รีวิว ประสบการณ์เรียนรามฉบับละเอียดยิบ !!

กระทู้สนทนา

การศึกษา มหาวิทยาลัย การเรียน นักศึกษา ชีวิตวัยรุ่น

สวัสดีค่ะทุกคนนนนนน

ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนว่าเพิ่งเคยเขียนเป็นกระทู้แรกค่ะ ถ้ามีอะไรผิดพลาดสามารถติชมตักเตือนได้เสมอค่าา

ปล.รูปทั้งหมดมีรูปที่เราถ่ายเอง , เอามาจาก google , เพจใน facebook ปนๆ กันนะคะ

สืบเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ทำให้เรากักตัวอยู่ที่บ้านนานมากกกกก (แต่ตอนนี้กลับมาอยู่หอแล้ว) เลยปิ๊งไอเดีย อยากมาแชร์ประสบการณ์ในรั้วรามคำแหง หลังจากที่ได้เรียนมาแล้ว 3 ปีให้กับน้อง ๆ และบุคคลท่านอื่นที่อยากรู้กันค่ะ! บอกไว้ก่อนว่าจะออกแนวมาเล่าให้ฟัง (บ่น) มากกว่านะคะ มีสาระเล็กน้อยเท่านั้นค่ะ แง้ (ขออนุญาตใช้คำว่ามหาลัย แทนมหาวิทยาลัยนะคะ เพื่อความรวดเร็วในการพิมพ์ อีกอย่างถนัดพิมพ์มหาลัยมากกว่า ม. ด้วย แฮ่)

เกริ่นนิสนึง จขกท. เป็นเด็ก 60 เรียนคณะบริหาร สาขาการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยรามคำแหง กำลังจะขึ้นปี 3 จ้า ตอนแรกเรียนมนุษย์อิ้งที่นี่แหละแต่เนื้อหายังไม่ใช่เลยย้ายคณะมาจ้า

ว่าด้วยเรื่องการเลือกเรียนราม

เอาจริง มหาวิทยาลัยรามคำแหงเนี่ยอาจจะเป็นตัวเลือกที่เด็กมัธยมส่วนใหญ่เลือกเป็นตัวเลือกท้าย ๆ กันเหนียวอะไรแบบนี้ แต่ก็มีหลายคนที่เลือกเรียนที่นี่เลยก็มี  มหาลัยนี้จะค่อนข้างฮิตในหมู่คนทำงานหรือทำพาร์ทไทม์ เพราะสามารถเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วยได้ จขกท.เอง ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะมาเรียนที่นี่เลยค่ะ ตอนนั้นเป็นเด็กสายวิทย์คณิตห้องคิง สอบแอดติด ม.เกษตร ลาดกระบัง แล้วก็บูรพา แต่เราก็ยังไม่แน่ใจในเส้นทางตัวเองว่าถ้าไปอยู่ที่นั่นแล้วเราจะชอบจริงเหรอ คิดหนักมากช่วงนั้น คือส่วนตัวเป็นเด็กไม่ค่อยชอบกิจกรรม เลยคิดว่าถ้าไปอยู่ในมหาลัยแล้วเราอาจต้องทำกิจกรรมร่วมคนอื่น ซึ่งเราไม่อยากทำ แต่ถ้าไม่ทำก็อาจจะโดนเพื่อนเขม่น แล้วเราก็ชอบปลีกวิเวก คือชอบอยู่คนเดียวอ่ะค่ะ  555555 เป็นมนุษย์ introvert แล้วก็มีเหตุผลส่วนตัวด้วย แต่ขอไม่เล่าแล้วกันค่ะเพราะมันจะออกทะเล 5555555

อีกอย่าง (คหสต) เราไม่ชอบระบบรับน้องแล้วก็ระบบการเรียนการสอนแบบปิดเท่าไหร่ค่ะ แบบต้องส่งงาน ต้องเข้าเรียน เช็คชื่อ ซึ่งมันก็เป็นปกติของมหาลัยทุกที่อยู่แล้ว พอเราถามตัวเองหลาย ๆ รอบ คำตอบก็คือเราไม่สามารถเรียนในระบบการเรียนแบบนั้นได้ ก็เลยตัดสินใจมาเรียนรามค่ะ เบนเข็มวินาทีสุดท้ายกันเลยทีเดียว แต่ก็ยังดีกว่าเข้าไปเรียนมหาลัยที่ไม่ได้ชอบ เสียเงินเสียเวลาแล้วซิ่วออกมาเพราะไม่อยากเรียน  บางคนบอก อ้าว ทำไมไม่เรียนเอกชนแทนล่ะ อย่างแรกเลยคือค่าเทอมแพงค่ะ 5555555555 แล้วก็การเรียนการสอนก็ยังเป็นแบบคล้ายๆ มหาลัยปกติอยู่เลยตัดตัวเลือกทิ้งไปค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ยังจำเหตุการณ์ตอนนั้นได้แม่นเลย เราบอกพ่อแม่ว่าจะเรียนรามนะ ตอนแรกพ่อแม่บอกว่าให้ลองเลือกๆ มหาลัยที่สอบติดดูก่อน ไม่ชอบจริงเหรอ มีดึงๆไว้ค่ะว่าอยากให้คิดก่อน คือที่บ้านเองก็ไม่คิดว่าจะเลือกเรียนราม คิดว่าจะเรียนตามพี่ (พี่เคยเรียนม.เกษตรกับวิทยาลาดกระบังค่ะ) ก็คุยกันหลายวันค่ะจนท่านเข้าใจ เราเองก็แน่วแน่ในคำตอบด้วย เขาเลยให้เราทำตามที่เราอยากทำ ทีนี้เราบังเอิญไปเจออาจารย์ที่สอนเรา เขาเลยถามว่าเรียนที่ไหน เราบอกว่า เรียนรามค่ะ อาจารย์ช็อคเลย 5555555 แกบอกทำไมไปเรียนที่นั่น ทำงานเหรอ (เพราะเพื่อนในห้องคือ มธ มก ลาดบัง มศว ศิลปากร ไรงี้  มีเรากับเพื่อนผู้ชายอีกคนในห้องที่เรียนราม คือเพื่อนผชเค้าตั้งใจไว้แล้วว่าจะเรียนนิติราม ส่วนเราเพิ่งมาเลือกค่ะ ) คือเข้าใจอาจารย์นะ  แกคงคิดว่าแบบ เด็กห้องคิงแต่ทำไมไปเรียนรามงี้ คือค่อนข้างจะหัวโบราณหน่อยๆ  เราก็บอกว่า ไม่ได้ทำงานค่ะ ไปเรียนเพราะอยากเรียนที่นี่ค่ะ ที่อื่นหนูก็สอบติดนะคะ แต่เปลี่ยนใจทีหลังค่ะ เราบอกแค่นั้นแล้วก็พอ แยกย้ายค่ะ เดี๋ยวยาว
เราเชื่อว่าหลายคนยังคิดว่าคนที่เรียนรามคือคนที่สอบไม่ติด อยากให้มองใหม่เลยว่า คนที่เรียนที่นี่อาจจะมาด้วยหลากหลายเหตุผล จริงอยู่ที่มันมีคนที่สอบไม่ติดด้วย แต่มันก็มีคนที่สมัครใจมาเรียน คนทำงาน น้องๆ มัธยมที่เรียนแบบพรีดีกรี บางคนก็เป็นแบบเราเลย สอบติดแต่ไม่เอา อยากเรียนที่นี่ ชอบ มาเรียนเพราะค่าเทอมถูกเฉยๆก็มี อยากให้หลายคนเปิดใจแล้วก็อย่าเพิ่งอคติไปล่วงหน้าเลยนะคะ ฮืออออ ขี้แง

ขั้นตอนการสมัครเรียน ติดตามข่าวสาร

สามารถติดตามรายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ พวกคณะ วิชาเรียน ขั้นตอนการสมัคร วิธีสมัคร เอกสารที่ใช้ ฯลฯ ได้ที่เว็บไซต์ของมหาลัยโดยตรงได้เลยค่ะ หรือที่เพจของมหาลัย เค้าจะคอยอัพเดตอยู่ตลอด (เดี๋ยวแปะลิ้งให้ข้างล่างเน้อ) ซึ่งการสมัครเรียนสามารถสมัครได้ 3 ทางด้วยกันค่ะ คือ

1. สมัครทางไปรษณีย์
2. สมัครทางอินเตอร์เน็ต
3. สมัครด้วยตนเองที่มหาวิทยาลัย (เราสมัครอันนี้จ้า)

แต่ว่าตอนนี้ติดโควิดเลยทำให้เปลี่ยนมาสมัครทางไปรฯกับทางเน็ตแทนจ้า ซึ่งเราเสียดายแทนน้องๆ เพราะเราว่าการไปสมัครที่มหาลัยเลย มันจะทำให้เราแบบ.. ได้ซึมซับบรรยากาศอะไรแบบนี้ 55555 แถมตอนสมัครต้องทำทุกขั้นตอนด้วยตัวเองหมดเลยจ้า ตอนแรกเราก็งงเป็นไก่ตาแตกเลย มันต้องไปทำอะไร ที่ไหน ยังไง แต่มีเจ้าหน้าที่คอยบอกตำแหน่งอยู่เรื่อย ๆ ทำให้การสมัครผ่านไปได้ด้วยดี

วิชาเรียน เหมือนปี 1 เทอม 1 เค้าจะให้ลงตามที่กำหนดนะ เทอม 2 และเทอมอื่น ๆ ถึงลงตามใจได้ เราจำไม่ค่อยได้ 555555 แต่ถ้าใครขี้เกียจคิดเยอะก็เรียนตามหลักสูตรได้เลยจ้า ง่ายดี ถ้าอยากเลือกลงเองก็ต้องเช็ควันเวลาบรรยาย วันเวลาสอบด้วย ว่าชนกันรึเปล่า ถ้าชนก็เปลี่ยนจ้า
idea

สามารถดูโครงสร้างหลักสูตรคณะต่าง ๆ ได้ที่นี่เลย https://www.ru.ac.th/th/ArticleStudyplan

ลิ้งเว็บไซต์มหาลัย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เพจหลักมหาลัย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

อนึ่ง รายละเอียดการสมัครเรียนพวกนี้จะมีคนคอยแจ้งรายละเอียดอยู่แล้ว สามารถตามไปทางลิ้งค์ที่เราแปะไว้ได้เลยค่ะ งั้นขอข้ามไปนะคะ แฮ่ กะพริบตา

หลังจากสมัครเรียนเรียบร้อยแล้ว คราวนี้ก็เตรียมตัวเป็นนักศึกษา

เราเป็นเด็ก 60 ค่ะ คือตอนนั้นเรามาสมัครที่มหาลัยใช่มั้ย เราก็จะเจอพวกซุ้มต่าง ๆ หรือชมรมของพวกรุ่นพี่ค่ะ เค้าก็จะมาเชิญชวนน้อง ๆ ให้เข้าร่วมชมรม ใครที่อยากได้เพื่อนไว อยากเจอคนเยอะๆ อยากรู้จักรุ่นพี่ หรืออยากเข้าชมรมก็สามารถเดินเข้าไปได้เลยค่ะ จะมีพี่ๆ จะคอยแนะนำอยู่  แต่เราชอบสันโดษเลยไม่ได้เข้าซุ้มหรือชมรมอะไรเลยค่ะ 5555 พวกพี่ๆ คือ nice มากกก เป็นกันเองมาก น่ารักค่ะ เราเดินอยู่กับคุณแม่ ก็มีพี่มาทักทาย มาถามว่ากรอกใบสมัครรึยัง เรียนคณะไหน แล้วก็แนะนำ บอกข้อมูล บอกทางอะไรแบบนี้ค่ะ

  ซื้อหนังสือ , ตำรา , เครื่องแต่งกาย ที่ไหน ?

- ตำรามือหนึ่ง ซื้อได้ที่ศูนย์หนังสือของมหาลัยค่ะ จำหน่ายตำราเรียนและสื่อการสอน สามารถซื้อที่นี่ได้เลย มีพวกสมุด กระเป๋าผ้ากรุบกริบด้วย ไม่แน่ใจว่าขายเครื่องแบบด้วยมั้ย

- ร้านชีทหน้ารามยอดฮิต มีหลายเจ้านะคะ เลือกตามสะดวกเลย ร้านพวกนี้จะเป็นพวกชีทสรุป ชีทแนวข้อสอบ และหนังสือนิติ , กพ เป็นส่วนใหญ่ค่ะ

- ตำรามือสอง ถ้าใครอยากได้ตำรามือสองก็มีร้านขายอยู่ค่ะ ชื่อ ร้านตำรารามฯมือสองซอยรามคำแหง 49/1 จะมีครบทั้งชีทสรุป ชีทแนวข้อสอบ ตำรา แต่ราคาถูกกว่ากันครึ่งต่อครึ่งเลยค่ะ สภาพดีด้วย ใครสายประหยัด เชิญทางนี้จ้าาา จขกท.ยังเป็นลูกค้าประจำเลย 5555

- ร้านถ่ายเอกสารใต้ตึกคณะ สำหรับบางวิชาไม่มีตำรา ต้องใช้ชีทถ่ายเอกสารแทน ก็สามารถหาซื้อได้ที่ใต้ตึกคณะ ไม่มีรู้ว่ามีคณะไหนบ้าง อาจจะทุกคณะก็ได้ แต่ที่แน่ๆ คือมีที่คณะมนุษยศาสตร์ ครุ ส่วนบริหารเหมือนร้านจะปิดไปแล้ว

- ตำราที่รุ่นพี่ส่งต่อ อันนี้มีคนเอามาแจกฟรีค่ะ จะวางไว้อยู่หน้าห้องอ่านหนังสือกับโรงอาหาร อาจจะมีที่อื่นอีกแต่เราทราบแค่สองที่ คือเราสามารถไปค้นเล่มที่เราต้องการได้เลย บางทีก็ได้เล่มใหม่ ๆ ยิ่งช่วงสอบคือเพียบค่ะ เหมือนสอบเสร็จแล้วเอามาวาง 55555

เครื่องแต่งกาย ?

- พวกเข็ม ตุ้งติ้ง เข็มขัด กระดุม เนคไท สามารถซื้อที่มหาลัยได้เลยค่ะ หรือร้านหนังสือหน้ามหาลัย ในเน็ตก็มีขายค่ะ ตามเว็บหรือ shopee แต่ไม่แน่ใจว่าช้อปปี้เค้าบวกเพิ่มรึเปล่านะ ส่วนมากเป็นพวกรับหิ้ว

- เสื้อคณะ เสื้อช็อป เสื้อคณะจะมีขายบางคณะนะคะ ต้องคอยติดตาม ส่วนเสื้อช็อปไม่มีขายค่ะ ต้องสั่งตัดเอาเอง ในรูปเป็นเสื้อคณะบริหารของเราเองค่ะ

- เสื้อนศ. ใส่แบบไหนก็ได้ค่ะ สีขาวนวล ขาวสว่าง โอเวอร์ไซส์ พลีท ทรงเอ เอาที่ชอบเลยค่ะ ไม่มีกฏเกณฑ์ใด ๆ ทั้งสิ้นค่ะที่นี่ 5555555555 ล้อเล่นนน แต่จริงๆ คือแต่งได้หมดค่ะอย่างที่กล่าวมา แต่ต้องให้อยู่ในความเรียบร้อยและให้เกียรติสถานที่ค่ะ จะมาแบบชุดนอนหรือเอวลอยไม่ได้นะคะ ต้องเกรงใจท่านอาจารย์นิสนึงค่ะ พวกเสื้อโปโลหรือเสื้อช็อปก็ใส่ได้ค่ะ บางคนใส่เสื้อยืดกับพลีทมาเลยก็มี (เราเอง 555555) หรืออยากใส่ชุดไปรเวทก็ได้แต่ต้องกางเกงขายาว รองเท้าแนะนำเป็นรองเท้ารัดส้นหรือผ้าใบค่ะ ถ้าคีบแตะมาเกรงว่าจะไม่งามเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นรองเท้าแตะแบบสุภาพก็สามารถใส่ได้ค่ะ ส่วนผู้ชายที่นี่จะใส่กางเกงขายาวเป็นส่วนใหญ่ เสื้อก็ใส่พวกเสื้อยืด เชิ้ต โปโล ช็อป อะไรก็ว่าไป ตามสะดวก

ในส่วนของเราคือใส่ชุดนศ.ปกติ ปน ๆ กับเสื้อยืด+พลีท ค่ะ วันไหนขี้เกียจมากก็ใส่ตัวที่มันไม่ยับก็พอ 5555555 เพี้ยนขำหนักมาก

ยกเว้นช่วงสอบนะคะ ช่วงสอบต้องแต่งกายในชุดนศ ให้ถูกระเบียบ รองเท้าต้องรัดส้นหรือผ้าใบ เสื้อโปโล เสื้อช็อป ใส่ได้ค่ะ ห้ามเท้าแตะ ห้ามเสื้อยืด ผญ ห้ามใส่กางเกง ผชต้องเอาเสื้อใส่ในกางเกงให้เรียบร้อยค่ะ จะมีอาจารย์ยืนตรวจก่อนเข้าห้องสอบค่ะ

เพี้ยนเย้