(บทความ) เปแอสเช ทีมที่ไม่ให้โอกาส "เด็กปั้น"



การที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง สะสมซูเปอร์สตาร์ไว้มากกว่าทุกทีมในฝรั่งเศส นั่นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะผูกขาดแชมป์ ลีก เอิง มา 3 สมัยซ้อน

ขุมกำลังที่เหนือกว่าทีมอื่นชัดเจน ทำให้ในรอบ 8 ปีหลังสุด พวกเขาพลาดแชมป์ลีกเพียงครั้งเดียว คือปี 2017 ที่เจอทีเด็ด โมนาโก ชุดยุคทองทะลุกลางปล้องขึ้นมาคว้าแชมป์ไปแทนแบบเหนือชั้น

แต่การสร้างทีมด้วยดาวดัง ทำให้ เปแอสเช ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับดาวรุ่งมากนัก สังเกตได้จากจำนวนนัดที่พวกแข้งอายุน้อยได้ลงสนามในลีกซีซั่นนี้
___________________________

ฤดูกาลล่าสุดที่เพิ่งถูกตัดจบไป ทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล มีนักเตะ 18 รายที่ได้ลงสนามเกมลีกเกิน 10 นัด

ในจำนวนนั้นมีถึง 15 คนที่อายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี ซึ่งถือเป็นวัยที่มีประสบการณ์มาไม่ใช่น้อยๆ

ทั้ง 15 รายที่ว่า มีเพียงคนเดียวที่เติบโตมาจากอะคาเดมี่ของ เปแอสเช เอง นั่นคือปราการหลังทีมชาติฝรั่งเศสวัย 24 ปีอย่าง เพรสเนล คิมเพมเบ้

ส่วนนักเตะอายุน้อยที่สุด ที่มีโอกาสลงเล่นเกิน 10 นัดคือ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ดาวยิงซูเปอร์สตาร์วัย 21 ปี ที่ทำผลงานซัดไปถึง 18 ประตูจาก 20 เกม แต่ทุกคนรู้ดีว่านี่คือสมบัติที่ เปแอสเช ทุ่มเงินระดับเกือบๆ สถิติโลก พรากมาจากอ้อมอกของคู่แข่งร่วมลีกอย่าง โมนาโก



และหากไม่นับ คิมเพมเบ้ ที่เป็นเด็กปั้นเพียงผู้เดียวของทีมชุดนี้ที่เลื่อนขั้นจากอะคาเดมี่ขึ้นไปแจ้งเกิดในทีมชุดใหญ่ได้อย่างจริงจัง แข้งลูกหม้อที่ได้โอกาสลงเล่นรองลงมาในซีซั่น 2019-20 คือ ต็องกี คูอาสซี่

คูอาสซี่ เพิ่งอายุครบ 18 ปีไปเมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้ลงสนาม ลีก เอิง ฤดูกาลนี้ไปแล้ว 6 นัด และหากนับรวมทุกรายการก็ลงสนามไปแล้ว 13 เกม โดยโอกาสลงเล่นส่วนใหญ่จะอยู่ที่บอลถ้วย
___________________________

ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เราได้เห็นนักเตะลูกหม้อของ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ย้ายไปซบทีมอื่นถึง 7 คน

อาเดรียง ราบิโอต์ กองกลางซึ่งเล่นให้ทีมชุดใหญ่มานานหลายปี เลือกไม่ต่อสัญญา แล้วหนีไปค้าแข้งที่อิตาลีกับ ยูเวนตุส แบบไม่มีค่าตัว

แต่นอกเหนือจาก ราบิโอต์ แล้ว เปแอสเช เป็นฝ่ายเลือกปล่อยเด็กปั้นออกไปเองทั้งหมด

ขนาดนายประตูทีมชาติฝรั่งเศสชุดแชมป์ฟุตบอลโลกอย่าง อัลฟงส์ อาเรโอล่า ยังโดนส่งตัวให้ เรอัล มาดริด ยืมไปเป็นตัวสำรองของ ติโบต์ กูร์กตัวส์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในดีลคว้าตัว เกย์ลอร์ นาวาส มาเฝ้าเสา

ทิโมธี เวอาห์ ศูนย์หน้าลูกชายของ จอร์จ เวอาห์ อดีตตำนานดาวยิงซึ่งกลายมาเป็นประธานาธิบดีของไลบีเรีย ก็ถูกปล่อยไปซบคู่แข่งร่วมลีกอย่าง ลีลล์ ด้วยค่าตัว 10 ล้านยูโร

2 กองหลังดาวรุ่งอย่าง สแตนลี่ย์ เอ็นโซกี้ และ อาร์กตูร์ ซาเกร ก็โดนขายให้ทีมใน ลีก เอิง เช่นกัน โดยไปอยู่กับ นีซ และ โมนาโก ตามลำดับ

นอกจากนั้น ยังมี 2 คนโดนปล่อยให้ทีมในเยอรมนีด้วยค่าตัว 15 ล้านยูโรกันทั้งคู่ ได้แก่ มุสซ่า ดิยาบี้ กองหน้าวัย 20 ปีไปซบ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น และ คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู ที่ตอนนี้แจ้งเกิดเต็มตัวกับ แอร์เบ ไลป์ซิก

สิ่งที่น่าสังเกตก็คือแข้งส่วนใหญ่ที่โดนปล่อยออกไป มักจะอายุไม่เกิน 21 ปีเสียด้วยซ้ำ แสดงให้เห็นชัดเจนว่า เปแอสเช คือทีมที่แทบไม่เปิดพื้นที่ให้เยาวชนได้โชว์ของ


___________________________

ซัมเมอร์ 2019 ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทีมมหาเศรษฐีแดนน้ำหอมปล่อยนักเตะจากอะคาเดมี่ออกจากทีมกันแบบเป็นชุด

ปี 2018 โชนาต็อง อิโกเน่ ถูกขายทิ้งให้ ลีลล์ ก่อนจะกลายเป็นปีกจอมแอสซิสต์เบอร์ต้นๆ ของลีกไปแล้ว เช่นเดียวกับ อ็อดซอนน์ เอดูอาร์ ก็ย้ายไป กลาสโกว์ เซลติก ก่อนกลายเป็นหัวหอกจอมถล่มประตูที่สกอตแลนด์

ปี 2017 แดน-อักเซล ซากาดู ย้ายไปเป็นกองหลังอะไหล่ของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทั้งที่ยังไม่ทันได้ลงสนามให้ เปแอสเช ชุดใหญ่แม้แต่นัดเดียว

นอกจากนั้นแล้ว ยังมีนักเตะของทีมดังอีกหลายคน ที่เคยโดนเมินในถิ่น ปาร์ก เดส์ แพร็งส์ ที่เชื่อว่าการออกไปแสวงหาโอกาสกับทีมอื่น น่าจะทำให้มีเส้นทางค้าแข้งที่สวยงามกว่า

คิงสเล่ย์ โกมัน ปีกตัวจี๊ดของ บาเยิร์น มิวนิค เคยย้ายไปหาโอกาสใหม่กับ ยูเวนตุส ตอนที่หมดสัญญากับทีมเมื่อปี 2014

มัตเตโอ เกนดูซี่ ก็เคยเป็นเด็กฝึกของ เปแอสเช นานถึง 9 ปีระหว่างปี 2009-2014 แต่เขาต้องหนีไปอยู่กับ ลอริยองต์ เพราะมีโอกาสขึ้นทีมชุดใหญ่ง่ายกว่า ก่อนที่มันจะกลายเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะมันคือการเปิดทางให้เขาได้เล่นให้ อาร์เซน่อล จนถึงตอนนี้

แม้แต่ มุสซ่า เดมเบเล่ ศูนย์หน้าตัวสำคัญของ โอลิมปิก ลียง ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงของทีมดังกรุงปารีส ก็ยังเลือกย้ายไปเป็นเด็กฝึกของ ฟูแล่ม ตั้งแต่อายุ 15 ปี ก่อนจะแจ้งเกิดกับ กลาสโกว์ เซลติก จนทำให้ ลียง ทุ่มเงิน 22 ล้านยูโรไปเสริมแดนหน้าในปี 2018 แล้วกลายเป็นดาวยิงฟอร์มร้อนแรงที่ยักษ์ใหญ่หลายทีมต้องการตัว
___________________________

อันที่จริง ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ภายใต้การบริหารงานโดย กาตาร์ สปอร์ตส์ อินเวสต์เมนต์ (คิวเอสไอ) ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเด็กปั้นมากนะครับ ไม่ใช่ว่าใช้เงินซื้อแต่ดาวดังเท่านั้น



อีเอสพีเอ็น สื่อกีฬาระดับโลก รายงานว่า คิวเอสไอ ทุ่มงบเพื่อพัฒนาระบบเยาวชนของ เปแอสเช ไม่น้อยกว่าปีละ 10 ล้านยูโร

ในปี 2019 สมาคมฟุตบอลฝรั่งเศสเพิ่งยกให้ เปแอสเช คือสโมสรที่มีอะคาเดมี่ดีที่สุดของประเทศ หลังจากก่อนหน้านั้น ลียง ได้รางวัลดังกล่าวนานถึง 6 ปีซ้อน

แต่ด้วยวิสัยทัศน์ของกลุ่มทุนจากกาตาร์ ที่ต้องการพา ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ผงาดขึ้นเป็นยักษ์ใหญ่เบอร์หนึ่งของประเทศ และมีศักยภาพดีพอที่จะได้ลุ้นแชมป์ยุโรปให้เร็วที่สุด การทุ่มซื้อซูเปอร์สตาร์ จึงกลายเป็นดาบสองคม ที่ขัดขวางการแจ้งเกิดของนักเตะลูกหม้อไปด้วย

สาเหตุที่ เปแอสเช จำเป็นต้องรีบได้แชมป์ ลีก เอิง ให้มากที่สุด และประสบความสำเร็จใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้เร็วที่สุด ก็เพื่อรีแบรนด์ภาพลักษณ์สโมสร จากทีมเกรดบีให้กลายเป็นยักษ์ใหญ่ของทวีปอย่างเต็มตัวให้ได้

ก่อนจะปลดล็อคคว้าแชมป์ ลีก เอิง ในฤดูกาล 2012-13 ครั้งสุดท้ายที่ เปแอสเช ได้อันดับ 1 ของลีกต้องย้อนไปไกลถึงปี 1994 ยิ่งไปกว่านั้นในช่วง 11 ปีแรกของยุคมิลเลนเนียม (นับตั้งแต่ขึ้นปี 2000) เปแอสเช ผ่านเข้าไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เพียง 2 ครั้ง คือซีซั่น 2000-01 และ 2004-05 โดยที่ไม่สามารถผ่านเข้าไปถึงรอบน็อคเอาต์ได้เลย

การที่สโมสรจะแกร่งขึ้นให้เร็วที่สุด แน่นอนว่าก็ต้องอาศัยการทุ่มเสริมนักเตะระดับแถวหน้าเข้ามาเสริมให้มากที่สุด

ซึ่งในช่วง 2 ปีแรก พวกเขากว้านซื้อนักเตะอย่าง แบลส มาตุยดี้, ฮาเวียร์ ปาสตอเร่, ซัลวาตอเร่ ซิริกู, ติอาโก้ ซิลวา, มาร์โก แวร์รัตติ, ติอาโก้ ม็อตต้า, เอเซเกล ลาเวซซี่ และ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เข้าไปรวมพลังกัน และคว้าแชมป์ลีกได้หลังผ่านปีที่ 2 ของการเทคโอเวอร์

อย่างไรก็ตาม ลีก เอิง คือลีกที่ได้รับการยอมรับมาตรฐานน้อยที่สุดในบรรดา 5 ลีกดังยุโรป

ต่อให้ เปแอสเช จะได้แชมป์ลีกนี้มันทุกปี แต่ถ้าหากพวกเขาอยากมีสถานะที่ใหญ่โตกว่าแค่ในฝรั่งเศส ก็ต้องซื้อแข้งบิ๊กเนมในระดับที่แฟนบอลทุกคนต้องรู้จักเข้ามาให้มากที่สุดเท่านั้น

หลังจากนั้นก็อย่างที่รู้กัน ช่วง 4 ปีหลังเราเห็นนักเตะระดับเวิลด์คลาสเปิดตัวเป็นผู้เล่นใหม่ในถิ่น ปาร์ก เดส์ แพร็งส์ อยู่ทุกปี โดยที่นักเตะค่าตัวแพง 2 อันดับแรกของโลก ปัจจุบันคือแข้งตัวชูโรงของพวกเขา


___________________________

การที่นักเตะดาวรุ่งคนหนึ่งจะกลายเป็นกำลังสำคัญของทีมที่เลี้ยงดูพวกเขาได้ นอกจากฝีเท้าเก่งแล้ว มันต้องได้โอกาสเล่นด้วย

แต่ชื่อเสียง บวกกับผลงานมาตรฐานสูงของนักเตะอย่าง เนย์มาร์, คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้, เอดินสัน คาวานี่, เมาโร อิคาร์ดี้ และ อังเคล ดิ มาเรีย มันคงไม่มีที่ว่างให้ผู้เล่นที่ไม่มีประสบการณ์แน่

เกือบทศวรรษที่ผ่านมา เปแอสเช ในยุคของท่านประธาน นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ ไม่เคยปล่อยให้ทีมขาดปีกหรือกองหน้าระดับพรีเมียม นั่นทำให้นักเตะอย่าง คิงสเล่ย์ โกมัน, อ็อดซอนน์ เอดูอาร์ มาจนถึง คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู ต้องเผ่นกันหมด

อ็อดซอนน์ เอดูอาร์ กองหน้าผู้ยิงให้ กลาสโกว์ เซลติก รวมทุกรายการได้ถึง 51 ประตูในช่วง 2 ซีซั่นหลัง และมีข่าวว่า อาร์เซน่อล กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ให้ความสนใจ เคยให้สัมภาษณ์กับ อีเอสพีเอ็น เอาไว้ตั้งแต่ก่อนช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด

เขาบอกว่าพวกดาวรุ่งของ เปแอสเช ไม่ควรรอโอกาสขึ้นชุดใหญ่แบบลมๆ แล้งๆ ถ้าหากมีทางอื่นให้ไปต่อ เพราะสโมสรไม่มีที่ว่างมากพอให้เด็กปั้นได้ขึ้นทีมชุดใหญ่เลย

“การจะเป็นตัวจริงที่ ปารีส ได้มันคือเรื่องยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เล่นตำแหน่งตัวรุกแบบผม”

“ถ้าพวกเราคิดว่าเราพร้อมที่จะเล่น เราต้องได้เล่น มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องมารอ"

"นั่นคือเหตุผลว่าทำไมนักเตะดาวรุ่งจำนวนมาก ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนทิศทางเหมือนที่ผมทำ เพื่อรับโอกาสลงสนาม และแสดงฝีเท้าตัวเองออกมา”
___________________________



ในปี 2019 หลุยส์ เฟร์นานเดซ ซึ่งเคยเป็นกุนซือของ เปแอสเช ชุดแชมป์ คัพ วินเนอร์ส คัพ เมื่อปี 1996 และพาทีมได้ถ้วยในประเทศเกือบครบยกเว้นแค่แชมป์ลีก ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าอะคาเดมี่สโมสร ทั้งที่รับบทบาทนั้นได้แค่ 2 ปี

เขาให้สัมภาษณ์กับ เลอ ปารีเซียง สื่อดังของเมืองหลวงแดนน้ำหอมเอาไว้ว่า “นักเตะดาวรุ่งไม่มีความสำคัญใดๆ อีกแล้ว เดี๋ยวเราจะเห็นผลที่ตามมาเอง”

“ทีมสำรองถูกยุบไปแล้ว ผมไม่รู้ว่านโยบายเรื่องเยาวชนของสโมสรคืออะไรกันแน่ เพราะจนถึงตอนนี้ พวกเขากำลังกำจัดนักเตะอายุน้อยทิ้ง”

ก็เข้าใจ เฟร์นานเดซ เหมือนกัน เพราะ เปแอสเช มีเด็กปั้นหลายคนที่ “มีของ” แต่พวกผู้บริหารเหมือนจะใช้ศูนย์ฝึกเยาวชน ในการปั้นดาวรุ่งไว้ขายทำเงินซะมากกว่า

การที่ทีมสำรองของ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ถูกยุบไปตั้งแต่ปี 2019 ทำให้นักเตะที่อายุเกินกว่าจะเล่นให้ทีมชุดยู-19 ซึ่งเป็น youth team ที่มีอายุมากที่สุด ถูกบังคับให้ต้องย้ายทีมกลายๆ หากไม่ต้องการรอโอกาสขึ้นทีมชุดใหญ่นานเกินไป
___________________________

ช่วงซัมเมอร์ที่จะถึงนี้ ต็องกี คูอาสซี่ ปราการหลังที่ดูมีแววว่าจะได้ขึ้นชุดใหญ่คนต่อไปมากที่สุด มีโอกาสย้ายทีมแบบฟรีๆ เพราะจนป่านนี้ยังไม่เซ็นสัญญาฉบับใหม่ ซึ่งจะเป็นสัญญาระดับนักเตะอาชีพอย่างเป็นทางการเลยนะครับ



แอร์เบ ไลป์ซิก ตกเป็นข่าวว่าให้ความสนใจอยู่ ซึ่งทีมกระทิงแดงแห่งบุนเดสลีกาขึ้นชื่อเรื่องการพัฒนาดาวรุ่งให้แจ้งเกิดอยู่แล้วด้วย โดยที่ เอซี มิลาน คืออีกทีมที่อยากได้ตัว

เปแอสเช คงไม่ต้องการเสีย คูอาสซี่ ไปแบบฟรีๆ แน่ เพราะนักเตะที่มีแววดีแบบนี้ อย่างน้อยที่สุดต้องขายให้ได้ราคา เพราะฉะนั้นพวกเขาคงพยายามยื่นสัญญาให้กองหลังวัยกระเตาะรายนี้ก่อนแน่นอน

ไม่รู้ว่าในระยะยาว ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง จะมองเด็กคนนี้ รวมไปถึงแข้งมีแววคนต่อๆ ไปในฐานะอะไร

แต่ที่แน่ๆ นักเตะทุกคนที่อยู่กับอะคาเดมี่ของทีมใหญ่ เขาต้องการเป็น “อนาคตสโมสร” ไม่ใช่ “สินค้า”
___________________________
ติดตามบทความฟุตบอลดีๆ โดยไม่แบ่งแยกทีมเชียร์ได้ที่เพจ "เสียบสามเหลี่ยม" facebook.com/seabsamliam
หรือใน Blockdit ที่ https://www.blockdit.com/seabsamsliam
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่