ก่อนอื่นต้องขออนุญาตชี้แจงว่าเป็นการเดินทางไปปากีสถานเมื่อ 3 ปีก่อน
เขียนเนื้อหาไว้ว่าจะรีวิว แต่ว่ายังไม่ได้มาทำซะที ช่วงนี้มีเวลาว่างจากพิษโรคระบาด ก็เลยมาจัดการซักหน่อย
ในส่วนของการรีวิวนั้นมีการเดินทางไปปากีสถาน รวม 2 ครั้ง ครั้งแรกนั่งเครื่องไปลง การาจี แล้วนั่งรถปุเลงๆ เที่ยวขึ้นเหนือจนบินกลับจากอิสลามาบัด
ส่วนครั้งที่สองนั่งเครื่องลงอิสลามาบัดแล้วขึ้นเหนือแถบภูเขา วนกลับลงมาจนบินกลับจากละฮอร์ สะริรวมทั้งสองครั้งใช้เวลารวมกันราว 25 วัน (รวมวันบิน) และเป็นการเดินทางไปกับทัวร์
โดยมากจะเห็นทัวร์จากไทยนิยมเดินทางในเส้นที่ 2 คือคาราโครัมไฮเวย์ ซึ่งเน้นธรรมชาติสวยงาม แต่เส้นที่ 1 (ซึ่งคือรีวิวนี้) ยังไม่ค่อยมีข้อมูลใดใด นัก จึงตัดสินใจมารีวิวให้ทุกท่านได้เห็นกันว่าปากีสถานตอนใต้(จนถึงเมืออิสลามาบัด) เป็นอย่างไร
จุดเริ่มต้นของการเดินทางคงหนีไม่พ้นความชอบตั้งแต่เด็กๆ คือชอบเรียนวิชาประวัติศาสตร์ คงต้องย้อนไปถึงสมัยเรียน เป็นคนรักวิชาประวัติศาสตร์อย่างมาก และจุดเริ่มต้นของอารยธรรมในโลกนี้ มีแค่ 4 แห่งเท่านั้น คือ อารยธรรมลุ่มแม่น้ำไนล์ (อียิปต์) แม่น้ำไทกรีสยูเฟรตีส(อีรัก) แม่น้ำฮวงโห (จีน) และแม่น้ำสินธุ (อินเดีย+ปากีสถาน) นี่เอง
เมื่อกล่าวถึงประวัติศาสตร์ก็อย่าเพิ่งง่วงไปเสียก่อน ความจริงเป็นสิ่งน่าทึ่ง คือต้องนึกย้อนปีถึงเมื่อห้าพันปีที่แล้ว เมื่อมนุษย์เริ่มมีสังคม อยู่รวมตัวกันอย่างเป็นระบบ มีการสร้างบ้านเมืองขึ้นเป็นครั้งแรกๆ ในโลก มีการวางผังเมืองและระบบต่างๆ เช่นการวางท่อน้ำ สระน้ำเป็นต้น
และจุดสำคัญคืออยากไปเห็นทั้งสี่แห่งที่ว่ามานี้ คืออียิปต์ก็ไปแล้ว จีนก็ไปแล้ว อีรัก นี่ ตอนนี้คงเป็นไปไม่ได้ในเร็วๆ นี้ ก็เหลือที่เดียวเท่านั้นที่น่าจะพอเป็นไปได้ คือ.. ปากีสถาน
เอ๊า ก็ไหนว่าแม่น้ำสินธุคืออินเดียไงเล่า ก็หลังจาก ค.ศ. 1947 อนเดียได้เอกราชจากอังกฤษ ประเทศปากีสถานก็ก่อตั้งขึ้นเช่นกัน และแล้วอารยุธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุก็อยู่ในดินแดนของปากีสถานไปโดยปริยาย นั่นก็คือเมือง
โมเหนโจดาโรและฮารัปปา ในปากีสถาน
สมัยเรียนนี่จำได้ดีว่าตาโตมาก อยากไปมาก แต่พอรู้ว่าไม่ได้อยู่ในอินเดีย แต่เป็นปากีสถานก็จ๋อยๆ ไป คือไม่รู้จริงๆ ว่าประเทศนี้จะเข้าไปเที่ยวได้ยังไง
หลายปีผ่านไป.. โตแล้วไปไหนก็ได้ไหม.. เมื่อเห็นทัวร์เจ้าหนึ่งเปิดเส้นทางใหม่ คือเท่าที่ทราบมา สามสี่ปีมานี้ เริ่มมีความนิยมไปเที่ยวปากีสถานตอนเหนือกันมากมาย คือเส้นทางคาโรโครัมไฮเวย์ เส้นทางชมธรรมชาติที่น่าสนใจไม่น้อย แต่นี่ไม่ใช่ค่ะ อยากไปดื่มดำอารยธรรม และเท่าที่ทราบ ยังไม่เคยทัวร์ในไทยเจ้าไหนมาก่อนที่จัดทัวร์เส้นทางปากีสถานตอนใต้เช่นนี้ เมื่อได้เจอจึงบอกกับตัวเองว่าพลาดไม่ได้ ต้องไปสัมผัสเสียแล้ว อีกประการหนึ่งถือคติว่า หากจะไปประเทศที่พัฒนาแล้ว ไปเองได้ (เช่นยุโรป) หากจะไปประเทศที่ทัวร์ถูกกว่าไปเอง จะไปกับทัวร์(เช่นเกาหลีใต้) หากจะไปประเทศที่เป็นมุสลิม และมีแววไม่ค่อยดี จะไปกับทัวร์ ไม่ขอเสี่ยง ดังนั้นจึงไม่ต้องเสียเวลาคิดหาทางแบคแพคเสียให้ยาก ซื้อทัวร์ไปดีกว่า
วันทำวีซ่า..
สถานทูตปากีสถานตั้งอยู่ที่นานาเหนือ หาไม่ยาก ไปถึง 8.30 โมงเช้าก็พบว่ามีคนมาต่อแถวรอเข้าไปทำวีซ่ากันแล้ว ขั้นตอนการทำวีซ่าก็ไม่ได้ยุงยากอะไร แต่รอคิวนานสักหน่อย ยื่นเอกสารเสร็จ เจ้าหน้าที่ไม่ได้ถามอะไรสักคำ บอกให้นั่งรออย่างเดียว แต่ขอโทษที วีซ่าที่นี่ต้องมาแสดงตัวทุกคน ฝากคนอื่นมาทำให้ไม่ได้ ใช้เวลาพิจารณาวีซ่าราว4-5 วันได้เล่มคืน
มาๆ มาเริ่มกันเลย
ในภาพ คือพิพิธภัณ์ฑแห่งมือละฮอร์ หนึ่งในไฮไลท์ของการเดินทางในครั้งนี้
เนื่องด้วยการสร้างพระพุทธรูปในรุ่นแรกๆ ของโลกเกิดขึ้นที่เมืองแถบนี้ ทำให้ที่นี่มีคอลเลคชั่นพระพุทธรูปที่เลอค่าที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
[CR] เมื่อฉันไปปากีสถาน จากใต้จรดเหนือ
เขียนเนื้อหาไว้ว่าจะรีวิว แต่ว่ายังไม่ได้มาทำซะที ช่วงนี้มีเวลาว่างจากพิษโรคระบาด ก็เลยมาจัดการซักหน่อย
ในส่วนของการรีวิวนั้นมีการเดินทางไปปากีสถาน รวม 2 ครั้ง ครั้งแรกนั่งเครื่องไปลง การาจี แล้วนั่งรถปุเลงๆ เที่ยวขึ้นเหนือจนบินกลับจากอิสลามาบัด
ส่วนครั้งที่สองนั่งเครื่องลงอิสลามาบัดแล้วขึ้นเหนือแถบภูเขา วนกลับลงมาจนบินกลับจากละฮอร์ สะริรวมทั้งสองครั้งใช้เวลารวมกันราว 25 วัน (รวมวันบิน) และเป็นการเดินทางไปกับทัวร์
โดยมากจะเห็นทัวร์จากไทยนิยมเดินทางในเส้นที่ 2 คือคาราโครัมไฮเวย์ ซึ่งเน้นธรรมชาติสวยงาม แต่เส้นที่ 1 (ซึ่งคือรีวิวนี้) ยังไม่ค่อยมีข้อมูลใดใด นัก จึงตัดสินใจมารีวิวให้ทุกท่านได้เห็นกันว่าปากีสถานตอนใต้(จนถึงเมืออิสลามาบัด) เป็นอย่างไร
จุดเริ่มต้นของการเดินทางคงหนีไม่พ้นความชอบตั้งแต่เด็กๆ คือชอบเรียนวิชาประวัติศาสตร์ คงต้องย้อนไปถึงสมัยเรียน เป็นคนรักวิชาประวัติศาสตร์อย่างมาก และจุดเริ่มต้นของอารยธรรมในโลกนี้ มีแค่ 4 แห่งเท่านั้น คือ อารยธรรมลุ่มแม่น้ำไนล์ (อียิปต์) แม่น้ำไทกรีสยูเฟรตีส(อีรัก) แม่น้ำฮวงโห (จีน) และแม่น้ำสินธุ (อินเดีย+ปากีสถาน) นี่เอง
เมื่อกล่าวถึงประวัติศาสตร์ก็อย่าเพิ่งง่วงไปเสียก่อน ความจริงเป็นสิ่งน่าทึ่ง คือต้องนึกย้อนปีถึงเมื่อห้าพันปีที่แล้ว เมื่อมนุษย์เริ่มมีสังคม อยู่รวมตัวกันอย่างเป็นระบบ มีการสร้างบ้านเมืองขึ้นเป็นครั้งแรกๆ ในโลก มีการวางผังเมืองและระบบต่างๆ เช่นการวางท่อน้ำ สระน้ำเป็นต้น
และจุดสำคัญคืออยากไปเห็นทั้งสี่แห่งที่ว่ามานี้ คืออียิปต์ก็ไปแล้ว จีนก็ไปแล้ว อีรัก นี่ ตอนนี้คงเป็นไปไม่ได้ในเร็วๆ นี้ ก็เหลือที่เดียวเท่านั้นที่น่าจะพอเป็นไปได้ คือ.. ปากีสถาน
เอ๊า ก็ไหนว่าแม่น้ำสินธุคืออินเดียไงเล่า ก็หลังจาก ค.ศ. 1947 อนเดียได้เอกราชจากอังกฤษ ประเทศปากีสถานก็ก่อตั้งขึ้นเช่นกัน และแล้วอารยุธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุก็อยู่ในดินแดนของปากีสถานไปโดยปริยาย นั่นก็คือเมืองโมเหนโจดาโรและฮารัปปา ในปากีสถาน
สมัยเรียนนี่จำได้ดีว่าตาโตมาก อยากไปมาก แต่พอรู้ว่าไม่ได้อยู่ในอินเดีย แต่เป็นปากีสถานก็จ๋อยๆ ไป คือไม่รู้จริงๆ ว่าประเทศนี้จะเข้าไปเที่ยวได้ยังไง
หลายปีผ่านไป.. โตแล้วไปไหนก็ได้ไหม.. เมื่อเห็นทัวร์เจ้าหนึ่งเปิดเส้นทางใหม่ คือเท่าที่ทราบมา สามสี่ปีมานี้ เริ่มมีความนิยมไปเที่ยวปากีสถานตอนเหนือกันมากมาย คือเส้นทางคาโรโครัมไฮเวย์ เส้นทางชมธรรมชาติที่น่าสนใจไม่น้อย แต่นี่ไม่ใช่ค่ะ อยากไปดื่มดำอารยธรรม และเท่าที่ทราบ ยังไม่เคยทัวร์ในไทยเจ้าไหนมาก่อนที่จัดทัวร์เส้นทางปากีสถานตอนใต้เช่นนี้ เมื่อได้เจอจึงบอกกับตัวเองว่าพลาดไม่ได้ ต้องไปสัมผัสเสียแล้ว อีกประการหนึ่งถือคติว่า หากจะไปประเทศที่พัฒนาแล้ว ไปเองได้ (เช่นยุโรป) หากจะไปประเทศที่ทัวร์ถูกกว่าไปเอง จะไปกับทัวร์(เช่นเกาหลีใต้) หากจะไปประเทศที่เป็นมุสลิม และมีแววไม่ค่อยดี จะไปกับทัวร์ ไม่ขอเสี่ยง ดังนั้นจึงไม่ต้องเสียเวลาคิดหาทางแบคแพคเสียให้ยาก ซื้อทัวร์ไปดีกว่า
วันทำวีซ่า..
สถานทูตปากีสถานตั้งอยู่ที่นานาเหนือ หาไม่ยาก ไปถึง 8.30 โมงเช้าก็พบว่ามีคนมาต่อแถวรอเข้าไปทำวีซ่ากันแล้ว ขั้นตอนการทำวีซ่าก็ไม่ได้ยุงยากอะไร แต่รอคิวนานสักหน่อย ยื่นเอกสารเสร็จ เจ้าหน้าที่ไม่ได้ถามอะไรสักคำ บอกให้นั่งรออย่างเดียว แต่ขอโทษที วีซ่าที่นี่ต้องมาแสดงตัวทุกคน ฝากคนอื่นมาทำให้ไม่ได้ ใช้เวลาพิจารณาวีซ่าราว4-5 วันได้เล่มคืน
มาๆ มาเริ่มกันเลย
ในภาพ คือพิพิธภัณ์ฑแห่งมือละฮอร์ หนึ่งในไฮไลท์ของการเดินทางในครั้งนี้
เนื่องด้วยการสร้างพระพุทธรูปในรุ่นแรกๆ ของโลกเกิดขึ้นที่เมืองแถบนี้ ทำให้ที่นี่มีคอลเลคชั่นพระพุทธรูปที่เลอค่าที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้