ไปอิสานใต้ วิ่งเส้น 24 โชคชัยเดชอุดม มาเล่าประสบการณ์ ร้านอาหาร ไก่ย่างวิเชียร หนองบุนมาก
13 มิ.ย. 63 ช่วงเริ่มปลดล็อคจากโรคระบาดโควิต19 ให้ประชาชนเดินทางข้ามจังหวัดแบบไม่ต้องกักตัว เราก็เลยเดินทาง ออกจากกรุงเทพประมาณ 10 โมง ขับไปเรื่อยๆจนถึงโคราชแถวหนองบุนมาก น่าจะราวๆบ่ายสองเริ่มรู้สึกหิวตั้งใจจะแวะหลายร้านก่อนหน้านั้น ตั้งแต่โชคชัย ปักธงชัย หรือร้านไก่ย่างท่าช้างบันลือโลกที่ผ่านบ่อยแต่ไม่เคยแวะเข้าไปกิน (แต่แค่เคยได้ยินนักจัดรายการฟุตบอลทีวีคนหนึ่งเคยคอมเพลนว่าแมลงวันเยอะร้านไก่ย่างท่าช้าง) ก็เลยขับไปเรื่อยๆจนเจอร้าน ไก่ย่างวิเชียรบุรีร้านหนึ่ง เยื้องๆกับสถานที่ราชการหนองบุนมากและใกล้ศูนย์จัดส่งพัสดุเคอรี่ ดูจากป้ายก็พอดูดีไม่ร้านเพิงๆ มีโปสเตอร์ร้าน การโฆษณา ภาพเมนูอาหารดูเข้าท่า ก็เลยแวะเข้า
พอจอดรถได้ก็รีบตรงปรี่เข้าร้าน ขณะเดินเข้ามีลูกค้าอยู่ก่อนสองโต๊ะ พอเรานั่งมีโต๊ะๆหนึ่งก็เช็คบิลและออกไป เราก็เดินผ่านเพื่อไปล้างมือโดยพาลูกไปล้างมือด้วย แต่สังเกตุว่าเฮ้ยยย ทำไมอาหารโต๊ะนี้มันกินทิ้งกินขว้างหรือกินเหลือจังฟร้ะ คิดว่าคงสั่งเยอะและอิ่มแล้วเลยไม่กินต่อ บางอย่างเหลือครึ่งจานเลยหลายอย่างด้วย ก็ไม่ได้คิดอะไร พอล้างมือเสร็จกลับมาแฟนก็สั่งๆและเราก็สั่งอย่างสองอย่างที่อยากกิน ระหว่านั้นเริ่มมีแมลงวันบวกแมลงหวี่มากวนป้วนเปี้ยนที่โต๊ะแล้ว ก็ไม่ได้คิดอะไรมากคิดว่าคงปกติเรื่องแมลงวันแมลงหวี่ และน้องเด็กเสริฟก็เอาพักลมจากโต๊ะที่เช็คบิลออกไปมาเป่าให้ ตอนแรกเป่ามุมทะแยง(โต็ะ4คนเรานั่ง3พ่อแม่ลูก)เราให้เป่าตรงลูกกับแฟนเพื่อไม่ให้แมลงต่างๆมากวน สักพักมาเสิร์ฟอาหารทีละอย่างจนครบและระหว่างนั้น เราที่ไม่โดนพัดลม ก็เลยลุกขึ้นไปยกพักลมที่ว่างอยู่มาเป่าอีกตัวเพื่อไล่แมงวันแมลงหวี่และไล่ความร้อนไปในตัว อาหารก็เสิร์ฟมาครบ เราก็เริ่มกินกัน มหกรรมแมลงวันก็เริ่มมากินไปปัดไปปัดให้ลูกไม่ให้แมงมาตอมมากัดเพราะผิวเด็กจะแพ้ง่าย สักพักเจ๊เจ้าของร้าน มาเก็บพัดลมตัวที่สองที่เรายกมาตั้งไปจ้า ยกไปเก็บเฉยๆโดยที่ไม่มีลูกค้าโต๊ะอื่นเลย ณ ตอนนั้น แล้วก็เอาพัดลมตัวเลขขยับมาเป่าตรงกลางพอนึกออกนะครับคือเป่าตรงอาหาร ทีนี้แมลงหวี่ก็จู่โจมคนนั่งส่วนแมลงวันก็บินโต้ลมเพื่อหาเป้าหมายคือตอมอาหารกลางโต๊ะ แมลงวันอาจไม่ได้เยอะมากแต่แค่ 4-5 ตัว วนไปวนมาก็เพลินแล้ว ไหนจะปัดแมงหวี่บนหัวหรือรอบๆอีก ทีนี้ก็เพลินเลย ทั้งปัดแมลงวันไล่แมลงหวี่ กินไปปักไปปัดให้ลูกไปเพลินดีมากๆครับ 555 แฟนกินได้นิดเดียวเลยไม่ไหวสั่งให้คิดตังค์และพาลูกมานั่งรอที่รถ เราก็เสียดายเลยสู้กินจนเกือบหมดกับสหายที่ไม่ได้รับเชิญแมลงหวี่แมลงวันและไก่ย่างก็ไม่หมด(ทั้งๆที่อุตส่าห์พยายามกิน) สรุปว่า กินร้านอาหารเส้นนี้อุดมไปด้วยแปลงวันจริงๆสุขะลักษณะที่สำคัญ ย้อนนึกถึงคำพูดพิธีกรที่เคยคอมเพลนแมลงวันร้านไก่ย่างถนนเส้นเดียวกันนี้ยังไม่ลืมคำพูดนั้น(ตอนแรกก็คิดว่าไอ้แค่แมลงวันแค่นี้อะไรจะขนาดนั้น) แต่มันกินแบบไม่มีความสุขและไร้สุขะอนามัยเอาเสียเลย เข็ดแล้วครับ ฝากเตือนเพื่อนๆหรือนักเดินทางที่ต้องผ่านเส้นนี้ หรือ อาจจะเคยประสบแล้วก็ได้กับเหตุการณ์เช่นเดียวกันนี้ ว่าให้ระมัดระวังร้านอาหารริมทาง ไม่ได้ว่าดูถูกร้านริมทาง ร้านเพิงริมทางผมก็กิน กินได้หมด แต่เรื่องสุขะลักษณะและน้ำใจบางอย่างเล็กๆน้อยๆที่มีต่อลูกค้า หรือคิดว่าลูกค้าไม่ใช่คนสำคัญก็ตามใจ แค่เพิ่มพัดลมเป่าไล่มาอีกตัวยังมายกไปเก็บหน้าด้านๆเขาคงกลัวค่าไฟมันท่วมหัวมั้ง และเราก็มีลูก ฝากไว้เพื่อเป็นประสบการณ์เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อครับ
ร้านไก่ย่างวิเชียรหนองบุนมากโคราช
13 มิ.ย. 63 ช่วงเริ่มปลดล็อคจากโรคระบาดโควิต19 ให้ประชาชนเดินทางข้ามจังหวัดแบบไม่ต้องกักตัว เราก็เลยเดินทาง ออกจากกรุงเทพประมาณ 10 โมง ขับไปเรื่อยๆจนถึงโคราชแถวหนองบุนมาก น่าจะราวๆบ่ายสองเริ่มรู้สึกหิวตั้งใจจะแวะหลายร้านก่อนหน้านั้น ตั้งแต่โชคชัย ปักธงชัย หรือร้านไก่ย่างท่าช้างบันลือโลกที่ผ่านบ่อยแต่ไม่เคยแวะเข้าไปกิน (แต่แค่เคยได้ยินนักจัดรายการฟุตบอลทีวีคนหนึ่งเคยคอมเพลนว่าแมลงวันเยอะร้านไก่ย่างท่าช้าง) ก็เลยขับไปเรื่อยๆจนเจอร้าน ไก่ย่างวิเชียรบุรีร้านหนึ่ง เยื้องๆกับสถานที่ราชการหนองบุนมากและใกล้ศูนย์จัดส่งพัสดุเคอรี่ ดูจากป้ายก็พอดูดีไม่ร้านเพิงๆ มีโปสเตอร์ร้าน การโฆษณา ภาพเมนูอาหารดูเข้าท่า ก็เลยแวะเข้า
พอจอดรถได้ก็รีบตรงปรี่เข้าร้าน ขณะเดินเข้ามีลูกค้าอยู่ก่อนสองโต๊ะ พอเรานั่งมีโต๊ะๆหนึ่งก็เช็คบิลและออกไป เราก็เดินผ่านเพื่อไปล้างมือโดยพาลูกไปล้างมือด้วย แต่สังเกตุว่าเฮ้ยยย ทำไมอาหารโต๊ะนี้มันกินทิ้งกินขว้างหรือกินเหลือจังฟร้ะ คิดว่าคงสั่งเยอะและอิ่มแล้วเลยไม่กินต่อ บางอย่างเหลือครึ่งจานเลยหลายอย่างด้วย ก็ไม่ได้คิดอะไร พอล้างมือเสร็จกลับมาแฟนก็สั่งๆและเราก็สั่งอย่างสองอย่างที่อยากกิน ระหว่านั้นเริ่มมีแมลงวันบวกแมลงหวี่มากวนป้วนเปี้ยนที่โต๊ะแล้ว ก็ไม่ได้คิดอะไรมากคิดว่าคงปกติเรื่องแมลงวันแมลงหวี่ และน้องเด็กเสริฟก็เอาพักลมจากโต๊ะที่เช็คบิลออกไปมาเป่าให้ ตอนแรกเป่ามุมทะแยง(โต็ะ4คนเรานั่ง3พ่อแม่ลูก)เราให้เป่าตรงลูกกับแฟนเพื่อไม่ให้แมลงต่างๆมากวน สักพักมาเสิร์ฟอาหารทีละอย่างจนครบและระหว่างนั้น เราที่ไม่โดนพัดลม ก็เลยลุกขึ้นไปยกพักลมที่ว่างอยู่มาเป่าอีกตัวเพื่อไล่แมงวันแมลงหวี่และไล่ความร้อนไปในตัว อาหารก็เสิร์ฟมาครบ เราก็เริ่มกินกัน มหกรรมแมลงวันก็เริ่มมากินไปปัดไปปัดให้ลูกไม่ให้แมงมาตอมมากัดเพราะผิวเด็กจะแพ้ง่าย สักพักเจ๊เจ้าของร้าน มาเก็บพัดลมตัวที่สองที่เรายกมาตั้งไปจ้า ยกไปเก็บเฉยๆโดยที่ไม่มีลูกค้าโต๊ะอื่นเลย ณ ตอนนั้น แล้วก็เอาพัดลมตัวเลขขยับมาเป่าตรงกลางพอนึกออกนะครับคือเป่าตรงอาหาร ทีนี้แมลงหวี่ก็จู่โจมคนนั่งส่วนแมลงวันก็บินโต้ลมเพื่อหาเป้าหมายคือตอมอาหารกลางโต๊ะ แมลงวันอาจไม่ได้เยอะมากแต่แค่ 4-5 ตัว วนไปวนมาก็เพลินแล้ว ไหนจะปัดแมงหวี่บนหัวหรือรอบๆอีก ทีนี้ก็เพลินเลย ทั้งปัดแมลงวันไล่แมลงหวี่ กินไปปักไปปัดให้ลูกไปเพลินดีมากๆครับ 555 แฟนกินได้นิดเดียวเลยไม่ไหวสั่งให้คิดตังค์และพาลูกมานั่งรอที่รถ เราก็เสียดายเลยสู้กินจนเกือบหมดกับสหายที่ไม่ได้รับเชิญแมลงหวี่แมลงวันและไก่ย่างก็ไม่หมด(ทั้งๆที่อุตส่าห์พยายามกิน) สรุปว่า กินร้านอาหารเส้นนี้อุดมไปด้วยแปลงวันจริงๆสุขะลักษณะที่สำคัญ ย้อนนึกถึงคำพูดพิธีกรที่เคยคอมเพลนแมลงวันร้านไก่ย่างถนนเส้นเดียวกันนี้ยังไม่ลืมคำพูดนั้น(ตอนแรกก็คิดว่าไอ้แค่แมลงวันแค่นี้อะไรจะขนาดนั้น) แต่มันกินแบบไม่มีความสุขและไร้สุขะอนามัยเอาเสียเลย เข็ดแล้วครับ ฝากเตือนเพื่อนๆหรือนักเดินทางที่ต้องผ่านเส้นนี้ หรือ อาจจะเคยประสบแล้วก็ได้กับเหตุการณ์เช่นเดียวกันนี้ ว่าให้ระมัดระวังร้านอาหารริมทาง ไม่ได้ว่าดูถูกร้านริมทาง ร้านเพิงริมทางผมก็กิน กินได้หมด แต่เรื่องสุขะลักษณะและน้ำใจบางอย่างเล็กๆน้อยๆที่มีต่อลูกค้า หรือคิดว่าลูกค้าไม่ใช่คนสำคัญก็ตามใจ แค่เพิ่มพัดลมเป่าไล่มาอีกตัวยังมายกไปเก็บหน้าด้านๆเขาคงกลัวค่าไฟมันท่วมหัวมั้ง และเราก็มีลูก ฝากไว้เพื่อเป็นประสบการณ์เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อครับ