สวัสดีค่ะทุกท่าน นี่เป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรก อาจจะใส่แท็กไม่ตรงหรือเล่าไม่เก่ง ผิดพลาดอย่างไรช่วยเตือนด้วยนะคะ
หัวข้ออาจจะดูงงๆไปหน่อย ขออธิบายเพิ่มเติมนะคะ น้องชายต้องขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปทำธุระ ระหว่างทางโดนเรียกตรวจฉี่ตรวจแอลกอฮอล์เลยให้ความร่วมมือไป ตำรวจน่าจะเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบหรืออย่างไรไม่ทราบ น้องบรรยายว่าใส่เสื้อกั๊กสีดำ พอตรวจฉี่เขาบอกว่าน้องชายปัสวะมีปัญหานะ เพราะกระดาษที่ตรวจฉี่เปลี่ยนเป็นสีฟ้า(ไม่ค่อยเข้าใจวิธีการตรวจฉี่ค่ะ) น้องชายตกใจมาก ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น ทั้งวันก็กินไปแค่หมูทอด นํ้าแกง ข้าวสวย แล้วก็ชาลิปตันเท่านั้นเอง ยาพาราอะไรก็ไม่ได้แตะ แต่น้องสังเกตว่าผู้ชายคนอื่นอีกราวๆ 5 คน ที่โดนเรียกมาตรวจก็พบฉี่มีปัญหาเหมือนกันค่ะ(คิดในแง่ดี อุปกรณ์ตรวจอาจจะมีปัญหาจนตรวจยังไงก็เปลี่ยนสีก็ได้นะคะ....) เลยเริ่มสงสัยว่าจะเกิดการยัดข้อหารึเปล่า เพราะเรื่องที่ถูกตำรวจยัดยาเพื่อสร้างผลงานเป็นเรื่องซุบซิบในแถบนั้นอยู่แล้ว แต่ไม่สามารถโทร.ติดต่อปรึกษาใครได้เพราะตำรวจยึดมือถือไป ไม่ยอมคืนจนกว่าจะยอมเขียนชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ แล้วก็เซ็นเอกสารยินยอม(ไม่รู้ยินยอมอะไร)ก่อน ถ้าไม่เซ็นก็จะกักตัวไปเรื่อยๆแบบนั้น น้องชายยังต้องไปทำธุระอีก สุดท้ายเลยยอมเซ็นไปค่ะ ขากลับน้องค้นรถค้นกระเป๋าทันทีให้แน่ใจว่าไม่โดนยัดอะไรแปลกๆ แต่ทุกอย่างก็ปกติดีค่ะ ไม่มีอะไรเกินมา แล้วก็ไม่มีอะไรหายไป
ประเด็นสำคัญที่ทำให้อยากตั้งกระทู้ถามในที่นี้คือ
1. น้องชายไม่สามารถติดต่อใครได้จนต้องเซ็นเอกสารและให้ข้อมูลส่วนตัวไป แบบนี้ขัดขืนได้ไหมคะ? เราไม่สามารถขอติดต่อคนอื่นได้จริงๆเหรอ ตำรวจเขาแค่ขู่หรือเขามีอำนาจที่จะยึดโทรศัพท์เราระหว่างโดนกักตัวในด่านจริงๆเหรอคะ? พอจะมีข้อกฏหมายไหนระบุไว้ไหมคะ?
2. แบบนี้จะมีประวัติติดตัวไหมคะ? น้องชายกังวลว่าตอนสมัครงานหรือไปไหนมาไหนจะโดนค้นประวัติแล้วมีหัวข้อว่าเคยติดยา
3. จากนี้ควรจัดการยังไงคะ ไม่รู้ตำรวจมีมาตรการกับกรณีแบบนี้ยังไง โทรตาม? เรียกไปตรวจ? รับไปบำบัด? ไม่รู้สักอย่างเลยค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามานะคะ
น้องชายโดนด่านตรวจฉี่พบฉี่มีปัญหา แต่มีปัญหาทุกคนที่โดนตรวจ โดนบังคับเซ็นข้อมูลอีก ควรจัดการยังไงดีคะ?
หัวข้ออาจจะดูงงๆไปหน่อย ขออธิบายเพิ่มเติมนะคะ น้องชายต้องขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปทำธุระ ระหว่างทางโดนเรียกตรวจฉี่ตรวจแอลกอฮอล์เลยให้ความร่วมมือไป ตำรวจน่าจะเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบหรืออย่างไรไม่ทราบ น้องบรรยายว่าใส่เสื้อกั๊กสีดำ พอตรวจฉี่เขาบอกว่าน้องชายปัสวะมีปัญหานะ เพราะกระดาษที่ตรวจฉี่เปลี่ยนเป็นสีฟ้า(ไม่ค่อยเข้าใจวิธีการตรวจฉี่ค่ะ) น้องชายตกใจมาก ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น ทั้งวันก็กินไปแค่หมูทอด นํ้าแกง ข้าวสวย แล้วก็ชาลิปตันเท่านั้นเอง ยาพาราอะไรก็ไม่ได้แตะ แต่น้องสังเกตว่าผู้ชายคนอื่นอีกราวๆ 5 คน ที่โดนเรียกมาตรวจก็พบฉี่มีปัญหาเหมือนกันค่ะ(คิดในแง่ดี อุปกรณ์ตรวจอาจจะมีปัญหาจนตรวจยังไงก็เปลี่ยนสีก็ได้นะคะ....) เลยเริ่มสงสัยว่าจะเกิดการยัดข้อหารึเปล่า เพราะเรื่องที่ถูกตำรวจยัดยาเพื่อสร้างผลงานเป็นเรื่องซุบซิบในแถบนั้นอยู่แล้ว แต่ไม่สามารถโทร.ติดต่อปรึกษาใครได้เพราะตำรวจยึดมือถือไป ไม่ยอมคืนจนกว่าจะยอมเขียนชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ แล้วก็เซ็นเอกสารยินยอม(ไม่รู้ยินยอมอะไร)ก่อน ถ้าไม่เซ็นก็จะกักตัวไปเรื่อยๆแบบนั้น น้องชายยังต้องไปทำธุระอีก สุดท้ายเลยยอมเซ็นไปค่ะ ขากลับน้องค้นรถค้นกระเป๋าทันทีให้แน่ใจว่าไม่โดนยัดอะไรแปลกๆ แต่ทุกอย่างก็ปกติดีค่ะ ไม่มีอะไรเกินมา แล้วก็ไม่มีอะไรหายไป
ประเด็นสำคัญที่ทำให้อยากตั้งกระทู้ถามในที่นี้คือ
1. น้องชายไม่สามารถติดต่อใครได้จนต้องเซ็นเอกสารและให้ข้อมูลส่วนตัวไป แบบนี้ขัดขืนได้ไหมคะ? เราไม่สามารถขอติดต่อคนอื่นได้จริงๆเหรอ ตำรวจเขาแค่ขู่หรือเขามีอำนาจที่จะยึดโทรศัพท์เราระหว่างโดนกักตัวในด่านจริงๆเหรอคะ? พอจะมีข้อกฏหมายไหนระบุไว้ไหมคะ?
2. แบบนี้จะมีประวัติติดตัวไหมคะ? น้องชายกังวลว่าตอนสมัครงานหรือไปไหนมาไหนจะโดนค้นประวัติแล้วมีหัวข้อว่าเคยติดยา
3. จากนี้ควรจัดการยังไงคะ ไม่รู้ตำรวจมีมาตรการกับกรณีแบบนี้ยังไง โทรตาม? เรียกไปตรวจ? รับไปบำบัด? ไม่รู้สักอย่างเลยค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามานะคะ