ทัศนียภาพที่โดดเด่นของทะเลสาบปล่องภูเขาไฟ

Kawah Putih


Kawah Putih  เป็นปล่องภูเขาไฟที่มีน้ำผุดขึ้นมากลายเป็นทะเลสาบ เป็นทะเลสาบที่มีน้ำสีขาวอมเขียวอมฟ้านิดที่เป็นการรังสรรค์ของธรรมชาติที่แสนงดงาม  โดยยังเป็นปล่องภูเขาไฟที่ยังมีการแอคทีฟ จะมีควันลอยขึ้นจากใต้พื้นดินหลายจุด และมีกลิ่นของกำมะถันค่อนข้างแรง 

เป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟ ตั้งอยู่ทางใต้ของบันดุง ชวาตะวันตก ประเทสอินโดนีเซีย เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเมื่อปี พ.ศ. 2530 ทะเลสาบ Kawah Putih สูงจากระดับน้ำทะเล 2,430 เมตร ภูมิอากาศมักจะหนาวเย็น ( อุณภูมิอยู่ที่ประมาณ 10 องศาเซลเซียส )

Kawah Putih เป็นทะเลสายที่มีกรดสูงมาก ค่า pH 0.5-1.3 ซึ่งทำให้น้ำที่อยู่ในทะเลสาบเปลี่ยนจากสีน้ำเงินเป็นสีเขียวหรือสีน้ำตาล ล้วนแล้วแต่ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของกำมะถันและอุณภูมิ ทรายและโขดหินที่เป็นสีขาวนั้นก็อาจจะเกิดจากการถูกน้ำในทะเลสาบกัดกร่อน  พื้นที่โดยรอบของ Kawah Putih เป็นป่าทึบ ทางเดินลงไปยังทะเลสาบล้อมรอบไปด้วยกำแพงสูงของปล่องภูเขาไฟ
Cr.https://www.blesstraveler.com/post/kawah
Cr.https://paikondieow.com/kawahputih-indonesia/

Crater Lake


 Crater Lake  เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นบนปากปล่องภูเขาไฟที่ดับมอดสนิทแล้ว ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติ Crater Lake รัฐออริกอน เป็นทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟที่ลึกที่สุดในอเมริกา ด้วยความลึก 1,943 ฟุต ไม่เพียงเท่านั้นที่นี่ยังเป็นทะเลสาบที่สวยงามที่สุดอันดับต้น ๆ ของโลกอีกด้วย
Crater Lake เกิดจากการที่ภูเขาไฟระเบิดและดับลงเมื่อประมาณ 7,700 ปีที่แล้ว เมื่อมีฝนตกและหิมะในฤดูหนาวละลายก็กลายเป็นทะเลสาบสีฟ้าใสอันสวยงาม ซึ่งล้อมรอบไปด้วยหน้าผาหินปากปล่องภูเขาไฟ และป่าสนสีเขียวอันอุดมสมบูรณ์ และภายในทะเลสาบยังมีเกาะ Wizard ตั้งอยู่ด้วย สร้างเอกลักษณ์ที่โดดเด่นให้กับที่นี่ได้อย่างดีเยี่ยม นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวได้ทุกฤดูกาล เพราะมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี บรรยากาศดี เงียบสงบ

ไม่เพียงแต่ด้านสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติเท่านั้น crater lake ยังถือว่าเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญทางประวัติศาสตร์ด้วย เนื่องจากความสมบูรณ์ของพื้นที่โดยรอบ มีน้ำรองรับตลอดทั้งปี อีกทั้งเป็นที่สูงทำให้เหมาะกับการเป็นชัยภูมิในการป้องกันตัวเอง จึงทำให้ crater lake เป็นแหล่งของวัฒนธรรมอเมริกัน อินเดียนโบราณ เชื่อกันว่าพื้นที่ตรงนี้มีมนุษย์อาศัยตั้งแต่หมื่นปีมาแล้ว ยังไม่นับช่วงที่ประวัติศาสตร์บันทึกได้ว่าพื้นที่ตรงนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของยุคตื่นทองในอเมริกาอีกด้วย
Cr.https://www.unitedwayofnorthernnewyork.org/crater-lake-คืออะไร/ 
Cr.http://www.pentorexchange.com/news_view.php?id=751

 
Kerio (Kerid)


เคริท (Kerith,Kerid) เป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟ ตั้งอยู่ในพื้นที่ Grímsnes ทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์ เป็นส่วนหนึ่งของโกลเด้นเซอร์เคิลหรือวงกลมทองคำซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวยอดนิยมทางภาคใต้ของไอซ์แลนด์  โดยทะเลสาบปล่องภูเขาไฟแห่งนี้มีความโดดเด่นและแตกต่างตรงที่มีสีสันที่สดใส
ไฮไลท์ของทะเลสาบแห่งนี้คือที่ตั้งตรงปล่องภูเขาไฟที่มีความแตกต่างเพราะปกติหินภูเขาไฟชนิดอื่นจะเป็นสีเข้มอย่างสีดำน้ำตาลแต่ที่ทะเลสาบเคริทหินภูเขาไฟส่วนใหญ่ในพื้นที่นี้เป็นสีแดงมากกว่าสีดำ เมื่อมีต้นไม้เขียวชอุ่มขึ้นรอบๆปล่องไฟทำให้รอบๆทะเลสาบเต็มไปด้วยสีเขียว สีแดง สีน้ำตาลผสมกันเป็นหลากสี ทำให้เกิดวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและอัศจรรย์

ปล่องภูเขาไฟแห่งนี้มีความลึกประมาณ 55 เมตร กว้าง 170 เมตร หินของแอ่งยุบปากปล่องนั้นจะมีสีแดงสดที่เกิดจากเหล็กในลาวาแบบบะซอลต์ที่ได้รับการออกซิไดซ์โดยน้ำใต้ดิน  ปล่องภูเขาไฟ Kerio Crater นั้นเป็นที่จดจำได้มากที่สุด เนื่องจาก หลุมปล่องภูเขาไฟ (Caldera) ยังคงสภาพเหมือนเดิม เพราะมันมีอายุน้อยที่สุดคือเพียงครึ่งเดียวของภูเขาไฟโดยรอบเท่านั้น

และยังได้ชื่อว่าเป็นหลุมอุกกาบาตที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด ว่ากันว่าทะเลสาบแห่งนี้มีอายุประมาณ 3,000 ปี และนักวิทยาศาวตร์คาดว่าทะเลสาบแห่งนี้เกิดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟขนาดใหญ่ บ้างก็ว่าทะเลสาบมีกำเนิดขึ้นมาจากการที่ภูเขาไฟแห่งนี้มีรูปกรวยและแมกมาปะทุขึ้นมาจนกลายเป็นปล่องในเวลาต่อมา
ที่มา  en.wikipedia.org
Cr.https://travel.thaiza.com/amaze/435084/

Askja


ปากปล่องภูเขาไฟแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของธารน้ำแข็ง “วัทนาโจกุล” (glacier Vatnajökull) สิ่งที่โดดเด่นของปากปล่องภูเขาไฟแห่งนี้คือ เป็นที่ตั้งของ ทะเลสาบ Öskjuvatn ซึ่งมีกลักษณะเป็นแอ่งขนาดเล็กที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟอาซค์จ้า เมื่อปี ค.ศ. 1875 นอกจากนี้แล้ว Öskjuvatn ยังถือว่าเป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในไอซ์แลนด์ เนื่องจากมีความลึกประมาณ 220 เมตร

ใกล้ๆกันกับทะเลสาบ Öskjuvatn ยังมีแอ่งทะเลขนาดเล็กอีกแห่งที่มีชื่อว่า ทะเลสาบVíti ซึ่งเป็นปล่องภูเขาไฟขนาดเล็กอยู่ห่างจากทะเลสาบ Öskjuvatn ไปประมาณ 150 เมตร ภายในประกอบไปแร่ธาตุ น้ำกำมะถันสีฟ้าและสีขาวขุ่น

ปากปล่องภูเขาไฟอาซค์จ้า ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล (glacier Vatnajökull) อยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajökull National Park) อุทยานแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป สำหรับความพิเศษของปากปล่องภูเขาไฟนั้นอยู่ที่ภูมิทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยของทะเลสาบ รวมไปถึงเส้นทางเดินป่า-ปีนเขาที่ท้าทายความสามารถของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอกิจกรรมแอดเวนเจอร์เป็นอย่างมาก
Cr.https://travel.thaiza.com/amaze/197089/

Lago del Sol - Lago de la Luna 


ภูเขาไฟเนวาโด เด โตลูกา เป็นภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว ล้อมรอบด้วยวิวสวยงามแปลกตา ปัจจุบันอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 4 ในเม็กซิโก รองลงมาจาก Pico de Orizaba, Popocatépetl และ Iztaccíhuatl

ปากปล่องภูเขาไฟเป็นแอ่งยุบปากปล่อง หรือ แอ่งภูเขาไฟรูปกระจาด โดยยอดเขาที่สูงที่สุดมีชื่อว่า Pico del Fraile (Friar's Peak) อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของปากปล่อง สูง 4,680 เมตร ส่วนอันดับรองลงมาอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ มีชื่อว่า Pico del Aguila (Eagle's Peak) สูง 4,640 เมตร

ที่ปากปล่องมีทะเลสาบปล่องภูเขาไฟ 2 แห่งที่ความสูง 4,200 เมตร ทะเลสาบขนาดใหญ่เรียกว่า Lago del Sol (ทะเลสาบสุริยัน) และทะเลสาบที่เล็กกว่า แต่ลึกกว่า เรียกว่า Lago de la Luna (ทะเลสาบจันทรา)
นอกจากธรรมชาติที่อลังการงานสร้างแล้ว ที่นี่ยังมีโบราณสถานถึง 18 แห่ง (ที่ลงทะเบียนแล้ว คาดว่ามีมากกว่านี้) ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมในช่วง pre-Hispanic โดย Bernardino de Sahagún ได้เขียนเรื่องเกี่ยวกับการทำพิธีกรรมและการบูชายันที่ทะเลสาบไว้ 

จากการสำรวจของนักโบราณคดีพบว่า ในทะเลสาบพบยางไม้ (ที่ใช้ทำน้ำยาขัดเงา) จำนวนมาก พบได้ทั่วทั้งทะเลสาบ โดยยางไม้โดนเผาไหม้และลอยอยู่บนน้ำจนมันจมลงไปในที่สุด ส่วนของอื่นๆที่ค้นพบมีทั้งเครื่องเซรามิค หินแกะสลัก  ส่วนที่อื่นๆตามเขาก็มี
- Xicotepec พบใบมีดที่ทำจากหินออบซีเดียนเขียว และเครื่องเซรามิคหลากสีสัน
- Pico Sahagun พบชิ้นส่วนเซรามิค
- Cerro Prieto Cave ถ้ำหินที่นอกจากหลักฐานจากยุค pre-Hispanic แล้ว ยังมีแท่นบูชาอัครทูตสวรรค์มีคาเอล หรือมีคาเอลหัวหน้าทูตสวรรค์ จากยุคอาณานิคมด้วย
Cr.ภาพ mexicodesconocido.com.mx/
Cr.https://www.blesstraveler.com/post/nevado-de-toluca / Bless Wish

Toba Lake 


ทะเลสาบโทบา (Lake Toba)  ณ เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เป็นทะเลสาบที่เกิดในบริเวณปากปล่องภูเขาไฟ กล่าวได้ว่าเป็น Caldora ที่ใหญ่ที่สุดในโลก  (largest volcanic lake in the world) เสห่น์ของทะเลสาบโทบาอยู่ที่ความเป็นธรรมชาติที่ยังสะอาด อากาศสดชื่นบริสุทธิ์ถูกรายล้อมด้วยสีเขียวชะอุ่มของพันธุ์ไม้ที่ขึ้นปกคลุม สร้างความรู้สึกได้ถึงความเป็นชนบทของวิถีชีวิตท้องถิ่น ความสวยงามของทะเลสาบสีฟ้าอมเขียวที่มาจากภูเขาไฟที่เคยน่าสะพรึงกลัวมาก่อน

ทะเลสาบอยู่ทางทิศใต้ของเมืองเมดาน (Medan) ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ของสุมาตราเหนือ เป็นศูนย์กลางทางการค้าและท่าเรือที่สำคัญ ราว 160 กิโลเมตร ทะเลสาบแห่งนี้ มีเกาะขนาดใหญ่ ชื่อซาโมซีร์ (Samosir)อยู่ตรงกลางทะเลสาบ และมี Parapat เป็นเมืองท่องเที่ยวริมชายฝั่ง  

ทะเลสาบโทบา เกิดจากการระเบิดแบบซูเปอร์ภูเขาไฟ (supervolcano) ซึ่งรุนแรงมากกว่าแรงระเบิดของภูเขาไฟธรรมดาหลายร้อยเท่า พ่นเถ้าถ่าน และก๊าซพิษจำนวนมหาศาลขึ้นไปปกคลุมในชั้นบรรยากาศ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลกครั้งใหญ่  ซึ่งนักธรณีวิทยาเรียกหลุมที่เกิดจากการระเบิดของ Supervolcanoes ว่า Caldora โดยลักษณะของ Caldera volcano จะมีลักษณะปากหลุมกว้างใหญ่เป็นวงกลม หรือเป็นหลุมแอ่งกระทะ

 Lake Toba เรียกชื่อตามภาษาบาตักเรียกว่า Danau Toba นักธรณีวิทยาประมาณกันว่าทะเลสาบโทบา เกิดภายหลังจากการระเบิดแบบซูเปอร์ภูเขาไฟ (supervolcano) เมื่อ 74,000 ปีมาแล้ว   โดยมีเนื้อที่ 1,645 ตารางกิโลเมตร อยู่สูง 906 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีความยาวของทะเลสาบกว่า 1๐๐ กิโลเมตร กว้าง 30 กิโลเมตร) มีความลึกเฉลี่ย 450 เมตร จุดที่ลึกที่สุด มีความลึกที่สุดถึง 505 เมตร จากการระเบิดของภูเขาไฟได้ทำให้เกิดทัศนียภาพของหน้าผาสูงถึง 500 เมตร 
ที่มา http://atcloud.com/stories/66295
Cr.https://www.clipmass.com/story/12533

Lake Toya


ทะเลสาบโทยะ เป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในเมืองโทยะ เเละเป็นอีกหนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่มีความสำคัญ เป็นทะเลสาบรูปวงกลมที่มีเส้นรอบวงยาวประมาณ 40 กิโลเมตร โดยเกิดจากการเป็นปากปล่องภูเขาไฟดั้งเดิม เเละตั้งอยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบชิโกสึมากนักทำให้กลายมาเป็นเเหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอย่างมากอีกเเห่งของเมืองโทยะ เเละฮอกไกโด

โดยกลางทะเลสาบจะมีเกาะขนาดเล็กๆ ตั้งอยู่ตรงกลาง ชื่อว่า เกาะนากาจิมะ โดยเป็นจุดที่น่าสนใจในการมาท่องเที่ยวชมไม่น้อย เเละเป็นจุดเเวะพักของเรือล่องทะเลสาบโทยะ ซึ่งนับว่าเป็นกิจกรรมที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว นอกจากนี้เเล้วก็ยังมีทั้งในส่วนของการเดินเล่น หรือเช่าจักรยานปั่นรอบทะเลสายเเห่งนี้ บริเวณโดยรอบของทะเลสาบโทยะเป็นเเหล่งออนเซ็นที่ขึ้นชื่อเป็นอย่างมาก
Cr.https://www.checkinchill.com/content/ที่เที่ยว-โทยะ-ทะเลสาบ-ฮอกไกโด/

Yeak Laom


ชายฝั่งของทะเลสาบ Yeak Laom ก่อตัวเป็นวงที่เกือบจะสมบูรณ์แบบ และถึงแม้ว่าทะเลสาบจะมีเส้นรอบวงเล็กๆ แต่ก็ลึกถึง 160 ฟุต (ประมาณ 48 เมตร) รูปร่างและความลึกของมันเกิดจากการปะทุของภูเขาไฟ เชื่อกันว่าเมื่อ 4,000 ปีก่อน การปะทุของภูเขาไฟได้สร้างปล่องภูเขาไฟและเมื่อเวลาผ่านไปก็มีน้ำมาเติมเต็ม
ทะเลสาบเคยถูกล้อมรอบด้วยป่าทึบทุกด้าน แต่ทุกวันนี้มีเพียงชั้นป่าบางๆที่ยังเหลืออยู่ เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่กลายเป็นพื้นที่ทำไร่ไถนา ช่วงฤดูฝนหรือน้ำในทะเลสาบใสราวกับคริสตัลตัดกับสีเขียวสดใสของป่า นกต่างถิ่นและผีเสื้อคือภาพที่เห็นได้ทั่วไป

แม้ว่าทะเลสาบจะได้รับการยกย่องว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของคนในท้องถิ่น แต่การว่ายน้ำหรือเล่นน้ำนั้นถือเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว มีการสร้างท่าไม้เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึง ในปี 2018 ได้มีการเริ่มมาตรการอื่นๆ เพื่อปกป้องทะเลสาบและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ที่มา atlasobscura
Cr.http://realmetro.com/yeak-laom/

(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่