ละครจบไปเกือบสัปดาห์ คงมีหลายคนที่ยังมูฟออนไม่ได้ 😂 เพราะผูกพันกับละครเรื่องนี้มานานมากกกนี่ย้อนดูตั้งแต่ EP.1-15 อีกครั้ง เราเลยอยากพูดถึงการแสดงของน้องมิวในเรื่องนี้โดยเฉพาะ ไม่ขอพูดถึงเรื่องบทละคร เพราะทีมงานคงได้รับฟีดแบคไปเยอะแล้ว
อกเกือบหักแอบรักคุณสามี เป็นละครที่ใช้เวลาถ่ายทำนานและรอออกอากาศนานมากๆ แต่พอละครออนแอร์ มันคุ้มค่าและสมการรอคอยที่สุดที่ได้เห็น "การแสดงที่ดีที่สุดของมิว นิษฐา" เรื่องนี้จะเป็น 1 ในMasterpiece ทางการแสดงของมิวแน่ๆ
ละครบางเรื่องและบทบางบทเหมือนถูกเลือกมาเพื่อนักแสดงคนนั้นโดยเฉพาะ เหมือนที่ไม่มีใครจะเป็น “อลิน” ได้ดีเท่าพี่แอนอีกแล้ว บท “เมย” ก็เหมือนกัน มันเหมือนเป็นบทที่เกิดมาเพื่อมิวเลย ไม่มีใครเหมาะสมเท่านี้อีกแล้วตั้งแต่เริ่มประกาศแคส (หมาก ในบทเธียรก็เหมือนกัน) ถ้าอกเกือบหักฯ เป็นภาพยนตร์ บทแบบเมยนี่ล่ะ จะได้เข้าชิงสุพรรณหงษ์แน่ๆ ในทางโทรทัศน์ก็ลุ้นให้เป็นไปได้เช่นกันนะ
เราดูงานละครและภาพยนตร์ของมิวมาทุกเรื่อง ในวันที่ฝีมือยังไม่เข้าฝัก แต่ความธรรมชาติ ความขึ้นกล้องของมิวก็ทำให้ละสายตาไปจากตัวละครที่แสดงไม่ได้เลย ในบรรดาละครทั้งหมดมีบางเรื่องที่ชอบมากๆจนได้ดูการแสดงของน้องแบบละเอียด อย่าง ตามรักคืนใจ...เพชรกลางไฟ...รากนครา...จนมาถึงเรื่องนี้ มิวเริ่มต้นอาชีพจากคนที่รู้สึกว่าตัวเองติดลบมากๆในทักษะการแสดง แต่พอจับจุดได้มันก็ค่อยๆไต่ระดับจนมีวิธีการแสดงที่เป็น Signature ของตัวเองแล้วฝีมือมันถูกพัฒนามาเรื่อยๆ มันพิสูจน์แล้วว่ามิวเป็นนักแสดงสายฝีมือได้ ไม่ใช่นักแสดงที่คนจะชมว่าสวยอย่างเดียว เคยพูดเสมอว่า...มิวไม่ใช่นักแสดงที่แสดงละครคมชัดแบบละค๊รละคร แต่มันเหมือนถูกผสมวิธีการแสดงแบบภาพยนตร์ลงไปด้วย
วิธีนี้มันเลยดู Less is More .... บางฉากเล่นไม่ต้องเยอะ ใช้สายตาเล่าเรื่อง ผลลัพธ์มันเลยธรรมชาติมากจนดูเหมือนไม่ได้แสดง เราพบว่างานชิ้นหลังๆ
ของมิวอย่างเรื่องนี้น้องดูจะเข้าใจเรื่องการใช้เสียงมากขึ้น ยิ่งมีการให้บทเมยเป็น Narrator เล่าเรื่องและการบรรยายความรู้สึก ฉากที่ดีที่สุดฉากนึงในการใช้เสียงบรรยาย คือ คำอธิษฐานของเมย อารมณ์มาหมดเลย หรือ การอ่านกลอนในเรื่องนี้ที่มีเยอะมาก ก็ต้องใช้น้ำเสียงให้ถูกจังหวะ ถูกอารมณ์ (ก่อนหน้านี้เรื่องเสียงมักจะเป็นอีกหนึ่งจุดที่คนดูคอมเม้นไว้ว่ามิวยังทำได้ไม่ดีพอ) เสียง-อารมณ์-ภาษากาย-สายตา ของเมยมันเลยดูซิงค์กันไปหมด อย่างตอนกลัวน้ำหรือ เจ็บมากๆตอนที่รถคว่ำ เสียงสื่ออารมณ์ได้ดีมาก สิ่งที่ยังปรับปรุงได้อีก คือ การใช้คำควบกล้ำ หรือร เรือ ล ลิง ที่ยังฟังไม่ค่อยชัดในบางฉาก
เราเห็นการรับ react ของมิวที่เป๊ะมากขึ้น ไม่ค่อยมีความ dead air แบบในเรื่องก่อนๆที่บางครั้งเหมือนรอจังหวะ ฉากไหนที่ต้องreactคมๆ เพราะต้องการความชัดแบบจังหวะคอมเมดี้ก็ดีขึ้นมาก ซึ่งมันค่อนข้างยากนะสำหรับนักแสดงที่ถนัดงานสายดราม่า และที่ชอบที่สุดคือ การแสดงความรู้สึกอะไรบางอย่างออกมาโดยที่ไม่มีไดอาล็อคพูด ซึ่ง inner monologue มันต้องชัดถึงจะทำให้คนดูเข้าใจได้ทันที เราเห็นแววตาที่เปลี่ยนไปทันทีทุกครั้งที่ได้ยินเธียรพูดเรื่องใบหย่า
จุดแข็งอย่างซีนดราม่าที่มิวก็ยังเอาอยู่เสมอ มัน "เรียล" ขึ้นมากและดูไม่มี pattern เลย เหมือนเป็นความรู้สึกล้วนๆที่เกิดขึ้นอย่างที่ตัวละครรู้สึก...คนดูเลยมีความรู้สึกร่วมด้วยง่ายมาก การร้องไห้ของมิวแต่ละฉากไม่เคยเหมือนกันเลยสักครั้ง เหมือนที่พี่ต้น ผกก. พรจากฟ้าบอกว่า มิวร้องไห้ต่างกันหมดเลยผกก.อยากได้แบบไหน ทำได้หมด ฟีดแบคจากคนดูอกเกือบหักฯเลยมักจะบอกว่าดูมิวร้องไห้แล้วอยากร้องตาม เหมือนมิวสามารถดึงคนดูเข้าไปรู้สึกได้ด้วยมันเลยทัชใจง่าย
ต้องขอบคุณพี่แอนมากเลยนะที่เลือกมิวมารับบทนี้ บทที่ได้แสดงครบรสคาแรคเตอร์นึงของนางเอกละครไทย มิวต้องทำการบ้านหนักมากกับบท “เมย” ที่มันดูเหมือนจะง่าย แต่ยากมากๆ ด้วยช่วงวัยของเมย ลากยาวตั้งแต่มัธยมต้น จนกลายมาเป็นคุณแม่มือใหม่...ถ้ามองว่ามันเป็นช่วงระยะเวลาแค่ 10-12 ปีของการเล่าเรื่องก็อาจจะสั้น แต่มันมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย เคยคิดว่า...การต้องดรอปตัวเองให้ลงไปเป็นเด็กม.ต้นของมิว มันต้องดูไม่ค่อยน่าเชื่อแน่ๆ แต่มิวทำได้แฮะ ถ้าตัดองค์ประกอบภายนอกที่เป็นตัวช่วยอย่างวิกคอสตูม แว่นตาหรือเหล็กดัดฟันไปแล้ว ส่วนที่ทำให้เมยในวัย 15 มีชีวิตจริงๆ คือ อินเนอร์ที่มันออกมาพร้อมน้ำเสียง และภาษากายที่มันดูเป็นเด็กม.ต้นมากกก สังเกตว่าหลายคาแรคเตอร์ที่คนดูชื่นชอบมิวมักจะเป็นตัวละครที่ต้องใช่เสน่ห์ ความธรรมชาติของมิวผสมลงไปด้วย ซึ่งบท "เมย" ได้ใช้อย่างคุ้มค่า
ขอบคุณพี่แอ้วที่เคี่ยวกรำการแสดงของมิวชนิดกัดไม่ปล่อยตั้งแต่วันแรกของการถ่ายทำ เห็นเลยว่ามิวเล่นเรื่องนี้ละเอียดขึ้นมากจริงๆ ซีนเล็กๆหลายฉากมันถึงเป็นซีนที่คนจดจำได้มากพอๆกับฉากใหญ่ ที่สำคัญอาจจะเพราะวัยที่เหมาะสมแล้ว รวมถึงเชื่อใจพี่แอ้วและหมาก Love scene ของเมยและเธียรที่มันถูกดีไซน์มาให้ดูเรียลแบบคนรักและคู่สามีภรรยา ซึ่งมิวกับหมากก็ทำได้แบบไม่มีข้อกังขา เป็นนักแสดงที่เล่นฉากแบบนี้แล้วคนดูเหมือนมีผีเสื้ออยู่ในท้องได้ ถือว่าเก่งมาก 🥰 เคยเห็นนักแสดงหลายคนเล่นเลิฟซีนแล้วบางทีมันดูขาดๆเกินๆ อาจจะเพราะว่าเกร็ง หรือ ไม่สนิทใจกันนัก
ขอบคุณที่หมากเป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีที่สุดของมิวในเรื่องนี้ เชื่อว่าทั้งคู่ต้องไว้วางใจกันมาก พยายามด้วยกันมากๆในการปั้นคาแรคเตอร์ของตัวเองให้ถูกใจทั้งพี่แอ้ว พี่แอน จนสามารถสร้างเคมีแบบถล่มทลายและระดับการแสดงที่เท่าเทียม...ฉากน่ารักๆมันถึงเยอะมากกกก มิวกับหมากต้องจับมือไปด้วยกันในทุกๆฉากเลยเมยกับเธียรมีฉากที่ต้องเข้าด้วยกันมากกว่า 80% ถ้าไม่พากันไป ไม่เชื่อใจกัน ละครเรื่องนี้ไม่มีทางประสบความสำเร็จได้แบบนี้ คอมเม้นจากแฟนต่างชาติเป็นเหมือนเครื่องการันตีว่าทั้ง 2 คนทำงานหนักจริงๆสามารถทำให้ตัวละครมีความเป็น universal ที่ชาติไหนดูก็เข้าใจได้....ขอบคุณที่สามารถพาเมยกับเธียรออกมาโลดแล่นอย่างที่นิยายบรรยายไว้ และในหลายๆฉากมันดีกว่าที่คิดมากเลยนะ
ไม่รู้งานชิ้นต่อๆไปก่อนที่จะเบรคไปวางแผนมีน้อง ทั้งละครและภาพยนตร์ที่มิวจะรับในอนาคต จะมีบทไหนที่มิวจะได้ดึงศักยภาพตัวเองออกมาได้ขนาดนี้อีกรึปล่าว เชื่อว่ามันต้องมี! 😊
[อกเกือบหักแอบรักคุณสามี] Thank you for being the Best of Moei! มิวเป็นเมยที่ดีที่สุดเลยนะ
ละครจบไปเกือบสัปดาห์ คงมีหลายคนที่ยังมูฟออนไม่ได้ 😂 เพราะผูกพันกับละครเรื่องนี้มานานมากกกนี่ย้อนดูตั้งแต่ EP.1-15 อีกครั้ง เราเลยอยากพูดถึงการแสดงของน้องมิวในเรื่องนี้โดยเฉพาะ ไม่ขอพูดถึงเรื่องบทละคร เพราะทีมงานคงได้รับฟีดแบคไปเยอะแล้ว
อกเกือบหักแอบรักคุณสามี เป็นละครที่ใช้เวลาถ่ายทำนานและรอออกอากาศนานมากๆ แต่พอละครออนแอร์ มันคุ้มค่าและสมการรอคอยที่สุดที่ได้เห็น "การแสดงที่ดีที่สุดของมิว นิษฐา" เรื่องนี้จะเป็น 1 ในMasterpiece ทางการแสดงของมิวแน่ๆ
ละครบางเรื่องและบทบางบทเหมือนถูกเลือกมาเพื่อนักแสดงคนนั้นโดยเฉพาะ เหมือนที่ไม่มีใครจะเป็น “อลิน” ได้ดีเท่าพี่แอนอีกแล้ว บท “เมย” ก็เหมือนกัน มันเหมือนเป็นบทที่เกิดมาเพื่อมิวเลย ไม่มีใครเหมาะสมเท่านี้อีกแล้วตั้งแต่เริ่มประกาศแคส (หมาก ในบทเธียรก็เหมือนกัน) ถ้าอกเกือบหักฯ เป็นภาพยนตร์ บทแบบเมยนี่ล่ะ จะได้เข้าชิงสุพรรณหงษ์แน่ๆ ในทางโทรทัศน์ก็ลุ้นให้เป็นไปได้เช่นกันนะ
เราดูงานละครและภาพยนตร์ของมิวมาทุกเรื่อง ในวันที่ฝีมือยังไม่เข้าฝัก แต่ความธรรมชาติ ความขึ้นกล้องของมิวก็ทำให้ละสายตาไปจากตัวละครที่แสดงไม่ได้เลย ในบรรดาละครทั้งหมดมีบางเรื่องที่ชอบมากๆจนได้ดูการแสดงของน้องแบบละเอียด อย่าง ตามรักคืนใจ...เพชรกลางไฟ...รากนครา...จนมาถึงเรื่องนี้ มิวเริ่มต้นอาชีพจากคนที่รู้สึกว่าตัวเองติดลบมากๆในทักษะการแสดง แต่พอจับจุดได้มันก็ค่อยๆไต่ระดับจนมีวิธีการแสดงที่เป็น Signature ของตัวเองแล้วฝีมือมันถูกพัฒนามาเรื่อยๆ มันพิสูจน์แล้วว่ามิวเป็นนักแสดงสายฝีมือได้ ไม่ใช่นักแสดงที่คนจะชมว่าสวยอย่างเดียว เคยพูดเสมอว่า...มิวไม่ใช่นักแสดงที่แสดงละครคมชัดแบบละค๊รละคร แต่มันเหมือนถูกผสมวิธีการแสดงแบบภาพยนตร์ลงไปด้วย
วิธีนี้มันเลยดู Less is More .... บางฉากเล่นไม่ต้องเยอะ ใช้สายตาเล่าเรื่อง ผลลัพธ์มันเลยธรรมชาติมากจนดูเหมือนไม่ได้แสดง เราพบว่างานชิ้นหลังๆ
ของมิวอย่างเรื่องนี้น้องดูจะเข้าใจเรื่องการใช้เสียงมากขึ้น ยิ่งมีการให้บทเมยเป็น Narrator เล่าเรื่องและการบรรยายความรู้สึก ฉากที่ดีที่สุดฉากนึงในการใช้เสียงบรรยาย คือ คำอธิษฐานของเมย อารมณ์มาหมดเลย หรือ การอ่านกลอนในเรื่องนี้ที่มีเยอะมาก ก็ต้องใช้น้ำเสียงให้ถูกจังหวะ ถูกอารมณ์ (ก่อนหน้านี้เรื่องเสียงมักจะเป็นอีกหนึ่งจุดที่คนดูคอมเม้นไว้ว่ามิวยังทำได้ไม่ดีพอ) เสียง-อารมณ์-ภาษากาย-สายตา ของเมยมันเลยดูซิงค์กันไปหมด อย่างตอนกลัวน้ำหรือ เจ็บมากๆตอนที่รถคว่ำ เสียงสื่ออารมณ์ได้ดีมาก สิ่งที่ยังปรับปรุงได้อีก คือ การใช้คำควบกล้ำ หรือร เรือ ล ลิง ที่ยังฟังไม่ค่อยชัดในบางฉาก
เราเห็นการรับ react ของมิวที่เป๊ะมากขึ้น ไม่ค่อยมีความ dead air แบบในเรื่องก่อนๆที่บางครั้งเหมือนรอจังหวะ ฉากไหนที่ต้องreactคมๆ เพราะต้องการความชัดแบบจังหวะคอมเมดี้ก็ดีขึ้นมาก ซึ่งมันค่อนข้างยากนะสำหรับนักแสดงที่ถนัดงานสายดราม่า และที่ชอบที่สุดคือ การแสดงความรู้สึกอะไรบางอย่างออกมาโดยที่ไม่มีไดอาล็อคพูด ซึ่ง inner monologue มันต้องชัดถึงจะทำให้คนดูเข้าใจได้ทันที เราเห็นแววตาที่เปลี่ยนไปทันทีทุกครั้งที่ได้ยินเธียรพูดเรื่องใบหย่า
จุดแข็งอย่างซีนดราม่าที่มิวก็ยังเอาอยู่เสมอ มัน "เรียล" ขึ้นมากและดูไม่มี pattern เลย เหมือนเป็นความรู้สึกล้วนๆที่เกิดขึ้นอย่างที่ตัวละครรู้สึก...คนดูเลยมีความรู้สึกร่วมด้วยง่ายมาก การร้องไห้ของมิวแต่ละฉากไม่เคยเหมือนกันเลยสักครั้ง เหมือนที่พี่ต้น ผกก. พรจากฟ้าบอกว่า มิวร้องไห้ต่างกันหมดเลยผกก.อยากได้แบบไหน ทำได้หมด ฟีดแบคจากคนดูอกเกือบหักฯเลยมักจะบอกว่าดูมิวร้องไห้แล้วอยากร้องตาม เหมือนมิวสามารถดึงคนดูเข้าไปรู้สึกได้ด้วยมันเลยทัชใจง่าย
ต้องขอบคุณพี่แอนมากเลยนะที่เลือกมิวมารับบทนี้ บทที่ได้แสดงครบรสคาแรคเตอร์นึงของนางเอกละครไทย มิวต้องทำการบ้านหนักมากกับบท “เมย” ที่มันดูเหมือนจะง่าย แต่ยากมากๆ ด้วยช่วงวัยของเมย ลากยาวตั้งแต่มัธยมต้น จนกลายมาเป็นคุณแม่มือใหม่...ถ้ามองว่ามันเป็นช่วงระยะเวลาแค่ 10-12 ปีของการเล่าเรื่องก็อาจจะสั้น แต่มันมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย เคยคิดว่า...การต้องดรอปตัวเองให้ลงไปเป็นเด็กม.ต้นของมิว มันต้องดูไม่ค่อยน่าเชื่อแน่ๆ แต่มิวทำได้แฮะ ถ้าตัดองค์ประกอบภายนอกที่เป็นตัวช่วยอย่างวิกคอสตูม แว่นตาหรือเหล็กดัดฟันไปแล้ว ส่วนที่ทำให้เมยในวัย 15 มีชีวิตจริงๆ คือ อินเนอร์ที่มันออกมาพร้อมน้ำเสียง และภาษากายที่มันดูเป็นเด็กม.ต้นมากกก สังเกตว่าหลายคาแรคเตอร์ที่คนดูชื่นชอบมิวมักจะเป็นตัวละครที่ต้องใช่เสน่ห์ ความธรรมชาติของมิวผสมลงไปด้วย ซึ่งบท "เมย" ได้ใช้อย่างคุ้มค่า
ขอบคุณพี่แอ้วที่เคี่ยวกรำการแสดงของมิวชนิดกัดไม่ปล่อยตั้งแต่วันแรกของการถ่ายทำ เห็นเลยว่ามิวเล่นเรื่องนี้ละเอียดขึ้นมากจริงๆ ซีนเล็กๆหลายฉากมันถึงเป็นซีนที่คนจดจำได้มากพอๆกับฉากใหญ่ ที่สำคัญอาจจะเพราะวัยที่เหมาะสมแล้ว รวมถึงเชื่อใจพี่แอ้วและหมาก Love scene ของเมยและเธียรที่มันถูกดีไซน์มาให้ดูเรียลแบบคนรักและคู่สามีภรรยา ซึ่งมิวกับหมากก็ทำได้แบบไม่มีข้อกังขา เป็นนักแสดงที่เล่นฉากแบบนี้แล้วคนดูเหมือนมีผีเสื้ออยู่ในท้องได้ ถือว่าเก่งมาก 🥰 เคยเห็นนักแสดงหลายคนเล่นเลิฟซีนแล้วบางทีมันดูขาดๆเกินๆ อาจจะเพราะว่าเกร็ง หรือ ไม่สนิทใจกันนัก
ขอบคุณที่หมากเป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีที่สุดของมิวในเรื่องนี้ เชื่อว่าทั้งคู่ต้องไว้วางใจกันมาก พยายามด้วยกันมากๆในการปั้นคาแรคเตอร์ของตัวเองให้ถูกใจทั้งพี่แอ้ว พี่แอน จนสามารถสร้างเคมีแบบถล่มทลายและระดับการแสดงที่เท่าเทียม...ฉากน่ารักๆมันถึงเยอะมากกกก มิวกับหมากต้องจับมือไปด้วยกันในทุกๆฉากเลยเมยกับเธียรมีฉากที่ต้องเข้าด้วยกันมากกว่า 80% ถ้าไม่พากันไป ไม่เชื่อใจกัน ละครเรื่องนี้ไม่มีทางประสบความสำเร็จได้แบบนี้ คอมเม้นจากแฟนต่างชาติเป็นเหมือนเครื่องการันตีว่าทั้ง 2 คนทำงานหนักจริงๆสามารถทำให้ตัวละครมีความเป็น universal ที่ชาติไหนดูก็เข้าใจได้....ขอบคุณที่สามารถพาเมยกับเธียรออกมาโลดแล่นอย่างที่นิยายบรรยายไว้ และในหลายๆฉากมันดีกว่าที่คิดมากเลยนะ
ไม่รู้งานชิ้นต่อๆไปก่อนที่จะเบรคไปวางแผนมีน้อง ทั้งละครและภาพยนตร์ที่มิวจะรับในอนาคต จะมีบทไหนที่มิวจะได้ดึงศักยภาพตัวเองออกมาได้ขนาดนี้อีกรึปล่าว เชื่อว่ามันต้องมี! 😊