Great Argus
นกหว้า เป็นนกที่มีขนาดใหญ่จัดอยู่ในสัตว์ปีกจำพวกไก่ฟ้าของไทย ตัวผู้และตัวเมียมีลักษณะแตกต่างกันอย่างเด่นชัด สีขนตามตัวส่วนใหญ่ออกเป็นสีน้ำตาล ไม่มีเดือยที่ขา ตัวผู้มีขนาดตัวยาว 170-200 ซม. ตัวเมีย มีขนาดตัวยาว 74-76 ซม. ส่วนของหัวและลำคอเป็นหนังเกลี้ยงสีฟ้าครามแต่มีแถบขนแคบๆสีดำพาดตามยาวจากเหนือจะงอยปากไปตลอดแนวสันคด
แถบขนบนหัวของนกหว้าตัวผู้จะมีลักษณะเป็นแผงขนหนาสีดำเข้มกว่าของตัวเมียและตรงส่วนท้ายของกระหม่อมแผงขนจะยาวกว่าส่วนอื่น มีลักษณะเป็นขนหงอนตั้งเป็นสันขวานขึ้นมา ไม่เป็นพู่หงอนอย่างไก่ฟ้าและนกยูง แต่นกหว้าตัวเมียจะมีแถบขนบริเวณท้ายทอยลงมา เป็นเส้นขนยาวไม่เป็นระเบียบ สีขนไม่ดำเข้ม และเป็นแผงขนหนาอย่างตัวผู้
นอกจากนี้นกหว้าตัวผู้ยังมีขนปีกบิน ขนหางใหญ่ยาวเป็นลักษณะเฉพาะเด่นสะดุดตา ขนปีกบินชุดในมีปลายเส้น ขนแผ่กว้างเกือบเป็นรูปสี่เหลี่ยม แถบเส้นขนด้านในมีลวดลายเป็นดอกดวงขนาดใหญ่ ขอบนอกเป็นสีน้ำตาลดำเข้ม ข้างในเป็นสีเหลือบออกเหลืองแกมน้ำตาลเรียงเป็นแถวจากโคนถึงปลายทุกอัน ดอกลายนี้ปกติจะมองไม่เห็น แต่จะเห็นได้เวลาที่นกหว้าแพนปีกออกเต็มที่
สำหรับขนหางเฉพาะขนหางคู่กลางจะมีขนาดใหญ่และยาวกว่าขนหางถัดออกไปมาก ถึงประมาณ 4 เท่าลำตัว และมีลวดลายเป็นแต้มจุดประเล็ก ขอบสีน้ำตาลเข้มตรงกลางสีขาว กระจายอยู่ทั่วไป เสียงร้อง “ว้าว ว้าว”
นกหว้าเป็นนกขี้อาย ปกติชอบอยู่โดดเดี่ยวนอกจากในฤดูผสมพันธุ์ หากินช่วงเช้าและก่อนค่ำ เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ อยู่ในช่วงเดือนธันวาคม-กรกฎาคม นกหว้าตัวผู้จะทำลานไว้สำหรับรำแพนขนปีกอวดตัวเมีย เรียกว่า “ ลานนกหว้า” ที่ลานนั้นมันจะรักษาความสะอาดอย่างดี เก็บกิ่งไม้ใบไม้ออกหมดตลอดเวลา
หลังจากนั้นตัวผู้ก็จะร้องเรียกตัวเมีย เมื่อพบตัวเมีย ตัวผู้จะรำแพนขนปีกเพื่อดึงดูดใจตัวเมียก่อนผสมพันธุ์ นกหว้าเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า
Cr.
https://esanunity.com/?p=2672 / By Kor Burin
Peacocks
นกยูง ( Peacocks) ถูกยกให้เป็นนกสวยงามและสง่างามที่สุดของโลก และเป็นราชินีของนกทั้งปวง ในอดีตจึงมักมีเรื่องราวของนกยูง ปรากฎตามภาพเขียน บทกวี และลัทธิความเชื่อของชนหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นชาวฮินดู จีน อียิปต์ และชนพื้นเมืองแถบเมดิเตอร์เรเนียน รวมถึงประเทศไทย
ทั้งนี้ นกยูง จัดอยู่ในวงศ์ Phasianidae เป็นสัตว์ปีกจำพวกไก่ฟ้าขนาดใหญ่ที่มีอยู่ด้วยกัน 2 สกุล ในโลก คือ นกยูงทางทวีปเอเซีย (Pavo) และ นกยูงทางทวีปแอฟริกา (Afropavo) หรือนกยูงคองโก โดยนกยูงเอเชีย แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ นกยูงอินเดีย หรือนกยูงสีน้ำเงิน และนกยูงไทย หรือนกยูงสีเขียว อย่างไรก็ตาม นักวิชาการบางท่าน ไม่ถือว่านกยูงคองโก เป็นนกยูง เพราะลักษณะภายนอก และพฤติกรรมต่าง ๆ แตกต่างจากนกยูงอินเดีย และนกยูงไทยมาก
สำหรับในประเทศไทย นกยูง เคยมีกระจายอยู่ทั่วทั้งประเทศ แต่ปัจจุบันได้ลดจำนวนอย่างรวดเร็ว อันเนื่องจากป่าซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยได้ลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว และถูกจับล่าเป็นจำนวนมาก ดังนั้น นกยูงจึงคงเหลืออยู่แต่ในสวนสัตว์ และพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เพียง 10 แห่งเท่านั้น
ที่มา kapook.com
Cr.ภาพ
https://siamrath.co.th/n/50353
Cr.
https://picpost.postjung.com/177798.html#pic2
Superb Bird of Paradise
นกการเวก หรือ นกวายุภักษ์ หรือ นกปักษาสวรรค์ (Bird of Paradise) เป็นนกที่มีสีสันสวยงามมาก โดยเฉพาะในตัวผู้จะมีขนตามตัวสีสันฉูดฉาด ขนหางเหยียดยาวเป็นเส้นโค้งอ่อนช้อย หรือม้วนเป็นรูปร่างแตกต่างกันออกไปแล้วแต่ชนิด จุดมุ่งหมายเพื่อดึงดูดตัวเมียขณะเกี้ยวพาราสีให้มาผสมพันธุ์ด้วย นักวิทยาศาสตร์พบนกการเวกชนิดหนึ่งได้พัฒนาขนของมันให้มีสีดำสนิทจนดำมากที่สุดในโลก ความดำเทียบเท่ากับ Vantablack วัสดุที่มีสีดำที่สุดในโลกเท่าที่มนุษย์ประดิษฐ์ได้
Vantablack ทำขึ้นมาจากเส้น Carbon Nanotube ขนาดเล็กจิ๋วระดับนาโนจำนวนมหาศาลรวมกันด้วยความหนาแน่นมากที่สุดจนดูดกลืนแสงเอาไว้ไม่ให้สะท้อนกลับออกมาได้ ทำให้มันมีสีดำที่สุดใกล้เคียงกับหลุมดำที่ดูดกลืนแสงเอาไว้ทั้งหมด Vantablack สามารถดูดซับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรือคลื่นแสงต่างๆ ได้ถึง 99.96%
นักวิทยาศาสตร์นำขนนกการเวกสีดำไปตรวจสอบพบว่ามันสามารถดูดกลืนแสงได้ถึง 99.95% และเมื่อตรวจดูด้วยกล้องจุลทรรศน์พบว่าไม่เพียงแต่สีขนเท่านั้นที่ดำ ลักษณะโครงสร้างขนก็แตกต่างจากขนนกทั่วไป ขนแต่ละเส้นยังประกอบด้วยเส้นเล็กจิ๋วเป็นหนามแหลมแยกย่อยจำนวนมาก ทำให้มันมีโครงสร้างระดับนาโนที่หนาแน่นคล้ายกับ Vantablack นักวิทยาศาสตร์บอกว่าบางครั้งวิวัฒนาการตามธรรมชาติก็ได้ผลสุดท้ายออกมาเหมือนกับการพัฒนาสิ่งต่างๆของมนุษย์
ด้วยขนที่ดำสนิทเป็นพื้นหลังตัดกับแถบสีฟ้าสว่างสดใส ประกอบกับลีลาท่าเต้นที่เป็นเอกลักษณ์ของเจ้านกการเวกตัวผู้จึงดึงดูดตัวเมียให้เข้ามาใกล้เพื่อชมสีสันแปลกตากับลีลาน่าเร้าใจจนยอมใจอ่อนในที่สุด
ข้อมูลและภาพจาก gizmodo, BBC Earth
Cr.
https://www.takieng.com/stories/7405
Clark's grebe
Clark's grebe เป็นนกที่มีลักษณะคล้ายเป็ด กระจายพันธุ์อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา ในช่วงการเกี้ยวพาราสีนั้นพวกมันจะใช้เท้าวิ่งบนผิวน้ำอย่างรวดเร็ว และมีการทรงตัวอย่างสง่างาม ความสามารถอีกอย่างหนึ่งของพวกคือพฤติกรรมที่มักผลุบหายลงไปใต้น้ำอย่างรวดเร็ว และโผล่อีกที่หนึ่งที่ไกลจากเดิม
ที่มา สำรวจโลก
Cr.
https://www.facebook.com/samrujlok/posts/10153447230387226/
Greater Sage Grouse
Greater sage-grouse นั้นเป็นสัวต์ปีก อยู่ในวงศ์ของไก่ฟ้าและนกกระทา พบได้ในแถบตะวันตกของสหรัฐอเมริกา รวมไปถึงบางส่วนของ แคนาดา พวกมันมีความสวยงามตัวผู้จะมีหางเป็นแพนสวยงาม หน้าอกที่ปกคลุมไปด้วยขนฟู และมีถุงขนาดใหญ่ที่ขยายออกได้ ในฤดูผสมพันธุ์ตัวผู้จะเต้นรำพร้อมกับทำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งการทำแบบนี้ต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์จนกว่าตัวเมียจะเลือกคู่ครอง
โดยในฤดูผสมพันธุ์นั้น Greater sage-grouse ตัวผู้จะน้ำหนักลดลงไปราว 1 ใน 4 ของน้ำหนักตัวของมัน เพราะเต้นให้ตัวเมียดูโดยไม่กินไม่นอน ในเพศผู้จะมีขนอันฟูฟ่องอยู่ที่หน้าอกเป็นเอกลักษณ์ เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์การแข่งขันก็เริ่มต้นขึ้น บรรดาตัวผู้ไม่อายที่จะเต้นรำไปมา นอกเหนือจากลีลาการขยับขาอันเร่าร้อนแล้ว พวกมันยังสูดลมเข้าไปในปอดซึ่งช่วยให้หน้าอกของมันยกขึ้นยกลงเป็นการดึงดูดตัวเมีย
mage credit wikipedia
Cr.
https://ngthai.com/animals/7694/valentines-day-with-animals/
Cr.
https://www.xn--12c1bij4d1a0fza6gi5c.com/greater-sage-grouse.html
Maratus volans
เมื่อปี 2016 ดร.เจอร์เกน ออตโต นักชีววิทยาจากนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ได้ค้นพบ “แมงมุมนกยุง” สายพันธุ์ใหม่เพิ่มอีก 7 สายพันธุ์ และเชื่อว่าตอนนี้มีทั้งสิ้น 48 สายพันธุ์ แล้ว โดยระหว่างการเดินทางสำรวจป่าในอุทยานแห่งชาติคูริงไก เชส ทางตอนเหนือของนครซิดนีย์ ดร.เจอร์เกน ออตโต ได้ค้นพบ “แมงมุมนกยุง” ซึ่งพวกมันมีขนาดเล็กเพียง 3-5 มิลลิเมตรเท่านั้น
นอกจากขนาดตัวเล็ก จุดเด่นที่สะดุดตาอีกอย่างก็คือ สีสันและลวดลายที่สวยงามชวนมอง (คล้ายกับสีของนกยูงเวลาแพนหางเลย) อีกทั้งยังมีพฤติกรรม และปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างจากแมงมุมชนิดอื่นๆ พวกมันจะคล้ายกับแมว และสุนัข ดูเป็นมิตร และน่ารักกับสิ่งแวดล้อมรอบตัว ยิ่งจ้องมองยิ่งน่ารักน่าเอ็นดูสุดๆ
แมงมุมสายพันธุ์นกยูง มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Maratus volans หรือชื่อเรียกอีกอย่างว่า แมงมุมถลาลม (Gliding spider ) แต่จริงๆ แล้วไม่สามารถบินได้นะ สามารถพบเห็นได้ในรัฐควีนส์แลนด์ และรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย
พฤติกรรมที่จะเรียกความสนใจจากตัวเมียในช่วงผสมพันธุ์คือ แมงมุมนกยูงตัวผู้จะรำแพน โดยมันจะชูก้นขึ้น แล้วแผ่แผ่นหนังด้านข้างลำตัวออกมาเป็นวงกลม มีลักษณะคล้ายนกยูงรำแพน พร้อมๆกับการยกขาคู่ที่ 3 ชี้ขึ้นฟ้าเพื่อโชว์พร้อมทั้งเต้นรำออก Step โยกย้ายซ้าย ขวา ไปมา
เครดิตภาพจาก -www.flickr.com สมาชิกชื่อ : Jurgen Otto,www.wikilinks.fr –www.australiangeographic.com.au,obviousmag.org,viralt.aftonbladet.se
ที่มาข้อมูล –www.khaosodonline.com
Cr.
https://lifestyle.campus-star.com/knowledge/26068.html
Cr.
https://teen.mthai.com/variety/48969.html
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
ธรรมชาติอัศจรรย์สัตว์นักเต้นรำแพนหาง
นกหว้า เป็นนกที่มีขนาดใหญ่จัดอยู่ในสัตว์ปีกจำพวกไก่ฟ้าของไทย ตัวผู้และตัวเมียมีลักษณะแตกต่างกันอย่างเด่นชัด สีขนตามตัวส่วนใหญ่ออกเป็นสีน้ำตาล ไม่มีเดือยที่ขา ตัวผู้มีขนาดตัวยาว 170-200 ซม. ตัวเมีย มีขนาดตัวยาว 74-76 ซม. ส่วนของหัวและลำคอเป็นหนังเกลี้ยงสีฟ้าครามแต่มีแถบขนแคบๆสีดำพาดตามยาวจากเหนือจะงอยปากไปตลอดแนวสันคด
แถบขนบนหัวของนกหว้าตัวผู้จะมีลักษณะเป็นแผงขนหนาสีดำเข้มกว่าของตัวเมียและตรงส่วนท้ายของกระหม่อมแผงขนจะยาวกว่าส่วนอื่น มีลักษณะเป็นขนหงอนตั้งเป็นสันขวานขึ้นมา ไม่เป็นพู่หงอนอย่างไก่ฟ้าและนกยูง แต่นกหว้าตัวเมียจะมีแถบขนบริเวณท้ายทอยลงมา เป็นเส้นขนยาวไม่เป็นระเบียบ สีขนไม่ดำเข้ม และเป็นแผงขนหนาอย่างตัวผู้
นอกจากนี้นกหว้าตัวผู้ยังมีขนปีกบิน ขนหางใหญ่ยาวเป็นลักษณะเฉพาะเด่นสะดุดตา ขนปีกบินชุดในมีปลายเส้น ขนแผ่กว้างเกือบเป็นรูปสี่เหลี่ยม แถบเส้นขนด้านในมีลวดลายเป็นดอกดวงขนาดใหญ่ ขอบนอกเป็นสีน้ำตาลดำเข้ม ข้างในเป็นสีเหลือบออกเหลืองแกมน้ำตาลเรียงเป็นแถวจากโคนถึงปลายทุกอัน ดอกลายนี้ปกติจะมองไม่เห็น แต่จะเห็นได้เวลาที่นกหว้าแพนปีกออกเต็มที่
สำหรับขนหางเฉพาะขนหางคู่กลางจะมีขนาดใหญ่และยาวกว่าขนหางถัดออกไปมาก ถึงประมาณ 4 เท่าลำตัว และมีลวดลายเป็นแต้มจุดประเล็ก ขอบสีน้ำตาลเข้มตรงกลางสีขาว กระจายอยู่ทั่วไป เสียงร้อง “ว้าว ว้าว”
นกหว้าเป็นนกขี้อาย ปกติชอบอยู่โดดเดี่ยวนอกจากในฤดูผสมพันธุ์ หากินช่วงเช้าและก่อนค่ำ เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ อยู่ในช่วงเดือนธันวาคม-กรกฎาคม นกหว้าตัวผู้จะทำลานไว้สำหรับรำแพนขนปีกอวดตัวเมีย เรียกว่า “ ลานนกหว้า” ที่ลานนั้นมันจะรักษาความสะอาดอย่างดี เก็บกิ่งไม้ใบไม้ออกหมดตลอดเวลา
หลังจากนั้นตัวผู้ก็จะร้องเรียกตัวเมีย เมื่อพบตัวเมีย ตัวผู้จะรำแพนขนปีกเพื่อดึงดูดใจตัวเมียก่อนผสมพันธุ์ นกหว้าเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า
Cr.https://esanunity.com/?p=2672 / By Kor Burin
Peacocks
นกยูง ( Peacocks) ถูกยกให้เป็นนกสวยงามและสง่างามที่สุดของโลก และเป็นราชินีของนกทั้งปวง ในอดีตจึงมักมีเรื่องราวของนกยูง ปรากฎตามภาพเขียน บทกวี และลัทธิความเชื่อของชนหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นชาวฮินดู จีน อียิปต์ และชนพื้นเมืองแถบเมดิเตอร์เรเนียน รวมถึงประเทศไทย
ทั้งนี้ นกยูง จัดอยู่ในวงศ์ Phasianidae เป็นสัตว์ปีกจำพวกไก่ฟ้าขนาดใหญ่ที่มีอยู่ด้วยกัน 2 สกุล ในโลก คือ นกยูงทางทวีปเอเซีย (Pavo) และ นกยูงทางทวีปแอฟริกา (Afropavo) หรือนกยูงคองโก โดยนกยูงเอเชีย แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ นกยูงอินเดีย หรือนกยูงสีน้ำเงิน และนกยูงไทย หรือนกยูงสีเขียว อย่างไรก็ตาม นักวิชาการบางท่าน ไม่ถือว่านกยูงคองโก เป็นนกยูง เพราะลักษณะภายนอก และพฤติกรรมต่าง ๆ แตกต่างจากนกยูงอินเดีย และนกยูงไทยมาก
สำหรับในประเทศไทย นกยูง เคยมีกระจายอยู่ทั่วทั้งประเทศ แต่ปัจจุบันได้ลดจำนวนอย่างรวดเร็ว อันเนื่องจากป่าซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยได้ลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว และถูกจับล่าเป็นจำนวนมาก ดังนั้น นกยูงจึงคงเหลืออยู่แต่ในสวนสัตว์ และพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เพียง 10 แห่งเท่านั้น
ที่มา kapook.com
Cr.ภาพ https://siamrath.co.th/n/50353
Cr.https://picpost.postjung.com/177798.html#pic2
Superb Bird of Paradise
นกการเวก หรือ นกวายุภักษ์ หรือ นกปักษาสวรรค์ (Bird of Paradise) เป็นนกที่มีสีสันสวยงามมาก โดยเฉพาะในตัวผู้จะมีขนตามตัวสีสันฉูดฉาด ขนหางเหยียดยาวเป็นเส้นโค้งอ่อนช้อย หรือม้วนเป็นรูปร่างแตกต่างกันออกไปแล้วแต่ชนิด จุดมุ่งหมายเพื่อดึงดูดตัวเมียขณะเกี้ยวพาราสีให้มาผสมพันธุ์ด้วย นักวิทยาศาสตร์พบนกการเวกชนิดหนึ่งได้พัฒนาขนของมันให้มีสีดำสนิทจนดำมากที่สุดในโลก ความดำเทียบเท่ากับ Vantablack วัสดุที่มีสีดำที่สุดในโลกเท่าที่มนุษย์ประดิษฐ์ได้
Vantablack ทำขึ้นมาจากเส้น Carbon Nanotube ขนาดเล็กจิ๋วระดับนาโนจำนวนมหาศาลรวมกันด้วยความหนาแน่นมากที่สุดจนดูดกลืนแสงเอาไว้ไม่ให้สะท้อนกลับออกมาได้ ทำให้มันมีสีดำที่สุดใกล้เคียงกับหลุมดำที่ดูดกลืนแสงเอาไว้ทั้งหมด Vantablack สามารถดูดซับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรือคลื่นแสงต่างๆ ได้ถึง 99.96%
นักวิทยาศาสตร์นำขนนกการเวกสีดำไปตรวจสอบพบว่ามันสามารถดูดกลืนแสงได้ถึง 99.95% และเมื่อตรวจดูด้วยกล้องจุลทรรศน์พบว่าไม่เพียงแต่สีขนเท่านั้นที่ดำ ลักษณะโครงสร้างขนก็แตกต่างจากขนนกทั่วไป ขนแต่ละเส้นยังประกอบด้วยเส้นเล็กจิ๋วเป็นหนามแหลมแยกย่อยจำนวนมาก ทำให้มันมีโครงสร้างระดับนาโนที่หนาแน่นคล้ายกับ Vantablack นักวิทยาศาสตร์บอกว่าบางครั้งวิวัฒนาการตามธรรมชาติก็ได้ผลสุดท้ายออกมาเหมือนกับการพัฒนาสิ่งต่างๆของมนุษย์
ด้วยขนที่ดำสนิทเป็นพื้นหลังตัดกับแถบสีฟ้าสว่างสดใส ประกอบกับลีลาท่าเต้นที่เป็นเอกลักษณ์ของเจ้านกการเวกตัวผู้จึงดึงดูดตัวเมียให้เข้ามาใกล้เพื่อชมสีสันแปลกตากับลีลาน่าเร้าใจจนยอมใจอ่อนในที่สุด
ข้อมูลและภาพจาก gizmodo, BBC Earth
Cr.https://www.takieng.com/stories/7405
Clark's grebe
Clark's grebe เป็นนกที่มีลักษณะคล้ายเป็ด กระจายพันธุ์อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา ในช่วงการเกี้ยวพาราสีนั้นพวกมันจะใช้เท้าวิ่งบนผิวน้ำอย่างรวดเร็ว และมีการทรงตัวอย่างสง่างาม ความสามารถอีกอย่างหนึ่งของพวกคือพฤติกรรมที่มักผลุบหายลงไปใต้น้ำอย่างรวดเร็ว และโผล่อีกที่หนึ่งที่ไกลจากเดิม
ที่มา สำรวจโลก
Cr.https://www.facebook.com/samrujlok/posts/10153447230387226/
Greater Sage Grouse
Greater sage-grouse นั้นเป็นสัวต์ปีก อยู่ในวงศ์ของไก่ฟ้าและนกกระทา พบได้ในแถบตะวันตกของสหรัฐอเมริกา รวมไปถึงบางส่วนของ แคนาดา พวกมันมีความสวยงามตัวผู้จะมีหางเป็นแพนสวยงาม หน้าอกที่ปกคลุมไปด้วยขนฟู และมีถุงขนาดใหญ่ที่ขยายออกได้ ในฤดูผสมพันธุ์ตัวผู้จะเต้นรำพร้อมกับทำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งการทำแบบนี้ต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์จนกว่าตัวเมียจะเลือกคู่ครอง
โดยในฤดูผสมพันธุ์นั้น Greater sage-grouse ตัวผู้จะน้ำหนักลดลงไปราว 1 ใน 4 ของน้ำหนักตัวของมัน เพราะเต้นให้ตัวเมียดูโดยไม่กินไม่นอน ในเพศผู้จะมีขนอันฟูฟ่องอยู่ที่หน้าอกเป็นเอกลักษณ์ เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์การแข่งขันก็เริ่มต้นขึ้น บรรดาตัวผู้ไม่อายที่จะเต้นรำไปมา นอกเหนือจากลีลาการขยับขาอันเร่าร้อนแล้ว พวกมันยังสูดลมเข้าไปในปอดซึ่งช่วยให้หน้าอกของมันยกขึ้นยกลงเป็นการดึงดูดตัวเมีย
mage credit wikipedia
Cr.https://ngthai.com/animals/7694/valentines-day-with-animals/
Cr.https://www.xn--12c1bij4d1a0fza6gi5c.com/greater-sage-grouse.html
Maratus volans
เมื่อปี 2016 ดร.เจอร์เกน ออตโต นักชีววิทยาจากนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ได้ค้นพบ “แมงมุมนกยุง” สายพันธุ์ใหม่เพิ่มอีก 7 สายพันธุ์ และเชื่อว่าตอนนี้มีทั้งสิ้น 48 สายพันธุ์ แล้ว โดยระหว่างการเดินทางสำรวจป่าในอุทยานแห่งชาติคูริงไก เชส ทางตอนเหนือของนครซิดนีย์ ดร.เจอร์เกน ออตโต ได้ค้นพบ “แมงมุมนกยุง” ซึ่งพวกมันมีขนาดเล็กเพียง 3-5 มิลลิเมตรเท่านั้น
นอกจากขนาดตัวเล็ก จุดเด่นที่สะดุดตาอีกอย่างก็คือ สีสันและลวดลายที่สวยงามชวนมอง (คล้ายกับสีของนกยูงเวลาแพนหางเลย) อีกทั้งยังมีพฤติกรรม และปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างจากแมงมุมชนิดอื่นๆ พวกมันจะคล้ายกับแมว และสุนัข ดูเป็นมิตร และน่ารักกับสิ่งแวดล้อมรอบตัว ยิ่งจ้องมองยิ่งน่ารักน่าเอ็นดูสุดๆ
แมงมุมสายพันธุ์นกยูง มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Maratus volans หรือชื่อเรียกอีกอย่างว่า แมงมุมถลาลม (Gliding spider ) แต่จริงๆ แล้วไม่สามารถบินได้นะ สามารถพบเห็นได้ในรัฐควีนส์แลนด์ และรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย
พฤติกรรมที่จะเรียกความสนใจจากตัวเมียในช่วงผสมพันธุ์คือ แมงมุมนกยูงตัวผู้จะรำแพน โดยมันจะชูก้นขึ้น แล้วแผ่แผ่นหนังด้านข้างลำตัวออกมาเป็นวงกลม มีลักษณะคล้ายนกยูงรำแพน พร้อมๆกับการยกขาคู่ที่ 3 ชี้ขึ้นฟ้าเพื่อโชว์พร้อมทั้งเต้นรำออก Step โยกย้ายซ้าย ขวา ไปมา
เครดิตภาพจาก -www.flickr.com สมาชิกชื่อ : Jurgen Otto,www.wikilinks.fr –www.australiangeographic.com.au,obviousmag.org,viralt.aftonbladet.se
ที่มาข้อมูล –www.khaosodonline.com
Cr.https://lifestyle.campus-star.com/knowledge/26068.html
Cr.https://teen.mthai.com/variety/48969.html
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)