สวัสดีค่า ใครกำลังมองหาสมาร์ตโฟน 5G ฟีเจอร์แน่น ๆ มาทางนี้เลยค่า เพราะวันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับสมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุดจากทาง HUAWEI นั่นก็คือ HUAWEI nova 7 SE ซึ่งเป็นสมาร์ตโฟนอีกหนึ่งรุ่น ในตระกูล HUAWEI nova 7 ซึ่งจุดเด่นของ series นี้ คือเป็นสมาร์ตโฟนที่รองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ 5G ด้วยชิปเซ็ตทรงพลัง มาพร้อมกล้องหลังอัจฉริยะ 4 ตัว กล้องหลักขนาด 64MP รองรับการชาร์จแบบ HUAWEI SuperCharge ที่ 40 วัตต์
HUAWEI nova 7 SE ถึงแม้ว่าจะเป็นน้องเล็กสุดของตระกูล แต่ก็มีฟังก์ชันครบครัน แถมราคาก็น่ารัก เริ่มต้นเพียง 11,990 บาท โดยตัว HUAWEI nova 7 SE นั้นแตกต่างจาก HUAWEI nova 7 ที่ขนาดตัวเครื่องเพียงเล็กน้อย รวมถึงเรื่องของตัวประมวลผล โดยรุ่นนี้จะใช้ชิปเซ็ต Kirin 820 5G ทรงพลังด้วย CPU แบบ Octa-core รองรับการใช้งาน 5G ได้ทุกคลื่นความถี่
HUAWEI nova 7 SE มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว รับชมความบันเทิง เล่นเกมสบาย แถมยังเอาใจสายถ่ายรูปด้วยกล้อง 4 ตัว ! กล้องหน้าความละเอียด 16 MP selfie ได้สะใจ + กล้องหลัง 4 เลนส์ ความละเอียด 64MP รองรับการถ่ายวีดีโอ 4K และพิเศษสุด ๆ กับโหมด DUAL-View ให้เราถ่ายวีดีโอพร้อมกันได้ 2 เลนส์ ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง แถมยังมีแบตเตอรี่ถึง 4,000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 40 วัตต์ ฟีเจอร์จัดเต็มโดนใจทุกการใช้งานขนาดนี้ตามเรามาดูรีวิวกันเลย
มาเริ่มกันที่ตัวดีไซน์ภายนอกกันก่อน สำหรับ HUAWEI nova 7 SE นั้น การออกแบบค่อนข้างสวยงามสะดุดตา ขนาดตัวเครื่องกำลังดี จับถนัดมือ น้ำหนักเบา
ในส่วนของหน้าจอแสดงผลมีขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียดแบบ FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) สีสันสด คมชัด หน้าจอดีไซน์แบบ Punch Display เป็นเทคโนโลยีหน้าจอแบบเจาะรูเพื่อฝังกล้องลงไปบนหน้าจอ
ซึ่งกล้องหน้าของสมาร์ตโฟนรุ่นนี้จะอยู่บริเวณมุมบนซ้ายมือ มีขนาดความละเอียด 16MP ทีเด็ดอยู่ที่มีขนาดรูรับแสง f/2.0 ซึ่งจะช่วยให้เราถ่ายภาพ selfie แบบหน้าชัดหลังเบลอได้ดียิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นตอนกลางวันหรือกลางคืนค่ะ
ทีนี้มาดูรอบ ๆ ตัวเครื่องบ้างค่ะ บริเวณด้านขวาจะมี 2 ปุ่ม ปุ่มบนสำหรับเพิ่ม-ลดระดับเสียง และปุ่มล่างเป็นตำแหน่งของปุ่ม Power ซึ่งมาพร้อมกับระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ หลังจากที่เราได้ลองใช้แล้ว ขอบอกเลยว่าตัวเซ็นเซอร์ตอบสนองไว จดจำลายนิ้วมือได้อย่างแม่นยำ แตะปุ๊ป ปลดล็อกหน้าจอทันที ประทับใจมาก ๆ
ถัดมาด้านซ้ายมือของตัวเครื่องเป็นตำแหน่งของช่องสำหรับซิมการ์ด และ NM card ของ HUAWEI
พลิกมาที่ฝาหลังตัวเครื่อง รุ่นนี้จะมีสองสีให้เลือก ก็คือ Crush Green กับสีที่เราได้มารีวิวจะเป็น Space Silver สีออกเงิน ๆ เหลือบชมพูนิด ๆ การออกแบบตัวเครื่องมีความเรียบเนียนขอบโค้งมน มันวาวสวยงาม โดยเฉพาะเวลาสะท้อนกับแสงแดด ตัวเครื่องจะเล่นสี ทำให้ดูมีออร่า หรูหราขึ้นมากทีเดียว
มุมซ้ายบนของฝาหลังจะเป็นตำแหน่งของกล้องจัดเต็มมาให้ 4 ตัวเรียงในแนวเดียวกัน ได้แก่ กล้องหลัก 64MP (รูรับแสง f/1.8), กล้อง Ultra-Wide ขนาด 8MP (รูรับแสง f/2.4), กล้อง Bokeh ขนาด 2MP (รูรับแสง f/2.4) และกล้องสำหรับถ่าย Macro ขนาด 2MP (รูรับแสง f/2.4) โดยกรอบตัวกล้องทั้งหมดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า นูนออกมาจากฝาหลังเพียงเล็กน้อย และข้าง ๆ ตัวกล้องเป็นไฟแฟลชแยกมาให้ 1 ตัวค่ะ
บริเวณท้ายฝาหลังยังมีโลโก้ nova ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของซีรีส์นี้โดดเด่นอยู่อีกด้วย
มาถึงขอบตัวเครื่องด้านล่างจะเป็นตำแหน่งของพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB-C, ลำโพง 1 ตัว และในรุ่น HUAWEI nova 7 SE ยังมีช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตร มาให้อยู่ค่ะ
สเปกของ HUAWEI nova 7 SE
▸ ขนาดตัวเครื่อง : 162.31 x 75.0 x 8.58 มิลลิเมตร น้ำหนัก 189 กรัม
▸ หน้าจอแสดงผล : กว้าง 6.5 นิ้ว LTPS PPI:405 (ความละเอียด FHD+ 2400x1080) ให้สีได้สูงถึง 16.7 ล้านสี
▸ ชิปเซ็ต : HUAWEI Kirin 820 5G (ขนาด 7 นาโนเมตร) Octa-Core
▸ RAM : 8 GB
▸ ROM : 128 GB
▸ ระบบปฏิบัติการ : EMUI10.1.1 (พัฒนาจาก Android 10)
▸ ซิมการ์ด รองรับ 2 ซิมแบบ Nano SIM
▸ กล้องหน้า : 16MP Front Camera (f/2.0) พร้อม Super Night Selfie 2.0 ความละเอียดของภาพถ่ายสูงสุด 4608 x 3456 พิกเซล รองรับการถ่ายวีดีโอความละเอียดสูงสุด 2400 x 1080 พิกเซล
▸ กล้องหลัง : 64MP Hi-Res Lens (f/1.8),
8MP Ultra-Wide Angle Lens (f/2.4)
2MP Bokeh Lens (f/2.4),
2MP Macro Lens (f/2.4)
ความละเอียดของภาพถ่ายสูงสุด 9216 x 6912 พิกเซล
รองรับการถ่ายวีดีโอความละเอียดสูงสุด 3840 x 216 พิกเซล
▸ ระบบเซ็นเซอร์ Proximity sensor, Ambient light sensor, Digital compass, Gravity sensor, Gyroscope
▸ แบตเตอรี่ : ความจุ 4,000 mAh รองรับ HUAWEI SuperCharge กำลังไฟสูงสุด 40 วัตต์
ชิปเซ็ต Kirin 820 พร้อมรองรับการใช้งาน 5G
อย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่า HUAWEI nova 7 SE ใช้ชิปเซ็ต Kirin 820 5G ถือว่าทำงานได้เร็ว เพียงพอต่อการใช้งาน และสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ยังมาพร้อมหน่วยประมวลผลแบบ Octa-core ที่ช่วยทำให้การใช้งาน AI ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม พร้อมรองรับการใช้งาน 5G ทุกคลื่นความถี่เลยค่ะ
โดยหลังจากที่เรานำ HUAWEI nova 7 SE ไปทดสอบความเร็วแรงของการใช้งาน 5G ในพื้นที่ที่รองรับการให้บริการ พบว่า ตัวเครื่องสามารถรองรับการใช้งาน 5G ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการโหลดวีดีโอ เล่นเกมต่าง ๆ สามารถโหลดไวใช้งานได้เวิร์กมาก ๆ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสปีดอินเตอร์เน็ตและแพ็กเกจอินเตอร์เน็ตของแต่ละผู้ให้บริการเครือข่ายด้วยค่ะ
เล่นเกมได้แรงสะใจ
สำหรับคอเกม ต้องบอกเลยว่า HUAWEI nova 7 SE เครื่องนี้ถูกใจแน่นอน เพราะใช้ GPU Turbo รุ่นใหม่ และแรมที่ให้มาถึง 8 GB ทำให้สมาร์ตโฟนรุ่นนี้ รองรับเกมกราฟิกหนัก ๆ ได้อย่างน้อย 30 เกม ไม่ว่าจะเป็น PUBG, Fortnite, ROV ฯลฯ หลังจากที่เราได้ลองเล่นดูแล้ว บอกเลยว่าเล่นแบบลื่น ๆ แม้จะเปิดเฟรมเรตสูงสุดภาพก็ไม่มีสะดุด และด้วยหน้าจอความละเอียดภาพระดับ Full HD+ ก็ยิ่งเพิ่มความสะใจ
การถ่ายภาพ
อีกหนึ่งจุดเด่นของ HUAWEI nova 7 SE ที่ไม่พูดไม่ได้เลย ก็คือเรื่องของกล้องถ่ายรูป ที่จัดเต็มกล้องหลังแบบ AI Quad Camera มาให้ถึง 4 ตัว ช่วยให้เราสามารถควบคุมการถ่ายภาพได้ง่าย สนุกทุกสถานการณ์ ด้วยคุณสมบติของกล้องที่ครอบคลุมการถ่ายภาพทุกระยะ ไม่ว่าจะเป็นกล้องหลัก 64MP ภาพถ่ายความละเอียดสูง, กล้อง Ultra-wide 8MP ถ่ายรูปมุมกว้างพิเศษ , กล้องโบเก้ 2MP ถ่ายรูปหน้าชัดหลังเบลอ และกล้องมาโคร 2MP สำหรับถ่ายวัตถุในระยะใกล้
ตัวกล้องหลัก 64MP Hi-Res Lens (f/1.8) ตัวนี้ จะทำงานควบคู่กับโหมดภาพชัดยิ่งขึ้น (Clarity Mode) ทำให้ได้ภาพถ่ายที่สวยงามทุกรายละเอียด ทำงานได้ดี ปรับทั้งสีและแสงในภาพให้อัตโนมัติ
สามารถซูมได้มากถึง 10 เท่า แต่รายละเอียดภาพก็ยังคมชัด ไม่สูญเสียรายละเอียดของภาพมากนัก
กล้องเลนส์กว้างพิเศษความละเอียด 8MP จะถ่ายภาพมุมกว้าง ให้ดูอลังการก็ทำได้
(รูปซ้ายเลนส์ระยะกว้าง และรูปขวาเป็นเลนส์กว้างพิเศษ)
แม้ในกรณีที่เราต้องการถ่ายภาพกลางคืน หรือในพื้นที่แสงน้อย ระบบ AI ของกล้องจะช่วยให้เราถ่ายรูปได้ง่ายขึ้น เพียงแค่เรากดถ่าย ระบบ AI จะประมวลผลการทำงานของกล้องให้อัตโนมัติ ทำให้แต่ละรูปที่เราถ่ายออกมาไม่เบลอ ได้ภาพที่คมชัด สว่าง สีสด
เลนส์โบเก้ ความละเอียด 2MP รูรับแสง (f/2.0)
ทำให้เราถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอได้อย่างเป็นธรรมชาติ
มาดูภาพจากเลนส์มาโครกันบ้าง ความละเอียดของกล้องตัวนี้อยู่ที่ 2MP สามารถถ่ายวัตถุได้ใกล้กว่า 4 เซนติเมตร ทำให้การถ่ายภาพสนุกมาก ๆ เพราะได้มุมมองในการถ่ายรูปใหม่ ๆ ที่แปลกตา และภาพที่ออกมามียังคงเห็นรายละเอียดของวัตถุได้ชัดเจน
นอกจากนั้นในรุ่นนี้ยังรองรับการถ่ายวีดีโอ ความละเอียดระดับ 4K ปรับอัตราเฟรมเรตได้สูงสุด 30 เฟรม/วินาที ทำให้ภาพวีดีโอลื่นไหล คมชัดสมจริง นอกจากนั้นยังสามารถถ่ายภาพ Times-Lapse ความละเอียดสูงได้อีกด้วย
โหมดนี้น่าจะถูกใจ Blogger หรือคนที่ชื่นชอบการถ่ายวีดีโอเป็นประจำ สำหรับ
โหมดการถ่ายวีดีโอ “DUAL-View” ที่ช่วยให้การถ่ายทำง่ายขึ้น โดยโหมด DUAL-View ทำให้เราสามารถถ่ายวีดีโอพร้อมกันทีเดียวได้สองเลนส์ ไม่ว่าจะถ่ายกล้องหน้าพร้อมกล้องหลัง อยากถ่ายวีดีโอแบบกว้างพิเศษพร้อมถ่ายวีดีโอ selfie ก็ทำได้เลย ตัดความยุ่งยาก ไม่ต้องคอยกดสลับไปมาระหว่างการถ่ายวีดีโอจากกล้องหน้าและกล้องหลังค่ะ
จะถ่ายวีดีโอโดยใช้เลนส์ปกติ พร้อม ๆ กับการใช้เลนส์แบบกว้างก็ทำได้
[BR] HUAWEI nova 7 SE รุ่น 5G สมาร์ตโฟนฟีเจอร์คุ้ม ในราคาที่ใครก็เอื้อมถึง
HUAWEI nova 7 SE ถึงแม้ว่าจะเป็นน้องเล็กสุดของตระกูล แต่ก็มีฟังก์ชันครบครัน แถมราคาก็น่ารัก เริ่มต้นเพียง 11,990 บาท โดยตัว HUAWEI nova 7 SE นั้นแตกต่างจาก HUAWEI nova 7 ที่ขนาดตัวเครื่องเพียงเล็กน้อย รวมถึงเรื่องของตัวประมวลผล โดยรุ่นนี้จะใช้ชิปเซ็ต Kirin 820 5G ทรงพลังด้วย CPU แบบ Octa-core รองรับการใช้งาน 5G ได้ทุกคลื่นความถี่
HUAWEI nova 7 SE มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว รับชมความบันเทิง เล่นเกมสบาย แถมยังเอาใจสายถ่ายรูปด้วยกล้อง 4 ตัว ! กล้องหน้าความละเอียด 16 MP selfie ได้สะใจ + กล้องหลัง 4 เลนส์ ความละเอียด 64MP รองรับการถ่ายวีดีโอ 4K และพิเศษสุด ๆ กับโหมด DUAL-View ให้เราถ่ายวีดีโอพร้อมกันได้ 2 เลนส์ ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง แถมยังมีแบตเตอรี่ถึง 4,000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 40 วัตต์ ฟีเจอร์จัดเต็มโดนใจทุกการใช้งานขนาดนี้ตามเรามาดูรีวิวกันเลย
มาเริ่มกันที่ตัวดีไซน์ภายนอกกันก่อน สำหรับ HUAWEI nova 7 SE นั้น การออกแบบค่อนข้างสวยงามสะดุดตา ขนาดตัวเครื่องกำลังดี จับถนัดมือ น้ำหนักเบา
ในส่วนของหน้าจอแสดงผลมีขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียดแบบ FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) สีสันสด คมชัด หน้าจอดีไซน์แบบ Punch Display เป็นเทคโนโลยีหน้าจอแบบเจาะรูเพื่อฝังกล้องลงไปบนหน้าจอ
ซึ่งกล้องหน้าของสมาร์ตโฟนรุ่นนี้จะอยู่บริเวณมุมบนซ้ายมือ มีขนาดความละเอียด 16MP ทีเด็ดอยู่ที่มีขนาดรูรับแสง f/2.0 ซึ่งจะช่วยให้เราถ่ายภาพ selfie แบบหน้าชัดหลังเบลอได้ดียิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นตอนกลางวันหรือกลางคืนค่ะ
ทีนี้มาดูรอบ ๆ ตัวเครื่องบ้างค่ะ บริเวณด้านขวาจะมี 2 ปุ่ม ปุ่มบนสำหรับเพิ่ม-ลดระดับเสียง และปุ่มล่างเป็นตำแหน่งของปุ่ม Power ซึ่งมาพร้อมกับระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ หลังจากที่เราได้ลองใช้แล้ว ขอบอกเลยว่าตัวเซ็นเซอร์ตอบสนองไว จดจำลายนิ้วมือได้อย่างแม่นยำ แตะปุ๊ป ปลดล็อกหน้าจอทันที ประทับใจมาก ๆ
พลิกมาที่ฝาหลังตัวเครื่อง รุ่นนี้จะมีสองสีให้เลือก ก็คือ Crush Green กับสีที่เราได้มารีวิวจะเป็น Space Silver สีออกเงิน ๆ เหลือบชมพูนิด ๆ การออกแบบตัวเครื่องมีความเรียบเนียนขอบโค้งมน มันวาวสวยงาม โดยเฉพาะเวลาสะท้อนกับแสงแดด ตัวเครื่องจะเล่นสี ทำให้ดูมีออร่า หรูหราขึ้นมากทีเดียว
มุมซ้ายบนของฝาหลังจะเป็นตำแหน่งของกล้องจัดเต็มมาให้ 4 ตัวเรียงในแนวเดียวกัน ได้แก่ กล้องหลัก 64MP (รูรับแสง f/1.8), กล้อง Ultra-Wide ขนาด 8MP (รูรับแสง f/2.4), กล้อง Bokeh ขนาด 2MP (รูรับแสง f/2.4) และกล้องสำหรับถ่าย Macro ขนาด 2MP (รูรับแสง f/2.4) โดยกรอบตัวกล้องทั้งหมดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า นูนออกมาจากฝาหลังเพียงเล็กน้อย และข้าง ๆ ตัวกล้องเป็นไฟแฟลชแยกมาให้ 1 ตัวค่ะ
มาถึงขอบตัวเครื่องด้านล่างจะเป็นตำแหน่งของพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB-C, ลำโพง 1 ตัว และในรุ่น HUAWEI nova 7 SE ยังมีช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตร มาให้อยู่ค่ะ
▸ ขนาดตัวเครื่อง : 162.31 x 75.0 x 8.58 มิลลิเมตร น้ำหนัก 189 กรัม
▸ หน้าจอแสดงผล : กว้าง 6.5 นิ้ว LTPS PPI:405 (ความละเอียด FHD+ 2400x1080) ให้สีได้สูงถึง 16.7 ล้านสี
▸ ชิปเซ็ต : HUAWEI Kirin 820 5G (ขนาด 7 นาโนเมตร) Octa-Core
▸ RAM : 8 GB
▸ ROM : 128 GB
▸ ระบบปฏิบัติการ : EMUI10.1.1 (พัฒนาจาก Android 10)
▸ ซิมการ์ด รองรับ 2 ซิมแบบ Nano SIM
▸ กล้องหน้า : 16MP Front Camera (f/2.0) พร้อม Super Night Selfie 2.0 ความละเอียดของภาพถ่ายสูงสุด 4608 x 3456 พิกเซล รองรับการถ่ายวีดีโอความละเอียดสูงสุด 2400 x 1080 พิกเซล
▸ กล้องหลัง : 64MP Hi-Res Lens (f/1.8),
8MP Ultra-Wide Angle Lens (f/2.4)
2MP Bokeh Lens (f/2.4),
2MP Macro Lens (f/2.4)
ความละเอียดของภาพถ่ายสูงสุด 9216 x 6912 พิกเซล
รองรับการถ่ายวีดีโอความละเอียดสูงสุด 3840 x 216 พิกเซล
▸ ระบบเซ็นเซอร์ Proximity sensor, Ambient light sensor, Digital compass, Gravity sensor, Gyroscope
▸ แบตเตอรี่ : ความจุ 4,000 mAh รองรับ HUAWEI SuperCharge กำลังไฟสูงสุด 40 วัตต์
ชิปเซ็ต Kirin 820 พร้อมรองรับการใช้งาน 5G
อย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่า HUAWEI nova 7 SE ใช้ชิปเซ็ต Kirin 820 5G ถือว่าทำงานได้เร็ว เพียงพอต่อการใช้งาน และสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ยังมาพร้อมหน่วยประมวลผลแบบ Octa-core ที่ช่วยทำให้การใช้งาน AI ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม พร้อมรองรับการใช้งาน 5G ทุกคลื่นความถี่เลยค่ะ
โดยหลังจากที่เรานำ HUAWEI nova 7 SE ไปทดสอบความเร็วแรงของการใช้งาน 5G ในพื้นที่ที่รองรับการให้บริการ พบว่า ตัวเครื่องสามารถรองรับการใช้งาน 5G ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการโหลดวีดีโอ เล่นเกมต่าง ๆ สามารถโหลดไวใช้งานได้เวิร์กมาก ๆ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสปีดอินเตอร์เน็ตและแพ็กเกจอินเตอร์เน็ตของแต่ละผู้ให้บริการเครือข่ายด้วยค่ะ
เล่นเกมได้แรงสะใจ
สำหรับคอเกม ต้องบอกเลยว่า HUAWEI nova 7 SE เครื่องนี้ถูกใจแน่นอน เพราะใช้ GPU Turbo รุ่นใหม่ และแรมที่ให้มาถึง 8 GB ทำให้สมาร์ตโฟนรุ่นนี้ รองรับเกมกราฟิกหนัก ๆ ได้อย่างน้อย 30 เกม ไม่ว่าจะเป็น PUBG, Fortnite, ROV ฯลฯ หลังจากที่เราได้ลองเล่นดูแล้ว บอกเลยว่าเล่นแบบลื่น ๆ แม้จะเปิดเฟรมเรตสูงสุดภาพก็ไม่มีสะดุด และด้วยหน้าจอความละเอียดภาพระดับ Full HD+ ก็ยิ่งเพิ่มความสะใจ
การถ่ายภาพ
อีกหนึ่งจุดเด่นของ HUAWEI nova 7 SE ที่ไม่พูดไม่ได้เลย ก็คือเรื่องของกล้องถ่ายรูป ที่จัดเต็มกล้องหลังแบบ AI Quad Camera มาให้ถึง 4 ตัว ช่วยให้เราสามารถควบคุมการถ่ายภาพได้ง่าย สนุกทุกสถานการณ์ ด้วยคุณสมบติของกล้องที่ครอบคลุมการถ่ายภาพทุกระยะ ไม่ว่าจะเป็นกล้องหลัก 64MP ภาพถ่ายความละเอียดสูง, กล้อง Ultra-wide 8MP ถ่ายรูปมุมกว้างพิเศษ , กล้องโบเก้ 2MP ถ่ายรูปหน้าชัดหลังเบลอ และกล้องมาโคร 2MP สำหรับถ่ายวัตถุในระยะใกล้
ตัวกล้องหลัก 64MP Hi-Res Lens (f/1.8) ตัวนี้ จะทำงานควบคู่กับโหมดภาพชัดยิ่งขึ้น (Clarity Mode) ทำให้ได้ภาพถ่ายที่สวยงามทุกรายละเอียด ทำงานได้ดี ปรับทั้งสีและแสงในภาพให้อัตโนมัติ
(รูปซ้ายเลนส์ระยะกว้าง และรูปขวาเป็นเลนส์กว้างพิเศษ)
แม้ในกรณีที่เราต้องการถ่ายภาพกลางคืน หรือในพื้นที่แสงน้อย ระบบ AI ของกล้องจะช่วยให้เราถ่ายรูปได้ง่ายขึ้น เพียงแค่เรากดถ่าย ระบบ AI จะประมวลผลการทำงานของกล้องให้อัตโนมัติ ทำให้แต่ละรูปที่เราถ่ายออกมาไม่เบลอ ได้ภาพที่คมชัด สว่าง สีสด
ทำให้เราถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอได้อย่างเป็นธรรมชาติ
มาดูภาพจากเลนส์มาโครกันบ้าง ความละเอียดของกล้องตัวนี้อยู่ที่ 2MP สามารถถ่ายวัตถุได้ใกล้กว่า 4 เซนติเมตร ทำให้การถ่ายภาพสนุกมาก ๆ เพราะได้มุมมองในการถ่ายรูปใหม่ ๆ ที่แปลกตา และภาพที่ออกมามียังคงเห็นรายละเอียดของวัตถุได้ชัดเจน
นอกจากนั้นในรุ่นนี้ยังรองรับการถ่ายวีดีโอ ความละเอียดระดับ 4K ปรับอัตราเฟรมเรตได้สูงสุด 30 เฟรม/วินาที ทำให้ภาพวีดีโอลื่นไหล คมชัดสมจริง นอกจากนั้นยังสามารถถ่ายภาพ Times-Lapse ความละเอียดสูงได้อีกด้วย
โหมดนี้น่าจะถูกใจ Blogger หรือคนที่ชื่นชอบการถ่ายวีดีโอเป็นประจำ สำหรับ โหมดการถ่ายวีดีโอ “DUAL-View” ที่ช่วยให้การถ่ายทำง่ายขึ้น โดยโหมด DUAL-View ทำให้เราสามารถถ่ายวีดีโอพร้อมกันทีเดียวได้สองเลนส์ ไม่ว่าจะถ่ายกล้องหน้าพร้อมกล้องหลัง อยากถ่ายวีดีโอแบบกว้างพิเศษพร้อมถ่ายวีดีโอ selfie ก็ทำได้เลย ตัดความยุ่งยาก ไม่ต้องคอยกดสลับไปมาระหว่างการถ่ายวีดีโอจากกล้องหน้าและกล้องหลังค่ะ
BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน