป็นหลัก ส่วนของกกต.ได้รับการจัดสรรงบที่จะใช้ในการกำกับดูแลการเลือกตั้งท้องถิ่นในงบประมาณรายจ่ายประจำปี63 จำนวน 800 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณดังกล่าวยังคงอยู่ และกกต.พร้อมที่จะดำเนินการทันทีที่รัฐบาลประกาศให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น”
JJNY : 5in1 นศ.ชูป้ายหวิดไปโรงพัก/ชงตัดงบกองทัพ/เสรีพิศุทธ์ลั่นจัดการคนใช้ตำแหน่งมิชอบ/กกต.ยันงบยังอยู่/เบรกโละสต๊อกยาง
https://voicetv.co.th/read/w4E9ytNqX
นักศึกษากลุ่ม Spring Movement และแนวร่วม จัดกิจกรรมชูโปสเตอร์ซึ่งมีรูปภาพและข้อความตามหาบุคคลที่ถูก “อุ้มหาย” หรือถูกบังคับสูญหาย บริเวณทางเชื่อมบีทีเอสสถานีช่องนนทรี วันนี้ (15 มิถุนายน) เวลาประมาณ 17.00 น.
ป้ายตามหาคนหายปรากฎชื่อของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมที่ถูกอุ้มหายที่กรุงพนมเปญกัมพูชา เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา รวมถึงบุคคลอื่น ได้แก่ สุรชัย แซ่ด่าน, ไกรเดช ลือเลิศ หรือสหายกาสะลอง, สยาม ธีรวุฒิ, กฤษณะ ทัพไทย, วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ, อิทธิพล สุขแป้น, ชัชชาญ บุปผาวัลย์ หรือสหายภูชนะ, ชูชีพ ชีวะสุทธิ์ หรือลุงสนามหลวง ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ที่ถูกบังคับสูญหายไปในช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการชูป้ายดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้เดินผ่านไปมาจำนวนมาก มีการหยุดถ่ายรูปและอ่านข้อความบนป้าย โดยหลังจากจัดกิจกรรมไปได้ไม่นาน ได้มีตำรวจพยายามจะนำตัวนักศึกษาไปยังสถานีตำรวจ
อย่างไรก็ตาม ไม่มีการแจ้งว่านักศึกษาทำผิดข้อหาใด นักศึกษาจึงไม่ยินยอมไปกับตำรวจ สุดท้ายตำรวจจึงยอมปล่อยให้มีการจัดกิจกรรมต่อไป
ตัวแทนนักศึกษาที่ร่วมกิจกรรมตั้งข้อสงสัยว่า พวกเขาทำกิจกรรมอย่างสันติ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับบุคคลที่โดนอุ้มหาย เหตุใดตำรวจจึงต้องการขัดขวาง ขณะเดียวกันตำรวจและเจ้าหน้าที่รัฐกลับดูจะเพิกเฉยต่อการติดตามนำตัวผู้เกี่ยวข้องกับการอุ้มหายมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ฝ่ายค้านแห่แปรญัตติโอนงบฯ63 ชงตัดงบกองทัพอีก1.2พันล้าน
https://www.dailynews.co.th/politics/780021
ฝ่ายค้าน แห่แปรญัตติร่างโอนงบฯเพียบ "พิจารณ์" ชงตัดงบกองทัพเพิ่มอีก 1.2 พันล้าน ด้าน "จิรายุ" เพิ่มโทษ "บิ๊กตู่" อ้างพบจ่ายสุรุ่ยสุร่าย ต้องชำระหนี้เอง
เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับร่างพ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. .... วงเงิน 8.8 หมื่นล้านบาท ตามที่คณะกมธ.วิสามัญฯ ได้พิจารณา และเสนอเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อพิจารณาในวาระ2 และ3ซึ่งมี 5 มาตรานั้น ไม่มีการแก้ไขเลยแม้แต่มาตราเดียว แต่มี ส.ส.ในฐานะกมธ.วิสามัญฯ ทั้งซีกรัฐบาล และฝ่ายค้าน สงวนความเห็น จำนวน 19 คน และมีส.ส.ทั้งซีกรัฐบาล และฝ่ายค้าน สงวนคำแปรญัตติ จำนวน 30 คน โดยสมาชิกขอสงวนคำแปรญัตติที่โดยเฉพาะในมาตรา 4 ซึ่งเป็นรายละเอียดของการโอนงบฯจากส่วนราชการต่างๆที่น่าสนใจ อาทิ นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้เสนอให้ตัดงบของกระทรวงกลาโหมเพิ่มเติมเพื่อโอนเข้าสู่งบกลางอีกอย่างน้อย 1.2 พันล้านบาท แล้วให้คืนงบกับกระทรวงการคลังในส่วนของงบชำระหนี้ภาครัฐในจำนวนเงินเท่ากัน
นอกจากนี้มี ส.ส.ซีกฝ่ายค้าน เสนอตัดรายการโอนงบประมาณของหน่วยรับงบตามรายการไปตั้งไว้เป็นงบรายจ่าย สำหรับงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือเป็นจำเป็น คืนให้กับส่วนราชการ โดยมีตั้งแต่ 10 - 100 เปอร์เซ็นต์ จากวงเงิน 8.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งนายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย ถือเป็นสมาชิกที่เสนอขอตัดรายการโอนงบฯมากที่สุด โดยเสนอคืนงบตามวงเงินให้กับหน่วยรับงบฯทั้งหมด
ขณะที่ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ได้สงวนคำแปรญัตติ โดยขอเพิ่มถ้อยคำ "การใช้เงินงบประมาณตามมาตรา 4 ไม่บังคับใช้ในการซื้ออาวุธ ใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย อาทิ การแจกเงินโดยไม่คำนึงถึงวินัยการคลังในรูปแบบประชานิยมได้ และเงินแผ่นดินตามมาตรานี้ ให้ถือว่า นายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบชำระหนี้ หากใช้อย่างไม่คำนึงผลเสีย”
'เสรีพิศุทธ์' ลั่นจัดการคนใช้ตำแหน่งหน้าที่มิชอบ
https://www.dailynews.co.th/politics/780072
หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย โวลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครของพรรคหาเสียงเลือกตั้งซ่อม เขต 4 ลำปาง ได้รับเสียงตอบรับดีมาก เผยได้รับจดหมายร้องเรียนนายอำเภอเสริมงามไม่วางตัวเป็นกลาง
เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และ สส. ลงพื้นที่ ตลาดวังพร้าว อ.เกาะคา จ.ลำปาง เพื่อช่วย ร.ต.ท. สมบูรณ์ กล้าหาญ ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค หาเสียงในการเลือกตั้งซ่อม เขต 4 จ.ลำปาง โดยพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่เสียงตอบรับของพี่น้องประชาชนในส่วนที่ตนพบปะถือว่าดีมาก พี่น้องประชาชนไม่เอา [เผล่ะจัง] และรักฝ่ายประชาธิปไตย แต่ในส่วนที่ตนไปไม่ถึงก็ไม่อาจพูดว่าได้รับการตอบรับแค่ไหน แต่เรื่องการซื้อสิทธิขายเสียงมีมาก และมาร้องเรียนอยู่ตลอดแต่ไม่ชัดเจนและผู้ร้องเรียนไม่ได้เปิดเผยตัว ตนจึงเก็บเป็นข้อมูลไว้ แต่กรณีนี้มีการร้องเรียนเป็นลายลักษณ์อักษร มีชื่อที่อยู่ ตำแหน่งหน้าที่ และเขาไม่กลัว เขาถึงกล้าร้องเรียนมา
“เขาร้องเรียนนายอำเภอเสริมงามว่า ช่วยเหลือผู้สมัครแจกเงินต่าง ๆ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ผมได้พบกับรองผู้ว่าฯ จึงแจ้งว่า นายอำเภอท่านนี้มีพฤติกรรมกระทำผิดกฎหมาย ไม่วางตัวเป็นกลาง ใช้ตำแหน่งหน้าที่มิชอบ โดยการช่วยเหลือผู้สมัครพรรคหนึ่ง ซื้อสิทธิขายเสียง สรุปรองผู้ว่าฯ จะมีคำสั่งให้นายอำเภอไปประจำที่จังหวัดก่อน และส่งคนมารักษาราชการแทนนายอำเภอคนนี้ เพื่อให้การเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย บริสุทธิ์และยุติธรรม ส่วนการสอบสวนต่าง ๆ ค่อยว่ากันต่อไป” หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าว
เมื่อถามว่า จดหมายร้องเรียนฉบับนี้จะดำเนินการร้องเรียนกับทาง กกต. อีกหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ตอนนี้ตนช่วยผู้สมัครหาเสียงก่อน แล้วค่อยดำเนินการ จะเป็น กกต. หรือ ตนเองก็ได้ในฐานนะ กมธ. โดยว่าไปตามกฎหมาย ทั้งนี้ อยากจะฝากพิจารณากรณี นายอำเภอเสริมงามด้วย ไปดูแลให้ดี ๆ ถ้าไม่ทำหน้าที่ ไม่ช่วยเหลือกันอีก ตนก็จะทำหน้าที่ของตน ถ้าท่านทำหน้าที่แล้ว ตนจะได้ไม่เหนื่อย จะได้ไปดูแลพี่น้องประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมต่อไป.
กกต.ยันพร้อมจัดเลือกตั้งท้องถิ่น งบ 800 ล้าน ยังอยู่ พร้อมดำเนินการทันที
https://www.matichon.co.th/politics/news_2229562
“จรุงวิทย์ ” เผย กกต.พร้อมกำกับดูแลเลือกตั้งท้องถิ่น ยันงบประมาณในส่วนของกกต. 800 ล้านบาทยังอยู่ พร้อมดำเนินการทันที หากรัฐบาลประกาศเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการจัดเลือกตั้งท้องถิ่นว่า การจัดเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นหน้าที่หลักของกระทรวงมหาดไทย ส่วนกกต.เป็นหน่วยงานที่เข้าไปกำกับดูแลจึงใช้งบประมาณไม่มาก ซึ่งเรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรและงบประมาณอยู่แล้ว ส่วนจะเลือกตั้งท้องถิ่นในส่วนใดก่อนหลังก็อยู่ที่รัฐบาลกำหนดและกระทรวงมหาดไทยจะต้องของบประมาณ ที่ผ่านมาเคยใช้งบประมาณราว 3,000-4,000 ล้านบาท
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีกระแสข่าวที่รัฐบาลจะเลื่อนการเลือกตั้งท้องถิ่นเหตุเพราะนำงบไปช่วยช่วงโควิด-19 นั้น ในส่วนการเตรียมการเลือกตั้งท้องถิ่นของกกต. ขณะนี้ถือว่าพร้อมระดับหนึ่ง โดยระเบียบต่างๆดำเนินการแล้วเสร็จ กำลังเตรียมเรื่องการจัดอบรมเจ้าหน้าที่ ส่วนเรื่องการแบ่งเขตขององค์การปกครองส่วนท้องแต่ละระดับ เหลือเพียงขั้นตอนการตรวจทานและประกาศราชกิจานุเบกษาเมื่อรัฐบาลประกาศให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งการเลือกตั้งท้องถิ่นตามกฎหมายกำหนดให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการ ส่วนกกต.จะเป็นผู้กำกับดูแล
“งบประมาณจะอยู่ที่กระทรวงมหาดไทยเป็นหลัก ส่วนของกกต.ได้รับการจัดสรรงบที่จะใช้ในการกำกับดูแลการเลือกตั้งท้องถิ่นในงบประมาณรายจ่ายประจำปี63 จำนวน 800 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณดังกล่าวยังคงอยู่ และกกต.พร้อมที่จะดำเนินการทันทีที่รัฐบาลประกาศให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น”