รบกวน ถามสมาชิก เพื่อเป็น แนวทางหน่อยครับ ซื้อคอนโดไว้ แต่ยังไม่ได้เข้าไปอยู่
ปัจจุบัน หมดระยะประกันจากโครงการณ์แล้ว เป็นโครงการณ์มหาชน อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ พอจังหวะจะเข้าอยู๋ พบว่า ท่อน้ำทิ้งของอ่างล้างหน้าอุดตัน
น้ำไหลช้ามากๆ ถึงขั้นไม่ไหลเลยก็ได้ จึงได้ติดต่อนิติบุคคลให้ส่งช่างไปช่วยดำเนินการตรวจเช็ค และ ช่วยเหลือ
ทางช่างโครงการณ์ได้ลองใช้ สลิงทะลวงท่อ ก็ไม่สามารถทะลวงได้ ทางเจ้าของก็ได้แจ้งทางนิติว่าห้องไม่เคยอยู่อาศัย
นิติจึงมั่นใจมากว่า ไม่ได้เกิดจากการก่อสร้าง เพราะโครงการณ์จะมีระบบ QC เช็คระบบน้ำเป็นอย่างดีมาก จึงได้มีการคุยกันถึงเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น
ในอนาคต ทางนิติแจ้งว่า ถ้าปัญหาจากเจ้าของห้อง เจ้าของห้องต้องรับผิดชอบ เช่นเอาอะไรใส่ไปทำให้ท่อตัน แล้วทะลวงเกิดทะลุ
แต่ถ้าไม่ใช่ เป็นปัญหาจากโครงการณ์ก่อสร้าง ทางนิติจะดำเนินการณ์ เรียกเครมกับทางโครงการณ์โดยตรง ( นิติกับโครงการณ์เป็นเครือเดียวกัน)
ช่างจึงได้ใช้เครื่องทะลวงท่อ ปรากฎว่า ท่อทะลุ เมื่อท่อทะลุ ทางช่างยังไม่ทราบ จึงได้เปิดน้ำทดลอง
หลังจากเปิดน้ำ ทำให้ น้ำรั่วไปที่ห้องข้างล่าง ก็ได้ดำเนินการแก้ไข เปลี่ยนท่อขนาด 2 นิ้วที่แตก พร้อมกับซ่อมฝ้าด้านล่างที่มีน้ำรั่วซึม
เรื่องที่เกิดจากตรงนี้ คือ มีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนท่อขนาด 2 นิ้ว แล้วซ่อมฝ้าในห้องน้ำของห้องด้านล่าง เป็นเงิน 5 หลัก
ทางนิติเรียกเก็บจากเจ้าของห้องโดยตรง โดยที่นิติแจ้งว่า ช่างที่ต้องการซ่อม ต้องการเงินด่วนมาก ต้องจ่ายทันทีเพราะงานเสร็จแล้ว
พอถามไป บอกเป็นช่างของผู้รับเหมาที่ซ่อมกับโครงการณ์เป็นประจำ มีเครดิตเทอม 30 วัน
พอถามต่อว่า สาเหตุท่อตันเกิดจากอะไร นิติแจ้งว่า เป้นปูนจากการก่อสร้างที่ช่างเททิ้งไว้ในท่อน้ำ จึงได้ถามต่อ เหตุการณ์แบบนี้ สามารถเครมกับโครงการณ์ได้ไหม นิติแจ้งว่าสามารถทำเรื่องได้ เพราะเป็นความผิดพลาดจากการก่อสร้าง และโครงการณ์มีประกันภัย อุบัติเหตุจากน้ำ
ก็น่าจะสามารถเครมกับทางประกันภัยได้อีกทาง
ในส่วนของค่าใช้จ่าย ทางเจ้าของห้องมองว่า นิติบุคคลต้องช่วยเจรจากับทางโครงการณ์ และทางประกันภัย เพราะมีหลักฐานทุกอย่างว่าปัญหาจากการก่อสร้าง 100% และยังมีเครดิตเทอม ถึงสิ้นเดือนหน้า ทางเจ้าของห้องไม่ควรจะต้องจ่าย ถ้าจะจ่ายก็อาจจะมีแค่ส่วนหนึ่ง ไม่ใช้ทั้งหมด 100%
อยากทราบแนวทางในการเจรจาต่อรองกับนิติบุคลและโครงการณ์ หรือทางเจ้าของควรจะจ่ายทั้งหมด
ถ้าพอมีแนวทางชี้แนะ พร้อมรับฟังและนำไปใช้
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
ท่อน้ำทิ้งอ่างล้างหน้าในห้องน้ำ คอนโด อุดตันจาก ปูนก่อสร้างเข้าไปอุด เกินระยะประกัน แบบนี้ค่าใช้จ่ายใครควรรับผิดชอบ
ปัจจุบัน หมดระยะประกันจากโครงการณ์แล้ว เป็นโครงการณ์มหาชน อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ พอจังหวะจะเข้าอยู๋ พบว่า ท่อน้ำทิ้งของอ่างล้างหน้าอุดตัน
น้ำไหลช้ามากๆ ถึงขั้นไม่ไหลเลยก็ได้ จึงได้ติดต่อนิติบุคคลให้ส่งช่างไปช่วยดำเนินการตรวจเช็ค และ ช่วยเหลือ
ทางช่างโครงการณ์ได้ลองใช้ สลิงทะลวงท่อ ก็ไม่สามารถทะลวงได้ ทางเจ้าของก็ได้แจ้งทางนิติว่าห้องไม่เคยอยู่อาศัย
นิติจึงมั่นใจมากว่า ไม่ได้เกิดจากการก่อสร้าง เพราะโครงการณ์จะมีระบบ QC เช็คระบบน้ำเป็นอย่างดีมาก จึงได้มีการคุยกันถึงเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น
ในอนาคต ทางนิติแจ้งว่า ถ้าปัญหาจากเจ้าของห้อง เจ้าของห้องต้องรับผิดชอบ เช่นเอาอะไรใส่ไปทำให้ท่อตัน แล้วทะลวงเกิดทะลุ
แต่ถ้าไม่ใช่ เป็นปัญหาจากโครงการณ์ก่อสร้าง ทางนิติจะดำเนินการณ์ เรียกเครมกับทางโครงการณ์โดยตรง ( นิติกับโครงการณ์เป็นเครือเดียวกัน)
ช่างจึงได้ใช้เครื่องทะลวงท่อ ปรากฎว่า ท่อทะลุ เมื่อท่อทะลุ ทางช่างยังไม่ทราบ จึงได้เปิดน้ำทดลอง
หลังจากเปิดน้ำ ทำให้ น้ำรั่วไปที่ห้องข้างล่าง ก็ได้ดำเนินการแก้ไข เปลี่ยนท่อขนาด 2 นิ้วที่แตก พร้อมกับซ่อมฝ้าด้านล่างที่มีน้ำรั่วซึม
เรื่องที่เกิดจากตรงนี้ คือ มีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนท่อขนาด 2 นิ้ว แล้วซ่อมฝ้าในห้องน้ำของห้องด้านล่าง เป็นเงิน 5 หลัก
ทางนิติเรียกเก็บจากเจ้าของห้องโดยตรง โดยที่นิติแจ้งว่า ช่างที่ต้องการซ่อม ต้องการเงินด่วนมาก ต้องจ่ายทันทีเพราะงานเสร็จแล้ว
พอถามไป บอกเป็นช่างของผู้รับเหมาที่ซ่อมกับโครงการณ์เป็นประจำ มีเครดิตเทอม 30 วัน
พอถามต่อว่า สาเหตุท่อตันเกิดจากอะไร นิติแจ้งว่า เป้นปูนจากการก่อสร้างที่ช่างเททิ้งไว้ในท่อน้ำ จึงได้ถามต่อ เหตุการณ์แบบนี้ สามารถเครมกับโครงการณ์ได้ไหม นิติแจ้งว่าสามารถทำเรื่องได้ เพราะเป็นความผิดพลาดจากการก่อสร้าง และโครงการณ์มีประกันภัย อุบัติเหตุจากน้ำ
ก็น่าจะสามารถเครมกับทางประกันภัยได้อีกทาง
ในส่วนของค่าใช้จ่าย ทางเจ้าของห้องมองว่า นิติบุคคลต้องช่วยเจรจากับทางโครงการณ์ และทางประกันภัย เพราะมีหลักฐานทุกอย่างว่าปัญหาจากการก่อสร้าง 100% และยังมีเครดิตเทอม ถึงสิ้นเดือนหน้า ทางเจ้าของห้องไม่ควรจะต้องจ่าย ถ้าจะจ่ายก็อาจจะมีแค่ส่วนหนึ่ง ไม่ใช้ทั้งหมด 100%
อยากทราบแนวทางในการเจรจาต่อรองกับนิติบุคลและโครงการณ์ หรือทางเจ้าของควรจะจ่ายทั้งหมด
ถ้าพอมีแนวทางชี้แนะ พร้อมรับฟังและนำไปใช้
ขอบคุณล่วงหน้าครับ