JJNY : 5in1 นศ.ชูป้ายหวิดไปโรงพัก/ชงตัดงบกองทัพ/เสรีพิศุทธ์ลั่นจัดการคนใช้ตำแหน่งมิชอบ/กกต.ยันงบยังอยู่/เบรกโละสต๊อกยาง

นศ.ชูป้ายตามหาคนโดนอุ้มหายกลางกรุง หวิดถูก ตร.พาไปโรงพัก
https://voicetv.co.th/read/w4E9ytNqX
 

 
นักศึกษากลุ่ม Spring Movement จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ชูป้าย "ถูกบังคับสูญหาย" หวิดโดนตำรวจพาไปโรงพัก แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ยอมแพ้ ด้านนศ.ตั้งข้อสงสัย ทำไมตำรวจมีปัญหากับกิจกรรมทวงความเป็นธรรมให้คนถูกอุ้ม
 
นักศึกษากลุ่ม Spring Movement และแนวร่วม จัดกิจกรรมชูโปสเตอร์ซึ่งมีรูปภาพและข้อความตามหาบุคคลที่ถูก “อุ้มหาย” หรือถูกบังคับสูญหาย บริเวณทางเชื่อมบีทีเอสสถานีช่องนนทรี วันนี้ (15 มิถุนายน) เวลาประมาณ 17.00 น.
 
ป้ายตามหาคนหายปรากฎชื่อของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมที่ถูกอุ้มหายที่กรุงพนมเปญกัมพูชา เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา รวมถึงบุคคลอื่น ได้แก่ สุรชัย แซ่ด่านไกรเดช ลือเลิศ หรือสหายกาสะลองสยาม ธีรวุฒิกฤษณะ ทัพไทยวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณอิทธิพล สุขแป้นชัชชาญ บุปผาวัลย์ หรือสหายภูชนะชูชีพ ชีวะสุทธิ์ หรือลุงสนามหลวง ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ที่ถูกบังคับสูญหายไปในช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี 
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการชูป้ายดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้เดินผ่านไปมาจำนวนมาก มีการหยุดถ่ายรูปและอ่านข้อความบนป้าย โดยหลังจากจัดกิจกรรมไปได้ไม่นาน ได้มีตำรวจพยายามจะนำตัวนักศึกษาไปยังสถานีตำรวจ
 
อย่างไรก็ตาม ไม่มีการแจ้งว่านักศึกษาทำผิดข้อหาใด นักศึกษาจึงไม่ยินยอมไปกับตำรวจ สุดท้ายตำรวจจึงยอมปล่อยให้มีการจัดกิจกรรมต่อไป
 
ตัวแทนนักศึกษาที่ร่วมกิจกรรมตั้งข้อสงสัยว่า พวกเขาทำกิจกรรมอย่างสันติ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับบุคคลที่โดนอุ้มหาย เหตุใดตำรวจจึงต้องการขัดขวาง ขณะเดียวกันตำรวจและเจ้าหน้าที่รัฐกลับดูจะเพิกเฉยต่อการติดตามนำตัวผู้เกี่ยวข้องกับการอุ้มหายมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
 

 
ฝ่ายค้านแห่แปรญัตติโอนงบฯ63 ชงตัดงบกองทัพอีก1.2พันล้าน
https://www.dailynews.co.th/politics/780021
 
ฝ่ายค้าน แห่แปรญัตติร่างโอนงบฯเพียบ "พิจารณ์" ชงตัดงบกองทัพเพิ่มอีก 1.2 พันล้าน ด้าน "จิรายุ" เพิ่มโทษ "บิ๊กตู่" อ้างพบจ่ายสุรุ่ยสุร่าย ต้องชำระหนี้เอง
 
เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  สำหรับร่างพ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. .... วงเงิน 8.8 หมื่นล้านบาท ตามที่คณะกมธ.วิสามัญฯ ได้พิจารณา และเสนอเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อพิจารณาในวาระ2 และ3ซึ่งมี 5 มาตรานั้น  ไม่มีการแก้ไขเลยแม้แต่มาตราเดียว แต่มี ส.ส.ในฐานะกมธ.วิสามัญฯ ทั้งซีกรัฐบาล และฝ่ายค้าน สงวนความเห็น จำนวน 19 คน และมีส.ส.ทั้งซีกรัฐบาล และฝ่ายค้าน สงวนคำแปรญัตติ จำนวน 30 คน โดยสมาชิกขอสงวนคำแปรญัตติที่โดยเฉพาะในมาตรา 4 ซึ่งเป็นรายละเอียดของการโอนงบฯจากส่วนราชการต่างๆที่น่าสนใจ อาทิ นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้เสนอให้ตัดงบของกระทรวงกลาโหมเพิ่มเติมเพื่อโอนเข้าสู่งบกลางอีกอย่างน้อย 1.2 พันล้านบาท แล้วให้คืนงบกับกระทรวงการคลังในส่วนของงบชำระหนี้ภาครัฐในจำนวนเงินเท่ากัน 
 
นอกจากนี้มี ส.ส.ซีกฝ่ายค้าน เสนอตัดรายการโอนงบประมาณของหน่วยรับงบตามรายการไปตั้งไว้เป็นงบรายจ่าย สำหรับงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือเป็นจำเป็น คืนให้กับส่วนราชการ โดยมีตั้งแต่ 10 - 100 เปอร์เซ็นต์ จากวงเงิน 8.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งนายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์  ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย ถือเป็นสมาชิกที่เสนอขอตัดรายการโอนงบฯมากที่สุด โดยเสนอคืนงบตามวงเงินให้กับหน่วยรับงบฯทั้งหมด
 
ขณะที่ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ได้สงวนคำแปรญัตติ โดยขอเพิ่มถ้อยคำ "การใช้เงินงบประมาณตามมาตรา 4 ไม่บังคับใช้ในการซื้ออาวุธ ใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย อาทิ การแจกเงินโดยไม่คำนึงถึงวินัยการคลังในรูปแบบประชานิยมได้ และเงินแผ่นดินตามมาตรานี้ ให้ถือว่า นายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบชำระหนี้ หากใช้อย่างไม่คำนึงผลเสีย”
 

 
'เสรีพิศุทธ์' ลั่นจัดการคนใช้ตำแหน่งหน้าที่มิชอบ
https://www.dailynews.co.th/politics/780072
 
หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย โวลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครของพรรคหาเสียงเลือกตั้งซ่อม เขต 4 ลำปาง ได้รับเสียงตอบรับดีมาก เผยได้รับจดหมายร้องเรียนนายอำเภอเสริมงามไม่วางตัวเป็นกลาง
 
เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์  เตมียเวส  หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย  และ สส. ลงพื้นที่ ตลาดวังพร้าว  อ.เกาะคา  จ.ลำปาง  เพื่อช่วย  ร.ต.ท. สมบูรณ์ กล้าหาญ ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค หาเสียงในการเลือกตั้งซ่อม เขต 4 จ.ลำปาง โดยพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์   กล่าวว่า จากการลงพื้นที่เสียงตอบรับของพี่น้องประชาชนในส่วนที่ตนพบปะถือว่าดีมาก พี่น้องประชาชนไม่เอา [เผล่ะจัง] และรักฝ่ายประชาธิปไตย แต่ในส่วนที่ตนไปไม่ถึงก็ไม่อาจพูดว่าได้รับการตอบรับแค่ไหน แต่เรื่องการซื้อสิทธิขายเสียงมีมาก และมาร้องเรียนอยู่ตลอดแต่ไม่ชัดเจนและผู้ร้องเรียนไม่ได้เปิดเผยตัว ตนจึงเก็บเป็นข้อมูลไว้ แต่กรณีนี้มีการร้องเรียนเป็นลายลักษณ์อักษร มีชื่อที่อยู่ ตำแหน่งหน้าที่ และเขาไม่กลัว เขาถึงกล้าร้องเรียนมา 
 
“เขาร้องเรียนนายอำเภอเสริมงามว่า ช่วยเหลือผู้สมัครแจกเงินต่าง ๆ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ผมได้พบกับรองผู้ว่าฯ จึงแจ้งว่า นายอำเภอท่านนี้มีพฤติกรรมกระทำผิดกฎหมาย ไม่วางตัวเป็นกลาง ใช้ตำแหน่งหน้าที่มิชอบ โดยการช่วยเหลือผู้สมัครพรรคหนึ่ง ซื้อสิทธิขายเสียง สรุปรองผู้ว่าฯ จะมีคำสั่งให้นายอำเภอไปประจำที่จังหวัดก่อน และส่งคนมารักษาราชการแทนนายอำเภอคนนี้ เพื่อให้การเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย บริสุทธิ์และยุติธรรม ส่วนการสอบสวนต่าง ๆ ค่อยว่ากันต่อไป” หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าว
 
เมื่อถามว่า จดหมายร้องเรียนฉบับนี้จะดำเนินการร้องเรียนกับทาง กกต. อีกหรือไม่  พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ตอนนี้ตนช่วยผู้สมัครหาเสียงก่อน แล้วค่อยดำเนินการ จะเป็น กกต. หรือ ตนเองก็ได้ในฐานนะ กมธ. โดยว่าไปตามกฎหมาย ทั้งนี้ อยากจะฝากพิจารณากรณี นายอำเภอเสริมงามด้วย ไปดูแลให้ดี ๆ ถ้าไม่ทำหน้าที่ ไม่ช่วยเหลือกันอีก  ตนก็จะทำหน้าที่ของตน ถ้าท่านทำหน้าที่แล้ว ตนจะได้ไม่เหนื่อย  จะได้ไปดูแลพี่น้องประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมต่อไป.
 

 
กกต.ยันพร้อมจัดเลือกตั้งท้องถิ่น งบ 800 ล้าน ยังอยู่ พร้อมดำเนินการทันที
https://www.matichon.co.th/politics/news_2229562

“จรุงวิทย์ ” เผย กกต.พร้อมกำกับดูแลเลือกตั้งท้องถิ่น ยันงบประมาณในส่วนของกกต. 800 ล้านบาทยังอยู่ พร้อมดำเนินการทันที หากรัฐบาลประกาศเลือกตั้ง
 
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ต.อ.จรุงวิทย์​ ภุมมา​ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการจัดเลือกตั้งท้องถิ่นว่า​ การจัดเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นหน้าที่หลักของกระทรวงมหาดไทย​ ส่วนกกต.เป็นหน่วยงานที่เข้าไปกำกับดูแลจึงใช้งบประมาณไม่มาก​ ซึ่งเรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรและงบประมาณอยู่แล้ว​ ส่วนจะเลือกตั้งท้องถิ่นในส่วนใดก่อนหลังก็อยู่ที่รัฐบาลกำหนดและกระทรวงมหาดไทยจะต้องของบประมาณ​ ที่ผ่านมาเคยใช้งบประมาณราว ​3,000-4,000​ ล้านบาท
 
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีกระแสข่าวที่รัฐบาลจะเลื่อนการเลือกตั้งท้องถิ่นเหตุเพราะนำงบไปช่วยช่วงโควิด-19 นั้น ในส่วนการเตรียมการเลือกตั้งท้องถิ่นของกกต. ขณะนี้ถือว่าพร้อมระดับหนึ่ง โดยระเบียบต่างๆดำเนินการแล้วเสร็จ กำลังเตรียมเรื่องการจัดอบรมเจ้าหน้าที่ ส่วนเรื่องการแบ่งเขตขององค์การปกครองส่วนท้องแต่ละระดับ เหลือเพียงขั้นตอนการตรวจทานและประกาศราชกิจานุเบกษาเมื่อรัฐบาลประกาศให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งการเลือกตั้งท้องถิ่นตามกฎหมายกำหนดให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการ ส่วนกกต.จะเป็นผู้กำกับดูแล
 
“งบประมาณจะอยู่ที่กระทรวงมหาดไทยเป็นหลัก ส่วนของกกต.ได้รับการจัดสรรงบที่จะใช้ในการกำกับดูแลการเลือกตั้งท้องถิ่นในงบประมาณรายจ่ายประจำปี63 จำนวน 800 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณดังกล่าวยังคงอยู่ และกกต.พร้อมที่จะดำเนินการทันทีที่รัฐบาลประกาศให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่