สวัสดีครับมิตรรักแฟนพันทิปสายท่องเที่ยว วันนี้ผมจะมาแบ่งปันประสบการณ์ การขี่มอเตอร์ไซต์(เล็ก) ท่องเที่ยวตามฝัน ตามหัวใจ สู่อิสระภาพ ปล่อยหัวใจไปกับสายลมและแสงแดด ทริปนี้ ณ จังหวัดเชียงใหม่ ครับ แว๊นคึกคะนองกัน 2 คนครับเส้นทาง เชียงใหม่-ดอยอินทนนท์-แม่แจ่ม-เชียงใหม่-ม่อนแจ่ม  3 วัน 2 คืน (ไปเมื่อปี 2559 เขียนบทความปี 2563) ภาพประกอบจากมือถือผมและเพื่อน เป็นความใฝ่ฝันที่จะมาได้ขี่ทิ้งโค้งไปมา ทำท่าทำทางแอคอาท จิตนาการว่าตัวเองขี่ moto gp  บนเส้นทางภูเขาอันแสนสวยของเชียงใหม่ ซึ่งเคยไปมาแต่เพียงรถยนต์ เมื่อมีโอกาส จึงทำให้มันเกิดขึ้นจริง แม้จะเป็นเรื่องไม่ได้พิเศษยิ่งใหญ่หรือสำคัญอะไร แต่อิสระภาพในการเดินทางครั้งนี้ สำหรับผม ยังคงงดงามในใจผมเสมอ
 วันที่ 1 กรุงเทพฯ-ดอยอินทนนท์ เดินทางออกจาก กรุงเทพฯ ด้วยสมบัติทัวร์ first class 778 บาทต่อคน/เที่ยว  รอบ 19.30 น. ถึงเชียงใหม่ประมาณเกือบ 5.00 น. จองผ่านเวปของเขาได้เลย เลือกเวลา ที่นั่งได้ วิธีจ่าย ทุกอย่างมีคนแชร์ในอินเตอร์เน็ท สะดวกสบายมากครับ รถดี ใหม่ สะอาด นั่งและปรับเอนนอนได้ สบายมากๆ บริการดี ความบันเทิงพร้อม มีแวะกินข้าวบุฟเฟ่ที่กำแพงเพชรด้วยครับ ประมาณสัก 23-24.00 น. นี้แหละครับ อิ่มพุงระเบิด       
ถึงสถานีขนส่งอาเขตของเชียงใหม่ ก็ล้างหน้าล้างตา เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย หาไรกิน รอร้าน bikky เช่ามอเตอร์ไซต์ อยู่ในอาเขตเลยครับ เดินนิดเดียวเจอ เราสามารถจองรถมาก่อนได้ทาง line หรือโทรของร้านได้เลย(แนะนำให้จอง จะได้ๆรถที่เราต้องการ) แต่รอบนี้ผมมาเช่าแบบ walk in คิดไว้ว่าจะเช่า honda click 125 สรุปมีเหลือ suzuki late อย่างเดียว มองหน้าเพื่อน รถเล็กจะรอดไหม คิดไม่นานครับ เอาสิครับ รออะไรหละ มาถึงนี้แล้ว 555... ถ้าใจบอกว่าใช่ แล้วจะรออะไร(จำเขามา) ลุย!(ค่าเช่าวันละ 250 บาท วางบัตรประชาชนไว้ครับ) แนะนำให้ขี่ไปเติมลมก่อนเลย มาตฐานของที่ผมเติม 29/33 หรือแล้วแต่สะดวก ลมยางสำคัญมากครับ แต่ทำสำคัญกว่าคือเบรคและน้ำมัน555 ขี่ออกแต่เช้าประมาณ 7.00 น. 

ไปวัดพระธาตุจอมทองเลยครับ ยิงยาวตาม GPS ไปเลย ประมาณ 70 กม. 1.30 ชม. ไหว้พระเป็นสิริมงคล ขอพรให้เดินทางปลอดภัยตลอดการเดินทางครับ 70 กม. สำหรับมอเตอร์ไซต์เล็ก บิดหมดปลอกครับ ติดไฟแดง สาวในรถข้างๆ เห็นความแว๊น แล้วยังไปเจอกันที่วัด ยังหัวเราะในความคึกคะนองแว๊นรถเล็กยังทำซ่าของพวกเรา(มีทำท่าขี่หมอบเหมือนรถแรง ทำโยกย้ายเหมือนว่าเท่ห์มาก ขำๆนะครับพี่น้องครับ)
   
   ไหว้พระเสร็จก็แวะกินข้าวตามสั่งร้านแถววัดนั้นหละครับ แล้วก็แว๊นต่อขึ้นดอยอินทนนท์ต่อเลยครับ  ประมาณ 50 กม. 1 ชม. +/- ถนนใหญ่ โค้งไม่ยาก ขี่สนุก มือใหม่ก็ขี่ได้สบายๆ เพื่อนผมปกติขับแต่รถยนต์ มาขี่มอเตอร์ไซต์ยาวๆ ครั้งแรก ติดใจเลยครับ กลับกรุงเทพฯ ออกมอเตอร์ไซต์เลย 555  
เสียค่าเข้าอุทยาน คนละ 50 บาท มอเตอร์ไซต์ 20 บาท ระหว่างทางแวะน้ำตกวชิรธาร 

แล้วไปต่อที่พระมหาธาตุนภเทนีดล-นภพลภูมิสิริ ยิ่งใหญ่ วิวสวย สวนดอกไม้ ผักงาม เหมาะสำหรับครอบครัวและทุกเพศทุกวัยครับ

ไปต่อที่ป้ายสูงสุดแดนสยามครับ ใครไปต้องไม่พลาดไปถ่ายรูปคู่ป้ายนี้ครับ ใกล้ๆ กันเดินไปนิดเดียวจะมีป้ายริมถนน จะมีเส้นทางเดินสำรวจธรรมชาติระยะสั้นอ่างกา แนะนำให้ไปเดินเล่นดูครับ เดินไม่ไกลสัก 15 นาที ซึมซับความสงบของธรรมชาติแบบไม่เหนื่อยครับ

แล้วก็ขี่ย้อนลงดอยมาน้ำตกผาดอกเสี้ยว(น้ำตกรักจัง) ที่ได้แรงบันดาลใจอยากไปจากหนังเรื่องรักจัง ของพี่ฟิมล์กับพอลล่าครับ  ขี่ลงดอยมาจะเจอป้ายเส้นทางเดินเข้าไป แต่ถ้าไม่เจอไกด์นำเที่ยว ให้ขี่ตามถนนมาอีกไม่ไกล จะเจอป้ายเกี่ยวกับน้ำตกเนี่ยแหละครับ ผมไม่ได้ถ่ายไว้ ด้านขวามือ เป็นทางเข้าหมู่บ้านชาวเขาเล็กๆ มีป้ายบอกเห็นชัดครับ ไปไม่ยาก เข้าไปนิดเดียวก็จะเจอร้านกาแฟเล็กๆ จะมีชาวบ้านชาวเขา มีไกด์นำเที่ยว ไปพูดคุยสอบถามข้อมูลได้หมดครับ  มีที่พักโฮมสเตย์ ราคาย่อมเยาว์ ถ้าจำไม่ผิดหัวละ 300 บาท นอนบ้านชาวเขาเลยครับ ไกด์นำทางของเราชื่อลุงดีครับ เป็นชาวเขาที่นี้ คุยเก่ง น่ารัก ค่าเสียหาย 200 บาทครับ เขาพาเราขึ้นรถกระบะมาส่งที่ต้นทางเดิน  เส้นทางการเดินก็ไม่ใกล้ไม่ไกลครับ เดินสักประมาณ 1-1.30 ชม. ระยะทางน่าจะสัก 3-5 กม. ผมไม่แน่ใจนะครับ ประมาณเอาตามที่พอจำได้ครับ เส้นทางสงบร่มรื่น เดินไม่ยาก ไม่ชัน เดินไปชิวๆ ก็ถึงน้ำตกครับ สวยงามซ่อนเล้นตัวอยู่ในป่าอันแสนสงบ ใหญ่ประมาณหนึ่ง น้ำเยอะ สวยงามครับ พักถ่ายรูปสักพักก็เดินต่อเลาะชายป่า เห็นวิวนาข้าวในหุบเขา สวยและสงบไปอีกแบบครับ และก็เดินมาทะลุมาเจอหมู่บ้านเดิม จุดเริ่มต้นของเราครับ  พักสนทนา ผู้คนน่ารักเป็นกันเอง ได้นั่งคุยกับชาวบ้าน พี่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ชาวบ้านให้เรารอง จิบกาแฟแบบของเขาเข้มๆ สูบยาเส้นแบบ local style เครื่องดื่มชนิดใสแต่ร้อนผ่าว ดุจไฟบรรลัยกัลป์ ทุกคนใจดี สนทนากันออกรส เต็มไปด้วยมิตรภาพและความสวยงามแห่งมวลมนุษยชาติ วิถีการใช้ชีวิตของเขาทำให้เราได้ slowlife ไปด้วย ถึงแม้จะช่วงสั้นๆ แต่ก็ช่างงดงามเหลือเกินครับ ผมหลงเสน่ห์ที่นี้ครับ 

แล้วไปหาที่กางเต๊นท์ที่ดอยชัวร์ญ่า น่าจะคนละ 300-400 นี้แหละครับ เต๊นท์+ชุดที่นอน+ห้องน้ำรวม ที่นี้วิวและระบบสาธารนูปโภคพร้อมเพียงในระดับโอเคเลยครับ มีร้านค้าขายของกิน เครื่องดื่มชุ่มคอคลายหนาว ไปจนถึงหมูกระทะเลยครับ กลางวันแสงแดดร้อนครับ แต่กลางคืนหนาวเลยครับ เหมาะกับการจิบน้ำเก็กฮวยเย็นๆ ตั้งวงสนทนา ปล่อยกายใจให้พักผ่อนไปกับวันหยุด บนยอดดอยอันหนาวเหน็บและห่างไกลจากชีวิตในเมืองหลวงที่เราจากมา  ข้อดีของอากาสหนาวคือน้ำเก๊กฮวยจะเย็นตลอดเวลา และจะรสหวานทานง่าย อ่าร์..ชุ่มคอยิ่งนัก  หลังจากนั้นภาพก็ตัดครับ ราตรีสวัสดิ์

     หน้าไม่พอ เดี๋ยวมาต่อ วันที่ 2-3 ครับ >>>>>>>>>>>>>>>>